กรินเดลวัลด์ (Grindelwald) เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสวิสเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ และเป็นตัวอย่างที่ perfect ที่สุดของหมู่บ้านแบบ alpine ที่สวยงามตระการตาไปทั่วแผ่นดิน จากที่ได้เคยเดินทางไปแล้ว ผมมองว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ครับ
ในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเมืองกรินเดลวัลด์คร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักกรินเดลวัลด์ (Grindelwald)
กรินเดลวัลด์เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขต Bernese Oberland โดยหันหน้าให้กับยอดเขา Eiger ฝั่งเหนือ บริเวณตัวหมู่บ้านนั้นมีแนวภูเขาหิมะสูงชันที่เรียงรายต่อเนื่องกันไป บรรยากาศโดยรอบจึงสุดจะโรแมนติกเลยครับ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลมาหลายศตวรรษแล้วครับ
ในหน้าประวัติศาสตร์นั้นกรินเดลวัลด์เริ่มปรากฏในหลักฐานต่างๆ เป็นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 12 โดยเล่ากันว่าหมู่บ้านได้ชื่อนี้มาจากบาทหลวงสองรูปจากวิหารของเมืองอินเตอร์ลาเก้นที่มาสำรวจพื้นที่แถบนี้ ชื่อของเมืองนั้นแปลว่าหินและผืนป่าซึ่งตรงกับสภาพภูมิประเทศบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี
นับตั้งแต่บัดนั้นสิทธิ์การปกครองดินแดนแถบนี้อยู่ในการปกครองของคริสตจักรที่เมืองอินเตอร์ลาเก้นจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 14 ที่ชาวเมืองลุกฮือขึ้นต่อต้านและได้อิสรภาพในการปกครองตนเองจากศาสนจักรครับ
ช่วงศตวรรษที่ 18 กรินเดลวัลด์เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะในหมู่นักปีนเขาชาวอังกฤษที่ทนเห็นความสวยงามของภูเขาหิมะอันเย้ายวนใจไม่ไหว และจุดประกายความนิยมในกีฬาปีนเขา (Alpinism) ไปทั่วยุโรปครับ
ด้วยความนิยมที่สูงขึ้นตามลำดับ รัฐบาลสวิสจึงได้สร้างถนนและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่นเคเบิลคาร์ในช่วงศตวรรษที่ 19-20 (อันที่จริงเคเบิลคาร์แห่งแรกของเทือกเขาแอลป์ก็สร้างขึ้นแถวนี้) นับตั้งแต่บัดนั้นกรินเดลวัลด์ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของสวิสเซอร์แลนด์ ในเมืองมีกิจกรรมให้ทำมากมายตั้งแต่ชมวิวไปจนถึงสกีรีสอร์ทครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปกรินเดลวัลด์ทำอย่างไร?
การเดินทางไปกรินเดลวัลด์นั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งมวลชนของสวิสเซอร์แลนด์ โดยคุณสามารถนั่งรถไฟจากกรุงเบิร์นหรือลูเซิร์นไปยังสถานีอินเตอร์ลาเก้น (Interlaken Ost) หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถไฟ Bernese Oberland ไปยังหมู่บ้านกรินเดลวัลด์ครับ การจองทั้งหมดทำได้อย่างสะดวกสบายผ่านเว็บ Omio ครับ
อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ การเช่ารถแล้วขับไปยังกรินเดลวัลด์โดยตรง ซึ่งจะให้ความสะดวกสบายในการสำรวจหมู่บ้านอื่นๆ ในบริเวณดังกล่าวด้วยครับ
สำหรับใครที่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าคุณสามารถซื้อ Swiss Travel Pass หรือ Berner Oberland Pass และ Jungfrau Travel Pass ได้ ทั้งสามพาสจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โปรดตรวจสอบให้ดีๆ เพื่อที่จะได้ซื้อพาสที่คุ้มค่าและตรงกับการเดินทางของคุณมากที่สุดครับ
ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจาก Jungfrau Top of Europe เว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวเขต Jungfrau ครับ
ไปเที่ยวกรินเดลวัลด์ช่วงไหนดี?
