ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นหนึ่งในเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งคนไทยนิยมเดินทางไปอย่างมาก เพราะธรรมชาติสวย อากาศบริสุทธิ์ หิมะเนียนนุ่มเหมาะกับการเล่นสกีและกิจกรรมต่างๆ แถมอาหารยังรสชาติดีอีกด้วย
ในบทความนี้ผมจึงจะมาสรุปสถานที่เที่ยวในเกาะฮอกไกโดในทุกภูมิภาค เพื่อที่คุณจะได้ทราบว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง และวางแผนการเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเกาะฮอกไกโดทำอย่างไร
สนามบินนานาชาติของเกาะฮอกไกโดคือสนามบิน New Chitose Airport (Shin-Chitose) ซึ่งห่างจากเมืองหลวงของเกาะอย่างซัปโปโรไปประมาณ 50 กิโลเมตร ส่วนมากแล้วนักเดินทางส่วนใหญ่จะมาตั้งตนที่นี่ครับ
อย่างไรก็ดีถ้าคุณตั้งใจจะไปภูมิภาคอื่นบนเกาะโดยตรงอย่างเช่นเมืองคุชิโระ หรือเมืองโอบิฮิโระ คุณสามารถบินจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นไปได้โดยตรงเลยเช่นกัน
การสัญจรในเกาะฮอกไกโดทำอย่างไร?
โดยมากแล้วนักท่องเที่ยวจะเดินทางโดยใช้รถไฟของ JR Hokkaido ซึ่งเชื่อมเมืองใหญ่ๆ ของฮอกไกโดทั้งหมด ทำให้การสัญจรง่ายดาย สะดวกสบาย และใช้เวลาไม่นานครับ
อีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือการใช้บริการรถบัส ซึ่งจะช้ากว่ารถไฟ แต่ราคาจะถูกกว่า ทำให้ช่วยประหยัดค่าเดินทางไปได้อย่างมากเลยทีเดียวครับ
แต่ในกรณีที่คุณต้องการไปเที่ยวในจุดที่ห่างไกลอย่างเช่นนอุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง (Daisetsuzan National Park) การเช่ารถขับจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ
ไปเที่ยวฮอกไกโดช่วงไหนดี?
ฮอกไกโดเป็นเกาะที่เที่ยวได้ทุกฤดู จริงอยู่ว่าช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีเทศกาลหิมะที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่จัดขึ้นหลายแห่งบนเกาะ แต่ช่วงอื่นก็มีจุดที่น่าสนใจที่ต่างกันออกไปครับ อย่างช่วงฤดูร้อนก็จะมีดอกไม้ให้ชม หรือฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นต้น
1. ซัปโปโร
ซัปโปโร (Sapporo) เป็นเมืองหลวงของฮอกไกโด และเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุด เช่นเดียวกับศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ คมนาคม การค้าขาย ฯลฯ
สิ่งแรกที่ทุกคนคิดถึงก็คือเทศกาลหิมะ (Sapporo Snow Festival) ที่จัดขึ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์อย่างสวยงามอลังการงานสร้าง คุณจะได้เห็นช่างฝีมือมากมายมารังสรรค์รูปปั้น หรือแม้กระทั่งอาคารทั้งหลังจากหิมะครับ
นอกจากนี้ถ้าคุณมีเวลา หรือว่าไม่ได้มาในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถเดินไปชมวิวเพื่อถ่ายรูปและปลีกวิเวกได้ที่สวนโอโดริ (Odori Park) หรือ Gingko Avenue ในมหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University) ซึ่งให้บรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติก
ท้ายที่สุดที่นี่ยังมีตลาดนิโจ (Nijo Market) ที่ขายอาหารทะเลสดๆ ซึ่งคุณสามารถไปลิ้มลองข้าวหน้าอาหารทะเลแสนอร่อย และยังมีย่านสุสุคิโนะ (Susukino) ที่มีร้านอาหาร ผับ และบาร์มากมาย ซึ่งตอบโจทย์ใครที่ชอบแสงสียามค่ำคืนอีกด้วยครับ
2. โอตารุ
โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเกาะฮอกไกโดในช่วงตั้งไข่ ปัจจุบันแม้ว่าจะไม่ได้มีความสำคัญเท่าเดิมแล้ว แต่โอตารุได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวริมทะเลที่มีกลิ่นอายเก่าแก่ของหมู่บ้านชาวประมงในยุคศตวรรษที่ 19 ครับ
สถานที่ระดับยอดฮิตของที่นี่แน่นอนว่าคือคลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่ในปัจจุบันได้ถูกแปลงสภาพเป็นร้านค้าต่างๆ และช่วงฤดูหนาวได้เป็นสถานที่จัดเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival ที่ให้บรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆ เลยครับ
