ฮิโรชิม่า (Hiroshima) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดชื่อเดียวกันที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะฮอนชู ด้วยประชากรหนึ่งล้านกว่าคน ทำให้ฮิโรชิม่าเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคชูโกคุ (Chugoku) ครับ
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักเมืองนี้เพราะสถานที่แห่งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ถูกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อย่างไรก็ดีฮิโรชิม่าเองก็เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งผมจะเกริ่นให้ได้ทราบก่อนที่จะไปว่ากันถึงสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima)
ในอดีตกาลนั้น ฮิโรชิม่าไม่ได้เป็นเมืองใหญ่โบราณมาตั้งแต่สมัยนาราและเฮอัน แต่มีสถานะเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ (คล้ายกับโยโกฮาม่า) ทว่าชาวบ้านก็อยู่อาศัยอย่างมั่งคั่งด้วยการค้าขายกับเมืองอื่นๆ ที่อยู่รายรอบครับ
อย่างไรก็ดีในช่วงศตวรรษที่ 16 ไดเมียวตระกูลโมริได้เลือกที่นี่เป็นสถานที่ตั้งเมืองใหม่และศูนย์การปกครองของตน และมีการสร้างปราสาทฮิโรชิม่าขึ้นป้องกันตัวเมือง ทำให้เมืองเจริญรุ่งเรืองขึ้นและกลายเป็นเมืองปราสาทที่แข็งแกร่งครับ
ทว่าตระกูลโมริ (และไดเมียวฝั่งตะวันตกอื่นๆ) ได้สนับสนุนมิตสึนาริในสงครามกลางเมือง และพ่ายแพ้กับโตกุกาวะ อิเอยาสึและพันธมิตรที่ยุทธการแห่งเซกิกาฮาระที่จังหวัดกิฟุ ดังนั้นรัฐบาลโชกุนจึงริบดินแดนในปกครองของตระกูลโมริเกือบทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงฮิโรชิมาด้วย ตัวเมืองได้ถูกส่งต่อให้กับมาซาโนริ ฟุกุชิมะ ก่อนที่เขาจะทำผิดกฎหมาย ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ถูกมอบให้กับตระกูลอาซาโนะ (Asano Clan) ไปปกครอง
ตระกูลอาซาโนะปกครองฮิโรชิม่าอย่างปกติสุขยาวนานกว่าสองร้อยกว่าปีจนสิ้นสุดสมัยเอโดะ ในสมัยเมจิ ฮิโรชิม่าได้ถูกสถาปนาเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮิโรชิม่า ซึ่งตัวเมืองได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาค อุตสาหกรรมได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทางทหาร เพราะใกล้กับคู๋ศึกของญี่ปุ่นอย่างจีนและรัสเซียครับ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฮิโรชิม่าเป็นเมืองที่ผลิตยุทธปัจจัยที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการของกองทัพที่สอง (Second General Army) ทว่าตลอดช่วงสงคราม ตัวเมืองแทบไม่โดนทิ้งระเบิดเลย ซึ่งน่าจะเป็นเจตจำนงของกองทัพสหรัฐเพื่อให้เมืองนี้เป็นสถานที่ทดสอบ “อาวุธใหม่”
อาวุธใหม่ที่ว่าได้เผยโฉมในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 เครื่องบินสหรัฐได้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ชื่อว่าลิตเติ้ลบอย (Little Boy) ใส่เมืองฮิโรชิม่า ภายในช่วงพริบตา ประชากรในเมืองกว่า 70,000 คนเสียชีวิตทันที และอีกหลายหมื่นคนต้องทนทุกทรมานจากโรคต่างๆ จากรังสี และทำลายสิ่งก่อสร้างในเมืองกว่า 70% แถมสามเดือนต่อมาตัวเมืองยังโดนไต้ฝุ่นขนาดยักษ์ถล่มซ้ำ ทำให้ตัวเมืองแทบไม่หลงเหลืออะไรเลยตั้งแต่ก่อนปี ค.ศ.1945 ครับ
รัฐบาลญี่ปุ่นได้สร้างเมืองฮิโรชิม่าขึ้นมาใหม่หลังจากสงคราม และมีสถานะเป็นเมืองแห่งสันติภาพ ฮิโรชิม่าได้ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์ในปัจจุบัน และได้กลับมาเป็นเมืองการค้า เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการคมนาคมที่สำคัญของภูมิภาคครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองฮิโรชิม่าทำอย่างไร?
