หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น6 ที่เที่ยวกินซ่า (Ginza) และกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด

6 ที่เที่ยวกินซ่า (Ginza) และกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

กินซ่า (Ginza) เป็นย่านในกรุงโตเกียวที่น่าจะมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ในกินซ่านั้นมีถนนคนเดินขนาดใหญ่ซึ่งมีห้างสรรพสินค้า ตลอดจนร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารจำนวนมาก ทำให้เป็นสถานที่ซึ่งคุณต้องเดินทางมาเยี่ยมเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยากได้สินค้าระดับ high-end จากญี่ปุ่นครับ

ในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับย่านกินซ่าโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำจุดที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองบริการต่างๆ ผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

รู้จักย่านกินซ่า (Ginza)

ในอดีตนั้นพื้นที่บริเวณย่านกินซ่าเป็นหนองขนาดใหญ่ แต่ได้รับการกลบอย่างสมบูรณ์ในช่วงศตวรรษที่ 16 หลังจากนั้นพื้นที่บริเวณนี้ได้กลายเป็นโรงกษาปณ์ที่ใช้ผลิตเหรียญเงินในช่วงยุคเอโดะครับ

ชะตาของย่านกินซ่านั้นเปลี่ยนไปอย่างถาวรเมื่อเกิดไฟไหม้ใหญ่ในปี ค.ศ.1872 ทำให้สิ่งก่อสร้างเดิมสมัยเอโดะถูกทำลายสิ้น และมีที่ว่างใหม่เพิ่มขึ้นมากมาย

รัฐบาลเมจิที่เพิ่งเข้ามาปกครองประเทศจึงตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นพื้นที่ตัวอย่างสำหรับการปรับปรุงตัวเมืองของญี่ปุ่นให้ทันสมัย อาคารใหม่จึงถูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุทนไฟ เช่นเดียวกับถนนคนเดินขนาดใหญ่แบบเดียวกับชาติตะวันตก

ย่านกินซ่า (Ginza) ในปัจจุบัน
by KPG-Payless/ShutterStock

อย่างไรก็ดีหลังจากที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ปรากฏว่าย่านกินซ่ากลับไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนัก ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่างชื่นชอบบ้านเรือนแบบญี่ปุ่นมากกว่า ทำให้บริษัทห้างร้านไม่ค่อยย้ายเข้ามาที่นี่เท่าไร มีเพียงแค่บริษัทสิ่งพิมพ์และสื่อเท่านั้นที่เข้ามา

แต่ด้วยอิทธิพลของสื่อที่โหมประโคมสร้างกระแส ทำให้ย่านกินซ่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของความศิวิไลซ์ตามแบบตะวันตก และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นลำดับ

ย่านกินซ่าในปัจจุบัน
by yy_Apartment/ShutterStock

สงครามโลกครั้งที่สองได้ทำให้อาคารแบบตะวันตกที่สร้างขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่สองพังพินาศไปเกือบหมด แต่อาคารต่างๆ ก็ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ และกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในช่วงนี้ที่ดินในย่านกินซ่านั้นมีมูลค่าสูงเสียดฟ้าในระดับที่ว่าสูงกว่ามูลค่าของรัฐแคลิฟอร์เนียทั้งรัฐด้วยซ้ำไป

หลังจากที่ญี่ปุ่นเผชิญกับเหตุการณ์ฟองสบู๋แตกในช่วงปี ค.ศ.1986-1991 ราคาที่ดินย่านกินซ่าก็ได้ตกฮวบลงมาและยังไม่ฟื้นคืนขึ้นไปสู่จุดเดิมมาจนถึงปัจจุบัน แต่กินซ่าก็ยังเป็นย่านที่มีที่ดินแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว และเป็นถนนคนเดินที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นเองหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปย่านกินซ่าทำอย่างไร?