สำหรับใครที่ชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โอตารุมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ซึ่งจะเล่าสตอรี่และวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวเมืองที่คว่ำหวอดอยู่กับท้องทะเลครับ
ไม่ไกลจากโอตารุมีสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงอย่าง Kiroro Ski Resort ที่เปิดให้คุณได้เล่นสกีและทำกิจกรรมฤดูหนาวอย่างมากมายครับ
3. โจซังเคออนเซ็น
โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) เป็นหมู่บ้านออนเซ็นสวยที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองซัปโปโร นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาที่นี่เพื่อแช่ออนเซ็น
แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่นั้น เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นหุบเขาที่มีป่าเมืองหนาวอันอุดมสมบูรณ์มาก ทำให้เป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ด้อยกว่าที่ใดในฮอกไกโด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สะพานฟุตามิ สึริบาชิ (Futami Tsuribashi Bridge) ครับ
4. โนโบริเบทสึ
โนโบริเบทสึ (Noboribetsu) เป็นเมืองออนเซ็นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของฮอกไกโด เพราะนอกจากคุณภาพน้ำจะยอดเยี่ยมแล้ว น้ำยังมีหลากหลายแบบให้คุณเลือกแช่ ซึ่งจะช่วยให้ผิวหนังของคุณสวยเปล่งปลั่ง และยังรักษาอาการต่างๆได้อีกด้วย
อย่างไรก็ดีที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าเดินทางไปด้วยเช่นกัน อย่างหุบเขานรก (Jigokudani) ซึ่งมีสระร้อน ลำธารร้อนให้คุณได้ชม และบางจุดสามารถนั่งแช่เท้าได้อีกด้วย ช่วงที่สวยที่สุดของที่นี่คือฤดูใบไม้ร่วง เพราะบริเวณหุบเขาจะมีสีสันสะดุดตาทั่วอาณาบริเวณเลยครับ
5. ทะเลสาบโทยะ
ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เป็นทะเลสาบสวยที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาท่องเที่ยวผ่อนคลาย ตัวทะเลสาบเป็นผลมาจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีตกาล จนเกิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีเกาะแก่งอันสวยงาม นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีภูเขาไฟให้ได้ขึ้นไปชมวิวกันอีกด้วย
ช่วงฤดูร้อนทะเลสาบแห่งนี้จะมีการจุดพลุและดอกไม้ในช่วงกลางคืน ซึ่งสวยและตระการตาอย่างมากเลยครับ
ที่พัก
สำหรับที่พัก คุณสามารถหาที่พักริมทะเลสาบดีๆ ได้จากบทความนี้ครับ
6. นิเซโกะและรุสุซึ
นิเซโกะ (Niseko) เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของฮอกไกโด และประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องหิมะที่เนียนนุ่ม เหมาะต่อการเล่นสกีและกิจกรรมฤดูหนาวเป็นที่สุด
ไม่เพียงเท่านั้นนิเซโกะยังมียอดเขาโยเตอิ (Mt.Yotei) ที่คุณเห็นได้จากทุกส่วนของเมือง ทำให้เวลาที่คุณทำกิจกรรมฤดูหนาวนั้น คุณจะได้อิ่มเอมกับวิวสวยๆ ไปพร้อมกัน เรียกได้ว่าฟินสุดๆ ไปเลยครับ
ไม่ไกลจากนิเซโกะมีหมู่บ้านสกีรีสอร์ทอีกแห่งหนึ่งอย่างรุสุซึ (Rusutsu) ที่ให้บรรยากาศที่ใกล้เคียงกัน แต่มีคนน้อยกว่ามาก ถ้าคุณรู้สึกอึดอัด คุณอาจจะพิจารณามาเล่นที่นี่แทนก็ได้ครับ
7. มุโระรัง
มุโระรัง (Muroran) เป็นเมืองชายทะเลที่เป็นเมืองท่าที่สำคัญของเกาะฮอกไกโด ซึ่งมีคาบสมุทรอันสวยงามที่คุณสามารถชมความงามของมหาสมุทรแปซิฟิก
นอกจากนี้วิวบริเวณท่าเรือยามค่ำคืนก็ถือว่างดงามไม่แพ้ที่ใดในฮอกไกโด และแน่นอนว่ามีอาหารรสชาติดีหลายชนิดที่คุณไม่ควรพลาดด้วยครับ
8. ฮาโกดาเตะ
ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นอดีตเมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด และมีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ด้วย เพราะหลังจากที่กลุ่มผู้สนับสนุนโชกุนพ่ายแพ้ในสงครามโบชิน พวกเขาได้หนีมาตั้งประเทศใหม่ที่นี่ ก่อนที่จะพ่ายแพ้อีกครั้งต่อรัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นครับ
สถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของฮาโกดาเตะคงหนีไม่พ้นป้อมปราการรูปดาว (Goryokaku) ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และสวยงามมากถ้าขึ้นไปชมจากมุมสูง นอกจากนี้ในป้อมยังมีปลูกต้นซากุระมากมาย ทำให้เป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในฮอกไกโดไปโดยปริยายครับ
วิวมุมสูงของฮาโกดาเตะนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือว่างามเป็นอันดับต้นๆ ของดินแดนซามูไร ซึ่งวิธีการชมที่ดีที่สุดคือขึ้นกระเช้าไปชมที่ยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate) ครับ
ท้ายที่สุดใครที่รักปลาดิบ ไม่ควรพลาดการไปเยือนตลาดเช้าที่ขายซีฟู้ดสดๆ จากท้องทะเล ซูชิ ซาชิมิ และไคเซนด้งของที่นี่ครองใจคนรักปลา กุ้ง และหอยเม่นมานักต่อนักแล้วครับ
9. มัตสึมาเอะ
ใกล้กับฮาโกดาเตะคือเมืองเล็กๆ ชื่อมัตสึมาเอะ (Matsumae) แม้ว่าจะเล็ก แต่กลับมีความสำคัญมาก เพราะเป็นเมืองปราสาทแห่งเดียวที่เกาะฮอกไกโดมีอยู่
ทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นจะผนวกเกาะฮอกไกโดก็ปาเข้าไปครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 แล้ว ซึ่งเลยช่วงการสร้างปราสาทไปมาก ทำให้ส่วนอื่นของเกาะไม่มีปราสาทเลย
แต่สาเหตุที่มัตสึมาเอะมีปราสาทก็เพราะตระกูลมัตสึมาเอะ (Matsumae Clan) ได้เข้ามาครอบครองพื้นที่ส่วนนี้ (ซึ่งอยู่ใต้สุดของเกาะ) หลายร้อยปีก่อนหน้านั้น และสร้างปราสาทขึ้นมาเพื่อป้องกันการค้าขาย และรักษาความสงบจากการคุกคามของชาวท้องถิ่นครับ
ปัจจุบันปราสาทมัตสึมาเอะ (Matsumae Castle) ได้รับการสร้างใหม่ แต่ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก สิ่งที่โดดเด่นคือต้นซากุระที่มีกว่าหนึ่งหมื่นต้นในบริเวณสวนของปราสาท และได้รับการยกย่องเป็น 1 ใน 100 สถานที่ชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นครับ
10. อาซาฮิคาวะ
อาซาฮิคาวะ (Asahikawa) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด โดยอยู่ค่อนไปทางเหนือของเกาะ และเป็นปากทางสู่การไปท่องเที่ยวทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโดทุกแห่งครับ
อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าเมืองอาซาฮิคาวะจะไม่มีอะไรให้เที่ยว ในเมืองมีสวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) ที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์หลากชนิดแบบใกล้ชิดมากที่สุด รวมไปถึงเทศกาลฤดูหนาว ซึ่งไม่แพ้ที่ซัปโปโรเลยครับ
แต่สิ่งที่คุณไม่ควรพลาดจริงๆ คือการลองชิมโชยุราเมงเลื่องชื่อของที่นี่ ซึ่งคุณชิมได้ในร้านต่างๆ ในเมือง หรือว่าไปชิมที่หมู่บ้านราเมง (Asahikawa Ramen Village) ก็ได้ครับ
11. อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง
อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง (Daisetsuzan National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด พื้นที่ในอุทยานเป็นภูเขาสูงที่ปกคลุมด้วยผืนป่าอันบริสุทธิ์ที่ไม่มีใครได้เข้ามาสัมผัสมาก่อน ดังนั้นถ้าคุณหลงรักในธรรมชาติ ที่นี่คือ a must ที่คุณต้องมาเยือนครับ
ภายในอุทยานมีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิเช่น
- ยอดเขาอาซาฮิดาเกะ (Mt.Asahidake) – ยอดเขาที่สูงที่สุดในฮอกไกโด และเป็นที่ตั้งของอาซาฮิดาเกะออนเซ็น นักเดินทางนิยมมาเดินเทรคและปีนเขากันที่นี่ครับ
