คาวาโกเอะ (Kawagoe) เป็นเมืองที่ในจังหวัดไซตามะที่มีเมืองเก่าอันสวยงาม และอยู่ใกล้โตเกียวมาก (ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น) ทำให้เมืองนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
ในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับคาวาโกเอะกันอย่างคร่าวๆ ก่อน หลังจากนั้นจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปครับ
รู้จักคาวาโกเอะ (Kawagoe)
คาวาโกเอะเป็นเมืองเก่าแก่อายุหลายร้อยปี แต่เดิมตัวเมืองไม่ได้มีความสำคัญเท่าใดนัก แต่เมื่อเมืองได้กลายเป็นเมืองปราสาทในช่วงศตวรรษที่ 15 ก็ได้กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเขตคันโตไปโดยปริยาย
ช่วงศตวรรษที่ 15 ถึงต้นศตวรรษที่ 16 คาวาโกเอะอยู่ในการปกครองของตระกูลใหญ่อย่างตระกูลอุเอะสึกิ แต่เมื่อตระกูลโฮโจแผ่อำนาจเข้ามาก็ได้สู้รบกันอย่างรุนแรง จนตระกูลอุเอะสึกิเสียคาวาโกเอะไปในปี ค.ศ.1537
เมื่อสูญเสียคาวาโกเอะไป ตระกูลอุเอะสึกิจึงตกที่นั่งลำบาก ทำให้ต้องทุ่มกำลังทหารจำนวนมหาศาลเพื่อเข้าตีคาวาโกเอะกลับคืน จนเกิดเป็นศึกใหญ่ชื่อยุทธการแห่งคาวาโกเอะ (Battle of Kawagoe) ซึ่งมีชื่อเสียงในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
กองทัพฝ่ายอุเอะสึกิมีทหารถึง 80,000 นาย ส่วนฝ่ายโฮโจที่อยู่ในปราสาทมีเพียง 3,000 นายเท่านั้น และมีกองทัพช่วยเหลืออยู่ด้านนอกอีก 8,000 นาย แต่ฝ่ายโฮโจกลับได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด เพราะการซุ่มโจมตีจากทั้งสองด้านในช่วงเวลากลางคืนครับ
หลังจากนั้นตระกูลโฮโจได้ใช้คาวาโกเอะเป็นสถานที่มั่นป้องกันเมืองเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) และโอดาวาระ ฐานที่มั่นหลักของพวกตน
อย่างไรก็ดีตระกูลโฮโจพ่ายแพ้ต่อฮิเดโยชิในช่วงปี ค.ศ.1590 ทำให้อำนาจในพื้นที่แถบนี้หมดลง คาวาโกเอะจึงถูกยกให้เป็นของตระกูลโตกุกาวะ ผู้ที่ได้ปกครองญี่ปุ่นในฐานะโชกุนในเวลาต่อมา
ในสมัยเอโดะ โชกุนโตกุกาวะได้มอบหมายให้เหล่าฟุไดไดเมียว ซึ่งเป็นตระกูลไดเมียวที่พวกตนใกล้ชิดที่สุดนำไปปกครอง โดยตระกูลที่ได้ปกครองคาวาโกเอะนานที่สุดคือตระกูลมัตสึไดระ (Matsudaira Clan) ครับ
ช่วงนี้เป็นช่วงที่คาวาโกเอะมั่งคั่งทั้งด้านการค้าและการชนส่งระหว่างเมือง ซึ่งทำให้ตัวเมืองได้รับสมญาว่าเป็นเอโดะน้อย (Little Edo, Koedo) ครับ
ในช่วงยุคเมจิ คาวาโกเอะต้องเผชิญเหตุการณ์ใหญ่สองครั้ง ครั้งแรกคือการรื้อถอนปราสาทคาวาโกเอะ ซึ่งเกิดขึ้นจากนโยบายต่อต้านระบอบเก่าในสมัยนั้นกับไฟไหม้ใหญ่ในปี ค.ศ.1893 ที่ได้ทำลายอาคารยุคเอโดะไปอย่างมากมายเลยครับ
อย่างไรก็ดีช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โชคดีที่คาวาโกเอะได้รับความเสียหายน้อยมาก (ต่างจากโตเกียวที่แทบไม่ต่างอะไรกับเถ้าถ่าน) ทำให้ย่านเมืองเก่าที่สร้างขึ้นด้วยวิธีการก่อสร้างแบบคุระ (Kura) ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบันครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) ทำอย่างไร?
