ฟุคุยามะ (Fukuyama) เป็นเมืองใหญ่ลำดับที่สองของจังหวัดฮิโรชิม่า โดยอยู่ค่อนไปทางทิศตะวันออกของจังหวัดห่างจากเมืองโอโนมิจิไปไม่ไกลนัก ตัวเมืองตั้งอยู่ริมทะเลเซโตะ หรือทะเลภายในของญี่ปุ่น และยังมีแม่น้ำอาชิดะไหลผ่านกลางเมืองอีกด้วยครับ
ในบทความนี้จะแนะนำเมืองฟุคุยามะให้คุณรู้จักคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่เที่ยวน่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเมืองฟุคุยามะ (Fukuyama)
เมืองฟุคุยามะ (Fukuyama) นั้นมีความเป็นมาต่างจากเมืองอื่นๆ ของญี่ปุ่นอย่างสิ้นเชิง เพราะพื้นที่เกือบทั้งหมดของเมืองเกิดขึ้นจากการถมทะเลตามคำสั่งของรัฐบาลโชกุนโตกุกาวะในสมัยเอโดะ โดยได้ถมทะเลใกล้กับเมืองที่พักนักเดินทางตามทางหลวงซันโย (Sanyodo) ที่เชื่อมจังหวัดทางภาคตะวันตกกับเกียวโตครับ
หลังจากที่ถมทะเลเสร็จสิ้นแล้ว ได้มีการสร้างเมืองปราสาทขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของไดเมียวตระกูลมิซุโนะ (Mizuno Clan) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ตามด้วยตระกูลอาเบะในเวลาต่อมาครับ
ในสมัยเมจิ เมืองฟุคุยามะได้ถูกจัดสรรให้เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดฮิโรชิม่า และได้กลายสภาพเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กกล้า ซึ่งโรงงานของเหล็กกล้าที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้นั้นใหญ่เป็นลำดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ครับ
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฟุคุยามะจึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการทิ้งระเบิด ทำให้ตัวเมืองได้รับความเสียหายถึง 80% และทำให้ชาวเมืองเสียขวีญอย่างหนัก หลังจากสงครามสงบ ชาวเมืองจึงช่วยกันปลูกดอกกุหลาบที่สวนมินามิ (ปัจจุบันคือสวนกุหลาบ) ซึ่งการปลูกก็ได้ดำเนินไปตามลำดับเพื่อปลุกขวัญกำลังใจ และเพิ่มพูนการช่วยเหลือกัน ทำให้ดอกกุหลาบที่ถูกปลูกลงและเจริญงอกงามนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ เมืองฟุคุยามะจึงมีนามว่าเมืองแห่งกุหลาบนับตั้งแต่บัดนั้นครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองฟุคุยามะ (Fukuyama) ทำอย่างไร?
วิธีการที่ง่ายที่สุดในการเดินทางเมืองฟุคุยามะคือการใช้บริการ Sanyo Shinkansen จากเมืองใหญ่ต่างๆ ที่รถไฟสายนี้ผ่านไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า (Shin Osaka Station), โกเบ (Shin-Kobe Station), ฮิโรชิม่า หรือแม้กระทั่งฟุกุโอกะ (Hakata Station) ครับ
ทว่าถ้าคุณอยู่เมืองใกล้ๆ อย่างคุราชิกิหรือว่าโอโนมิจิ แน่นอนว่าคุณสามารถใช้บริการ local train ของ JR ได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของ JR West ครับ
อีกตัวเลือกที่น่าสนใจคือเช่ารถแล้วขับไปเองจากฮิโรชิม่า ซึ่งไม่ได้ยากลำบากอะไรนัก และช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยครับ
ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจาก Fukuyama Kanko หรือเว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวฟุคุยามะ โปรดตรวจสอบที่ต้นทางก่อนออกเดินทางครับ
1. ปราสาทฟุคุยามะ
ปราสาทฟุคุยามะ (Fukuyama Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นช่วงสมัยเอโดะหลังจากที่การถมทะเลเสร็จสิ้น และเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของเมือง เพราะเป็นสถานที่พำนักของไดเมียวตระกูลมิซุโนะ ผู้ติดตามที่โชกุนโตกุกาวะไว้ใจ และมีชื่อเสียงในการศึก เจตนาที่ให้ไดเมียวตระกูลนี้มาอยู่ที่นี่ก็เพื่อขวางศัตรูเก่าอย่างไดเมียวทิศตะวันตก เช่นตระกูลโมริครับ
ในช่วงปฏิวัติเมจิ อาคารส่วนใหญ่ของปราสาทถูกรื้อถอนตามคำสั่งของรัฐบาลใหม่ ยกเว้นตัวปราสาทหลักหรือเทนชู (Tenshu) เท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับเป็นโบราณสถาน ทว่าด้วยความที่ฟุคุยามะถูกทิ้งระเบิดอย่างรุนแรงช่วงสงคราม ทำให้ตัวปราสาทนั้นถูกไฟไหม้ลงมาทั้งหลัง และไม่เหลือรอดมาถึงปัจจุบันครับ
