หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น4 กิจกรรมน่าสนใจที่กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) ที่คุณไม่ควรพลาด

4 กิจกรรมน่าสนใจที่กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) ที่คุณไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเมืองขนาดเล็กอย่างโอบานาซาวะ (Obanazawa) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาสูงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดยามากาตะ

จุดเด่นของที่นี่คือตัวอาคารต่างๆ จะเป็นแบบดั้งเดิมของยุคไทโช (ค.ศ.1912-1926) ทำให้มีความสวยงามและโรแมนติกมากในช่วงฤดูหนาวครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืนที่จะมีการเปิดไฟอย่างสวยงาม ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกับย้อนยุคไปในช่วงร้อยกว่าปีก่อนเลยทีเดียว

ความเป็นมาของกินซังออนเซ็นนั้นถือว่าน่าสนใจไม่น้อย ตัวเมืองเริ่มปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 15 แต่เดิมที่นี่มีอุตสาหกรรมผลิตเงิน (Silver) ที่รุ่งโรจน์ตั้งอยู่ครับ และเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย (กินซังแปลตรงตัวว่าเหมืองแร่เงิน)

กินซันออนเซ็น
by Chen Min Chun/ShutterStock

เมื่อเวลาผ่านไปเหมืองแร่เงินต่างๆ ก็เริ่มหายไปเพราะมีการเปิดรีสอร์ทหลายแห่งบริเวณสองฟากฝั่งของแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน จากที่เป็นหมู่บ้านอุตสาหกรรมก็กลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวแทนครับ

ในช่วงปี ค.ศ.1983 กินซังออนเซ็นเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์สุดโด่งดังอย่างโอชิน (Oshin) ทำให้ตัวหมู่บ้านออนเซ็นได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวมากมายก็หลั่งไหลมาที่นี่ครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปยังกินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen)

กินซันออนเซ็นสามารถไปได้จากโตเกียวครับ โดยมีวิธีดังต่อไปนี้

  • เช่ารถแล้วขับไปเอง – วิธีนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณได้เช่ารถมาอยู่แล้ว ทั้งนี้กินซังออนเซ็นอยู่ห่างจากโตเกียว 430 กิโลเมตร แต่ตามเส้นทาง คุณสามารถแวะได้หลายที่เลยครับ และวิวยังสวยมากอีกด้วย หลังจากที่ขับมาถึงแล้ว คุณจะต้องจอดรถไว้ในที่จอดนอกหมู่บ้าน แล้วเดินเข้ามา ซึ่งจะใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาทีครับ
  • ชินคันเซ็น + Bus – นั่ง JR Yamagata Shinkansen ไปยังสถานี Oishida Station ซึ่งในขั้นนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสไปยังกินซังออนเซ็น (ใช้เวลาอีกประมาณ 30-35 นาที) แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือ รถบัสจะมีทุก 90-120 นาทีเท่านั้น (อ้างอิงจากตารางเดินรถนี้) ดังนั้นมีโอกาสสูงมากที่คุณจะต้องนั่งรอรถครับ

อ้างอิงจากเว็บทางการของ JNTO

ไปเที่ยวกินซังออนเซ็นช่วงไหนดี

จังหวัดยามากาตะเป็นจังหวัดที่หิมะตกหนักมากของญี่ปุ่น ดังนั้นแน่นอนว่าช่วงที่สวยที่สุดต้องเป็นช่วงฤดูหนาว เพราะช่วงนี้ทำให้กินซังออนเซ็นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ช่วงอื่นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และอากาศจะไม่หนาว ทำให้คุณเดินชมวิวได้ยาวนานกว่าครับ

การจองที่พักในกินซังออนเซ็น

แน่นอนว่าหลายคนอยากจะนอนพักในเรียวกังต่างๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ แต่จำนวนที่พักที่มีอยู่นั้นน้อยมาก (รองรับพร้อมกันได้แค่ 500 คน) ดังนั้นไม่มีทางเพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวครับ

ด้วยเหตุนี้เวลาจองจะต้องจองล่วงหน้านานมาก (บางครั้งอาจจะต้องจองล่วงหน้าถึง 1 ปี) ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะที่พักส่วนใหญ่ยังไม่เปิดจองทางออนไลน์อีกด้วย ดูรายชื่อที่พักได้จากเว็บไซต์ทางการของหมู่บ้านครับ

คุณน่าจะต้องกลับไปนอนที่ยามากาตะ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่กว่า และมีที่พักให้เลือกมากกว่าครับ (และจองทางออนไลน์ได้ด้วย) ตัวเมืองยามากาตะเองก็ห่างจากกินซังออนเซ็นแค่ 57 กิโลเมตรเท่านั้นเอง

อย่างไรก็ดีถ้าคุณไม่ได้ขับรถมาเอง คุณจะไม่สามารถชมวิวในช่วงกลางคืนได้ เพราะรถบัสกลับไป Oishida Station จะหมดในตอน 18.20 น ครับ