กินซ่านั้นเป็นศูนย์กลางของกรุงโตเกียว ดังนั้นวิธีการเดินทางไปง่ายที่สุดคือรถไฟใต้ดิน (Tokyo Metro) โดยสายที่ผ่านกินซ่าได้แก่ Ginza Line, Hibiya Line และ Marunouchi Line ครับ

Tip

สำหรับใครที่อยากพักที่ย่านกินซ่าเพื่อความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งและหาอะไรกิน ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักดีๆ ย่านกินซ่าของผมเพิ่มเติมครับ

1. ถนนชูโอโดริ

ถนนชูโอโดริ (Chuo-Dori) เป็นถนนที่เป็นศูนย์กลางของย่านกินซ่า และเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ แลนด์มาร์กของย่านนี้ก็คือหอนาฬิกาของอาคาร Seiko House Ginza ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของย่าน และเป็นอาคารเก่าไม่กี่แห่งที่รอดพ้นการทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาได้ครับ

ปัจจุบันด้านในอาคาร Seiko House Ginza นั้นเป็นห้างสรรพสินค้าในเครือ Wako และมีจุดชมวิวบนดาดฟ้าให้คุณขึ้นไปชมตัวนาฬิกาอย่างใกล้ชิดได้ครับ

ย่านกินซ่า (Ginza) ในปัจจุบัน
by Shawn.ccf/ShutterStock

นอกเหนือจาก Seiko House Ginza แล้วนั้น ถนนแห่งนี้ยังมีห้างขนาดใหญ่อีกหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • Ginza Six – ห้างที่เพิ่งเปิดในปี ค.ศ.2017 และครองตำแหน่งศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในย่านกินซ่า นอกจากร้านค้าต่างๆ แล้ว ด้านในยังมีโรงละครที่แสดงละคร Noh ซึ่งเป็นศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นด้วยครับ
  • Mitsukochi – ห้างเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 ปัจจุบันมีถึง 12 ชั้นและมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
  • Itoya – หนึ่งในร้านเครื่องเขียนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ใครที่อยากได้เครื่องเขียนน่ารักๆ สามารถไปซื้อที่นี่ได้ครับ
  • Tokyo Plaza Ginza – อีกหนึ่งห้างขนาดใหญ่ที่มีถึง 14 ชั้นที่มีสินค้าแทบทุกอย่างที่คุณจะคำนึงถึง ในห้างมีจุดชมวิวซึ่งคุณสามารถชมวิวของย่านกินซ่าได้ด้วยครับ

ในช่วงบ่ายวันหยุด (ตั้งแต่เที่ยงถึงหกโมงเย็น) ตรงกลางของถนนชูโอโดริจะปิดไม่ให้รถเข้า ทำให้กลายเป็นถนนคนเดินไปโดยสมบูรณ์ครับ

2. โรงละครคาบุกิซะ

โรงละครคาบุกิซะ (Kabukiza Theater) เป็นสถานที่จัดแสดงคาบุกิ (Kabuki) ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดในช่วงสมัยเอโดะครับ

โรงละครคาบุกิซะ
by LO Kin-hei/ShutterStock

ปัจจุบันการแสดงนั้นมีแทบทุกวัน โดยเรทเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ 4,000 เยน (อ้างอิงจากเว็บทางการ) แต่ระหว่างการแสดงนั้นจะไม่มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษครับ แต่จะมีแผ่นพับที่เล่าเรื่องย่อให้พอเข้าใจได้เฉยๆ ดังนั้นถ้าจะอยากจะเข้าชมแล้วเข้าถึงตัวการแสดงจริงๆ คุณจำเป็นต้องมีทักษะภาษาญี่ปุ่นอย่างยอดเยี่ยมครับ

3. สวนฮามะริคิว

สวนฮามะริคิว (Hamarikyu Gardens) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากย่านกินซ่าเท่าไรนัก และตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำสุมิดะครับ ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่พำนักของตระกูลโตกุกาวะ ซึ่งเป็นโชกุนแห่งญี่ปุ่นในสมัยเอโดะครับ

