หน้าแรกญี่ปุ่นคิวชู8 ไฮไลท์สวนสนุก Huis Ten Bosch ที่คุณไม่ควรพลาด

8 ไฮไลท์สวนสนุก Huis Ten Bosch ที่คุณไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

สวนสนุก Huis Ten Bosch หรือชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า ฮาอุสุ เทน โบสุ (Hausu Ten Bosu, ハウステンボス) เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาซากิของญี่ปุ่น เอกลักษณ์ของสวนสนุกแห่งนี้คือเป็น theme ยุโรป โดยเฉพาะศิลปกรรมของชาวดัชต์ที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับชาวนางาซากิมานานหลายร้อยปี (เพราะชาวดัชต์เป็นชาวยุโรปชาติเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ค้าขายกับญี่ปุ่นในเวลานั้น

โครงสร้างของสวนสนุกนั้นประกอบด้วยสองส่วน นั่นคือส่วนสวนสนุก และส่วนปากอ่าวที่เป็นจุดชมวิวให้ถ่ายรูปครับ เพราะฉะนั้นจะรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย ถึงแม้คุณจะไม่ได้เล่นเครื่องเล่นก็ตามครับ

บทความนี้จึงจะนำคุณไปรู้จักกับสวนสนุกแห่งนี้กันก่อน หลังจากนั้นจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักสวนสนุก Huis Ten Bosch

สวนสนุก Huis Ten Bosch ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาซากิ โดยอยู่ห่างจากเมืองนางาซากิประมาณ 55 กิโลเมตร ตัวสวนสนุกตั้งอยู่ริมทะเลในส่วนของอ่าวโอมุระ (Omura Bay) ที่มีเกาะแก่งมากมายครับ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นเขตที่พ่อค้าชาวดัชต์นำสินค้ามาค้าขายกับชาวญี่ปุ่นต่อเนื่องกันหลายศตวรรษครับ

Huis Ten Bosch ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
by Tanya Jones/ShutterStock

ตัวสวนสนุกนั้นสร้างเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1992 โดยชื่อของสวนสนุกได้มาจากพระราชวัง Huis Ten Bosch ของกษัตริย์ดัชต์ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ในปัจจุบัน (เป็นหนึ่งในสามพระราชวังสำคัญของประเทศ) ด้านในของสวนสนุกได้จำลองแลนด์มาร์กสำคัญของเนเธอร์แลนด์ไว้อีกหลายแห่ง และแน่นอนว่ารวมไปถึงสวนทิวลิปและกังหันลมด้วยครับ

ด้วยพื้นที่กว่า 380 เอเคอร์และมีทั้งเครื่องเล่นและจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจ คุณสามารถใช้เวลากับสวนสนุกแห่งนี้ได้ทั้งวันเลยครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไป Huis Ten Bosch ทำอย่างไร?

ถ้าคุณอยู่ที่ฟุกุโอกะ คุณจะมีสองตัวเลือกหลักดังต่อไปนี้

1. นั่งรถบัสไปจากสนามบิน, สถานีรถบัสฮากาตะ (Hakata Bus Terminal) หรือสถานีรถบัส Nishitetsu Tenjin Express Bus Terminal ในย่านเทนจิน ด้วยบริการของ Nishitetsu Bus หรือ Seihi Bus ครับ เวลาที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น (ในกรณีที่รถไม่ติด)

2. นั่งรถไฟ JR Huis Ten Bosch จาก Hakata Station ไปลงที่สวนสนุกโดยตรง การเดินทางจะใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงครับ

แต่ถ้าคุณอยู่ที่นางาซากิ คุณจะมีตัวเลือกสองทางระหว่างรถไฟ JR Seaside Liner หรือรถบัสของ Saihi Bus เวลาเดินทางจะใกล้เคียงกันครับ

ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจากเว็บทางการของสวนสนุก โปรดตรวจสอบที่ต้นทางอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจจะเปลี่ยนได้ครับ

ค่าเข้าชมสวนสนุก Huis Ten Bosch มีค่าใช้จ่ายเท่าไร ?

