บอสตัน (Boston) เป็นเมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาค New England ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา
ตัวเมืองนั้นถือว่าเป็นเมืองโบราณของประเทศ และมีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์อเมริกันอย่างยิ่ง ในป้จจุบันบอสตันได้กลายเป็นเมืองการศึกษา เพราะมีมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอยู่ถึงสองแห่งด้วยกันครับ
บทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเมืองบอสตันคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเมืองบอสตัน (Boston)
บอสตันเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าว หรือในบริเวณที่แม่น้ำชาร์ลส์ไหลลงทะเล บริเวณนี้นั้นมีชาวอเมริกันพื้นเมือง (Native Americans) อาศัยอยู่เป็นเวลานานถึง 7,000 ปีก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้ามาครับ
ชาวยุโรปที่เดินทางเข้ามาบอสตันเป็นกลุ่มแรกมาจากอังกฤษ โดยเป็นนักบวชคริสต์กลุ่ม Puritans พวกเขาได้ตั้งชื่อหมู่บ้านแห่งใหม่นี้ว่าบอสตันครับ
เหล่านักบวชคริสต์ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษา พวกเขาจึงเปิดโรงเรียนชื่อ Boston Latin School ซึ่งเป็นโรงเรียนแห่งแรกในสหรัฐอเมริกาครับ ซึ่งนี่เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมการศึกษาที่จะทำให้บอสตันเป็นเมืองการศึกษาระดับโลกมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ด้วยทำเลที่ดีใกล้ทะเลทำให้บอสตันเติบโตเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และดึงดูดผู้คนให้มาอาศัยเพิ่มขึ้นตามลำดับ ในช่วงศตวรรษที่ 17 ถึงกลางศตวรรษที่ 18 บอสตันจึงเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในอาณานิคมทั้ง 13 (Thirteen Colonies) ของอังกฤษครับ อย่างไรก็ดีบอสตันได้เสียตำแหน่งนี้ไปให้กับนิวยอร์กในเวลาต่อมา
ในช่วงปี ค.ศ.1765-1770 บอสตันเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ แต่กลับโดนรัฐบาลอังกฤษบีบบังคับให้จ่ายภาษีโน่นนี่หลายต่อหลายครั้ง สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อชาวอาณานิคม
การรีดภาษีได้ส่งผลกระทบเป็นโดมิโนจนเกิดเหตุการณ์สำคัญอย่าง Boston Massacre และ Boston Tea Party สุดท้ายลามเป็นกระแสการปฏิวัติที่ลามไปทั้งอาณานิคมทั้ง 13 แห่ง จนสุดท้ายก็เป็นสงครามการปฏิวัติอเมริกัน (American Revolutionary War)
หลังจากที่ได้รับอิสรภาพแล้ว บอสตันได้กลายเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกา และมีอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง แต่ในช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 นั้นบอสตันได้กลายเป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษาและการวิจัย เพราะมีมหาวิทยาลัยชั้นนำตลอดจนวิทยาลัยอีกมากมายครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองบอสตันทำอย่างไร
บอสตันมีสนามบินนานาชาติ (Logan International Airport) ซึ่งมีสายการบินจากทั่วโลกมาให้บริการ ดังนั้นในทางทฤษฎีแล้ว คุณสามารถบินจากกรุงเทพไปยังบอสตันได้โดยแวะเปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้งครับ
อีกตัวเลือกหนึ่งคือบินไปลงในสนามบินที่ใหญ่กว่าในอเมริกาอย่างเช่น JFK ที่นิวยอร์กแล้วค่อยบินในประเทศไปลงที่บอสตัน วิธีนี้อาจจะสะดวกสบายไม่เท่าวิธีแรกเพราะว่าคุณน่าจะต้องรับกระเป๋ามาโหลดเข้าเครื่องใหม่ครับ
ในกรณีที่คุณอยู่ใน New England อยู่แล้วหรือว่าอยู่ที่นิวยอร์ก คุณสามารถนั่งรถบัสหรือรถไฟอย่าง Amtrak ไปยังบอสตันได้ครับ
วิธีการเข้าเมืองบอสตันจากสนามบินทำอย่างไร?