ประหยัดค่าใข้จ่ายในฮิโรชิม่าอย่างไร?
คุณอาจจะซื้อบัตรอย่าง Hiroshima Tabi Pass ซึ่งครอบคลุมการใช้บริการรถบัส รถไฟ หรือเรือในเขตเมืองฮิโรชิม่าได้ โดยบัตรจะมีให้เลือกซื้อตั้งแต่ 1-3 วันครับ สำหรับราคาจะอยู่ที่ 1,000-2,000 เยนครับ
1. Peace Memorial Park
Peace Memorial Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นใกล้กับที่ระเบิดนิวเคลียร์ถูกหย่อนลงเพื่อทำลายเมืองฮิโรชิม่า ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นศูนย์กลางของตัวเมืองครับ ซึ่งถูกแรงระเบิดทำลายราบคาบแบบแทบจะ 100%
ด้านในสวนสาธารณะมีพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์หลายแห่งที่น่าสนใจเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมไปถึงสนับสนุนสันติภาพในส่วนต่างๆ ของโลกครับ
พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากคือ Hiroshima Peace Memorial Museum เพื่อเล่าประวัติของเมืองฮิโรชิม่าตลอดจนเหตุการณ์ผลกระทบที่เกิดจากการทิ้งระเบิดปรมาณูในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 ซึ่งหลายๆ เกร็ดนั้นน่าสนใจไม่น้อย และแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสิ่งของของเหล่าผู้เสียชีวิตในวันนั้นจัดแสดงด้วยครับ
สำหรับอนุสรณ์แต่ละแห่งนั้นล้วนแต่เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ไม่ว่าจะเป็นระฆังแห่งสันติภาพ (Bell of Peace) หรืออนุสรณ์แด่ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ ซึ่งมีจารึกหินชื่อของพวกเขาอยู่ด้วย รวมแล้วมีมากถึง 220,000 รายชื่อทีเดียวครับ
2. Atomic Bomb Dome
Atomic Bomb Dome หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Hiroshima Peace Memorial เป็นอาคารไม่กี่แห่งในเมืองที่สร้างขึ้นก่อนสงครามแล้วหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน ตัวอาคารสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1915 โดยสถาปนิกชาวเช็กเพื่อใช้เป็นหอกลางสำหรับนำเสนอและโฆษณาอุตสาหกรรมของเมืองฮิโรชิม่า
ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 ตัวอาคารได้รับความเสียหายยับเยินแต่ว่าไม่ได้พังทลายเหมือนกับอาคารหลังอื่นๆ (ส่วนหนึ่งเพราะตัวตึกสร้างด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ทนต่อแผ่นดินไหว)
หลังสงคราม ชาวเมืองฮิโรชิม่าแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝั่งหนึ่งเสนอให้รื้อถอนตึกนี้ ส่วนอีกฝั่งเสนอให้เก็บไว้เป็นอนุสรณ์ ซึ่งฝ่ายหลังได้รับชัยชนะ ตัวตึกจึงได้รับการดูแลรักษาในสภาพที่ถูกการระเบิดเอาไว้ และได้รับสถานะเป็นมรดกขององค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1996 ครับ
3. สวนชุกเคเอ็น
สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien) เป็นสวนที่สร้างขึ้นเป็นสถานที่พักผ่อนของตระกูลอาซาโนะในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยลักษณะจะเป็นสวนที่มีสระน้ำและภูเขา (จำลอง) อย่างงดงาม และมีต้นไม้มากมายที่สร้างบรรยากาศอันร่มรื่น บ้างว่าผู้สร้างได้แรงบันดาลใจมาจากทะเลสาบซีหูที่เมืองหางโจวของประเทศจีนครับ
ปัจจุบันตัวสวนเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีและดอกไม้ต่างๆ ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองฮิโรชิม่า นอกจากนี้คุณยังสามารถไปชิมชาในโรงชาหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในสวนอีกด้วยครับ
4. ปราสาทฮิโรชิม่า
ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นโดยตระกูลโมริในช่วงศตวรรษที่ 16 แม้ว่าจะรอดพ้นการรื้อถอนในสมัยเมจิ แต่ในปัจจุบันตัวปราสาทเดิมพังทลายไปหมดแล้ว เพราะระเบิดนิวเคลียร์ได้ทำลายฐานรากของตัวปราสาท จนทำให้ส่วนบนของปราสาทถล่มลงมาครับ
ตัวปราสาทที่เห็นเป็นการสร้างใหม่ช่วงปี ค.ศ.1958 ด้วยดีไซน์แบบเดิม แต่คนละวัสดุ (ของใหม่ใช้เป็น ferro-concrete) หลังจากนั้นก็ได้มีการสร้างแต่งเพิ่มอาคารต่างๆ จนสมบูรณ์ (ส่วนหนึ่งจะใช้วัสดุเดิม) ที่นี่จึงได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ของเมืองครับ
5. หอโอริซุรุ
หอโอริซุรุ (Orizuru Tower) เป็นจุดชมวิวใหม่ของเมืองฮิโรชิม่า โดยสร้างเสร็จสิ้นในช่วงปี ค.ศ.2016 ตัวหอตั้งอยู่ทางตะวันออกของ Atomic Bomb Dome เพราะฉะนั้นจะเห็นตัวอาคารเช่นเดียวกับ Peace Memorial Park ได้แบบมุมสูงได้แบบชัดเจนเลยครับ
ตัวจุดชมวิวนั้นสร้างขึ้นจากไม้ และมีความสวยงามในตัวเองด้วย ด้านบนจึงมีคาเฟ่บรรยากาศดีๆ ให้คุณได้นั่งเล่นชมวิวพร้อมๆ กับรับประทานเครื่องดื่มแสนอร่อยครับ
6. เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
Okosta – หรือ Okonomiyaki Studio เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเมนูอาหารยอดฮิตของเมืองฮิโรชิม่าหรือโอโคโนมิยากิ นอกจากคุณจะได้เรียนรู้เรื่องราวของเมนูนี้แล้ว คุณยังจะได้ลองทำโอโคโนมิยากิด้วยตนเองด้วยครับ
Mazda Museum – บริษัทรถยนต์ Mazda นั้นเปิดทำการที่เมืองฮิโรชิมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1920 ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของบริษัทก็ยังตั้งอยู่ที่นี่ ด้านในจะจัดแสดงยานยนต์นานาชนิดตลอดทุกยุคทุกสมัย และให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทในหลายๆ มุมให้ผู้สนใจได้ทราบด้วยครับ อย่างไรก็ดีการเข้าชมจะต้องเป็นทัวร์ และต้องจองล่วงหน้าครับ
7. เดินเล่น กิน ดื่ม ช้อป ที่ถนนคนเดิน
ฮิโรชิม่าเป็นเมืองที่มีถนนคนเดินที่น่าสนใจหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่ให้คุณได้ซื้อของฝากและชิมอาหารพื้นเมืองครับ
ถนนที่ไม่ควรพลาดแห่งแรกแน่นอนว่าคือ Hondori ถนนคนเดินที่ไม่ให้รถผ่าน ซึ่งทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าจำนวนมากมายที่สายกินสายช้อปต้องชอบ และใกล้กับถนนเส้นนี้ยังมีโอโคโนมิมุระ หรือหมู่บ้านโอโคโนมิยากิ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการชิมเมนูแสนอร่อยของที่นี่ด้วยครับ
อีกจุดที่น่าสนใจคือย่าน Fukuro-Machi ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่และบาร์ ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักศึกษาและคนทำงาน แต่ถ้าอยากไปสัมผัสบรรยากาศของคนหนุ่มสาว แน่นอนว่าต้องไปที่ Namiki-Dori ย่านช้อปปิ้งสำหรับวัยรุ่นครับ
8. ชิมอาหารพื้นเมือง
ฮิโรชิม่านั้นมีอาหารพื้นเมืองจำนวนมากที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองใดของญี่ปุ่น นอกเหนือจากโอโคโนมิยากิที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามแล้วนั้น เมนูที่น่าสนใจได้แก่
- เมนูหอยนางรม – ฮิโรชิม่านั้นผลิตหอยนางรมได้เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และมีชื่อเสียงเรื่องหอยนางรมที่รสชาติดีเลิศครับ
- Dandan Noodles – เมนูรสเผ็ดชาเพราะใส่พริกจีนเข้าไปด้วย
- ปลาอิวาชิ (ปลาซาร์ดีนตัวเล็ก)
- Tsukemen สูตรเฉพาะของฮิโรชิม่า
- Uni-Horen – อุนิคู่กับผักโขมกินคู่กับขนมปังฝรั่งเศส
- Anagomeshi – ข้าวหน้าปลาไหลทะเล