ค่าเข้าชมสวนสนุก 1 วันจะอยู่ที่ 7,400 เยนครับ แต่ผมแนะนำให้ซื้อผ่าน Klook เพราะว่าราคาถูกกว่าพอสมควร นอกจากนี้ยังได้จ่ายเป็นเงินบาทด้วย ทำให้โดยรวมแล้วน่าสนใจกว่าเว็บ Official ครับ

Tip

เพื่อให้ได้ชมการเปิดไฟและการแสดงในช่วงกลางคืน นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเลือกพักใกล้กับสวนสนุกครับ ถ้าคุณสนใจสามารถอ่านบทความนี้เพื่อเลือกที่พักที่น่าสนใจได้ครับ

1. เทศกาลทิวลิป

สวนสนุก Huis Ten Bosch นั้นมีเทศกาลดอกไม้ให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดเห็นจะเป็นเทศกาลทิวลิป (Tulip Festival) ที่เริ่มต้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี

เทศกาลทิวลิปที่ Huis Ten Bosch
by fantagrapher.k/ShutterStock

ในช่วงเทศกาลดังกล่าว ส่วนต่างๆ ของสวนสนุกจะมีดอกทิวลิปหลากสีให้ได้ชม เฉพาะอย่างยิ่งที่ Flower Road และ Bastion ที่มีกังหันลมเป็นฉากหลังจนดูเหมือนว่าคุณกำลังอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจุดนี้จะมีดนตรีสดอันไพเราะให้ได้ฟังเพื่อเพิ่มความโรแมนติก และคุณยังสามารถทานของหวานแสนอร่อยระหว่างชมดอกไม้ด้วยครับ

ทุ่งดอกทิวลิปริมน้ำที่ Huis Ten Bosch
by sieghartatelier/ShutterStock

นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าที่นี่จะสวยงามเฉพาะช่วงกลางวันเท่านั้น ในช่วงค่ำ สวนสนุกจะมีการจัดเทศกาล Night Tulip ให้คุณได้ชมดอกทิวลิปในยามกลางคืน เช่นเดียวกับการแสดงแสงสีเสียงอย่าง Silvery-White Wonderland Lighting Ceremony ที่ทางสวนสนุกว่ามีความพึงพอใจของผู้เข้าชมถึง 99% เลยทีเดียว

2. Palace Huis Ten Bosch

Palace Huis Ten Bosch เป็นส่วนของสวนสนุกที่สร้างขึ้นตามแบบของพระราชวัง Huis Ten Bosch ในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยได้รับการอนุญาตจากสำนักพระราชวังดัชต์โดยตรง นอกจากนี้ยังมีสวนสไตล์ baroque ของสมัยศตวรรษที่ 18 ให้ได้ถ่ายรูปอีกด้วย

Palace Huis Ten Bosch
by Yuki Shimazu/Flickr, CC By 2.0 DEED

ส่วนด้านในนั้น ทางสวนสนุกได้รังสรรค์ห้องพักแบบสมัยศตวรรษที่ 17-18 ขึ้นมาอย่างประณีตสวยงามยิ่ง ทำให้บรรยากาศด้านในไม่แพ้การไปเยี่ยมเยือนพระราชวังในยุโรปเลยทีเดียวครับ

นอกจากนี้ด้านในยังมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ด้วยชื่อว่า Huis Ten Bosch Museum ที่จัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลาย โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ภาพเขียนสีบนโดมโดยมีชื่อภาพว่า Anti-War and Peace อันเป็นผลงานของจิตรกรชาวดัชต์ที่ใช้เวลาวาดถึง 4 ปีด้วยกัน รวมไปถึง Portrait of Jan Aselein หนึ่งในงานแบบ copperplate paint ของศิลปินดัชต์นามกระเดื่องอย่าง Rembrandt ครับ

3. Domtoren

Domtoren เป็นหอคอยสูง 80 เมตรที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของสวนสนุก Huis Ten Bosch หอแห่งนี้ได้แบบมาจากหอชื่อเดียวกันที่ตั้งอยู่ที่เมือง Utrecht ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่จะสูงน้อยกว่าของจริงพอสมควร (ของจริงสูง 112 เมตรครับ)

Domtoren
by Mark Anan/CC By 2.0 DEED/Flickr

ไฮไลท์ของหอคอยแห่งนี้คือ คุณสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงแบบพาโนรามาของสวนสนุกด้านบนได้ ซึ่งจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลทิวลิป หรือช่วงกลางคืนที่มีการเปิดไฟครับ

