4 ที่เที่ยวย่านอากาซากะ (Akasaka) และกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด

อากาซากะ (Akasaka) เป็นย่านที่อยู่ในพื้นที่ตอนกลางของกรุงโตเกียว ตัวย่านเป็นย่านธุรกิจที่เต็มไปด้วยสำนักงานของบริษัทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก แต่ในทางการท่องเที่ยวนั้น ที่นี่เป็นย่านที่มีร้านอาหารระดับ S ของเมืองกระจุกตัวมากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหลายร้านได้ดาวมิชลินต่อเนื่องกันมาหลายปีครับ นอกจากนี้ในย่านยังมีศาลเจ้าชินโตที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองอยู่หลายแห่งด้วยกันครับ

สำหรับในบทความนี้ผมจะแนะนำให้คุณรู้จักกับย่านนี้คร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักย่านอากาซากะ (Akasaka)

อากาซากะเป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศเป็นเนินเขา โดยมีเนินน้อยใหญ่กว่า 25 แห่ง ในอดีตเนินเหล่านี้เคยมีต้นอาคาเนะจำนวนมาก ซึ่งชาวญี่ปุ่นนำไปใช้ไปทำสีแดงครับ

ตัวย่านนั้นมีชุมชนตั้งแต่ก่อนสมัยเอโดะแล้ว แต่ยังมีผู้คนอาศัยไม่มากนัก อากาซากะเริ่มเจริญขึ้นหลังจากที่รัฐบาลโชกุนโตกุกาวะถูกสถาปนาขึ้น และเหล่าซามูไรและไดเมียวได้สร้างที่พักขึ้นในบริเวณนี้ครับ ในไม่ช้าที่นี่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่รักษาการณ์ที่คอยดูแลฟากหนึ่งของเมืองเอโดะ เพราะมีเนินเขามากมาย เหมาะต่อการสร้างป้อมเพื่อตรวจการณ์ครับ

เมื่อมีผู้คนมาอาศัยอยู่มากขึ้น เหล่าพ่อค้าก็ตามมาตั้งร้านค้าขาย อากาซากะจึงรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับและกลายเป็นย่านการค้าของกรุงโตเกียว สิ่งที่ตามมาเป็นลำดับต่อไปคือโรงเกอิชาที่มาเปิดให้บริการทั้งเหล่าซามูไรและพ่อค้าจำนวนมากที่อยู่ในย่านนี้ครับ ในช่วงพีคนั้น อากาซากะมีโรงเกอิชามากกว่า 100 แห่งเลยทีเดียว

ตัวย่านได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้อาคารบ้านเรือนในสมัยนั้นไม่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน พื้นที่ส่วนนี้จึงกลายเป็นสำนักงานของบริษัทใหญ่จำนวนมาก ซึ่งก็ตามมาด้วยร้านอาหาร ร้านค้า ไปจนถึงผับ บาร์ เช่นเดิมครับ

ข้อควรทราบ

1. พระราชวังอากาซากะ

Akasaka Palace หรือพระราชวังอากาซากะ เป็นพระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ด้วยสถาปัตยกรรม Neo-Baroque แบบตะวันตก แต่ผู้ออกแบบคือสถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อ คาตายามะ โทคุมะครับ

เดิมทีที่นี่ตั้งใจจะใช้เป็นพระราชวังขององค์มงกุฎราชกุมาร แต่ในภายหลังถูกเปลี่ยนเป็นใช้รองรับแขกบ้านแขกเมือง ตั้งแต่ทุตานุทูตหรือผู้นำประเทศที่มาเยี่ยมเยือนญี่ปุ่น รวมไปถึงใช้จัดประชุมระดับโลกอย่างเช่นการประชุม G7 หรือ APEC ด้วยครับ

ปัจจุบันคุณสามารถเข้าชมพระราชวังแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงที่ตัววังถูกใช้จัดประชุมหรือต้อนรับแขกสำคัญๆ ด้านในพระราชวังได้รับการตบแต่งอย่างสวยงาม และมีสวนที่มีดอกไม้สวยๆ ให้ชมด้วยครับ

2. ศาลเจ้าฮิเอะ

ศาลเจ้าฮิเอะ (Hie Shrine) เป็นศาลเจ้าที่สถิตองค์เทพเจ้าโอยามะคุอิ โนะ คามิ ที่เป็นเทพเจ้าที่พิทักษ์เมืองเอโดะและกรุงโตเกียวมาตั้งแต่โบราณ แต่ที่สำคัญที่สุดคือใช้เป็นสถานที่จัดเทศกาลซันโนะ (Sanno Matsuri) ที่เป็นหนึ่งในสามเทศกาลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองเอโดะครับ

ตัวเทศกาลจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน โดยจะมีขบวนแห่ขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่าชินโคไซ (Shinkosai) และการเฉลิมฉลองอื่นๆ อย่างยิ่งใหญ่ ในช่วงนี้จะมีผู้มาเข้าร่วมจำนวนมหาศาลครับ

ตามเส้นทางสู่ตัวศาลเจ้าจะมีประตูโทริอิจำนวนมาก และมีบรรยากาศร่มรื่นสวยงาม หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นนิยมมาจัดงานแต่งงานแบบดั้งเดิมกันที่นี่ครับ

3. Toyokama Inari Tokyo Betsuin Temple

Toyokama Inari Tokyo Betsuin Temple เป็นวัดที่เต็มไปด้วยโคมไฟสีแดงตลอดแนวกำแพง แต่ที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังคือมีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกจำนวนมาก เพราะตัววัดอุทิศให้กับเทพเจ้าอินาริ (Inari) หรือเทพเจ้าสุนัขจิ้งจอกครับ

ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าแม่ๆ นิยมมาขอพรกับที่นี่ เช่นเดียวกับบุคลากรในวงการบันเทิงที่มักจะมาที่นี่กันในช่วงวันสิ้นปี เพราะอินาริเป็นเทพเจ้าแห่งความเจริญรุ่งเรืองครับ

ร้านโทรายะ (Toraya) ร้านของหวานที่มีชื่อเสียงนั้นอยู่ใกล้กับบริเวณวัด ซึ่งคุณสามารถไปลองชิมของหวานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้ครับ

4. กิน ดื่ม และช้อปปิ้ง

อากาซากะเป็นถิ่นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านค้ามากมายที่ให้คุณกิน ดื่ม ช้อปปิ้งอย่างอิสระ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากได้ประสบการณ์แบบใด ถ้าอยากได้ห้างร้านหรูหราที่รองรับนักท่องเที่ยว Akasaka Sacas เป็นตัวเลือกอันดับ 1 เลยครับ

แต่ถ้าอยากสัมผัสญี่ปุ่นแบบคนทั่วไป คุณสามารถไปตามตรอกเล็กๆ ที่ด้านในมีทั้งร้านอาหาร บาร์ หรือแม้กระทั่งแจ๊สคลับ ให้คุณได้สัมผัส nightlife แบบญี่ปุ่นแท้ๆ ครับ