เมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะ (Hida-Furukawa) หรือเมืองฮิดะ (Hida City, ชื่อทางการในปัจจุบัน) หรือเมืองฟุรุคาวะ (ชื่อเก่าในอดีต) เป็นเมืองขนาดเล็กในจังหวัดกิฟุทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องเมืองเก่าที่สวยงาม ไม่แพ้เมืองที่อยู่ใกล้กันอย่างทาคายาม่าครับ
ตัวเมืองเป็นหนึ่งใน setting ของภาพยนตร์เรื่องแอนิเมชันเรื่อง Your Name (君の名は, Kimi no Nawa) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ดังนั้นใครที่หลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้มักจะเดินทางมาตามรอยกันครับ
ความเป็นมาของเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะ (Hida-Furukawa)
ในอดีตเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะเคยชื่อว่าเมืองฟุรุคาวะ (古川) โดยมีสถานะเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่มีความสำคัญใดๆ มาตลอดหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ช่วงยุคเอโดะนั้น รัฐบาลโชกุนโตกุกาวะได้ปกครองเมืองแห่งนี้โดยตรง (เช่นเดียวกับทาคายาม่า) สาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะที่นี่เป็นเมืองช่างฝีมือและมีไม้คุณภาพเยี่ยมจำนวนมากครับ
ด้วยความที่มีเมืองชื่อเหมือนกันในประเทศญี่ปุ่น (อีกแห่งอยู่ที่จังหวัดมิยางิ) ตัวเมืองจึงถูกมักเรียกขานว่าฮิดะ-ฟุรุคาวะ โดยคำว่าฮิดะมาจากแนวภูเขาที่พาดผ่านใกล้กับตัวเมืองครับ
อย่างไรก็ดีชื่อเป็นทางการของเมืองอย่างเมืองฮิดะ (Hida City) นั้นเกิดขึ้นมาในปี ค.ศ.2004 จากการรวมศูนย์กลางการปกครองเมืองฟุรุคาวะเข้ากับพื้นที่โดยรอบ จนเกิดเป็นเมืองฮิดะในปัจจุบันครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปยังเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะทำอย่างไร?
จากทาคายาม่า
เนื่องจากเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะอยู่ใกล้กับทาคายาม่าอย่างมาก นักท่องเที่ยวมักจะไปเที่ยวทาคายาม่าก่อนแล้วค่อยแวะมายังที่นี่ (ถ้ามีเวลา) ซึ่งจากทาคายาม่านั้น คุณสามารถนั่ง รถไฟ Takayama Main Line (高山本線, Takayama Honsen) มายังสถานี Hida-Furukawa Station ครับ
สำหรับใครที่ไม่อยากนั่งรถไฟ คุณสามารถนั่งรถบัสของ Nohi Bus แทนได้เช่นกันครับ แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่านั่งรถไฟเล็กน้อย
จากนาโกย่า
นาโกย่าเป็นอีกจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่ต้องการมายังฮิดะ-ฟุรุคาวะ และเมืองอื่นๆ ในจังหวัดกิฟุ โดยคุณสามารถใช้บริการ Hida Limited Express Train ของ JR Takayama Line จากนาโกย่าไปยังฮิดะ-ฟุรุคาวะได้โดยตรงครับ
จากโตเกียว
สำหรับใครที่เดินทางมาจากโตเกียวโดยตรงนั้น วิธีที่เร็วที่สุดคือ นั่ง Hokuriku Shinkansen ไปยังเมืองโทยามะ หลังจากนั้นก็นั่ง Hida Limited Express Train ไปยังฮิดะ-ฟุรุคาวะครับ
อีกทางเลือกหนึ่งคือนั่ง JR Tokaido Shinkansen ไปยังนาโกย่า และใช้บริการ Hida Limited Express Train ไปยังฮิดะ ฟุรุคาวะ ทั้งสองวิธีจะใช้เวลาใกล้เคียงกัน นั่นคือประมาณ 4 ชั่วโมงครับ
ทางเลือกสุดท้ายคือการนั่งรถบัส (Keio/Nohi Bus) ไปยังทาคายาม่า แล้วค่อยนั่ง Takayama Main Line เข้าฮิดะ-ฟุรุคาวะ วิธีนี้จะถูกกว่าสองวิธีแรก แต่ใช้เวลานานกว่าครับ
ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจาก Hida Travel Official Guide (เว็บไซต์ทางการของเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะ) ทั้งนี้ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ลิงค์ต้นทางอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบัสครับ
อีกทางเลือกแน่นอนว่าคือการเช่ารถขับในญี่ปุ่น โดยฮิดะ-ฟุรุคาวะห่างจากโตเกียว 302 กิโลเมตร และห่างจากทาคายาม่า 15 กิโลเมตร คุณสามารถขับไปเที่ยวทาคายาม่าก่อนแล้วมาที่นี่ได้สบายๆ ครับ แต่ถ้าขับมาที่นี่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และต้องใช้ Snow Tires ครับ
ไปเที่ยวฮิดะ-ฟุรุคาวะช่วงไหนดี?
เมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะนั้นเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ช่วงยอดนิยมคือช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีทั้งดอกซากุระ และเทศกาล Furukawa Festival ที่มีชื่อเสียงครับ
อีกช่วงหนึ่งที่น่าสนใจมากไม่แพ้กันคือช่วงฤดูหนาว เพราะตัวเมืองจะถูกปกคลุมด้วยหิมะทั้งเมือง ตัวเมืองเก่าจะสวยไม่แพ้ที่ทาคายาม่าหรือคานาซาว่าเลยครับ
การพักที่ฮิดะ-ฟุรุคาวะนั้นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้การพักที่ทาคายาม่า และอาจจะเหมาะกว่าถ้าคุณชอบบรรยากาศเมืองเก่าแบบเงียบๆ ถ้าสนใจอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ครับ
1. ชมย่านเมืองเก่าที่ถนนชิรากาเบะ โดโกไซ
เมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะมีย่านเมืองเก่าที่สวยงามไม่แพ้ที่ทาคายาม่า และมีจุดเด่นที่เงียบและสงบกว่า ซึ่งเหมาะกับการเดินเล่นชมวิวเป็นที่สุดเลยครับ
ถนนหลักของย่านเมืองเก่าคือถนนชิรากาเบะ โดโกไซ (Shirakabe Dogozai) ซึ่งจะมีอาคารเก่าสไตล์ญี่ปุ่นสีขาวเรียงรายกันไป แต่ที่โดดเด่นคือตรงกลางของถนนจะมีคลองเล็กๆ ชื่อคลองเซโตะ (Seto Canal) ที่มีน้ำใสสะอาดไหลรินไปด้วย
ในตัวคลองจะมีปลาคาร์ปจำนวนมากที่คุณสามารถซื้ออาหารปลาจากเครื่องกดอัตโนมัติเพื่อโยนให้มันได้อีกด้วย แต่ปลาจะมีในช่วง Green Season (เมษายน-พฤศจิกายน) เท่านั้น ถ้าคุณมาที่นี่ในช่วงฤดูหนาวก็จะไม่มีปลาครับ (ชาวเมืองจะย้ายปลาไปที่สวนของปราสาทมะสึชิมะแทนครับ)
คุณสามารถใส่ชุดกิโมโนเดินเล่นและถ่ายรูปได้ด้วยเช่นกัน ร้านที่ได้รับความนิยมคือ Ohbora Kimono Shop (染めと呉服大洞) ซึ่งสืบทอดการทำกิโมโนมานานหลายร้อยปีครับ ค่าเช่ากิโมโนจะอยู่ที่ 4,400 เยนครับ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือ นั่งรถสองล้อไปตามย่านเมืองเก่า ซึ่งถ้าคุณใส่กิโมโนชั้นเลิศด้วยแล้ว จะเหมือนกับว่าคุณเป็นชนชั้นสูงญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 19 เลยครับ
2. เข้าชมเทศกาลฟุรุคาวะ
เทศกาลฟุรุคาวะ (Furukawa Festival) เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมือง และมีความยิ่งใหญ่ไม่ด้อยกว่าเทศกาลทาคายาม่าเลยครับ ตัวเทศกาลได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น Intangible Cultural Heritage ขององค์การ UNESCO อีกด้วย
ตัวเทศกาลจัดขึ้นในวันที่ 19-20 เมษายนของทุกปี โดยตัวเทศกาลจะมีสองกิจกรรมหลัก กิจกรรรมแรกคือโอโกชิ-ไดโกะ (Okoshi Daiko) ซึ่งชาวเมืองชายจะเปลือยท่อนบนและแห่กลองไปตามถนนในเมือง เสียงกลองจะดังสนั่นหวั่นไหวไปจนถึงเที่ยงคืนเลยครับ
กิจกรรมที่สองคือยาไต (Yatai) ซึ่งเป็นการแห่รถแห่เก้าคันที่ชาวเมืองทำขึ้นอย่างสวยงามครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตัวเมืองครึกครื้นที่สุดและคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว ทำให้การหาที่พักยากถึงยากมากครับ
แต่ถ้าคุณมาที่นี่ในช่วงอื่น คุณสามารถไปชมรถแห่ที่ใช้ในงานหรือแม้กระทั่งเทปบันทึกการแสดงได้ที่ Hida Furukawa Festival Exhibition Hall ครับ
3. เยี่ยมชมวัดต่างๆ
ในเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะมีวัดที่เก่าแก่และสวยงามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น
- วัดเอ็นโกจิ (Enkoji Temple) – วัดเก่าแก่ที่มีรูปแกะสลักเต่าอยู่ใกล้กับยอดวิหาร ชาวเมืองเชื่อว่าเต่านี้ช่วยป้องกันวัดแห่งนี้จากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1904
- วัดฮอนโกจิ (Honkoji Temple) – ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ตัววัดสร้างจะไม้อย่างงดงามมาก และจัดว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดผลงานของช่างไม้แห่งกิฟุ