ตัวเลือกมีมากมายเลยครับ ตั้งแต่รถบัสไปจนถึงแท็กซี่ แต่ถ้าสัมภาระมาก ผมแนะนำให้ใช้บริการแท็กซี่ไปเลยจะดีกว่าครับ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของสนามบินครับ
สำหรับท่านใดที่ต้องการความหรูหรามีระดับ คุณสามารถเลือกใช้บริการรถลีมูซีนได้ ซึ่งโชเฟอร์จะมารับที่สนามบินโลแกนพร้อมกับป้ายชื่อของคุณครับ
การสัญจรในบอสตันทำอย่างไร?
บอสตันมีระบบรถไฟใต้ดินที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง เช่นเดียวกับรถบัส เฟอร์รี่ และแท็กซี่ ดังนั้นเรื่องการสัญจรไปไหนมาไหนจึงทำให้อย่างสะดวกสบายครับ
ประหยัดค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ในบอสตันอย่างไรดี
คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ด้วยการซื้อ Boston CityPass หรือพาสของ Go City ทั้งนี้ทั้งสองพาสจะราคาใกล้เคียงกันครับ ผมแนะนำตรวจสอบเงื่อนไขต่างๆ ให้ตรงกับสไตล์การท่องเที่ยวของคุณก่อนที่จะจองครับ
ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัย
บอสตันนั้นเหมือนกับเมืองใหญ่อื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา นั่นคือมีปัญหาอาชญากรรมสูง (แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ) เพราะฉะนั้นคุณจะต้องระมัดระวังตัวพอสมควร แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกเกินไปครับ
พูดง่ายๆ คือ คุณต้องระวังตัวมากกว่าเวลาอยู่ที่กรุงเทพ โตเกียว โซลแน่ๆ รวมไปถึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณย่านที่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนโซนที่มืดเปลี่ยวไร้ผู้คน แต่ไม่ถึงกับต้องระวังด้านหน้าด้านหลังตลอดเวลาครับ
อย่างไรก็ดีผมได้ไปเยือนเมืองนี้หลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยเผชิญกับการก่ออาชญากรรมใดๆ ทั้งสิ้น ชาวเมืองก็ให้การช่วยเหลือและมีความเป็นมิตรอย่างดีครับ
ที่พักในบอสตัน
สำหรับใครที่ยังไม่จองทีพัก ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักบอสตันของผม เพื่อที่จะได้เลือกที่พักคุณภาพดี ปลอดภัย และสมราคาครับ
1. Faneuil Hall Marketplace
Faneuil Hall Marketplace เป็นอาคารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่าน Downtown ของเมืองบอสตัน และเป็นที่ตั้งของ Quincy Market หนึ่งในตลาดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของภูมิภาค New England ครับ
ตัวอาคารสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1742 และเป็นสถานที่นัดพบกันของชาวเมืองมานับตั้งแต่บัดนั้น แน่นอนว่าที่นี่เป็นสถานที่ประท้วงรัฐบาลอังกฤษ และนำไปสู่สงครามที่ชาวอเมริกันได้รับอิสรภาพครับ
ที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมือง และแสดงถึงวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาของบอสตันได้เป็นอย่างดีครับ เพราะฉะนั้นเมื่อได้ไปถึงแล้ว คุณน่าจะมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกสักครั้ง
ด้านในอาคารมีร้านอาหารจำนวนมากมาย ตั้งแต่ซีฟู้ดสดๆ ไปจนถึงอาหารจานเดียวทั้งคาวหวาน ซึ่งผมได้ลองหลายร้านแล้วพบว่ารสชาติดีมาก และราคาไม่แพงมากด้วย ไม่เพียงเท่านั้นในตลาดยังมีร้านค้าต่างๆ ที่คุณไปซื้อของฝากได้ครับ