- โซอุนเคียวออนเซ็น (Sounkyo Onsen) – หมู่บ้านออนเซ็นในอุทยานที่มีโตรกอันสวยงาม
- ยอดเขาคุโรดาเกะ (Mount Kurodake) – ยอดเขาที่มีกระเช้าที่นำนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้อย่างสบาย
12. ฟุราโนะและบิเอะ
ฟุราโนะ (Furano) เป็นเมืองแห่งฟาร์มและสวนดอกไม้ ที่นี่มีฟาร์มขนาดใหญ่อย่างฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ที่มีดอกลาเวนเดอร์สีสดให้ชมในช่วงเดือนกรกฎาคมอย่างงดงามมาก ถ้าคุณชอบดอกไม้ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ยอดเยี่ยมก็คือผลิตภัณฑ์ homemade คุณภาพดีจากฟาร์ม ตั้งแต่ไอศกรีมนมสด ชีส และผลไม้ต่างๆ ซึ่งคุณสามารถซื้อมาลองชิมได้ครับ
ในช่วงฤดูหนาวนั้น ฟุราโนะจะกลายเป็นเมืองสกีรีสอร์ทแทน เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของ Furano Ski Resort ที่มี facilities ชั้นเยี่ยมไม่แพ้นิเซโกะเลยครับ
ใกล้กับเมืองฟุราโนะคือเมืองบิเอะ (Biei) ซึ่งมีสระ Blue Pond ที่สวยงามและเกิดจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติครับ ทัศนียภาพของจุดนี้สวยมาก โดยเฉพาะในช่วงเย็นของฤดูหนาวที่จะมีการเปิดไฟด้วยครับ
อีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจคือ Tomamu Ski Resort สกีรีสอร์ทที่มีกิจกรรมตั้งแต่สกี สโนว์โมบิล สโนว์บอร์ด ฯลฯ ซึ่งลานสกีของที่นี่มีทั้งแบบง่ายไปจนถึงยากสุดๆ เพราะฉะนั้นตอบโจทย์ใครที่สนใจอยากจะเล่นทุกคนเลยครับ
13. อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ
ชิเรโตโกะ (Shiretoko) เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฮอกไกโด และมีชื่อเสียงเรื่องปรากฏการณ์ Drift Ice (Ryuhyo) หรือทะเลน้ำแข็งที่มีให้ชมในช่วงต้นกุมภาพันธ์ของทุกปี
นอกจากนี้ในอุทยานยังเป็นสรวงสวรรค์ของใครที่ชอบธรรมชาติ เพราะมีทั้งภูเขาหิมะ ท้องทะเล คาบสมุทร น้ำตก ทะเลสาบและผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่าทริปเดียวสามารถเก็บได้ครบทุกอย่างเลยครับ
14. อาบาชิริ
ในอดีตอาบาชิริ (Abashiri) เป็นเมืองที่รัฐบาลเมจิใช้เป็นสถานที่เนรเทศนักโทษการเมืองมาอยู่ที่นี่ ทำให้มีการสร้างคุกขนาดใหญ่ขึ้นมา ปัจจุบันคุกนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมชีวิตของเหล่านักโทษในช่วงเวลานั้นได้ครับ
นอกจากคุกแล้วนั้น อาบาชิริเป็นจุดที่คุณสามารถนั่งเรือออกไปชมปรากฏการณ์ Drift Ice ได้อย่างใกล้ชิด และเป็นปากทางสู่การเข้าไปเที่ยวในอุทยาน Akan-Mashu National Park อีกด้วย
15. คุชิโระ
คุชิโระ (Kushiro) เป็นเมืองทางทิศตะวันออกของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นที่ตั้งของพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ขนาดของพื้นที่นี้นั้นใหญ่กว่าเมืองโตเกียวทั้งเมืองเสียอีก
ที่นี่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์จำนวนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกกระเรียนมงกุฎแดง หนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ซึ่งหาชมได้ยากมากครับ
นอกจากพื้นที่ชุ่มน้ำแล้ว กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือไปตกปลาที่ทะเลสาบอะคัง (Lake Akan) ที่จะแข็งเป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาว คุณจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกับที่อื่นแน่นอนครับ
16. โอบิฮิโระ
โอบิฮิโระ (Obihiro) เป็นเมืองที่มีข้าวหน้าหมูย่างโทคาจิอันเลื่องชื่อ ซึ่งถ้าไม่ได้ทานก็เหมือนไม่ได้มาถึงที่นี่ แต่ตัวเมืองมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่างครับ
ไม่ว่าจะเป็นการแข่งม้าลากเลื่อนที่เหลือเพียงที่นี่ที่เดียวแล้วในฮอกไกโด ไปจนถึงทะเลสาบชิการิเบทสึ (Lake Shikaribetsu) ซึ่งใสสะอาดและสวยตระการตาครับ