ชิงเคว เตเร่ (Cinque Terre) เป็นหมู่บ้านห้าแห่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี โดยเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาค Liguria หมู่บ้านทั้งห้านี้ตั้งอยู่ริมทะเล และมีสิ่งก่อสร้างหลากสีพาสทาลที่ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าเข้มอย่างงดงามมาก ทำให้ชิวเคว เตเร่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศอิตาลีไปโดยปริยายครับ
ในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับชิงเคว เตเร่อย่างคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักชิงเคว เตเร่ (Cinque Terre)
หมู่บ้านทั้งห้าของ Cinque Terre นั้นอยู่ติดกัน โดยตั้งอยู่เรียงรายตามชายฝั่งทะเลจากตะวันตกสู่ตะวันออกตามลำดับได้แก่
- Monterosso al Mare
- Vernazza
- Corniglia
- Manarola
- Riomaggiore
หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดคือ Monterosso al Mare และยังเก่าแก่ที่สุดด้วย โดยปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1056 ซึ่งในช่วงนั้นอยู่ในการปกครองของสาธารณรัฐเจนัว (Genoa) ครับ พอเข้าช่วงศตวรรษที่ 16 พื้นที่บริเวณนี้ได้ถูกยกระดับเป็นแนวป้องกันการรุกรานของจักรวรรดิออตโตมัน ดังนั้นมีการสร้างป้อมปราการและค่ายคูหอรบขึ้นมาจำนวนหนึ่ง
ในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้มีการสร้างทางรถไฟเชื่อมชิงเคว เตเร่เข้ากับเมืองใหญ่ของอิตาลีอย่างเจนัว ทำให้การคมนาคมสะดวกมากขึ้น และส่งผลให้หมู่บ้านทั้งห้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลทุกปีมาจนถึงปัจจุบันครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปชิงเคว เตเร่ (Cinque Terre) ทำอย่างไร
วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือการนั่งรถไฟมาจากเมืองใหญ่อย่างเจนัว (Genoa) มิลานหรือแม้กระทั่งปิซ่า (Pisa) โดยรถไฟจะจอดที่สถานี Riomaggiore หรือ Monterosso ซึ่งคุณสามารถลงเพื่อเริ่มต้นทริปชิงเคว เตเร่ของคุณได้ครับ
ส่วนอีกตัวเลือกหนึ่งก็คือเช่ารถแล้วขับไปเที่ยวหมู่บ้านทั้งห้าด้วยตัวเองครับ ซึ่งจะให้ความเป็นส่วนตัวและความยืดหยุ่นในการเดินทางครับ แต่คุณจะขับรถเข้าไปที่ใจกลางหมู่บ้านแต่ละแห่งไม่ได้อยู่ดี เพราะทุกแห่งไม่ให้รถยนต์เข้า คุณจะต้องจอดรถและเดินเท้าเข้าไปครับ
ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Consorzio Turistico Cinque Terre ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวชิงเคว เตเร่ ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนได้ครับ
การสัญจรในชิงเคว่ เตเร่ทำอย่างไร?
การเดินทางในหมู่บ้านทั้งห้านั้นง่ายมากด้วยรถไฟ 5 Terre Express เชื่อมระหว่างหมู่บ้านทุกแห่ง ทำให้การสัญจรง่ายดายและสะดวกสบายครับ
ในช่วงเดือนกลางมีนาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนนั้น คุณอาจจะซื้อ Cinque Terre Treno MS Card ซึ่งราคานั้นจะเริ่มต้นที่ 18.2 ยูโรต่อ 1 วัน หลังจากซื้อแล้วคุณจะนั่งรถไฟไปมาในหมู่บ้านทั้ง 5 ได้ไม่จำกัดเที่ยวครับ แต่ในช่วงฤดูหนาวนั้นซื้อแบบเที่ยวเดียวเลยจะดีกว่า เพราะรถไฟจะมีน้อยครับ ทำให้ใช้บัตรได้ไม่คุ้มเท่าไร
สำหรับใครที่รักในการเดิน คุณสามารถเดินระหว่างหมู่บ้านทั้งห้าได้ครับ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คุณชมทัศนียภาพระหว่างทางอันสวยงามได้อย่างเต็มๆ ตา แต่บางเส้นทางจะไม่ฟรี ทว่าถ้าคุณซื้อ Cinque Terre Treno MS Card ด้านบนไปแล้ว คุณจะไม่ต้องจ่ายเพิ่มครับ
1. Monterosso al Mare
หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในชิงเคว เตเร่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับนักท่องเที่ยวมากที่สุด ตัวหมู่บ้านมีหาดทรายที่สวยงาม ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ซึ่งนักเดินทางนิยมมาพักเมื่อมาเยือนซิงเคว เตเร่ครับ