ด้านในสวนฮามะริคิวนั้นมีสระน้ำอยู่ด้วย แต่น้ำในสระจะเป็นน้ำทะเลครับ เพราะฉะนั้นระดับน้ำจะเปลี่ยนตามกระแสน้ำทะเล ถ้าวันไหนน้ำหนุนขึ้นมาสูง น้ำในสระก็จะมากนั่นเอง

สวนฮามะริคิว
by leiko_araki/ShutterStock

ในสระนั้นจะมีเกาะขนาดเล็ก ซึ่งมีโรงน้ำชาแบบญี่ปุ่นตั้งอยู่ ทั้งนี้คุณสามารถเข้าไปจิบชา และชมวิวสวยๆ ของสวนได้ ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ส่วนช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นก็มีซากุระให้ชมอยู่บ้าง แต่เรื่องความสวยงามและจำนวนไม่อาจเทียบได้กับที่อุเอโนะได้ครับ

4. ยุระคุโจ

ยุระคุโจ (Yurakucho) เป็นย่านที่อยู่ใกล้กับกินซ่า ที่นี่มีความโดดเด่นตรงที่มีย่านร้านอาหารเรียงรายใต้ทางรถไฟยาวไปกว่า 700 เมตร

ร้านอาหารที่นี่มีหลายแบบตั้งแต่ร้านแนวอิซากายะแบบญี่ปุ่นไปจนถึงร้านอาหารอิตาเลียนไปจนถึงโรงเบียร์สไตล์เยอรมัน ราคาโดยรวมน่าจะน่าคบหากว่าร้านอาหารสุดหรูในย่านกินซ่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวถ้าคุณรู้สึกหิวตอนที่อยู่ที่ย่านกินซ่าครับ

5. Art Aquarium Ginza

Art Aquarium Ginza นั้นพูดง่ายๆ ก็คือคือพิพิธภัณฑ์ปลาทองครับ แต่เป็นการนำศิลปะการเลี้ยงปลาทองมาผสมผสานกับศิลปะ

คุณจะได้ชมการจัดเรียงโถเลี้ยงปลาทองในรูปทรงสวยงาม ซึ่งเมื่อผสานกับลวดลายและสีสันของปลาทองแล้ว ทำให้เป็นผลงานศิลปะที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนที่ใด และยังงดงามมากครับ

สำหรับใครที่ชอบเลี้ยงปลา และอยากได้แรงบันดาลใจ ผมแนะนำอย่างยิ่งให้ไปชมครับ ค่าเข้าเริ่มต้นที่ 2,300 เยน อ้างอิงจากเว็บของพิพิธภัณฑ์ครับ

6. รับประทานอาหารสุดหรู

กินซ่ามีร้านอาหารหลายแห่งที่น่าจะเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุดในญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากรับประทานอาหารสักมื้อที่คุณจะจดจำไปตลอดกาล ที่นี่มีหลายแห่งให้เลือกสรรเลยครับ อย่างเช่น

กินซูชิที่ย่านกินซ่า
by Picturesque Japan/ShutterStock

อย่างไรก็ดีร้านอาหารสุดหรูบางแห่งในกินซ่าอาจจะจองยาก โดยเฉพาะถ้าคุณอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ผมจึงรวมรวมร้านที่คุณสามารถจองได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Klook (กดลิงค์ด้านล่างเพื่อจองได้ทันที) นอกจากนี้ผมได้แนบคะแนน Tabelog มาด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจ (สูงกว่า 3.5 ถือว่าดีมาก)

Ginza Sushi Yuu (Tabelog Score: 3.54) – ร้านซูชิแบบโอมากาเสะได้ดาวมิชลิน 1 ดวง และมีชื่อเสียงเรื่องเมนูปูโคบาโกะ หมึก และอาหารทะเลอื่นๆ ตัวร้านตบแต่งในสไตล์ Japanese Modern อันสวยงาม ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การทานอาหารขึ้นไปอีกครับ