สิ่งที่คุณเห็นในปัจจุบันจึงเป็นการสร้างใหม่ในช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 และได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าถึงเรื่องราวของตัวเมืองฟุคุยามะและปราสาทหลังเดิม เช่นเดียวกับจุดชมวิวที่คุณให้ขึ้นไปชมมุมสูงของเมืองได้ ส่วนสวนของปราสาทก็ได้กลายเป็นสวนสาธารณะครับ
ค่าเข้าชม: 500 เยน
2. สวนกุหลาบ
ฟุคุยามะเป็นเมืองแห่งดอกกุหลาบ บริเวณใจกลางเมืองจึงมีสวนกุหลาบ (Rose Park) ตั้งอยู่ ซึ่งด้านในมีต้นกุหลาบหลายพันต้นจาก 280 สปีชีส์ ซึ่งจะดอกให้ชมบานสะพรั่งช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิอย่างสวยงามยิ่งครับ
สวนนี้เป็นสวนที่เกิดจากการบริจาคของชาวเมือง ดังนั้นจึงเข้าชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดครับ
3. วัดเมียวโออิน
วัดเมียวโออิน (Myooin Temple) เป็นวัดโบราณที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นโดยพระคุไคในช่วงศตวรรษที่ 9 โดยการสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมจีน-ญี่ปุ่น และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนี้ก็ได้ครับ
ด้านในมีไฮไลท์อยู่ที่เจดีย์ 5 ชั้นสีแดงสด ซึ่งวัดจากอายุแล้วน่าจะเก่าเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยครับ
4. วัดชินโชจิ
วัดชินโชจิ (Shinshoji Temple) เป็นวัดเซนที่อยู่ห่างจากตัวเมืองฟุคุยามะไปประมาณ 15 กิโลเมตร ตัววัดไม่ได้เก่าแก่เท่าไรนัก เพราะสร้างขึ้นโดยนักธุรกิจเมื่อปี ค.ศ.1965 นี้เองครับ
ด้านในวัดมีลักษณะเป็นสวนแบบญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ตรงกลางวัดมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Kotei) ที่จัดแสดงภาพวาดและพู่กันแบบเซนกว่า 1,500 ชิ้น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ ซึ่งมีเมนูที่น่าลิ้มลองอย่างชินโชจิอุด้ง (Shinshoji Udon) อุด้งเส้นใหญ่กว่าปกติที่มีชื่อเสียงระบือไกลครับ เช่นเดียวกับชาอุ่นๆ และขนมหวานครับ
สถานที่เที่ยวในโทโมโนะอุระ (Tomonoura)
โทโมโนะอุระ (Tomonoura) เป็นเขตท่าเรือของเมืองฟุคุยามะที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปประมาณ 30 นาที ซึ่งคุณเดินทางไปได้ด้วยการนั่งรถบัสของ Tomotetsu Bus ไปจาก Fukuyama Station ครับ
ในอดีตที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านชาวทะเลที่เรือต่างๆ มักมาหยุดพักรอคลื่นลมก่อนที่จะเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลต่อไปครับ
5. โจยาโตะ
โจยาโตะ (Joyato) เป็นประภาคารสูง 11 เมตรที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะเพื่อให้สัญลักษณ์กับเรือต่างๆ ที่เดินทางเข้าออก ถ้าว่ากันตามความสูงแล้วถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของยุคนั้น ปัจจุบันโจยาโตะเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของโทโมโนะอุระครับ
6. วัดฟุคุเซนจิ
วัดฟุคุเซนจิ (Fukuzenji Temple) เป็นวัดในศาสนาพุทธอันเป็นที่ตั้งของไทโชโระ (Taichoro) จุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลภายในเซโตะ จากจุดชมวิวนี้คุณจะเห็นเกาะต่างๆ อย่างเช่นเบนเทนจิมะ และเซนซุยจิมะอย่างสวยงามยิ่ง
ในทางด้านวัฒนธรรมนั้น ที่นี่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะเคยใช้ต้อนรับทูตจากเกาหลีในสมัยโบราณ และในวัดยังประดิษฐานพระแม่มารีที่ชาวคิริชิตัน (Kirishitan หรือ ชาวคริสต์ญี่ปุ่นที่หลบซ่อนความเชื่อศาสนาของตนเพื่อหลบหนีการปราบปรามจากรัฐบาลโชกุน) สร้างขึ้นให้ดูเหมือนกับพระโพธิสัตว์กวนอิมเพื่ออำพรางความเชื่อแท้จริงของตนด้วยครับ
References
- Fukuyama Kanko