นอกจากนี้เทศกาลและงานสำคัญต่างๆ ก็มักจะจัดขึ้นที่ลานใกล้กับอาคารแห่งนี้ครับ รวมไปถึงการแสดงดนตรีและมายากลต่างๆ ด้วย อ่านเพิ่มเติมว่าช่วงนี้มีอีเวนต์อะไรบ้างได้ที่เว็บไซต์ทางการของตลาดครับ
2. Freedom Trail
Freedom Trail เป็นเส้นทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งยาวประมาณ 2.5 ไมล์ (4 กิโลเมตร) และครอบคลุมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งหมดในบอสตันกว่า 16 แห่งครับ
แน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องแวะทุกแห่งก็ได้ โดยแห่งที่ผมมองว่าน่าไปเยือนและถ่ายรูปมีดังต่อไปนี้
Boston Common – สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มเปิดให้ผู้อยู่อาศัยตั้งแต่ปี ค.ศ.1634 ในอดีตเป็นสถานที่ยอดนิยมในการจัดงานเฉลิมฉลองต่างๆ รวมไปถึงเป็นสถานที่ให้ชาวเมืองมาจบความขัดแย้งกันด้วยการดวลปืน ส่วนในปัจจุบันได้กลายเป็นพื้นที่จัดการแสดง คอนเสิร์ต เทศกาลต่างๆ หรือแม้กระทั่งชุมนุมประท้วงครับ
หนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากคือนั่งเรือหงส์ (Swan Boats) ซึ่งมีความเป็นมานานถึงร้อยกว่าปีครับ ใกล้กับ Boston Common มีสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งชื่อ Boston Public Garden ซึ่งมีอนุสาวรีย์ของจอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ครับ
Massachusetts State House – ที่ว่าการรัฐที่มีความเป็นมาย้อนไปได้ถึงช่วงที่สหรัฐอเมริกาได้รับอิสรภาพมาใหม่ๆ ตัวอาคารมีโดมสีทองตั้งอยู่ด้านบนเป็นเอกลักษณ์ และถือว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองครับ ปัจจุบันที่นี่ยังใช้เป็นที่ว่าการรัฐเช่นเดิมครับ
Park Street Church – โบสถ์สมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีหอคอยสูงถึง 217 ฟุตและเห็นได้จากระยะไกล ชาวเมืองในอดีตมักจะใช้บอกว่ามาถึงเมืองบอสตันแล้วครับ
Boston Latin School – โรงเรียนแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์ของเบนจามิน แฟลงคลินตั้งอยู่ครับ
Old South Meeting House – อาคารเก่าแก่อันเป็นสถานที่ซึ่งชาวเมืองจัดประท้วงภาษีชา และนำไปสู่เหตุการณ์ Boston Tea Party ครับ
Old State House – หนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในบอสตัน เพราะสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1713 และเป็นตลาดกลางของเหล่าพ่อค้า (ตลาดหุ้นยุคแรกสุด) รวมไปถึงเป็นที่ทำการรัฐในสมัยอาณานิคมครับ
สำหรับที่อื่นนั้นสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บทางการครับ
3. USS Constitution
USS Constitution เป็นเรือรบที่เก่าแก่ที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐที่ยังลอยได้ โดยสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1797 และเคยป้องกันประเทศในสมัยสงครามแห่งปี ค.ศ.1812 ครับ
ปัจจุบันตัวเรือยังอยู่ในสภาพดีเยี่ยม และยังอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ อย่างไรก็ดีตัวเรือได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเรือครับ
สำหรับใครที่ชอบประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องยากมากที่จะหาเรือจากยุคนี้ที่ยังอยู่ในสภาพดีและยังลอยได้ แน่นอนว่าไม่ควรพลาดทุกประการครับ
ค่าเข้าชม: $10 (อ้างอิงจากเว็บทางการของตัวเรือครับ)