รถไฟ – จากโตเกียว คุณสามารถนั่งรถไฟขบวน Limited Express Koedo หรือ Express ตามสาย Seibu Shinjuku Line มายังสถานี Hon-Kawagoe ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาทีครับ แต่เวลาขึ้นรถไฟ ต้องไปขึ้นที่สถานี Seibu Shinjuku Station ไม่ใช่ที่ JR Shinjuku Station ครับ (อยู่ในย่านชินจูกุเหมือนกันแต่ห่างกันประมาณ 5 นาที)
อีกวิธีหนึ่งคือนั่ง Tobu Tojo Line จากสถานี Ikebukuro ไปลงสถานี Kawagoeshi ครับ ราคาจะถูกกว่าของ Seibu เล็กน้อย เวลาที่ใช้บนรถไฟจะน้อยกว่านิดนึง แต่พอถึงที่หมายแล้วจะเดินไปที่เที่ยวไกลกว่าพอสมควรครับ
เช่ารถขับ – สำหรับใครที่เช่ารถมาแล้ว แน่นอนว่าคุณสามารถขับมาเที่ยวคาวาโกเอะได้โดยตรง ระยะทางจะอยู่ที่ประมาณ 40 กิโลเมตรครับ
ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก JNTO รวมไปถึง Koedo Kawagoe ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวคาวาโกเอะ โปรดตรวจสอบที่ต้นทางให้ดีก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนได้ครับ
การสัญจรในเมืองคาวาโกเอะทำอย่างไร
โดยมากแล้วคุณสามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งโดยใช้ระบบรถประจำทาง ครับ แต่ถ้าอยากเร็วและได้ความเป็นส่วนตัวก็เลือกใช้แท็กซี่ได้เช่นกัน ส่วนอีกหนึ่งพาหนะที่นักท่องเที่ยวนิยมคือการเช่าจักรยานครับ
ที่พัก
การพักที่คาวาโกเอะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะที่พักถูกกว่าในโตเกียว และเปิดกว้างให้คุณสัมผัสตัวเมืองเก่าในยามค่ำคืน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาล Kawagoe Festival) ในกรณีที่คุณยังไม่ได้จองที่พัก ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักในคาวาโกเอะน่าจองเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
1. วัดคิตาอิน
วัดคิตาอิน (Kitain Temple) เป็นวัดในนิกายเทนได (Tendai Sect) หรือนิกายวัชรยานในศาสนาพุทธแบบญี่ปุ่นครับ ตัววัดสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 9 ทำให้มีอายุมากกว่า 1,200 ปีเข้าไปแล้ว
ตัววัดนั้นถือว่าเป็นมรดกอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของคาวาโกเอะ เพราะอาคารหลายแห่งในวัดคิตาอินนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทเอโดะมาก่อน ซึ่งโชกุนโตกุกาวะบริจาคให้ตัววัดหลังจากที่วัดโดนไฟไหม้ใหญ่ในช่วงศตวรรษที่ 17
อาคารเหล่านี้จึงรอดพ้นจากทั้งแผ่นดินไหวใหญ่เขตคันไตในปี ค.ศ.1923 ตลอดจนช่วงสงครามโลกครั้งที่สองครับ
ปัจจุบันอาคารเหล่านี้คือ Guest Hall และ Shoin ซึ่งห้องแรกนั้นมีความสำคัญเพราะเป็นห้องที่โชกุนโตกุกาวะ อิเอมิสึลืมตาดูโลกครับ
อีกหนึ่งจุดที่มีความสำคัญมากและพลาดชมไม่ได้คือ Senba Toshogu Shrine ซึ่งเป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าโทโชงุที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น เพราะที่นี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำพิธีให้กับร่างของโตกุกาวะ อิเอยาสึก่อนที่จะร่างของเขาจะถูกนำไปฝังที่เมืองนิกโก้ครับ
