ไคคูร่า (Kaikoura) เป็นเมืองริมทะเลที่อยู่ในภูมิภาค canterbury บนเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ โดยตั้งอยู่ห่างจากไครสต์เชิร์ชไปทางเหนือประมาณ 181 กิโลเมตร ตัวเมืองมีชื่อเสียงไปทั่วโลกเนื่องจากอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งวาฬ และโลมา ทำให้เป็นสถานที่ชมวาฬที่ไม่แพ้ที่ใดในโลกครับ
อย่างไรก็ดีไคคูร่าไม่ได้มีดีเฉพาะสัตว์ทะเลเท่านั้น จากที่ได้ไปเยือนมาแล้ว ผมมองว่าเมืองนี้สวยเป็นอันดับต้นๆ ของนิวซีแลนด์เลยครับ ซึ่งสื่อท่องเที่ยวชั้นนำของโลกอย่าง CN Traveler ก็ดูเหมือนว่าจะเห็นด้วยเช่นกัน
ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำความเป็นมาของเมืองคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่อไปครับ
รู้จักไคคูร่า (Kaikoura)
ชาวเมารี ชาวพื้นเมืองของนิวซีแลนด์นั้นอาศัยอยู่ในไคคูร่ามาเป็นเวลานานแล้ว โดยพวกเขาเดินทางมาที่นี่เพื่อล่านกโมอา (Moa) นกขนาดใหญ่ที่บินไม่ได้ซึ่งปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว รวมไปถึงเป็นสมรภูมิสู้รบระหว่างชาวเมารีเผ่าต่างๆ จวบจนถึงช่วงศตวรรษที่ 19 เลยครับ
ชาวยุโรปได้เข้ามาพื้นที่แถบนี้ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดยมาตั้งสถานีล่าวาฬขึ้นที่นี่ เพราะคาบสมุทรบริเวณนี้มีวาฬสเปิร์มจำนวนมากมาย ซึ่งสถานีล่าวาฬนี้เองได้ถูกพัฒนาเป็นท่าเรือ ชุมชน และเป็นเมืองขนาดเล็กขึ้นในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดีอุตสาหกรรมล่าวาฬก็เสื่อมโทรมลงไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพราะประชากรวาฬที่ลดลงไปอย่างมากครับ
หลังจากนั้นไคคูร่าก็ได้ถูกชาวยุโรปเขามาซื้อที่ดินแล้วเปลี่ยนเป็นฟาร์มแกะ และรัฐบาลนิวซีแลนด์เองก็ได้ให้มีการสร้างทั้งถนนและทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่บริเวณนี้เข้ากับส่วนอื่นของประเทศครับ
อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจของเมืองซบเซาในช่วงทศวรรษ 70-80 รัฐบาลและชาวเมืองจึงเปลี่ยนที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเริ่มแรกก็เริ่มทำการตลาดในส่วนของวิวทิวทัศน์ก่อน ซึ่งสวยงามมากเพราะว่าแนวภูเขาหิมะ Kaikoura Range นั้นบรรจบกับมหาสมุทรแปซิฟิกครับ
หลังจากนั้นก็เริ่มจัดทัวร์ดูวาฬและสัตว์ทะเล การตลาดประสบความสำเร็จอย่างมาก และทำให้ไคคูร่ากลายเป็นสถานที่ดูวาฬอันดับต้นๆ ของโลกมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี 2016 ได้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองไคคูร่า ทำให้ตัวเมืองถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แต่ตัวเมืองก็ได้ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาและกลายเป็นเมืองที่สวยงดงามเช่นเดิมครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองไคคูร่าทำอย่างไร?