กรินเดลวัลด์นั้นเที่ยวได้ทุกฤดูเลยครับ อย่างช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะเดินทางมาเล่นสกีกันที่นี่ ส่วนในช่วงอื่นนั้น คุณสามารถเดินเทรคตามเส้นทางต่างๆ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ได้ เช่นเดียวกับไปที่จุดชมวิวต่างๆ เพื่อสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกครับ
อย่างไรก็ดีในแต่ละปีนั้นจะมีบางช่วง (มักจะเป็นในช่วงเดือนพฤศจิกายนทั้งเดือนและต้นเดือนธันวาคม) ที่กระเช้าและกิจกรรมผาดโผนต่างๆ ปิดทำการครับ
สำหรับใครที่อยากพักในหมู่บ้านที่สวยตระการตาแห่งนี้ โปรดอ่านบทความนี้เพื่อจะได้เลือกที่พักที่น่าสนใจในกรินเดลวัลด์ครับ
1. Grindelwald First
Grindelwald First หรือ “The First” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,168 เมตร และเป็นจุดชมวิวบริเวณโดยรอบที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งนี้การขึ้นไปยัง Grindelwald First นั้นจะต้องนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปครับ โดยค่าบริการจะอยู่ที่ 68 CHF ครับ
เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว คุณจะเห็นวิวภูเขาหิมะโดยรอบได้แบบพาโนรามาซึ่งสวยงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ “First View” Vantage Platform ที่ตั้งอยู่บนสุดของจุดชมวิวแห่งนี้ หรหลังจากชมวิวที่นี่แล้ว การไปรับประทานอาหารพร้อมชมวิวสวยๆ ก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกันครับ บริเวณ Grindelwald First นั้นมีร้านอาหารและคาเฟ่ให้เลือกอยู่พอสมควรครับ
อีกหนึ่งจุดชมวิวที่นิยมกันมากคือ First Cliff Walk Presented by Tissot โดยจะเป็นเส้นทางลัดเลาะไปตามภูเขาสูงชันเพื่อไปยังจุดชมวิวใกล้กับ Bergrestaurant ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางพื้นที่หุบเขา วิวตามเส้นทางนั้นสวยระดับเทพ เพราะมียอดเขาสูงเกือบ 4,000 เมตรเป็น background และยังให้ความรู้สึกน่าหวาดเสียวอีกด้วย เพราะบางส่วนของตัวทางเดินนั้นล่องลอยอยู่บนอากาศเลยครับ
2. Bachalpsee
Bachalpsee เป็นทะเลสาบแบบ alpine ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Grindelwald First มากนัก ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินไปกันหลังจากชมวิวบริเวณนั้นเสร็จสิ้นแล้ว การเดินเท้าไปนั้นไม่ยากนัก และใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวครับ ถ้าไปในช่วงฤดูร้อน คุณจะได้เดินดอกไม้ป่าอันสวยงามขึ้นให้ชมตามทางด้วยครับ
ตัวทะเลสาบนั้นใสราวกับกระจก และความพิเศษก็คือมียอดเขาอย่าง Schreckhorn, Wetterhorn และ Finsteraarhorn เป็นฉากหลัง เพราะฉะนั้นในวันที่ธรรมชาติเป็นใจ คุณจะได้เห็นภาพของภูเขาทั้งสามสะท้อนลงไปบนผิวน้ำ แถมถ้าคุณไปในช่วงตะวันตกดินนั้นวิวจะสวยสุดยอดครับ
3. Grindelwald Glacier Canyon
Grindelwald Glacier Canyon หรือ Gletscherschlucht เป็นโตรกผาที่เคยถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งตั้งแต่ช่วงยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย แต่ในปัจจุบันธารน้ำแข็งที่ว่านั้นได้ละลายหายไปแทบจะหมดแล้ว เหลือไว้แต่โตรกหินขนาดใหญ่ที่ถูกลำธารที่เกิดจากหิมะละลายลงมาไหลผ่านครับ
ปัจจุบันตัวโตรกหินนั้นยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งคุณสามารถเดินตามเส้นทางที่สร้างขึ้นเป็นอย่างดีเพื่อชมความตระการตาและทัศนียภาพของธรรมชาติได้ครับ
4. เล่นกิจกรรมผาดโผนต่างๆ
กรินเดลวัลด์นั้นมีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะกีฬาปีนเขา แต่ในปัจจุบันนั้นในเมืองมีกิจกรรมผาดโผนที่หลากหลายแต่อันตรายกว่านั้นให้นักท่องเที่ยวได้ลองเล่น โดยเฉพาะที่ Grindelwald First ครับ
กิจกรรมที่น่าสนใจอันดับต้นๆ นั้นก็มีอย่างเช่น First Flyer หรือ First Glider หรือการที่คุณจะได้ถลาไปตามสายลมด้วยความเร็ว 84 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามสายเคเบิลความยาว 800 เมตรที่ผาดผ่านแนวภูเขา ซึ่งคุณจะได้ความรู้สึกราวกับว่าบินได้ก็ไม่ปาน กิจกรรมนี้มีให้เล่นได้ในทุกฤดูเลยครับ ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 31 CHF ต่อคน