4. ชมพิพิธภัณฑ์

นอกเหนือจากพิพิธภัณฑ์ใน Palace Huis Ten Bosch แล้ว ด้านในสวนสนุกยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่ง ซึ่งคุณสามารถเข้าชมได้ครับ อย่างเช่น

  • Porcelain Museum – พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาที่มีงานต่างๆ ให้ชมร่วม 3,000 ชิ้น โดยเฉพาะโคอิมาริ เครื่องปั้นดินเผาของญี่ปุ่นที่ได้ส่งออกไปยังยุโรปมากมายในสมัยเอโดะโดยชาวดัชต์ครับ ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์อยู่ที่ห้อง Porcelain Cabinet ที่มีการประดับประดาทุกส่วนของห้องด้วยเครื่องประดับชั้นเลิศตามแบบพระราชวัง Charlottenburg Palace ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีครับ
  • Glass Museum – ตั้งอยู่ใน Stadhaus อาคารที่สร้างเลียนแบบที่ทำการรัฐของเนเธอร์แลนด์ในอดีต ด้านในจัดแสดงเครื่องแก้วที่สวยงามจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึงเครื่องแก้ว Bohemian Glass อันเลื่องชื่อของชาวเช็กด้วยครับ แต่ไฮไลท์ที่แท้จริงของที่นี่คือ Chandelier ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีที่มาจากฝรั่งเศสในสมัยศตวรรษที่ 19 ครับ
  • Teddy Bear Kingdom – สำหรับใครที่ชอบตุ๊กตาหมีไม่ควรพลาดทุกประการ เพราะด้านในมีตุ๊กตาหมีถึง 600 ตัวด้วยกัน และมีหลากหลายแบบให้คุณชื่นชมความน่ารัก โดยเฉพาะเจ้า Giant Bear ที่สูงถึง 3.6 เมตร และมีน้ำหนักถึงครึ่งตันครับ

5. เทศกาลต่างๆ

ถ้าคุณพลาดช่วงเทศกาลทิวลิปไป คุณจะได้ชมเทศกาลอื่นๆ แทน เพราะสวนสนุกแห่งนี้จัดเทศกาลเด็ดๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างอิ่มหนำตลอดปีครับ

อย่างช่วงฤดูหนาวก็จะมีเทศกาล Aurora Garden หรือ Chocolate Festival ส่วนฤดูร้อนจะมีเทศกาลดอกกุหลาบ (มีทั้งหมด 1 ล้านดอก) ที่ Grand Rose Garden ที่สวยและอลังการไม่แพ้ทิวลิป เช่นเดียวกับการแสดง Water Garden ซึ่งเป็นการแสดงสีเสียงอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นครับ

Huis Ten Bosch ในยามค่ำคืน
by R.S.17/ShutterStock

และที่แน่นอนที่สุดคือการเปิดไฟ (Illumination) ของสถานที่ต่างๆ ที่มีให้ชมทุกวัน ซึ่งเนรมิตให้สวนสนุกแห่งนี้เป็นเมืองในเทพนิยาย ช่วงกลางคืนจึงเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ไม่ควรพลาดทุกประการ (ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้กลับโรงแรมเร็วเกินไปครับ)

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวสวนสนุก Huis Ten Bosch ช่วงไหนก็ตาม คุณจะมีอะไรดูที่คุ้มค่าตั๋วเข้าชมอย่างแน่นอนครับ คุณสามารถอ่านรายละเอียดของเทศกาลที่กำลังจัดอยู่ได้ที่นี่

6. ล่องเรือ Canal Cruiser/Gondola

เรือ Canal Cruiser เป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยมสำหรับใครที่อยากชมความสวยงามของสวนสนุก Huis Ten Bosch โดยที่ไม่ต้องเดิน เพราะเรือจะล่องไปตามคลองน้ำใส และให้คุณได้ชมแลนด์มาร์กต่างๆ จากเส้นทางน้ำ ซึ่งจะให้บรรยากาศไม่ต่างกับคุณได้ไปเยือนกรุงอัมสเตอร์ดัมเลยครับ