วิธีการที่นิยมที่สุดคือเช่ารถแล้วขับจากไครสต์เชิร์ชไปยังเมืองไคคูร่าโดยตรง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ ตลอดเส้นทางวิวจะสวยมากๆ เลยครับ
อย่างไรก็ดีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจก็มีเช่นกัน อย่างเช่น
Coastal Pacific Train – รถไฟที่เชื่อมระหว่างไครสต์เชิร์ชและพิคตัน (Picton) ซึ่งจะแวะจอดที่เมืองไคคูร่าด้วย ทางรถไฟสายนี้เป็นทางรถไฟชมวิวโดยจะลัดเลาะไปตามชายฝั่ง อย่างไรก็ดีรถไฟจะให้บริการช่วงปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนเมษายนเท่านั้น ช่วงฤดูหนาวของนิวซีแลนด์จะไม่มีให้บริการครับ ราคาไปกลับจะอยู่ที่ 228 NZD ครับ
รถบัส – ในกรณีที่คุณอยากใช้บริการของขนส่งสาธารณะ คุณสามารถใช้บริการรถบัสของ InterCity ได้ครับ ราคาจะถูกก่ารถไฟอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะอยู่ที่ประมาณ 60 NZD ครับ แต่ข้อเสียก็คือคุณจะต้องเช่ารถอีกต่อถ้าอยากจะไปจุดอื่นๆ ในเมืองที่เดินไม่ถึง
ซื้อทัวร์ – ทางเลือกสุดท้ายคือการซื้อทัวร์ดูวาฬซึ่งรวมบริการรับส่งจากไครสต์เชิร์ช และเที่ยวแลนด์มาร์กสำคัญๆ อื่นๆ ด้วย โดยมากแล้วทัวร์จะเป็นทัวร์เต็มวัน ซึ่งผมเคยลองใช้บริการแล้วถือว่าง่ายดายและสะดวกสบายครับ เพราะไกด์จะมารับถึงโรงแรมเลย และไม่ต้องเหนื่อยขับรถด้วย
ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวไคคูร่า โปรดตรวจสอบที่ต้นทางก่อนจองครับ เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้
1. ดูวาฬ
กิจกรรมอันดับ 1 ที่ห้ามพลาดเมื่อนักท่องเที่ยวทุกคนเดินทางไปยังไคคูร่าก็คือการดูวาฬ (Whale Watching) วาฬที่อยู่ในน่านน้ำของเมืองไคคูรานั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ อย่างเช่นวาฬสเปิร์ม หรือวาฬหลังค่อมครับ
การดูวาฬจะมีหลักๆ อยู่สองแบบ นั่นคือนั่งเรือออกไปดู หรือนั่งเครื่องบินเล็กออกไปดูครับ
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าการนั่งเรือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะว่าคุณจะได้เห็นวาฬอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเห็นมันพ่นน้ำหรือท่าทางต่างๆด้วย ต่างจากการนั่งดูบนเครื่องบินที่ผมเคยนั่งมาแล้วที่จะเห็นแค่ช่วงบนของวาฬเท่านั้นเองครับ
อย่างไรก็ดีการนั่งเรือออกไปนั้นจะมีเรื่องดวงมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะมีความเสี่ยงที่คุณไม่เห็นวาฬเลยสักตัวเดียว (ทางเว็บทางการบอกว่าประมาณ 5% ที่จะไม่เจอวาฬ) แต่ถ้าขึ้นเครื่องบินนั้นจะเห็นแน่ๆ แถมยังเห็นวิวมุมสูงของไคคูร่าที่ผมมองว่าสวยแบบลืมหายใจเลยทีเดียวครับ
ค่าใช้จ่ายแบบนั่งเรือจะอยู่ที่ 165 NZD ส่วนเครื่องบินจะอยู่ที่ 225 NZD ครับ
2. Kaikoura Peninsula Walkway
สำหรับใครที่รักการเดินชมวิว การเดินตามเส้นทาง Kaikoura Peninsula Walkway เป็นสิ่งที่คุณพลาดไม่ได้ ตัวเส้นทางจะเดินตลอดทางจากตัวเมืองไคคูร่าก็ได้ หรือถ้าจะเอาแบบสะดวกและประหยัดเวลาก็ขับรถไปเริ่มที่ Point Kean Viewpoint จุดชมวิวที่จะเห็นภูเขาหิมะบรรจบกับมหาสมุทรครับ
นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีแมวน้ำให้ชมเป็นจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถยืนดูวิถีชีวิตของพวกมันได้แบบยาวๆ เลยครับ
หลังจากนั้นคุณสามารถเดิน (ออกจากเส้นทางหลัก) ไปยังจุดชมวิวที่ชื่อ Whalers Bay viewpoint ได้ซึ่งไม่ไกลนัก (ประมาณ 1.5 กิโลเมตร) แต่ถ้าอยากประหยัดเวลาก็เดิน (หรือขับรถ) มุ่งหน้าไปยัง South Bay Viewpoint เพื่อจบเส้นทางเลยครับ
ทว่าจุดเด่นของที่นี่ (และที่อื่นๆในนิวซีแลนด์) คือที่จุดชมวิวอาจจะไม่ได้สวยที่สุด แต่จะเป็นสองข้างทางระหว่างทางครับ ซึ่งถ้าสุขภาพร่างกายของคุณพร้อม ผมแนะนำอย่างยิ่งให้เดินครับ
ถ้าคุณอยากได้เส้นทางที่ยากขึ้นไปอีก คุณอาจจะลอง Mount Fyffe Summit Track ที่จะใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 8 ชั่วโมงไปกลับ ซึ่งจะนำคุณไปพิชิต Mount Fyffe หนึ่งในยอดเขาที่เป็นส่วนของ Seaward Kaikoura Range ครับ