กินซังออนเซ็น
by weniliou/ShutterStock

1. ชมย่านเรียวกังริมแม่น้ำ

กิจกรรมนี้เป็นไฮไลท์ของกินซังออนเซ็นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะที่เมืองนี้ไม่มีอาคารใหม่อยู่เลย อาคารทุกแห่งล้วนแต่เป็นอาคารเก่าแก่อายุนับร้อยปีทั้งสิ้น บรรยากาศโดยรอบจึงเป็นแบบ vintage ย้อนยุคน่าหลงใหล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะผัดเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดยูกาตะแล้วเดินชมบ้านเก่าทั้งสองฝั่งของแม่น้ำกินซังครับ

กินซังออนเซ็นในช่วงกลางวัน
by Chen Min Chun/ShutterStock

ไฮไลท์ของกินซังออนเซ็นคือการชมเมืองในช่วงกลางคืนตอนฤดูหนาว เพราะหิมะที่ตกลงมาอย่างมากมาย ทำให้เรียวกังแต่ละแห่งถูกปกคลุมด้วยหิมะอย่างมากมาย จนเกิดเป็นทัศนียภาพที่วิจิตรตระการตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เรียวกังต่างๆ เปิดไฟ (ใช้ตะเกียงแบบโบราณ) โดยรวมแล้วเหมาะกับคู่รักที่มาฮันนีมูนอย่างที่สุดเลยครับ

กินซังออนเซ็นในช่วงกลางคืน
by Weniliou/ShutterStock

2. แช่ออนเซ็น

น้ำพุร้อนที่กินซังออนเซ็นนั้นมีต้นน้ำมาจากภูเขาที่อยู่โดยรอบ ดังนั้นจึงใสสะอาดบริสุทธิ์ และมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ดังนั้นถ้าคุณมาถึงที่นี่แล้ว คุณไม่ควรที่จะพลาดแช่ออนเซ็นทั้งแบบในร่มและกลางแจ้งครับ

สำหรับใครที่โชคดีจองห้องพักได้ คุณสามารถแช่ในเรียวกังได้เลย เพราะทุกแห่งมีให้บริการอยู่แล้ว ส่วนใครที่จองไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะที่กินซังออนเซ็นมีโรงอาบน้ำที่ให้นักท่องเที่ยวมาแช่ได้หลายแห่ง บางเรียวกังก็เปิดให้ walk-in เข้ามาแช่ได้ด้วย แม้ว่าจะไม่ได้พักก็ตาม

การแช่ออนเซ็น
by hayakato/ShutterStock

ค่าใช้จ่ายจะอยู่ตั้งแต่ 500-2000 เยน ซึ่ง 2000 เยนนี่จะเป็นราคาแบบส่วนตัวครับ ดังนั้นคุณจะไม่ต้องเขินอายเวลาแช่รวมกับคนอื่นนั่นเองครับ

แต่สำหรับใครที่ไม่อยากจ่ายเงินจริงๆ คุณสามารถใช้บริการบ่อแช่เท้าได้ฟรีนะครับ แต่ตัวบ่อนี้จะมีหลายแห่งและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนั่งแช่แต่อย่างใด

กินซังออนเซ็นในช่วงกลางวัน
by weniliou/ShutterStock

3. ชมธรรมชาติที่สวนชิโรกาเนะ

ใกล้กับกินซังออนเซ็นมีสวนชื่อว่าสวนชิโรกาเนะ (Shirogane Park) ตั้งอยู่ ในสวนแห่งนี้มีน้ำตกสูง 22 เมตรตั้งอยู่ และมีถ้ำอันสวยงามอยู่ด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกสถานที่ที่น่าไปเยือนสำหรับการปลีกวิเวก และผ่อนคลายความเหนื่อยล้าครับ

สวนชิโรกาเนะใกล้กับกินซังออนเซ็น
by lydiarei/ShutterStock

สวนแห่งนี้จะสวยที่สุดในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงครับ ช่วงฤดูหนาวน่าจะไม่สามารถเข้าถึงได้ในปัจจุบัน

by Tim Townley/ShutterStock

4. ชิมอาหารแสนอร่อย

ในตัวหมู่บ้านนั้นจะมีร้านอาหารและคาเฟ่อยู่หลายแห่ง ซึ่งร้านเหล่านี้จะเสิร์ฟอาหารรสเลิศของเมืองโอบานาซาวะและจังหวัดยามากาตะ เมนูที่คุณไม่ควรพลาดได้แก่

  • เนื้อวากิวโอบานาซาวะ – เนื้อวากิวชั้นดีที่เลี้ยงที่เมืองแห่งนี้ครับ
  • โซบะแสนอร่อย

แพลนทริปกินซังออนเซ็น

ด้านล่างจะเป็นแพลนทริปจังหวัดยามากาตะที่มีกินซังออนเซ็น ซึ่งผมได้ทำขึ้นมาครับ คุณสามารถนำไปใช้สร้างทริปของคุณได้ฟรี รวมไปถึงปรับแก้ให้ตรงกับความต้องการของคุณได้อย่างอิสระ ตัวทริปนั้นจะเน้นความสบาย ไม่สมบุกสมบันมากนักครับ

เมืองออนเซ็นอื่นๆ ในญี่ปุ่น

  • เกโระออนเซน – เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามสุดยอดเมืองออนเซ็นของญี่ปุ่น
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!