- วัดชินชูจิ (Shinshuji Temple) – วัดริมแม่น้ำอารากิที่มีสะพานอิมะมิยะตั้งอยู่ ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปสวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองครับ
ในช่วงวันที่ 15 มกราคม ชาวเมืองจะจัดเทศกาลชื่อซันเทระ มาอิริ (Santera Mairi Festival) โดยหนุ่มสาวจะเดินทางไปสักการะวัดทั้งสามเพื่อขอพรเรื่องความสัมพันธ์และคู่ครอง นอกจากนี้ในถนนต่างๆ ในเมืองยังมีการประดับประดาเทียนเป็นแนวยาวด้วย (นัยว่าให้พวกเขาได้พบปะกันในบรรยากาศที่โรแมนติก)
ดังนั้นถ้าคุณมาเที่ยวที่นี่ในช่วงนี้และยังไม่มีคู่ครอง คุณสามารถไปขอพรด้วยเช่นกัน แต่ต้องใช้เทียนสีขาวนะครับ เพราะเทียนสีแดงจะใช้โดยผู้ที่สมหวังแล้ว
สำหรับใครที่ไม่ใช่สายมู ช่วงเทศกาลนี้จะมีขายอาหารรสเลิศของเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะที่ Festival Square ซึ่งคุณจะได้ลิ้มลองเมนูเด็ดๆ อย่างเช่นเนื้อฮิดะครับ
4. ตามรอยภาพยนตร์เรื่อง Your Name
สำหรับใครที่รักภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Your Name คุณสามารถไปสถานที่ต่างๆ ในเมืองอย่างเช่น
- Hida-Furukawa Station – สถานีรถไฟหลักของเมือง
- Hida City Library – สถานที่ที่ทากิใช้สืบหาที่อยู่ของมิตสึฮะ
- Ajidokoro Furukawa – ร้านขายโมจิที่ตัวละครกินในเรื่อง
- Keta Wakamiya Shrine
- Shirakabe Dogozai Street
- Shinshuji Temple + Sakura Gift Shop
5. ขี่จักรยานตามทางรถไฟคามิโอกะ
ทางรถไฟคามิโอกะ (Kamioka Railway) เป็นทางรถไฟเก่าที่ไม่ได้ใช้บริการแล้ว ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นเส้นทางจักรยานไฟฟ้าที่คุณสามารถปั่นจักรยานบนทางรถไฟ ซึ่งมีทั้งอุโมงค์และสะพานข้ามแม่น้ำ แถมวิวโดยรอบยังสวยงามอีกด้วยครับ
ชาวเมืองจะเรียกกิจกรรมนี้ว่า Gattan-go ซึ่งค่าขี่จะเริ่มต้นที่ 2,700 เยน ซึ่งถือว่าสูงพอสมควรครับ
6. ชมทะเลหมอกที่อันโบซัง
อันโบซัง (Mt.Anbou) เป็นภูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ดังนั้นนักเดินทางจึงมักจะปีนขึ้นมาที่จุดชมวิวในช่วงเช้า เพื่อชมความสวยงามของทะเลหมอก พร้อมๆ กับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ที่อยู่รายล้อมเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะครับ
วิธีการที่ดีที่สุดในการมาที่นี่คือขับรถครับ เพราะแทบไม่มีรถบัสหรือขนส่งสาธารณะใดๆ มายังที่นี่เลย
7. ชมซากุระที่โกโช ซากุระ
โกโช ซากุระ (Gosho Sakura) เป็นจุดชมซากุระที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของตัวเมือง โดยอยู่ริมแม่น้ำมิยากาวะ ในจุดนี้จะมีต้นซากุระให้ชมประมาณ 170 ต้นที่จะผลิดอกอย่างงดงามริมแม่น้ำครับ
ช่วงกลางวันว่าสวยแล้ว แต่ช่วงกลางคืนอาจจะสวยกว่าเสียอีก เพราะว่าจะมีการเปิดไฟที่บริเวณต้นซากุระด้วยครับ
8. เล่นสกีและกิจกรรมฤดูหนาว
ใกล้กับเมืองฮิดะ-ฟุรุคาวะมีสกีรีสอร์ทที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ซึ่งคุณสามารถมาเล่นสกีและกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ ได้ อย่างเช่น
- Hida Kawai Ski Resort – สกีรีสอร์ทสำหรับผู้เล่นทุกระดับที่มีวิวสวยๆ ให้ชมอีกด้วย
- Hida Nagareha Ski Resort – สกีรีสอร์ทที่มีจุดเด่นอยู่ที่ผู้เล่นจะได้ชมวิวสวยๆ ของภูเขาโนริคุระและโฮตากะ
9. ชมพิพิธภัณฑ์ทาคุมิคัน
พิพิธภัณฑ์ทาคุมิคัน (Takumikan Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะจัดแสดงเครื่องไม้เครื่องมือของเหล่าช่างไม้แห่งฟุรุคาวะ ซึ่งมีทักษะเลื่องชื่อไปทั่วทั้งญี่ปุ่น
คุณจะได้เห็นเทคนิคการสร้างอาคารและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จากไม้ โดยที่ไม่ได้ใช้ตะปูเลยสักตัวเดียวครับ
References
- Hida Travel (Hida Kanko)