ตัวหมู่บ้านแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ นั่นคือส่วนเมืองเก่า (Old Town) ที่มีปราสาทโบราณ และถนนเก่าแก่ที่ประวัติย้อนไปได้ถึงยุคกลาง และ Fegina ย่านเมืองใหม่ ส่วนที่มีหาดทรายอันสวยงามครับ
สถานที่ซึ่งคุณน่าไปเยี่ยมเยือนได้แก่
- Church of San Giovanni Battista – โบสถ์เก่าแก่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ในสถาปัตยกรรมผสมโกธิค-เจนัว ด้านในมีภาพเขียนสีเฟรสโกที่จำลองเหตุการณ์การรับศีลจุ่มของพระเยซูคริสต์ที่งดงามมากครับ
- Torre Aurora – หอคอยโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันหมู่บ้านจากเหล่าโจรสลัด ในปัจจุบันหอคอยได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร ซึ่งคุณสามารถไปลิ้มรสอาหารอิตาเลียนพร้อมกับชมวิวสวยๆ ของท้องทะเลได้ครับ
- Il Gigante – รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (โพไซดอน) สูง 14 เมตรตั้งอยู่สุดชายหาด Fegina Beach ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงสัญลักษณ์ของที่นี่ แต่การทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้ทำให้รูปปั้นเสียแขนไป และกลายเป็นรูปปั้นพิการมาจนถึงปัจจุบันครับ
- Soviore Sanctuary – อารามเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 15 ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง 400 เมตรจากระดับน้ำทะเล
- Fegina Beach – หาดสวยๆ ที่ให้นักเดินทางได้ชมวิวสวยๆ ของท้องทะเลครับ
เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องการปลูกเลมอนมากว่าหลายร้อยปี ในเสาร์ที่สามของเดือนพฤษภาคมจะมีเทศกาล Lemon Festival ซึ่งตัวหมู่บ้านจะถูกตบแต่งด้วยผลเลมอนอย่างสวยงาม และชาวบ้านจะนำผลิตภัณฑ์จากเลมอนแบบ homemade มาวางขาย อย่างเช่น limoncello ที่เลื่องลือไปจนถึง torta al limone ขนมหวานรสชาติเยี่ยมครับ
2. Vernazza
Vernazza เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอาคารสีพาสเทลอันสวยงามเรียงรายไปตามหน้าผาที่ลาดลงไปสู่ท้องทะเล เพราะฉะนั้นที่นี่จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีครับ
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในหมู่บ้านแห่งนี้ได้แก่
- Doria Castle – ปราสาทซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้ปกป้องหมู่บ้านจากการรุกรานและปล้นสะดมของโจรสลัด ปัจจุบันตัวหอคอยบางส่วนยังคงหลงเหลืออยู่ครับ
- Santa Margherita di Antiochia – โบสถ์ที่สร้างบนหินผาที่ลาดลงทะเล สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 13
สำหรับกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คือการเดินและถ่ายรูปบ้านสีพาสเทลที่สวยงามและโดดเด่น รวมไปถึงเดินเทรคตามเส้นทางที่จัดไว้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คุณได้ชมความงามของหมู่บ้านจากมุมสูงแบบเต็มๆ ตาครับ
3. Corniglia
Corniglia เป็นหมู่บ้านที่ต่างจากที่อื่นในชิงเคว เตเร่ นั่นก็คือไม่ได้สร้างบนหน้าผาลาดลงไปริมทะเล แต่ทั้งหมู่บ้านตั้งอยู่บนหน้าผาซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100 เมตรครับ วิธีการเข้าถึงมีวิธีเดียวนั่นคือขึ้นบันไดไป 382 ขั้นครับ แต่บันไดไม่ได้ชันอะไรมากนัก ทำให้เดินไม่ยากจนเกินไป
ด้วยความยากในการเข้าถึงทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวน้อยที่สุด และยังรักษาวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไว้ได้ โดยที่ไม่ได้สูญเสียไปให้กับรายได้จากการท่องเที่ยวครับ
ในหมู่บ้านมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนัก หนึ่งในนั้นได้แก่โบสถ์ Church of San Pietro แบบโกธิค-เจนัวซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 และมีการตบแต่งด้านในที่วิจิตรสวยงามครับ
หนึ่งกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาดจริงๆ คือการชมวิวตะวันตกดิน เพราะบรรยากาศนั้นสุดแสนจะโรแมนติก และให้ความทรงจำดีๆ ให้กับคู่รักไปได้ตลอดกาลเลยครับ