4. Harvard University
Harvard University หรือมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นสถานศึกษาที่ได้รับการยอมรับว่าอยู่ที่จุดสูงสุดของโลก และเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม Ivy League ครับ
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมบางส่วนของมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งด้านในของมหาวิทยาลัยนั้นมีอาคารหลายหลังสีแดงสด อันเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย
แต่จุดที่นิยมมากที่สุดเห็นจะเป็นอนุสาวรีย์ของ John Harvard หนึ่งในผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งนี้ครับ นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปด้วย และสัมผัสบริเวณเท้า
ใกล้กับมหาวิทยาลัยมีจัตุรัสชื่อ Harvard Square ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร (โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านไอศกรีม) ไปจนถึงร้านหนังสือ และเป็นจุดที่เหล่านักศึกษามักจะมา hangout กันครับ
ทางมหาวิทยาลัยนั้นมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง อย่างเช่น Harvard Art Museum ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะจำนวนมากตั้งแต่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยามาจนถึงช่วงศตวรรษที่ 20 หรือ Harvard Museum of Natural History ที่เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ครับ
แต่ถ้าคุณอยากสัมผัสมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแบบลงลึกกว่านั้น คุณสามารถติดต่อทางมหาวิทยาลัยเพื่อจองทัวร์เที่ยวจุดต่างๆ แบบเจาะลึก โดยจะมีนักศึกษามาพาคุณไปชมจุดต่างๆ และเหล่าประวัติความเป็นมาอย่างละเอียดครับ แต่ถ้าขี้เกียจติดต่อ คุณสามารถจองทัวร์ได้เลยผ่าน Viator หรือ Getyourguide ด้านล่างครับ
5. Arnold Arboretum
Arnold Arboretum เป็นสวนเก่าแก่ที่ในปัจจุบันอยู่ในการดูแลของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยใช้เป็นสวนที่ใช้ในการเรียนการสอนนักศึกษา แต่ก็ด้วยความที่มีต้นไม้ใหญ่น้อยที่สวยงาม ทำให้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชั้นยอดของเมืองบอสตันครับ
นอกจากนี้ภายในสวนยังมีดอกไม้ให้ชมหลายสิบสายพันธุ์ ตั้งแต่ Lilac ไปจนถึง azalea และอื่นๆ อีกมากมายครับ สวนนี้เข้าชมฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครับ
6. Massachusetts Institute of Technology
Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ และเป็นความใฝ่ฝันของเด็กสายวิทย์ทุกคนที่อยากจะมาศึกษาต่อที่นี่ครับ
จุดที่น่าสนใจใน MIT นั้นมีหลายแห่ง ตั้งแต่ Killian Court ที่มีอาคารที่มีโดมขนาดใหญ่สูงตระหง่านตั้งอยู่ และเป็นสถานที่จัดงานจบการศึกษาทุกปี ไปจนถึงอาคารทรงประหลาดอย่างเช่น Ray and Maria Stata Center ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรม Modern และ Post-modern ครับ
เช่นเดียวกับฮาร์วาร์ด ในเขตมหาวิทยาลัยนั้นมีพิพิธภัณฑ์อย่าง MIT Museum ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งทางมหาวิทยาลัยให้คำนิยามว่าเป็นการบรรจบกันคือศิลปะและวิทยาศาสตร์ครับ
7. Boston Public Library