ในช่วงฤดูร้อน (พฤษภาคมถึงตุลาคม) คุณอาจจะไปเล่น First Mountain Cart (รถสามล้อ) หรือ First Trottibike Scooter (สกูตเตอร์) พูดง่ายๆ ก็คือขับรถลงจากทางลงภูเขาเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร กิจกรรมนี้นอกจากจะให้ความมันส์แล้ว วิวสองข้างทางยังสวยเทพด้วยครับ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 21 CHF ต่อคนครับ นอกจากนี้ถ้าคุณชอบปั่นจักรยานภูเขา คุณสามารถปั่นจาก Grindelwald First กลับไปตัวหมู่บ้านได้เช่นกันครับ (ถ้าจะปั่นก็ซื้อตั๋วกระเช้าแค่ขาเดียวครับ)
ส่วนที่ Grindelwald Glacier Canyon นั้นจะมีกิจกรรมมันส์ๆ อย่าง Canyon Swing ที่ให้คุณได้สวิงตัวไปตามโตรกผา โดยความเร็วสูงสุดของตัวคุณนั้นอาจจะมากถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยครับ ทว่าจะมีให้เล่นช่วงฤดูร้อนเท่านั้นครับ
5. เดินเทรค
สำหรับใครที่ไปเที่ยวกรินเดลวัลด์ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง คงไม่มีกิจกรรมใดดีไปกว่าการเดินเทรคอีกแล้ว เส้นทางเดินเทรคของกรินเดลวัลด์นั้นมีชื่อเสียงมาก อย่างเช่น Eiger Trail ที่ยาวแค่ 6 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินแค่เกือบ 3 ชั่วโมง แต่ให้คุณได้ชมยอดเขา Eiger ได้อย่างสวยงามและชัดเจนที่สุด นอกจากนี้ตลอดเส้นทางคุณจะได้เห็นทุ่งหญ้าและน้ำตกที่งดงามไม่แพ้กันครับ
อีกเส้นทางที่สวยไม่แพ้กันคือ Jungfrau Eiger Walk ที่สั้นกว่า (ยาวแค่ 2.5 กิโลเมตร) โดยจะเริ่มที่ Eiger Glacier Station ไปจนที่ Kleine Scheidegg เส้นทางนี้วิวสวยไม่แพ้กัน แต่เดินง่ายกว่ามาก เพราะกับใครที่ไม่เคยเดินมาก่อนครับ
ส่วนใครที่มีประสบการณ์แล้วอาจจะเดินเส้นทาง Schynige Platte – First เส้นทางที่ใช้เวลาเดิน 6 ชั่วโมงและทรหดพอสมควร แต่จะเห็นไฮไลท์ของกรินเดลวัลด์แทบทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึง Lake Brienz, Bachalpsee และ Jungfrau ด้วยครับ
6. เล่นกิจกรรมฤดูหนาว
ในช่วงฤดูหนาวนั้น Grindelwald First จะกลายเป็นลานสกีชั้นนำที่ให้คุณได้เล่นกิจกรรมฤดูหนาวอย่างมากมายหลากหลาย ตั้งแต่สกี สโนว์บอร์ด ลากเลื่อนและอื่นๆ อีกมากมายครับ แต่นอกจากที่นี่แล้ว กรินเดลวัลด์ยังมีสกีรีสอร์ทชั้นยอดของสองแห่งได้แก่
Männlichen สกีรีสอร์ทที่คุณจะได้เห็น The Big Three ได้แก่ยอดเขา Eiger, Jungfrau และ Monch อันยิ่งใหญ่อลังการ ที่นี่มีจุดเด่นคือเป็นลานสกีสำหรับนักเล่นสกีขั้นเทพที่มีประสบการณ์มาแล้ว โดยความยาวของพื้นที่เล่นสกีทั้งหมดนั้นมากถึง 110 กิโลเมตรครับ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเส้นทาง Royal Walk หรือเส้นทางเดินเท้าชมวิวช่วงฤดูหนาวที่สวยเทพเช่นกันครับ (ในช่วงฤดูร้อน ที่นี่ก็เป็นจุดชมวิวเช่นกัน)
ส่วนอีกแห่งหนึ่งคือ Bodmiarena ซึ่งจะตอบโจทย์มือใหม่และใครที่อยากเรียนเล่นสกี เพราะที่นี่มีโรงเรียนสอนเล่นสกี ไปจนถึงกิจกรรมฤดูหนาวที่ไม่โหดเกินไปนัก สกีรีสอร์ทแห่งนี้เข้าถึงง่ายเพราะอยู่กับใจกลางเมืองกรินเดลวัลด์ครับ
7. Grindelwald Museum
Grindelwald Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของหมู่บ้านกรินเดลวัลด์ ตัวพิพิธภัณฑ์นั้นอยู่ในบริเวณตัวหมู่บ้านที่ยังคงอยู่ในอาคารสไตล์ alpine ที่งดงาม เป็นเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์ครับ
ด้านในจัดแสดงโบราณวัตถุตลอดจนร้องเรียงเรื่องราวของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างละเอียด โดยเฉพาะการพัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำ ไปจนถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ที่แทบทำลายที่นี่อย่างสิ้นเชิงในช่วงศตวรรษที่ 19 ไปจนถึงศาสตร์ในการสร้างเคเบิลคาร์ครับ
References
- Jungfrau Top of Europe
- Grindelwald.Swiss
- Mannlichen Official Travel Site
- My Switzerland