หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น7 ที่เที่ยวอิซุโมะ (Izumo) และกิจกรรมน่าสนใจไม่ควรพลาด

7 ที่เที่ยวอิซุโมะ (Izumo) และกิจกรรมน่าสนใจไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

อิซุโมะ (Izumo) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมาเนะ (Shimane) ทางทิศตะวันตกของเกาะฮอนชู ตัวเมืองถือว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาชินโต เนื่องด้วยเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะที่ศาสนิกชินโตให้การยกย่องนับถือมาร่วม 2 สหัสวรรษครับ

บทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเมืองอิซุโมะคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักอิซุโมะ (Izumo)

จากสภาพภูมิศาสตร์นั้นเมืองอิซุโมะตั้งอยู่พื้นที่ราบ โดยมีฝั่งหนึ่งเป็นทะเลญี่ปุ่น ส่วนอีกฝั่งเป็นแนวภูเขาชูโกคุ นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำฮิอิไหลผ่านอีกด้วย ทำให้บริเวณตัวเมืองถือว่าอุดมสมบูรณ์ทีเดียว

by ranmaru/ShutterStock

ในหน้าประวัติศาสตร์ มนุษย์อาศัยอยู่ในเมืองอิซุโมะมาตั้งแต่อย่างน้อยสองพันปีก่อน โดยหนังสือโคจิกิ (Kojiki) บันทึกทางประวัติศาสตร์เล่มแรกของประเทศขนานนามเมืองอิซุโมะว่าเป็นเมืองแห่งตำนาน

สาเหตุก็คือตำนานปรัมปราของญี่ปุ่นล้วนแต่เกี่ยวข้องกับอิซุโมะ อันที่จริงแล้วเนื้อหากว่า 1 ใน 3 ของหนังสือโคจิกิเองแต่เกี่ยวข้องกับอิซุโมะ ดังนั้นไม่มีคำถามในเรื่องความสำคัญของตัวเมือง ชาวญี่ปุ่นบางคนถึงกับขนานนามที่นี่ว่าเป็นดินแดนของเทพเจ้าเลยครับ

ศาลเจ้าอิซุโมะ
by mTaira/ShutterStock

ด้วยเหตุนี้ทุกยุคทุกสมัยอิซุโมะจึงเป็นสถานที่ยอดนิยมในการแสวงบุญของชาวญี่ปุ่น ซึ่งสร้างรายได้ให้กับชาวเมืองมากมาย ในสมัยเอโดะ ตัวเมืองได้อยู่ในการปกครองของไดเมียวสามตระกูลด้วยกัน แต่ไดเมียวตระกูลมัตสึไดระได้ปกครองที่นี่ยาวนานที่สุด จวบจนการปฏิวัติเมจิเลยครับ

ปัจจุบันอิซุโมะได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของจังหวัดชิมาเนะ เช่นเดียวกับสถานที่สำคัญทางศาสนาเหมือนกับในอดีตกาลครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปเมืองอิซุโมะ (Izumo) ทำอย่างไร

ตัวเลือกที่ง่ายที่สุดคือนั่งรถบัสไปจากโอซาก้า ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง โดยตั๋วรถบัสสามารถจองได้ที่นี่ครับ

อีกทางเลือกคือนั่ง San’yo Shinkansen ไปลงที่เมืองโอคายาม่า (Okayama) หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็น JR Yakumo Limited Express Train ไปยังอิซุโมะครับ

ทั้งนี้รถไฟจะช่วยประหยัดเวลาไปได้บางส่วน แต่ราคาจะสูงกว่ามาก โดยส่วนตัวผมมองว่ารถบัสเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ที่เว็บทางการครับ

1. ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ

ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ (Izumo Grand Shrine) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของญี่ปุ่น โดยอุทิศให้กับเทพเจ้าโอคุนินุชิ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าผู้สร้างเกาะญี่ปุ่น เช่นเดียวกับเป็นเทพเจ้าแห่งความรักและการแต่งงานด้วย

นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าในเดือนสิบของปฏิทินแบบจันทรคติ เทพเจ้าทุกองค์จะมารวมตัวกันที่นี่ ซึ่งทางชาวเมืองจะมีการจัดเทศกาลคามิอาริซุกิ (Kamiarizuki Festival) ที่ยาวนานถึง 7 วันครับ

ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ
by Kapi Ng/ShutterStock

ในบริบททางประวัติศาสตร์แล้วนั้น ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าตัวศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อใด แต่น่าจะก่อนศตวรรษที่ 8 และตามตำนานเล่าว่าศาลเจ้าแห่งแรกนั้นสูงมากถึง 96 เมตร แต่ไม่ได้หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน เพราะชาวญี่ปุ่นมีธรรมเนียมการรื้อถอนแล้วสร้างศาลเจ้าใหม่อยู่เนืองๆ (เหมือนกับที่อิเสะครับ)

อย่างไรก็ดีช่วงศตวรรษที่ 18 ชาวญี่ปุ่นได้ล้มเลิกประเพณีรื้อถอนศาลเจ้าเหมือนกับในอดีต และเปลี่ยนเป็นการบูรณะทุกๆ 60 ปี เพราะฉะนั้นตัวศาลเจ้าหลัก (Honden) ที่เห็นในปัจจุบันจึงสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 ครับ

ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ
by mTaira/ShutterStock

นอกเหนือจากศาลเจ้าหลักแล้ว แต่หอที่จัดว่าโดดเด่นคือหอไฮเด็น (Haiden) ที่มีจุดสังเกตหลักๆ คือมีเชือกสีเหลืองชิเมะนาวะ (Shimenawa) อันเป็นสัญลักษณ์ว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่ที่นี่ หรือเป็นนัยว่าเป็นสถานที่ของทวยเทพครับ

ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ
by stockphoto7/ShutterStock

ทั้งนี้ชาวเมืองอิซุโมะจะมีธรรมเนียมการทำเชือกชิเมะนาวะขนาดใหญ่ ซึ่งจะปรากฏได้ทั่วไปตามศาลเจ้าในพื้นที่แถบนี้ครับ ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการขอคู่ของชาวแดนปลาดิบ

สำหรับใครที่อยากสมหวัง ในตอนที่สักการะคุณจะต้องโค้งคำนับ 2 ครั้ง ปรบมือ 4 ครั้ง (ปรบมือสองครั้งเพื่อตนเอง และอีกสองครั้งเพื่อคู่ครอง) และโค้งคำนับอีก 1 ครั้งเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ
by mTaira/ShutterStock

ใกล้ๆ ยังมีหอที่เก็บรักษาผลงานศิลปะที่คุณสามารถเข้าชมได้ รวมไปถึงถนนคนเดินบริเวณด้านหน้าที่มีร้านค้ามากมายครับ ซึ่งคุณสามารถเดินเล่นก่อนเข้าไปในศาลเจ้าได้ โดยด้านหน้าของศาลเจ้าจะมีประตูโทริอิตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ครับ

ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ
by mTaira/ShutterStock

ทั้งนี้ตัวศาลเจ้าจะอยู่นอกเมือง ดังนั้นคุณจะต้องนั่งรถบัสหรือรถไฟไปจากสถานี Izumoshi Station ซึ่งจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงครับ

2. หาดอินาซะ

หาดอินาซะ (Inasa Beach) เป็นหาดทรายสีขาวที่อยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ ตามตำนานเล่าว่าเหล่าเทพเจ้าที่เดินทางมาที่ศาลเจ้าอิซุโมะจะได้รับการต้อนรับที่นี่ จุดเด่นของที่นี่คือจะมีหิน (หรือภูเขาลูกเล็ก) ชื่อว่าเบนเทนจิมะ (Bentenjima) ตั้งอยู่ริมหาด ซึ่งบนหินจะมีการสร้างประตูโทริอิและศาลเจ้าเล็กๆ ตั้งไว้อยู่ครับ

หาดอินาซะ
by ranmaru/ShutterStock

ในวันแรกของทุกเดือน ศาสนิกชินโตจะมาทำพิธีที่นี่ด้วยการใช้ทัพพีไม้ไผ่ตักน้ำทะเลเพื่อนำไปบูชาที่ศาลเจ้าอิซุโมะครับ พิธีนี้เรียกว่าชิโอะคุมิ (Shio Kumi) สำหรับในช่วงฤดูร้อน ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองครับ

3. วัดกาคุเอ็นจิ

วัดกาคุเอ็นจิ (Gakuenji Temple) เป็นวัดที่ศาสนาพุทธที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6 หรือช่วงแรกที่พุทธศาสนาเผยแผ่มาจากดินแดนเกาหลี ดังนั้นวัดแห่งนี้จึงมีอายุมากกว่าวัดที่เกียวโตหลายร้อยปี โดยในอดีตเคยเป็นวัดหลักของวัดทั้งมวลที่นี่ และเคยมีอารามมากมายตั้งอยู่บริเวณสันเขาครับ

