4 ที่เที่ยวต้าหลี่ (Dali) และกิจกรรมน่าสนใจไม่ควรพลาด

ต้าหลี่ (Dali, 大理) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของมณฑลยูนนาน ตัวเมืองมีชื่อเสียงเรื่องทะเลสาบที่สวยงาม เมืองเก่าที่ยิ่งใหญ่ ไปจนถึงเจดีย์ทั้งสามที่อลังการ โดยรวมแล้วเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรไปเยือน ไม่แพ้เมืองเอกของมณฑลอย่างคุนหมิง หรือว่าเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาหิมะมังกรหยกอย่างลี่เจียงครับ

บทความนึ้จึงจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับเมืองต้าหลี่อย่างคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองบริการต่างๆ ผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

รู้จักเมืองต้าหลี่ (Dali)

ต้าหลี่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน โดยตั้งอยู่ห่างจากคุนหมิง 340 กิโลเมตรในทางรถยนต์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมทะเลสาบเอ๋อไห่ และล้อมรอบโดยแนวภูเขาสูงและที่ราบสูง ทำให้โดยเฉลี่ยแล้วต้าหลี่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,975 เมตรครับ

ตัวเมืองมีมนุษย์อยู่อาศัยมาตั้งแต่ประมาณ 3,000 ปีก่อน โดยพลเมืองส่วนมากในต้าหลี่ ณ เวลานั้นคือบรรพบุรุษของชาวไป๋ (Bai) ในปัจจุบัน ซึ่งพวกเขาเริ่มปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์จีนในช่วงที่ขงเบ้งปราบปรามม่านใต้ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าพวกเขาคือส่วนหนึ่งของชาวม่านของ “เบ้งเฮ้ก” ในนิยายสามก๊ก (ทว่าในปัจจุบันยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าเขามีตัวตนจริงหรือไม่)

หลังจากนั้นชนพื้นเมืองในยูนนานก็ยังคงต่อต้านอำนาจของจีนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสมัยราชวงศ์สุยและถัง จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 8 ชาวไป๋ได้สถาปนาอาณาจักรของตนเองขึ้น โดยตั้งเมืองหลวงอยู่ที่เมืองต้าหลี่ ซึ่งอาณาจักรแห่งนี้คืออาณาจักรน่านเจ้า (Nanzhao) หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับชื่ออาณาจักรนี้มาบ้าง เพราะแบบเรียนประวัติศาสตร์เล่มเก่าๆ มักจะบอกว่าเป็นอาณาจักรของคนไทย แต่อันที่จริงแล้วแนวคิดนี้ได้ถูกตีตกไปหลายทศวรรษแล้วครับ

น่านเจ้าเป็นอาณาจักรที่เข้มแข็ง ทำให้เมืองต้าหลี่เจริญรุ่งเรืองมาก โดยต้าหลี่ได้กลายเป็นเมืองการค้าที่สำคัญ เพราะชัยภูมิที่ดีระหว่างทิเบต จีน อินเดีย และพม่า ส่วนการทหารก็เกรียงไกร มีชัยเหนือทั้งจีนและทิเบต และมีครั้งหนึ่งเกือบจะตีเมืองเฉิงตู เมืองสำคัญทางทิศตะวันตกของจีนได้เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดีน่านเจ้าประสบกับปัญหาภายใน อาณาจักรจึงล่มสลายไปได้ในช่วงศตวรรษที่ 10 แต่หลังจากนั้นไม่นาน ต้วนซือผิงที่มีเชื้อสายฮั่น (ตระกูลเดียวกับต้วนอี่ว์ในนิยายแปดเทพอสูรมังกรฟ้าของกิมย้ง) ได้ฉวยโอกาสที่พื้นที่แถบนี้มีสุญญากาศทางการเมืองสถาปนาอาณาจักรแห่งใหม่ชื่อว่า อาณาจักรต้าหลี่ (Dali Kingdom) ขึ้นมาปกครอง โดยอาณาจักรนี้ยังคงมีเมืองหลวงอยู่ที่เดิม นั่นคือเมืองต้าหลี่นั่นเอง

อาณาจักรต้าหลี่มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับราชวงศ์ซ่งของจีน ทำให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะหินอ่อนที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของต้าหลี่ ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วเอเชียว่าคุณภาพยอดเยี่ยมที่สุดครับ

ในช่วงศตวรรษที่ 13 อาณาจักรต้าหลี่ล่มสลายเพราะการรุกรานของชาวมองโกล แต่ได้รับความเสียหายไม่มากนัก เพราะว่าแม่ทัพที่ควบคุมกองทัพมองโกลคือกุบไล (ต่อมาคือกุบไลข่าน) ต้าหลี่จึงมีสถานะเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์หยวน แต่ตระกูลต้วนยังคงมีอำนาจในปกครองในดินแดนในอาณาจักรเช่นเดิม

