หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวนิวซีแลนด์10 ที่เที่ยวไครสต์เชิร์ช (Christchurch) และกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด

10 ที่เที่ยวไครสต์เชิร์ช (Christchurch) และกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด

-

ต่อไปบทความของผมจะหาพบได้ยากขึ้นจาก search engine ถ้าเป็นไปได้โปรดเพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อเข้าถึงบทความหรือแพลนทริปฟรี ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกคุณในการเดินทางครั้งต่อไปครับ ขอบคุณครับ
เพิ่มเพื่อน

ไครสต์เชิร์ช (Christchurch) เป็นเมืองเอกของเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีประชากรมากที่สุด ตัวเมืองตั้งอยู่ในภูมิภาค Canterbury ทางทิศตะวันออกของเกาะครับ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและคมนาคม ทำให้ที่นี่เป็นประตูสู่สถานที่เที่ยวต่างๆ ในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ครับ

อย่างไรก็ดีในเมืองไครสต์เชิร์ชก็มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่งที่คุณไม่ควรพลาดเช่นกัน แต่ก่อนอื่นเราไปรู้จักเมืองนี้อย่างถี่ถ้วนกันก่อนจะดีกว่าครับ

รู้จักเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch)

ไครสต์เชิร์ชนั้นเป็นชาวเมารีเข้ามาอาศัยอยู่นานหลายร้อยปีก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้ามาในดินแดนแถบนี้ โดยชาวเมารีได้เข้ามาล่านกโมอา (Moa) กันที่บริเวณ ซึ่งในปัจจุบันนกสายพันธุ์นี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้วครับ แต่ตัวเมืองก็ยังได้คงอยู่สืบต่อมาและเป็นที่แย่งชิงกันโดยชาวเมารีเผ่าต่างๆ

เมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) ในปัจจุบัน
by Clem Hencher-Stevens/ShutterStock

ชาวยุโรปได้เข้ามาที่นี่ในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยกลุ่มนักล่าวาฬ และตามมาด้วยนักบวชสาย Canterbury เหล่านักบวชได้สร้างเมืองขึ้นโดยอิงตามสถานที่ซึ่งพวกเขาได้จากมา นั่นคือ Christ Church ของวิทยาลัยของมหาวิทยาลัย Oxford ในอังกฤษครับ หลังจากนั้นตัวเมืองก็เติบโตขึ้นตามลำดับ และได้กลายเป็นเมืองแห่งแรกในประเทศนิวซีแลนด์ในปี ค.ศ.1856

นับตั้งแต่นั้นตัวเมืองได้เจริญรุ่งโรจน์สืบต่อมา ชาวยุโรปที่เข้ามาอยู่ใหม่ได้สิ่งก่อสร้างในสไตล์ Gothic Revival ที่สวยงามและได้ตกทอดมาถึงปัจจุบันจำนวนไม่น้อย แม้ว่าจะต้องเผชิญกับแผ่นดินไหวหลายต่อหลายครั้งครับ

วิวใกล้กับเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch)
by Edward Phillip Ellerm/ShutterStock

แผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองนี้ทุกๆ 10-20 ปี แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก ยกเว้นในปี ค.ศ.2011 ที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ใกล้กับเมือง ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้วไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่ด้วยความที่ใกล้กับ epicenter ทำให้ตัวเมืองได้รับความเสียหายนัก และมีตึกบางแห่งถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 200 คนครับ

อย่างไรก็ดีตัวเมืองก็ได้ฟื้นฟูและกลับมารุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ปัจจุบันไครสต์เชิร์ชเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับเรื่องความสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสะอาดของน้ำประปาที่ได้รับการจัดอันดับว่าสะอาดและบริสุทธิ์เป็นอันดับต้นๆ ของโลกครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปยังเมืองไครสต์เชิร์ชทำอย่างไร?