อย่างไรก็ดีในปัจจุบันอาคารส่วนมากพังทลายไปหมดแล้ว เหลือแต่อาคารสำคัญๆ บางหลังที่สร้างขึ้นในยุคหลัง แต่ที่นี่ได้รับความนิยมมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพราะในวัดมีต้นเมเปิ้ลจำนวนมากมาย ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานที่สวยงามยิ่งครับ

4. ประภาคารฮิโนมิซากิ

ประภาคารฮิโนมิซากิ (Hinomisaki Lighthouse) เป็นประภาคารที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีสูงถึงเกือบ 44 เมตร และมีเอกลักษณ์คือสร้างจากหินสีขาวสะอาด ทั้งนี้คุณสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ ซึ่งจะเห็นวิวแบบพาโนรามาของท้องทะเลโดยรอบครับ สำหรับในช่วงเย็นนั้น วิวพระอาทิตย์ตกดินจากที่นี่จะสวยงามมากครับ

ประภาคารฮิโนมิซากิ

ใกล้กับประภาคารมีศาลเจ้าฮิโนมิซากิที่อุทิศให้กับเทพีอามาเตระสุ (Amaterasu) เพื่อขอให้องค์เทพปกปักรักษาแผ่นดินญี่ปุ่นในช่วงกลางคืน ซึ่งคุณสามารถไปสักการะเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยได้

5. Shimane Museum of Ancient Izumo

Shimane Museum of Ancient Izumo เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าประวัติความเป็นมาของเมืองโบราณอิซุโมะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ รวมไปถึงจัดแสดงโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นส่วนที่เหลืออยู่ของเสาโบราณที่น่าจะทำหน้าที่ค้ำยันศาลเจ้าหลังเดิมครับ

แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือแบบจำลองศาลเจ้าอิซุโมะหลังเดิมๆ ที่อ้างอิงจากหลักฐานต่างๆ รวมไปถึงการคาดคะเนของนักประวัติศาสตร์ครับ

6. Kyu Taisha Station

Kyu Taisha Station เป็นสถานีรถไฟเดิมที่รับผู้แสวงบุญจากทุกสารทิศที่เดินทางไปสักการะศาลเจ้าอิซุโมะ ตัวศาลเจ้าสร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมแบบพื้นเมืองของญี่ปุ่นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อันเป็นช่วงที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้สร้างอาคารของรัฐแทบทุกแห่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทโชครับ

Kyu Taisha Station

ตัวสถานีใช้วัสดุก่อสร้างเป็นไม้ทั้งหลัง และยังหลงเหลือโครงสถานีแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ขายตั๋วรถไฟ หอรับรองสำหรับเชื้อพระวงศ์และบุคคลทั่วไป ฯลฯ

7. ชิมอาหารพื้นเมือง

อิซุโมะเป็นเมืองที่มีอาหารท้องถิ่นที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Izumo Soba เส้นโซบะสูตรพิเศษที่มีสีคล้ำกว่าปกติ เพราะในขั้นตอนการทำนั้นจะบดตัวเมล็ดพร้อมเปลือกนอก ในการทานนั้นมีให้เลือกทั้งแบบร้อนและเย็น ซึ่งรสชาติดีทั้งสิ้นครับ

Izumo soba
by sanamoo/ShutterStock

ในส่วนของเนื้อสัตว์นั้น พระเอกของรายการย่อมเป็นเนื้อชิมาเนะ (Shimane Beef) เนื้อวากิวที่มีที่มาจากจังหวัดชิมาเนะ ในอดีตเนื้อชิมาเนะจำนวนมากถูกส่งไปยังเมืองท่าโกเบ และส่งออกในชื่อเนื้อโกเบ ดังนั้นเรื่องคุณภาพนั้นไม่มีคำถามเลยครับ นอกจากนี้ด้วยความที่ตัวเมืองติดทะเล คุณภาพของอาหารทะเลจึงไม่เป็นสองรองใครเช่นเดียวกัน

สำหรับเมนูของหวานนั้น เมนูอย่าง Izumo Zenzai ได้รับความนิยมสูงยิ่ง โดยเมนูนี้จะเป็นซุปถั่วแดงรสหวานที่ทานคู่กับดังโงะหรือโมจิครับ

References

  • Visit Izumo
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!