Boston Public Library เป็นห้องสมุดสาธารณะของเมืองที่ตั้งอยู่ที่ Copley Square ตัวห้องสมุดนั้นสร้างด้วยศิลปะยุค Renaissance ทำให้ดูสวยงามและอลังการมากทั้งด้านนอกและด้านในครับ
ตัวห้องสมุดนั้นถือว่าใหญ่เป็นลำดับสามในบรรดาห้องสมุดสาธารณะในสหรัฐอเมริกา โดยเป็นรองแค่ห้องสมุดสาธารณะที่นิวยอร์ก และ Library of Congress ที่วอชิงตัน ดีซีเท่านั้นครับ ปัจจุบันในห้องสมุดมีเอกสารเก็บไว้ถึง 24 ล้านชิ้นเลยทีเดียว
คุณสามารถเข้าไปชมทั้งด้านนอกด้านในได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครับ
ใกล้กับห้องสมุดมีโบสถ์ชื่อ Trinity Church ตั้งอยู่ ตัวโบสถ์สร้างด้วยหินทรายสีแดงในสถาปัตยกรรมแบบ Richardson Romanesque ทำให้ดูสวยงดงามไม่เหมือนที่ใดครับ
8. New England Aquarium
New England Aquarium เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองบอสตัน ด้านในมีสัตว์น้ำให้ชมกว่า 550 สปีชีส์ ตั้งแต่แมวน้ำไปจนถึงปลากระเบน ฉลาม นกเพนกวิน และหมึกยักษ์ รวมแล้วกว่า 20,000 ตัวครับ
แน่นอนว่าในพิพิธภัณฑ์นั้นมีการแสดงให้ชมด้วย ซึ่งเหมาะกับการนำเด็กๆ มาชมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับค่าเข้าชมนั้นเริ่มต้นที่ $34 ครับ (อ้างอิงจากเว็บของ Aquarium)
การซื้อตั๋วนั้นอาจจะซื้อกับ Viator และ Getyourguide ได้ในราคาเท่ากันกับซื้อกับอควาเรียมโดยตรง และมีเงื่อนไขเดียวกันนั่นคือต้องเข้าชมในเวลาที่กำหนด (เน้นไว้เลยเพราะสำคัญมากครับ) แต่จะดีกว่าตรงที่คุณขอคืนเงินได้จนกระทั่งถึง 24 ชั่วโมงสุดท้าย (ซื้อจากอควาเรียมจะขอคืนเงินไม่ได้) และเป็นตั๋วแบบ Skip-the-line หรือไม่ต้องต่อคิวครับ
9. Boston Harbor และดูวาฬ
บริเวณ Boston Harbor นั้นมีความสวยงาม เพราะคุณจะได้เห็นแลนด์มาร์กของเมืองบอสตันเรียงรายกันไป ซึ่งสวยไม่แพ้ที่นิวยอร์กเลยครับ นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาล่องเรือชมวิวกันไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือช่วงเย็นครับ
สำหรับการล่องเรือนั้น บางผู้ให้บริการมีพาไปชมวาฬอีกด้วย ซึ่งจะพาคุณนั่งเรือเร็วออกไปกลางทะเล เพื่อชมวาฬหลังค่อม วาฬฟิน หรือวาฬไรท์ ที่มักจะมาแหวกว่ายอยู่ในทะเลใกล้กับเมืองบอสตันบ่อยครั้งครับ ซึ่งตลอดการล่องเรือนั้นจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้อย่างละเอียด เพราะฉะนั้นเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจสุดๆ เลยครับ เวลาที่ใช้ทั้งหมดจะประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
กิจกรรมนี้ได้รับความนิยมสูงมากและเป็นที่นิยมอย่างล้นหลาม (เห็นได้จากรีวิวที่คะแนนสูงมาก) ทั้งนี้คุณสามารถจองออนไลน์ได้ผ่าน Viator (บริษัทลูกของ TripAdvisor) หรือ Getyourguide ผ่านลิงค์ด้านล่าง ราคาต่อคนจะอยู่ที่ประมาณ 2,600 บาทครับ (ยกเลิกได้ฟรี แต่ต้องก่อนทริปเริ่ม 24 ชั่วโมง)
10. ชม Boston Symphony Orchestra
สำหรับใครที่รักดนตรีคลาสสิค การเดินทางมาชมการแสดง Boston Symphony Orchestra ที่ Symphony Hall ถือว่าเป็นกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ตัวอาคารสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ.1900 ด้วยการออกแบบที่ช่วยให้เสียงดนตรีไพเราะเสนาะหูมากที่สุดตามหลักวิทยาศาสตร์ครับ นับตั้งแต่นั้นที่นี่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสถานที่จัดแสดงดนตรีคลาสสิคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