ไครสต์เชิร์ชมีสนามบินนานาชาติ เพราะฉะนั้นคุณสามารถบินไปลงที่ไครสต์เชิร์ชได้จากกรุงเทพ แต่โดยคุณจะต้องแวะเปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้ง ตอนที่ผมไปนั้นผมได้ใช้บริการของ Emirates/Qantas ครับ (แวะเปลี่ยนเครื่องที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย) แต่สายการบินอื่นๆ อย่าง Singapore Airlines หรือ Air New Zealand ก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน

การสัญจรภายในเมือง

ส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยว (รวมทั้งผมด้วย) จะรับรถกันที่ไครสต์เชิร์ช (ไม่ว่าจะเป็นรถบ้านหรือ motorhome หรือว่ารถ SUV ทั่วไป) แล้วขับรถท่องเกาะใต้กัน เพราะฉะนั้นเรื่องการสัญจรในเมืองนั้นไม่มีปัญหาครับ เพราะจะใช้ขับรถเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ในกรณีที่คุณต้องการใช้ขนส่งสาธารณะ คุณสามารถใช้รถบัสหรือว่าแท็กซี่ได้ครับ

Tip

สำหรับใครที่ยังไม่ได้จองที่พักในเมือง ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ ส่วนที่พักใกล้สนามบินไครสต์เชิร์ชจะอยู่ที่บทความแยกครับ

1. Christchurch Gondola

ใกล้กับเมืองมีหลายจุดที่คุณสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองได้แบบพาโนรามา โดยจุดที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งคือ Mount Cavendish ซึ่งคุณสามารถขึ้นไปจุดสูงสุดของภูเขาได้อย่างง่ายดายด้วยการขึ้นกระเช้า Christchurch Gondola ครับ

Christchurch Gondola
by Azami Adiputera/ShutterStock

เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว คุณจะเห็นวิวสวยๆ ของเมืองไปพร้อมๆ กับภูเขาหิมะในส่วนของเทือกเขา Southern Alps ไปจนถึงทุ่งราบกว้างใหญ่อย่าง Canterbury Plains และมหาสมุทรแปซิฟิกครับ

วิวเมืองไครสต์เชิร์ช หลังจากที่ขึ้น Christchurch Gondola
by Evgeny Gorodetsky/ShutterStock

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินชมวิวให้ใครที่รักการเดินได้ยืดเส้นยืดสายอีกด้วย ทั้งนี้เส้นทางจะไม่ยาวมากนัก โดยจะใช้เวลาเดินแค่ 15-60 นาทีครับ แต่ถ้าใครขึ้เกียจเดิน อาจจะเข้าไปจิบกาแฟชมวิวที่ Red Rock Cafe ก็ได้ครับ

ค่ากระเช้า: 40 NZD

2. Christchurch Adventure Park

Christchurch Adventure Park เป็นสวนขนาดใหญ่ที่เป็นสถานที่ผ่อนคลายสำหรับชาวนิวซีแลนด์ผู้หลงรักในการผจญภัย โดยที่นี่เป็นสถานที่สำคัญขี่จักรยานภูเขาที่ใหญ่ที่สุดของซีกโลกใต้ เพราะฉะนั้นใครที่อยากสัมผัสกับความวิบาก และมันส์ในการเล่นกีฬาชนิดนี้แบบที่ไม่เคยพบพานที่ไหนมาก่อน ไม่ควรพลาดที่นี่เลยครับ

สำหรับใครที่ไม่เคยขี่มาก่อนเลย แต่อยากได้ความสนุก ที่นี่ก็มีครูสอนไม่ว่าจะเด็กและผู้ใหญ่ครับ

นอกจากจักรยานภูเขาแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นให้เล่นด้วย อาทิเช่น zipline ที่คุณจะได้ลอยล่องไปบนอากาศ พร้อมกับชมวิวสวยๆ ของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการครับ

3. Christchurch Botanic Gardens

Christchurch Botanic Gardens เป็นสวนพฤษภศาสตร์หลักของเมืองไครสต์เชิร์ชที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1863 โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายผู้เข้าชม ปัจจุบันตัวสวนได้แบ่งออกเป็นสวนย่อยมากกว่า 10 แห่ง และมีดอกไม้ (กุหลาบ, azalea และอื่นๆ) และต้นไม้ให้ชมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้และพรรณพืชหายากที่พบได้เฉพาะในนิวซีแลนด์เท่านั้นครับ

by Ho Su A Bi/ShutterStock

อนึ่งเนื่องจากสวนนี้อยู่ในซีกโลกใต้ ช่วงเวลาของการบานจะตรงกันข้ามกับซีกโลกเหนือ ลองตรวจสอบที่หน้าเว็บ Christchurch City Council ก่อนไปเพื่อที่จะได้ทราบว่าช่วงที่จะไปมีดอกอะไรบานบ้างครับ