Sagaya Ginza (Tabelog Score: 3.5) – ร้านที่มีทีเด็ดคือเมนูต่างๆ ที่ทำมาจากเนื้อวากิวคุณภาพเยี่ยมชนิดละลายในปากจากจังหวัดซากะบนเกาะคิวชู Set Menu ของร้านจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้ลูกค้าได้ทานอาหารที่ต่างกันไปเมื่อกลับไปเยือนครับ

Sukiyakikappou Hiyama (Tabelog Score: 3.76) – ร้านนี้ไม่ได้อยู่ในกินซ่าเสียทีเดียว โดยจะอยู่ทางตอนเหนือจากกินซ่าขึ้นมาพอสมควร แต่คุณสามารถนั่งรถไฟ Asakusa Line ไปที่ Ningyocho Station ได้ภายในเวลา 2-3 สถานีครับ

ร้านนี้คือร้านสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่น ซึ่งได้ดาวมิชลิน 1 ดวง ทางร้านจะใช้เนื้อชั้นยอดอย่าง Yonezawa จากจังหวัดยามากาตะ การเสิร์ฟจะเป็นแบบดั้งเดิมทั้งหมด เช่นเดียวกับตัวร้านที่เป็นห้องแบบญี่ปุ่นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิอย่างดี เพราะฉะนั้นคุณจะเหมือนกับว่านั่งทานในเรียวกังเลยครับ

Ginza Tempura Abe (Tabelog Score: 3.66) – ร้านเทมปุระที่มีชื่อเสียงโด่งดังของย่านกินซ่า เซตเทมปุระอาหารทะเลของที่นี่มีชื่อเสียงเลื่องลือ และไม่ควรพลาดทุกประการครับ

Les Copains de Dominique Bouchet (Tabelog Score: 3.65) – ร้านอาหารฝรั่งเศสในย่านกินซ่าที่ได้รับ Bib Gourmand จากมิชลิน คุณจะได้รับประทาน Specialty Course ที่ครบเครื่องตั้งแต่ appetizer ไปจนถึงของหวานครับ

Gendai Satoyama Ryouri ZEN HOUSE (Tabelog Score: 3.46) – ร้านอาหารแนว Japanese Modern ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน โดย Set Course ทั้งหมด 9 เมนูของคุณจะมีทั้งเนื้อวากิวชั้นยอด และล็อบสเตอร์คุณภาพเยี่ยมครับ

Yakiniku Yazawa Tokyo (Tabelog Score: 3.68) ร้านยากินิคุที่อยู่ไม่ไกลจากทั้งกินซ่าและสถานีโตเกียว บรรยากาศร้านสบายๆ และมีเมนูให้เลือกจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงเมนูเนื้อดิบด้วยครับ

Orenoyakiniku (Tabelog Score: 3.48) ร้านยากินิคุที่ราคาไม่สูงนักเมื่อเทียบกับที่อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อของร้านเป็นเนื้อมัตสึซากะด้วยครับ

นอกเหนือจากนี้ร้านเหล่านี้ยังน่าสนใจเช่นกันครับ

  • Kyubey – ร้านซูชิเก่าแก่ที่เปิดทำการมาเกือบ 100 ปี คุณภาพของซูชิอยู่ในระดับสูงที่สุดไม่แพ้ร้านของคุณปู่จิโร่เลยครับ
  • Tapas Molecular Bar – ร้านอาหารสไตล์ molecular ที่ได้รับมิชลินสตาร์
  • Sukiyabashi Jiro – ร้านของเทพเจ้าแห่งซูชิอย่าง Jiro Ono ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ร้านนี้เป็นร้านแห่งแรก (ก่อนที่บุตรชายของเขาจะเปิดอีกร้านหนึ่งที่รปปงหงิครับ)
  • Tempura Kondo – ร้านเทมปุระระดับ 2 ดาวมิชลินที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว

References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!