คอนเสิร์ตนั้นมีให้ชมแทบทุกวัน คุณสามารถดูตารางได้ที่เว็บไซต์ Official ของ Symphony Hall ครับ
11. Boston Tea Party Ship & Museum
Boston Tea Party Ship เป็นเรือจำลองที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ Boston Tea Party ที่มวลชนรวมตัวกันบุกเรือของอังกฤษ และนำชาไปทิ้งน้ำเพื่อประท้วงการออก Tea Act ของรัฐบาลอังกฤษในปี ค.ศ.1773
บนเรือก็จะมีกิจกรรมแสงสีเสียงให้ชม และให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวครับ ส่วนค่าเข้าชมเริ่มต้นที่ $32 ครับ
12. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อื่นๆ
บอสตันนั้นเป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์จำนวนมากมาย นอกเหนือที่ผมแนะนำไปแล้วนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ทื่น่าสนใจอีกหลายแห่งด้วยกัน อย่างเช่น
- Museum of Science – พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่มีสิ่งของจัดแสดงทางวิทยาศาสตร์ให้ชมมากมาย ตั้งแต่ฟอสซิลอายุ 65 ล้านปี สวนผีเสื้อ ไปจนถึงหอดูดาวต่างๆ ครับ
- Museum of Fine Arts Boston – พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษางานศิลปะตั้งแต่ยุคอียิปต์ กรีก มาจนถึงภาพเขียนแบบ Impressionist ใครที่หลงใหลผลงานศิลปกรรมไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
13. Fenway Park
Fenway Park เป็นสนามเหย้าของทีมเบสบอลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง Boston Red Sox และให้บรรยากาศแบบดั้งเดิมแม้ว่าจะสร้างมากว่า 100 ปีแล้ว และได้รับการปรับปรุงมาหลายครั้งครับ
เพราะฉะนั้นใครที่ชอบกีฬาเบสบอล คุณไม่ควรพลาดไปเยือนที่นี่โดยเด็ดขาด คุณอาจจะเข้าไปชมในช่วงที่มีการแข่งขันได้ด้วยเช่นกัน แต่ตั๋วอาจจะหายากเสียหน่อย เพราะสนามค่อนข้างเล็กกว่าสนามเบสบอลของทีมอื่นๆ ครับ
นอกเหนือจากนี้คุณอาจจะหาซื้อสินค้าเช่นเครื่องแต่งกายของทีมเก็บไปเป็นที่ระลึกได้ด้วยเช่นกัน
14. ชิมอาหารต่างๆ
บอสตันเป็นเมืองที่มีร้านอาหารมากมาย และมีหลายเมนูให้เลือกชิมไม่ว่าจะเป็น
- Lobster – เมนูอันมีชื่อเสียงที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว ล็อบสเตอร์ของที่นี่นั้นรสชาติดีจริงๆ โดยรวมแล้วห้ามพลาดครับ เมนูที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ คือ Lobster Roll ครับ แต่อันที่จริงแล้วกินแบบไหนก็อร่อย รวมไปถึงแบบผัดที่ Chinatown ครับ
- Clam Chowder – ซุปชนิดนี้ของ New England นั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องรสชาติอันเข้มขัน เท่าที่เคยลองแล้วอร่อยมาก ไม่ควรข้ามเช่นกันครับ
- ของหวานอย่างเช่น Boston Cream Pie และ Cannoli
References
- Meet Boston (Official Travel Guide)
- Massport (Logan Airport Official Site)
- Faneuil Hall Marketplace Official Site
- The Freedom Trail Site
- USS Constitution Museum Site
- Harvard.edu
- New England Aquarium Official Site
Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าบทความนี้มี Affiliate Links หรือผมจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองบริการต่างๆ ผ่านบางลิงค์ในบทความนี้ครับ