3. ว่ายน้ำกับโลมา
นอกเหนือจากวาฬแล้ว ไคคูร่ายังมีฝูงโลมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางคุณสามารถลงไปทำกิจกรรมร่วมกับมันได้ โดยกิจกรรมที่ยอดนิยมที่สุดก็คือการลงไปว่ายน้ำกับโลมาสายพันธุ์ดัสกี้ (Dusky Dolphins) และสัมผัสกับวิถีชีวิตของพวกมันที่อาศัยในท้องทะเลแบบธรรมชาติครับ (แต่ไม่ควรไปแตะต้องตัวมันครับ)
แต่สำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่แข็งแรงนัก คุณอาจจะเลือกนั่งเรือชมโลมาได้เช่นกันครับ ซึ่งโลมาทั้งฝูงจะมาแหวกว่ายให้คุณชมรอบๆ เรือเลยครับ
สำหรับสนนราคาของการว่ายน้ำกับโลมาจะอยู่ที่ 220 NZD ส่วนดูในเรืออยู่ที่ 110 NZD ครับ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Dolphin Encounters
4. พายเรือคายัค
สำหรับใครชอบพายเรือ ไคคูร่าอาจเรียกได้ว่าเป็นแดนสวรรค์ของคุณเลยก็ว่าได้ เพราะทัศนียภาพที่สวยงาม (โดยเฉพาะช่วงตะวันตกดิน) และเต็มไปด้วยสัตว์ทะเลจำนวนมาก ตั้งแต่แมวน้ำ นกเพนกวิน โลมา ไปจนถึงวาฬ ซึ่งคุณอาจจะได้เห็นโลมากระโดดขึ้นเหนือน้ำหน้าเรือของคุณเลยครับ
การพายเรือนี้จะไม่ใช่การเช่าเรือแล้วพายไปตามลำพัง แต่เป็นการพายโดยมีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลไปด้วยครับ ดังนั้นมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้เลยในระดับหนึ่ง
เวลาที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนค่าบริการอยู่ที่ 140 NZD ครับ
5. ชมนก Albatross
ไคคูร่าเป็นสถานที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของนก Albatross นกสีขาวที่สยายปีกบินอย่างสง่างามเหนือท้องทะเล ซึ่งไม่ได้ห่างไปจากชายฝั่งมากนัก ทำให้ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสถานที่ชมนกชนิดนี้ที่ดีที่สุด
ทางเมืองไคคูร่าก็มีผู้ให้บริการที่นำคุณออกไปชมพวกมันได้อย่างชัดๆ เช่นเดียวกันครับ โดยทัวร์นี้จะใช้เวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง ไกด์ของคุณจะโยนอาหารของมัน (เนื้อปลา) ลงไปในทะเล เพื่อให้คุณเห็นมันโฉบลงมาแบบชัดๆ จากเรือของคุณครับ ค่าบริการจะอยู่ที่ 165 NZD ครับ
6. Lavendyl Lavender Farm
Lavendyl Lavender Farm เป็นฟาร์มดอกลาเวนเดอร์ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองไคคูร่าไปประมาณ 7 กิโลเมตร แม้ว่าตัวสวนอาจจะไม่ได้ใหญ่เหมือนกับที่ฟุราโนะในญี่ปุ่น แต่ก็มีกิจกรรมให้ทำเพียบ ตั้งแต่ชิมไอศกรีมลาเวนเดอร์ (Myra แบรนด์ไอศกรีมลาเวนเดอร์ชื่อดังนั้นมีต้นกำเนิดจากที่นี่) ไปจนถึงชมสัตว์ในฟาร์ม และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แบบ homemade อีกหลายชนิดครับ
ที่นี่เปิดให้เข้าชมได้เกือบตลอดทั้งปี ยกเว้นวันหยุดอย่างวันคริสต์มาสครับ
7. ขี่จักรยานและรถ 4WD
สำหรับใครที่ชมขับรถและอยากได้กิจกรรมที่เร้าใจทางบก ไคคูร่ามีผู้ให้บริการที่นำคุณไปขี่จักรยานเสือภูเขา หรือว่ารถ 4 WD ตะลุยไปตามเส้นทางวิบาก แต่วิวสองข้างทางนั้นจะเป็นมิตรกับสายตามากๆ เพราะว่าสวยงามตระการตาอย่างยิ่ง ตลอดเส้นทางคุณจะได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องหลงทางครับ
ในส่วนของรถ 4WD ค่าบริการจะอยู่ที่ 169 NZD ครับ
8. ชิมซีฟู้ด
ท้ายที่สุดสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการคือการรับประทานซีฟู้ด เพราะซีฟู้ดของที่นี่สดมาก คุณอาจจะรับประทานเป็น Fish & Chips, BBQ หรือว่าแบบอื่นๆ ก็ได้ครับ
อย่างไรก็ดีจากที่ผมเคยรับประทานมาแล้ว ผมมองว่าที่นี่เค้าจะปรุงอาหารค่อนข้างจืด คุณอาจจะซื้อแบบ takeaway ออกมาแล้วเอามาราดน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เตรียมไปเอง รับรองว่าฟินสุดๆ ครับ
References
- Kaikoura Official Travel Site
- Newzealand.com (Kaikoura Article)
- Dolphin Encounters
- Albatross Encounter