ตัวศาลเจ้าได้รับการตบแต่งอย่างสวยงามอลังการ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่อีกหนึ่งแห่งที่แสดงถึงศิลปกรรมเอโดะอันงดงามครับ
ท้ายที่สุดภายในวัดคิตาอินมีรูปปั้นพระอรหันต์เรียงรายกันไป 538 องค์ (บ้างว่า 540) แต่มีรูปร่างหน้าตา และอยู่ในท่าทางที่ต่างกันด้วย จุดนี้เรียกว่า Gohyaku Rakan ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันครับ
2. พระราชวังฮอนมารุ
พระราชวังฮอนมารุ (Honmaru Palace) หรือ ฮอนมารุโกเต็น (Honmaru Goten) เป็นอาคารหลังเดียวที่หลงเหลืออยู่จากปราสาทคาวาโกเอะที่โดนรื้อถอนในช่วงปี ค.ศ.1870 แต่ตัวพระราชวังนี้ไม่ใช่ของเดิมสมัยศตวรรษที่ 15 ครับ แต่เป็นอาคารที่สร้างเพิ่มไปในช่วงปี ค.ศ.1848
ด้านในพระราชวังไม่ได้ตบแต่งอย่างหรูหราอะไรนัก แต่ก็มีความสวยงามตามสถาปัตยกรรมเอโดะ ในห้องได้รับการปูเสื่อทาทามิอย่างดี และจัดแสดงภาพเขียนญี่ปุ่นที่สวยงามครับ
3. ย่านคุระสุคุริ
ย่านคุรุะสุคุริ (Kurazukuri Townscape) เป็นย่านเมืองเก่าอันสวยงามของคาวาโกเอะ ตัวถนนสร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยมีอาคารแบบญี่ปุ่นในสไตล์ดั้งเดิมเรียงรายกันไปสองข้างทาง และจุดนี้เองที่เป็นย่านการค้าหลักที่เฟื่องฟูของเมืองครับ
โชคร้ายที่บ้านแบบเอโดะถูกทำลายไปเกือบหมดในช่วงไฟไหม้ใหญ่ อาคารที่เห็นในปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ครับ
แลนด์มาร์กที่คุณพลาดไม่ได้คือ หอระฆัง (โทกิ โนะ คาเนะ) – หอสูงอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคาวาโกเอะ หน้าที่ของมันคือใช้บอกเวลาในอดีตกาลครับ ปัจจุบันหอแห่งนี้ก็ยังใช้บอกเวลาอยู่ โดยจะมีการสั่นระฆัง 4 ครั้งด้วยกัน
ปัจจุบันบ้านโบราณในเขตนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้าและร้านอาหาร ซึ่งคุณสามารถจับจ่ายซื้อของฝาก รวมไปถึงลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศแบบดั้งเดิมได้ ถ้าคุณหลงรักวัฒนธรรมญี่ปุ่น แน่นอนว่าไม่ควรพลาดมาเยี่ยมเยือนที่นี่ครับ
ในช่วงวันหยุดของสัปดาห์ที่สามในเดือนตุลาคม ย่านคุระสุคุริจะมีจัดงานเทศกาลคาวาโกเอะ (Kawagoe Festival) ซึ่งเป็นเทศกาลรถแห่คล้ายกับที่ทาคายาม่าครับ ถ้าคุณไปเที่ยวคาวาโกเอะในช่วงดังกล่าว อย่าลืมไปชมด้วยละครับ
4. ถนนคาชิยะโยโคโจ
ถนนคาชิยะโยโคโจ (Kashiya Yokocho) เป็นย่านที่มีร้านขนมหวานเรียงรายกันไปถึง 30 แห่งทั้งสองฟากของถนน ทำให้ที่นี่ได้สมญาว่าเป็น Candy’s alley แห่งเมืองคาวาโกเอะครับ
ขนมที่มีขายที่นี่มีตั้งแต่ลูกอมไปจนถึงขนมพื้นบ้านของญี่ปุ่น ซึ่งมีหลากหลายชนิดให้เลือกชิมครับ กระบวนการทำขนมเหล่านี้ยังเป็นแบบดั้งเดิมที่คุณสามารถชมได้
5. ถนนไทโช-โรมัน
ถนนไทโช-โรมัน (Taisho-Roman Street) เป็นถนนที่สร้างขึ้นหลังจากไฟไหม้ใหญ่ โดยมีอาคารยุคไทโชและโชวะเรียงรายกันไปตามข้างทาง
จุดนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับกองถ่ายภาพยนตร์ย้อนยุคของญี่ปุ่นครับ
6. วัดและศาลเจ้าต่างๆ
คาวาโกเอะมีวัดและศาลเจ้าอยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีอายุหลายร้อยปี หรือแม้กระทั่งหนึ่งพันปี และมีสตอรี่ที่น่าสนใจ (ของสายมู) อีกด้วย อย่างเช่น
ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮาจิมันกุ (Kawagoe Hachimangu Shrine) – ศาลเจ้าที่มินาโมโตะ โน โยริโนบุมาไหว้ก่อนออกศึกแล้วได้ชัยชนะ ทำให้หลังจากนั้นเป็นที่เคารพนับถือสักการะโดยนักกีฬาที่เข้าแข่งขันกีฬา หรือว่านักเรียนที่กำลังจะเข้าสู่สนามสอบครับ
ศาลเจ้าฮิกาวะ (Hikawa Shrine) – ศาลเจ้าที่มีประตูโทริอิไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น บริเวณสองข้างทางมีต้น zelkova ที่มีอายุมากถึง 500 ปีตั้งอยู่ครับ ตัวศาลเจ้าอุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งการแต่งงาน และครอบครัว ชาวญี่ปุ่นมักจะมาขอพรให้บุตรหลานเรียนดีๆ และปลอดภัยจากอุบัติเหตุกันที่นี่ครับ
วัดเรนเคจิ (Renkeiji Temple) – วัดซึ่งชาวเมืองเชื่อว่าถ้าได้ขอพรที่นี่แล้วสิ่งที่คุณอยากได้จะเป็นจริง เพราะประดิษฐานเทพมังกรที่ช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาและมักช่วยให้พวกเขาสมปรารถนาที่สิ่งที่ต้องการครับ
7. ชมซากุระ
บริเวณเมืองคาวาโกเอะมีจุดชมซากุระที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง อย่างเช่น
ริมแม่น้ำชิกาชิใกล้กับศาลเจ้าฮิกาวะ – จุดนี้น่าจะมีชื่อเสียงที่สุดของคาวาโกเอะ โดยคุณสามารถล่องเรือพาย และชมซากุระไปสองฝั่งของแม่น้ำชินกาชิ (Shingashi River) ได้ครับ (แต่อาจจะต้องจองล่วงหน้านานหน่อย เพราะเต็มไวมาก)
สวนอิซะนุมะ (Isanuma Park) – สวนสวยที่มีซากุระให้ชมพอสมควรในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ในช่วงฤดูร้อนจะเปลี่ยนเป็นดอกบัวแทนครับ
สวนคาวาโกเอะ (Kawagoe Water Park หรือ Kawagoe Suijokoen) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิรุมะ ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่ยอดเยี่ยมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะสองข้างทางเดินจะล้อมรอบไปด้วยต้นซากุระเลยครับ หรือว่าจะมาชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็ได้เช่นกัน
ข้อดีของที่นี่คือมีให้ชมเป็นระยะเวลานาน เพราะมีสายพันธุ์อย่างยาเอซากุระที่จะบานช้าครับ ทำให้ช่วงปลายเดือนเมษายนยังจะพอไปชมได้ครับ
8. จัดเต็มของอร่อย
ด้วยความที่เป็นเมืองเก่าแก่ คาวาโกเอะจึงมีวัฒนธรรมอาหารที่เลื่องลือ เมนูที่คุณไม่ควรพลาดได้แก่
- อุนางิด้ง – ข้าวหน้าปลาไหลนั้นเป็นสุดยอดเมนูของคาวาโกเอะ ปลาไหลย่างด้วยซอสศูตรลับของที่นี่นั้นมีชื่อเสียงระบือไกลมานานหลายร้อยปี ใครชอบเมนูนี้คือห้ามพลาดเลยครับ
- มันหวาน – คาวาโกเอะมีชื่อเสียงมากเรื่องมันหวาน ซึงมีให้ลองชิมทั้งรูปแบบของหวานไปจนถึงโซบะครับ
References
- JNTO Kawagoe Area Article
- Koedo Kawagoe Official Site