4. Manarola
Manarola เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านของชิงเคว เตเร่ที่มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงาม อาคารสีพาสเทลที่สร้างขึ้นด้วยสไตล์เจนัวเดิมนั้นเรียงรายไปตามภูผาอันสูงชัน ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติกและน่ารัก ที่นี่จึงเป็นที่นิยมในหมู่คู่รักที่มาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์และพักผ่อนหย่อนใจชมวิวครับ
สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดในหมู่บ้านคือโบสถ์ Church of San Lorenzo ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 รวมไปถึงหอระฆังที่อยู่ตรงข้าม ซึ่งคุณสามารถไปชมได้ครับ
นักเดินทางที่อยากชมวิวสวยๆ ของเมืองมักจะเดินทางไปที่ Nessun Dorma บาร์ที่ว่ากันว่าวิวเทพที่สุดของเมือง ช่วยให้คุณชมวิวสวยๆ พร้อมกับรับประทานของว่างอย่าง bruschettas ไปพร้อมๆ กันครับ
สำหรับใครที่รักการผจญภัย หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมคือกระโดดจากหน้าผาลงไปสู่ท้องทะเลครับ ซึ่งท้องทะเลของที่นี่จะลึกพอสมควร ทำให้การกระโดดทำได้โดยไม่อันตราย แต่แน่นอนว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นถ้าอยากจะกระโดดก็ต้องรับความเสี่ยงครับ
5. Riomaggiore
Riomaggiore เป็นหมู่บ้านที่อยู่ทางใต้และตะวันออกสุดของชิงเคว เตเร่ ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่จะคล้ายกับ Manarola ครับ แต่จะมีปราสาทสมัยยุคกลางอย่าง Castle of Riomaggiore ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งที่นี่เป็นจุดชมวิวตัวหมู่บ้านและท้องทะเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งครับ
ด้านในหมู่บ้านมีศาสนสถานอยู่หลายแห่ง อย่างเช่น San Giovanni Battista ที่มีอายุเกือบ 700 ปี และ Sanctuary of Madonna di Montenero อารามโบราณที่เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของ Cinque Terre เลยทีเดียว แห่งหลังนั้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
6. เดินเทรค
หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมและไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่ Cinque Terre (โดยเฉพาะถ้าคุณมีสุขภาพกายที่เอื้ออำนวย) คือการเดินเทรคครับ ที่นี่มีหลายเส้นทางด้วยกัน แต่เส้นทางที่ยอดนิยมได้แก่
- Sentiero Azzurro – เนื่องจากหมู่บ้านทั้งห้าตั้งอยู่เรียงรายกันตามชายฝั่งทะเล ทำให้เส้นทางนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน นั่นคือการเดินจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งไปยังหมู่บ้านถัดไปนั่นเอง ระยะทางจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 กิโลเมตรครับ ส่วนที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Monterosso al Mare ไปยัง Vernazza และจาก Vernazza ไปยัง Cornigila ครับ
- Il Sentiero del Crinale – เส้นทางเดินเก่าแก่ซึ่งเชื่อกันว่ามีความเป็นมาตั้งแต่ยุคโรมัน เส้นทางนี้ยาว 40 กิโลเมตร โดยเริ่มจากเมือง Levanto ไปยัง Riomaggiore ซึ่งจะส่วนสำคัญของเส้นทางจะผ่าน Cinque Terre ครับ
- Via dei Santuari – เส้นทางที่เชื่อมโบสถ์และอารามที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนที่นี่เอาไว้ด้วยกัน โดยจะเริ่มต้นที่ Soviore Sanctuary ใน Monterosso al Mare และไปสิ้นสุดที่ Sanctuary of Madonna di Montenero ครับ
7. พายเรือคายัค
สำหรับใครที่อยากได้กิจกรรมที่สนุกและท้าทายทักษะทางด้านร่างกายเสียหน่อย คุณสามารถจองทัวร์คายัคได้ครับ ไกด์จะพาคุณและนักเดินทางอื่นๆไปชมจุดสวยใน Cinque Terre ซึ่งอาจจะชมได้จากท้องทะเลเท่านั้น รับรองว่าสนุก ตื่นเต้น และได้เหงื่ออย่างแน่นอนครับ
References
- cinqueterre.it (Official Tourism Site)
- trenitalia
- cinqueterre.eu.com
- visitriomaggiore.it/en/