4. Avon River

Avon River เป็นแม่น้ำสายเล็กที่ไหลผ่านเมืองไครสต์เชิร์ช ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือพายโบราณชมวิวกัน โดยการล่องนั้นจะมีอยู่สองสายหลักครับ สายแรกคือล่องผ่านตัวสวนพฤษภศาสตร์ ซึ่งคุณจะได้ชมดอกไม้สวยๆ และต้นไม้อันเขียวขอุ่มตลอดสองข้างทาง หรือว่าอีกเส้นทางหนึ่งคือล่องไปชมบริเวณใจกลางเมืองครับ ทั้งสองสายจะใช้เวลาเท่ากันนั่นคือประมาณครึ่งชั่วโมงครับ

Avon River Punt
by Klanarong Chitmung/ShutterStock

ค่าบริการ: 40 NZD ต่อคน

5. International Antarctic Centre

International Antarctic Centre เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศเสมือนจริงแบบทวีปแอนตาร์กติกาครับ โดยที่นี่มีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Storm Dome ห้องที่เปิดให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบแอนตาร์กติก โดยในห้องจะมีอุณหภูมิประมาณ -8 องศา แต่จะมีลมหนาวที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับอยู่ในอุณหภูมิ -18 องศาในบัดดล ไม่เพียงเท่านั้นคุณยังได้ลองนำมือจุ่มน้ำเย็นจัดในอุณหภูมิแบบเดียวกับที่ทวีปแอนตาร์กติกาอีกด้วยครับ

นอกจากนี้ยังมีโชว์นกเพนกวิน, ภาพยนตร์ 4 มิติ ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้ดีๆ มากมายเกี่ยวกับทวีปที่เย็นยะเยือกที่สุดของโลกแห่งนี้ครับ

ค่าเข้าชม: 49 NZD อ้างอิงจากเว็บทางการครับ

6. Christchurch Trams

ถ้าคุณอยากสัมผัสกับบรรยากาศแบบดั้งเดิมของเมืองไครสต์เชิร์ช หนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุดคือนั่งรถรางโบราณ หรือ Christchurch Trams ซึ่งจะให้บรรยากาศแบบวินเทจครับ เส้นทางเดินรถจะไม่ได้ไปไหนไกล แต่จะวนรอบ Cathedral Square และข้ามแม่น้ำ Avon เลียบไปตามสวนพฤษภศาสตร์ครับ

Christchurch Trams
by Inna Kravets/ShutterStock

อีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือใช้บริการ Tramway Restaurant หรือรับประทานอาหารบนรถรางที่วิ่งไปตามย่านต่างๆ ของเมืองในช่วงค่ำ ซึ่งคุณจะได้ชมวิวของตัวเมืองไปพร้อมๆ กับลิ้มลองอาหารพื้นเมืองแสนอร่อยด้วยครับ

ค่าบริการ: 135 NZD

7. เล่น Jet Boat

สำหรับการมาเที่ยวที่นิวซีแลนด์นั้น หนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดคือนั่งเรือเจ็ท (Jet Boat) ไปตามแม่น้ำและโตรกต่างๆ กิจกรรมนี้นั้นทั้งสนุก ตื่นเต้น แต่ไม่อันตรายหรือไม่เปียก เพราะฉะนั้นเหมาะกับนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ไม่ใช่สายลุยอย่างยิ่งเลยครับ

Jet Boat ที่ไครสต์เชิร์ช
by Darren Baker/ShutterStock

แม้ว่าส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวจะไปเล่นกับที่ควีนส์ทาวน์ (Queenstown) แต่ที่ไครสต์เชิร์ชนี้ก็มีให้เล่นเช่นเดียวกัน โดยมีให้เล่นตั้งแต่ 20 นาทีไปจนถึง 90 นาทีครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 80 NZD ครับ ถ้าสนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Alpine Jet Thrills

8. ชมสัตว์ในอุทยาน

สำหรับใครที่รักในการชมสัตว์นั้น สถานที่ซึ่งคุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงคือ Willowbank Wildlife Reserve เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่อุดมไปด้วยสัตว์หายากของนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ทั้งห้าที่เรียกกันว่า New Zealand Big 5 ซึ่งประกอบด้วยนกกีวี (Kiwi), นก Kea, กิ้งก่า Tuatara, นกแก้ว kaka และ นก Takahe ซึ่งสัตว์เหล่านี้แทบไม่พบในส่วนอื่นของโลกนอกจากที่นิวซีแลนด์แห่งนี้ครับ