ทั้งนี้เรือจะใช้เวลาล่องประมาณ 10-15 นาที แต่ทีเด็ดคือคุณสามารถล่องช่วงกลางคืนได้ด้วย ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษตอนที่มีเทศกาลต่างๆ ครับ

แต่ถ้าคุณอยากได้ความเป็นส่วนตัว คุณสามารถเลือกล่องเรือกอนโดลา (Gondola) ได้ (แบบเดียวกับที่เวนิส) โดยจะใช้เวลาใกล้เคียงกัน แต่จะมีให้ล่องช่วงบ่ายเท่านั้นครับ

7. Flower Passage และ Umbrella Street

Flower Passage และ Umbrella Street เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของสวนสนุก Huis Ten Bosch โดยแห่งแรกนั้นจะเป็นถนนคนเดินที่จะมีการประดับประดาด้วยดอกไม้ตามฤดูกาลอย่างสวยงามยิ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่จะมีคอนเซปต์ Silver Version ที่ใช้ดอกไม้สีขาวสะอาดมาทำเป็นซุ้มดอกไม้ที่สุดโรแมนติก ส่วนช่วงฤดูร้อนจะใช้ดอกกุหลาบ และ Hydrangea ที่จะสวยไปอีกแบบหนึ่งครับ

ส่วน Umbrella Street เป็นถนนที่มีร่มหลากสีเรียงรายกันไปถึง 700 คัน นักท่องเที่ยวสวมใส่มงกุฎดอกไม้แล้วไปถ่ายรูปกันที่นี่ครับ

8. เล่นเครื่องเล่นต่างๆ

สำหรับใครที่ชอบเล่นเครื่องเล่นต่างๆ สวนสนุก Huis Ten Bosch มีสามโซนด้วยกันที่ต้อนรับใครที่ชอบอะไรที่ตื่นเต้นมากกว่าการถ่ายรูปชมวิวครับ

โซนแรกได้แก่ Adventure Park ซึ่งเป็นโซนแบบ outdoor ที่มีเครื่องเล่นอย่าง Shooting Star ที่ให้คุณห้อยโหนไปตามเชือกตามคลองเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร หรือปราสาท Sky Castle ที่ทดสอบทักษะการปีนป่ายของคุณ หรือ Dinosaur Woods ที่ให้คุณไขปริศนาให้ได้ก่อนองค์กรลับ (ทางสวนสนุกว่ามีคนชนะเพียง 1% เท่านั้น)

โซนที่สองคือ Attraction Town ที่มีเครื่องเล่นหลากหลาย เช่น Horizon Adventure หรือ Mission Deep Sea XSense Ride ที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง และ Fantasia City of Lights ที่มีกิจกรรมน่าสนใจที่ให้คุณสัมผัสกับแสงสีเสียงในรูปแบบที่ล้ำสมัยครับ

อย่างไรก็ดีที่นี่จะไม่มีเครื่องเล่นหนักๆ อย่างเช่นรถไฟเหาะ แต่จะเน้นไปที่ประสบการณ์แบบเสมือนจริงมากกว่า เพราะฉะนั้นเล่นได้ทุกเพศทุกวัยครับ

ตัวอย่างทริป Huis Ten Bosch

ทั้งนี้คุณสามารถใส่ Huis Ten Bosch ไว้ในทริปนางาซากิของคุณได้ไม่ยาก อย่างเช่นทริปตัวอย่างด้านล่างครับ (นำไปใช้ในการแพลนทริปของคุณได้เลยครับ) โดยทริปนี้จะเน้นความง่ายๆ สบายๆ ไม่ได้เดินทางไกลมากนักในแต่ละวัน ทำให้เป็นมิตรกับนักเดินทางที่เป็นคณะแบบครอบครัวครับ

ตัวอย่างทริป Huis Ten Bosch-นางาซากิ 5 วัน

แน่นอนว่าคุณสามารถปรับแต่งตามความต้องการของคุณได้ แต่ที่สำคัญคือเรื่องวิธีการเดินทางต้องตรวจสอบด้วยตนเองอีกครั้ง เพราะผู้ให้บริการอาจเปลี่ยนหรือยกเลิกได้ตอดเวลาครับ

References

  • JR Kyushu
  • Huis Ten Bosch Official Travel Site
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!