ต่อมาในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ต้าหลี่ไม่ได้มั่งคั่งเหมือนในอดีต เพราะศูนย์กลางการค้าขายและการปกครองในพื้นที่แถบนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองคุนหมิง แต่ทำให้ตัวเมืองสงบสุขและไม่ได้เผชิญกับเหตุรุนแรงเหมือนกับแต่ก่อนครับ

ปัจจุบันต้าหลี่ได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยแบ่งออกได้เป็นสองส่วนหลักๆ นั่นคือเมืองเก่าต้าหลี่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของตัวเมืองเดิม และเซี่ยกวน (Xiaguan) ซึ่งเป็นตัวเมืองใหม่ที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นในยุคหลังครับ

ข้อควรทราบ

1. เมืองเก่าต้าหลี่

เมืองเก่าต้าหลี่ (Dali Ancient City) เป็นศูนย์กลางของเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ อย่างไรก็ดีด้วยไฟสงครามทำให้ตัวเมืองสมัยอาณาจักรน่านเจ้าและต้าหลี่นั้นพังพินาศไปหมดสิ้นแล้ว ในปัจจุบันอาคารที่หลงเหลืออยู่มีที่มาจากสมัยราชวงศ์หมิง โดยมีอายุประมาณ 600 ปีครับ ถ้าคุณอยากเห็นเมืองโบราณสวยๆ สไตล์จีน ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ระดับท็อปเลยครับ

ไฮไลท์ของเมืองเก่าต้าหลี่ประกอบด้วยดังต่อไปนี้

• กำแพงเมือง – เมืองเก่าต้าหลี่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองโบราณที่สูงถึง 7.5 เมตร และยาวถึง 6 กิโลเมตร แม้ว่าจะผ่านการบูรณะมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 แต่ก็ยังถือว่าเป็นกำแพงเมืองโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งนี้จุดที่สวยที่สุดคือบริเวณประตูฝั่งใต้ (South Gate) ซึ่งคุณสามารถขึ้นไปชมความงามของทะเลสาบเอ๋อไห่ได้ด้วยครับ
• Wuhua Tower – หอคอยแบบจีนที่เคยใช้ต้อนรับแขกคนสำคัญของเมือง ปัจจุบันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเก่าต้าหลี่ แต่ตัวหอเดิมนั้นพังทลายไปนานแล้ว หอที่เห็นอยู่ในปัจจุบันสร้างขึ้นปลายศตวรรษที่ 20 โดยเลียนแบบของเดิมสมัยราชวงศ์หมิงครับ นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปหอคอย เพราะจะเห็นวิวของเมืองเก่าต้าหลี่ได้แบบพาโนรามาครับ
• Catholic Church – โบสถ์คาทอลิกที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1927 จุดเด่นของที่นี่คือมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมพื้นบ้านของชาวไป๋เข้ากับแบบตะวันตกครับ
• Dali Museum – ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่พำนักของผู้ว่าราชการเมือง ปัจจุบันรัฐบาลจีนได้เปลี่ยนที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุจากราชวงศ์ต่างๆ ที่เคยปกครองต้าหลี่ครับ

นอกเหนือจากไฮไลท์เหล่านี้แล้ว ในเมืองยังมีอาคารอีกมากมายที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไป๋ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถเดินไปบริเวณศูนย์กลางเมืองที่มีร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดในอาคารแบบดั้งเดิมเหล่านี้ และสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่นเดียวกับลองชิมอาหารท้องถิ่นโอชารสได้ด้วยครับ

ทั้งนี้ถนนใหญ่ทั้งสามของเมืองเก่าต้าหลี่ประกอบด้วย Foreigners’ Street ถนนสายหลักที่เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดตอนที่ต้าหลี่เริ่มมีชื่อเสียงช่วงปลายศตวรรษที่ 20 สองข้างทางจะมีร้านค้า บาร์ และร้านอาหารจำนวนมากครับ

ส่วนถนนอีกสองเส้นได้แก่ Renmin Road และ Fuxing Road ซึ่งคับคั่งและมีร้านค้ามากมายไม่แพ้กันครับ

2. ทะเลสาบเอ๋อไห่

ทะเลสาบเอ๋อไห่ (Erhai Lake) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เคียงข้างเมืองต้าหลี่ โดยถ้าวัดจากขนาดแล้ว ทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้ถือว่าใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของจีน โดยรูปร่างของทะเลสาบแห่งนี้นั้นเป็นพระจันทร์เสี้ยว แต่บ้างก็ว่าเหมือนกับหูมนุษย์

จุดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้คือมีแนวภูเขาชังชาน (Cangshan Mountain) เป็นฉากหลัง ทำให้มีความสวยงามอย่างยิ่งยวด นักท่องเที่ยวนิยมไปล่องเรือเพื่อชมทัศนียภาพดังกล่าวแบบใกล้ชิดครับ โดยค่าล่องจะอยู่ที่ประมาณ 140 หยวนครับ

บริเวณทะเลสาบมีสถานที่ท่องเที่ยวย่อยที่คุณสามารถไปเยี่ยมชมได้ เช่นวัดโบราณ หมู่บ้านชาวประมงของชาวไป๋ ตลอดจนเมืองโบราณหลายแห่ง นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมเดินทางไปด้วยการเช่าจักรยานครับ

3. วัดฉงเชิ่ง

วัดฉงเชิ่ง (Chongsheng Temple) เป็นวัดอันเป็นที่ตั้งของเจดีย์ทั้งสาม (Three Pagodas หรือซื่อซานถ่า) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าหลี่ เจดีย์ทั้งสามตั้งอยู่ข้างกันเป็นรูปสามเหลี่ยม เพราะฉะนั้นจะมีความเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับหมู่เจดีย์ที่อื่นในจีนครับ ส่วนเรื่องความเก่าแก่นั้น เจดีย์ทั้งสามน่าจะมีอายุเกิน 1,000 ปีครับ

เจดีย์ที่เป็นจุดยอดของสามเหลี่ยมนั้นมีชื่อว่า Qianxun Pagoda โดยมีความสูงประมาณ 69 เมตร และจัดว่าสูงที่สุดในบรรดาเจดีย์ทั้งสาม ตัวเจดีย์สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง ด้านในเก็บรักษาปูชนียวัตถุอย่างเช่นพระพุทธรูปอยู่หลายองค์ด้วยกันครับ

ความสวยงามของวัดฉงเชิ่งนั้นอยู่ตรงที่มีแนวภูเขาชังซานเป็นฉากหลัง ยิ่งในช่วงที่ภูเขามีหิมะปกคลุมจะสวยงามยิ่ง นอกจากนี้ในช่วงค่ำ ตัววัดจะมีการเปิดไฟ ทำให้ควรค่าต่อการไปชมในช่วงเย็นด้วยเช่นกันครับ ในช่วงของค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 75 หยวนครับ

4. ภูเขาชังซาน

ภูเขาชังซาน (Cangshan Mountain) เป็นแนวภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองต้าหลี่ โดยบริเวณแนวภูเขานั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องอาศัยเคเบิลคาร์ในการขึ้นไปครับ โดยเคเบิลคาร์ที่ใช้บริการได้จะมีสามจุดด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย

• Gantong Cable Car – เคเบิลคาร์ที่นำคุณขึ้นไปวัดก่านถง (Gantong Temple) วัดที่ตั้งอยู่บนภูเขา และมีชื่อเสียงเรื่องชาคุณภาพเยี่ยม
• Zhonghe Cable Car – กระเช้าที่นำคุณขึ้นไปวัดจงเหอ (Zhonghe Temple) วัดเต๋าที่สร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรน่านเจ้า และเป็นที่เคารพนับถือของศาสนิกแถบนี้
• Xima Pool Cableway – กระเช้าที่พาคุณขึ้นไปยังบึงสีหม่า (Xima Pool) ที่ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,920 เมตร ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางมากกว่ากระเช้าอื่นๆ และค่าขึ้นแพงที่สุด แต่ขึ้นไปแล้วจะเห็นวิวสวยๆ ของตัวบึง เช่นเดียวกับภูเขาโดยรอบ แต่แน่นอนว่าด้วยความสูงขนาดนี้ อาการแพ้ความสูงอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าแน่ใจในเรื่องสภาพร่างกายเท่านั้นถึงจะขึ้นครับ

ช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการท่องเที่ยวที่นี่คือช่วงฤดูร้อน (พฤษภาคมถึงมิถุนายน) เพราะว่าบนภูเขาจะมีดอกไม้สารพัดชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอก azalea ที่งดงามเป็นอย่างยิ่งครับ

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจในแถบนี้คือ Dali Butterfly Spring Park (大理蝴蝶泉公园) สวนสาธารณะที่มีน้ำพุจากใต้ดินอยู่ภายใน ซึ่งในสวนจะมีต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ที่มีกลิ่นหอม ซึ่งจะดึงดูดผีเสื้อจำนวนมากในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีครับ ชาวไป๋ที่เป็นชาวพื้นเมืองเองก็นิยมมาชมผีเสื้อกันที่นี่ตั้งแต่ในอดีตกาลครับ