นก Takahe
นก Takahe by Yingna Cai/ShutterStock

ปัจจุบันเขตอุทยานแบ่งออกเป็นสามส่วนได้แก่ส่วนแรก Farmyard ซึ่งคุณจะได้ชมเหล่าอัลปาก้า กระต่าย และสัตว์อื่นๆ ที่เลี้ยงในฟาร์ม ส่วนที่สองคือ New Zealand Section ที่มีสัตว์ที่มีถิ่นฐานในนิวซีแลนด์ให้ชม และปิดท้ายด้วย Zoo/Exotic Section ที่มีนกแก้ว อิกัวน่า เต่าลายดาว ฯลฯ สำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ 34.5 NZD ครับ

อีกหนึ่งจุดชมสัตว์ที่น่าสนใจคือ Orana Wildlife Park ซึ่งมีสัตว์กว่า 1,000 ตัวจาก 90 สปีชีส์ ซึ่งรวมไปถึง New Zealand Big 5 ด้วยครับ

9. New Regent Street

New Regent Street เป็นถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีประวัติย้อนไปได้ถึงช่วงยุค 1930s ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Spanish Mission ในปัจจุบันตัวอาคารทั้งสองฝั่งถนนยังเป็นเหมือนกับเมื่อร้อยปีก่อนครับ

ถนน Regent Street
by WitR/ShutterStock

ปัจจุบันถนนแห่งนี้ยังคงมีร้านค้าขนาดเล็กมากมาย รวมไปถึงร้านอาหารและบาร์ที่เปิดให้คุณได้มานั่งสัมผัสบรรยากาศ ซึ่งดูเผินๆ แล้วไม่เหมือนกับอยู่ในนิวซีแลนด์เลยครับ

10. Shamarra Alpacas

ใกล้กับเมืองไครสต์เชิร์ชนั้นมีฟาร์มอัลปาก้าตั้งอยู่ด้วย ชื่อว่าฟาร์ม Shamarra Alpacas ครับ ที่นี่เป็นฟาร์มที่เลี้ยงดูเจ้าอัลปาก้าแบบธรรมชาติในทุ่งหญ้าริมปากอ่าวอันสวยงามของภูมิภาค canterbury ซึ่งถึงแม้จะไม่มีอัลปาก้า ทิวทัศน์ตรงนี้ก็ควรค่าต่อการมาชมแล้วครับ

ฟาร์มอัลปาก้า
by Brad Ju/ShutterStock

ปัจจุบันในฟาร์มมีอัลปาก้ามากกว่า 170 ตัวด้วยกันครับ โดยในฟาร์มนั้นคุณจะได้สัมผัสตัวอัลปาก้าอย่างใกล้ชิดแบบที่ไม่เคยทำได้ในที่อื่นๆ รวมไปถึงจับจ่ายซื้อสินค้า (อย่างเช่นเครื่องนุ่งห่ม) ที่เป็นผลผลิตจากตัวอัลปาก้าด้วยครับ

อย่างไรก็ดีตัวฟาร์มนั้นอยู่ห่างจากไครสต์เชิร์ชประมาณ 70 กิโลเมตร ซึ่งวิธีการไปที่ง่ายที่สุดคือขับรถไปครับ

ค่าเข้าชม: 50 NZD

11. Sumner Beach

Sumner Beach เป็นหาดทรายขาวที่อยู่ห่างออกไปจากไครสต์เชิร์ชไม่ไกลนัก ด้วยความที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมของชาวเมืองไครสต์เชิร์ช คุณสามารถนั่งชมวิวได้ที่บาร์หรือร้านอาหารที่มีอยู่มากมายในอาณาบริเวณครับ

Sumner Beach, Christchurch
by Michaela Sounova/ShutterStock

สำหรับใครที่ชอบว่ายน้ำนั้นก็สามารถว่ายได้เช่นกัน แต่ต้องปฏิบัติตามกฎให้ดี และไม่ควรว่ายไปไกลจากจุดที่ lifeguard ประจำอยู่มากนัก เพราะมีบางช่วงของปีที่กระแสน้ำบริเวณนี้จะรุนแรงครับ

References

  • 100% Pure New Zealand (Canterbury Attractions)
  • Christchurch City Council
  • Christchurch NZ (Official Travel Site)
  • Christchurch Attractions
  • Christchurch Adventure Park Official Site
  • Alpine Jet Thrills
  • Shamarra Alpacas

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!