5 ที่เที่ยวคาวาซากิ (Kawasaki) และกิจกรรมน่าสนใจไม่ควรพลาด

คาวาซากิ (Kawasaki) เป็นเมืองในจังหวัดคานากาวะที่ตั้งอยู่ระหว่างสองเมืองขนาดยักษ์ของญี่ปุ่น อย่างกรุงโตเกียวและโยโกฮาม่า ในช่วงหลังนั้นตัวเมืองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มมากขึ้นของกรุงโตเกียว ปัจจุบันคาวาซากินั้นมีประชากรมากกว่า 1,500,000 คนเลยครับ

แม้ว่าในเรื่องความเป็นท่องเที่ยวนั้น คาวาซากินั้นสู้โตเกียวหรือโยโกฮาม่าไม่ได้เลย ทว่าไม่ใช่ว่าเมืองแห่งนี้จะไม่มีอะไรที่น่าสนใจ เพราะฉะนั้นในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักเมืองคาวาซากิโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักเมืองคาวาซากิ (Kawasaki)

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้วนั้น เมืองคาวาซากิมีผู้อยู่อาศัยมายาวนานแล้ว ก่อนยุคนารานั้น คาวาซากิได้เริ่มเป็นเมืองโดยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโบราณชื่อจังหวัดมูซาชิ (Musashi Province)

ต่อมาในสมัยเฮอัน (เมืองหลวงอยู่ที่เกียวโต) พื้นที่บริเวณนี้ถูกในการครอบครองของตระกูลอินาเกะ และได้กลายสภาพเป็นพื้นที่รองรับผู้แสวงบุญที่เดินทางข้ามแนวภูเขาอันสูงชันไปยังวัดเฮอิเคนจิที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ต่อมาในช่วงยุคเซ็นโกกุ ตระกูลโฮโจที่เรืองอำนาจในเขตคันโตได้พื้นที่ส่วนนี้เป็นสิทธิ์ขาดของตนครับ

ช่วงสมัยเอโดะเป็นช่วงที่เมืองคาวาซากิได้กลายสภาพเป็นเมืองที่พักริมทางสำหรับนักเดินทางที่ใช้ทางหลวงเส้นหลักของญี่ปุ่น แต่ก็ยังไม่ได้รุ่งเรืองหรือมีความสำคัญเท่ากับเมืองอย่างคาวาโกเอะครับ

ยุคที่คาวาซากิเริ่มรุ่งโรจน์ขึ้นมาคือยุคเมจิ เพราะเป็นเมืองแห่งแรกๆ ที่มีทางรถไฟ ทำให้ตัวเมืองทวีความสำคัญขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวเมืองจึงถูกทิ้งระเบิดอยู่บ้าง แต่ไม่หนักหนามากนักถ้าเทียบกับแห่งอื่นๆ ครับ

การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดของญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชากรในคาวาซากิเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวและโยโกฮาม่า และเดินทางไปไม่ยากด้วยรถไฟ ทำให้คาวาซากิเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับชาวญี่ปุ่นที่ไม่อยากจะจ่ายค่าเช่าห้องราคาแพง พื้นที่ของเมืองจึงขยายออกไปโดยมีหลายส่วนที่กลายเป็นอาคารบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยของครอบครัวชาวญี่ปุ่นครับ

ข้อควรทราบ

1. พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ

แม้ว่าจะไม่ใช่สถานที่สำคัญอันดับต้นๆ ของเมือง แต่สำหรับชาวไทยจำนวนมากที่อ่านมังงะ หรือดูอนิเมะโดราเอมอนมาตั้งแต่เด็กแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่แห่งที่ไม่มาไม่ได้ครับ

พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ (Fujiko F Fujio) หรือพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดในปี ค.ศ.2011 เพื่อจัดแสดงผลงานของอาจารย์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ (หรือชื่อจริงว่าฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีซอย่างโดราเอมอนครับ

ด้านในจะมีสิ่งจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับผลงานของนักเขียนผู้นี้กว่า 50,000 ชิ้นด้วยกัน รวมไปถึงโต๊ะทำงานของอาจารย์ไปจนถึงรูปปั้นโดราเอมอน โนบิตะ และตัวละครต่างๆ ที่เป็นผลงานของอาจารย์อีกมากมาย เช่นเดียวกับฉากต่างๆ ในมังงะ/อนิเมะโดราเอมอนนอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ตอนพิเศษที่ไม่สามารถหาดูที่ไหนได้ให้ดูอีกด้วยครับ

ท้ายที่สุดคุณอาจจะไปหาอะไรทานที่คาเฟ่ที่มีโดรายากิ ขนมที่โดราเอมอนโปรดปรานที่สุด รวมไปถึงซื้อของที่ระลึกด้วยครับ

อย่างไรก็ดีคุณไม่สามารถ walk-in เพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ คุณจะต้องจองเวลาเข้าชมเท่านั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บของพิพิธภัณฑ์ครับ ในส่วนค่าเข้าชมอยู่ที่ 1,000 เยนครับ

2. วัดคาวาซากิไดชิ

วัดคาวาซากิไดชิ (Kawasaki Daishi) หรืออีกชื่อว่าวัดเฮอิเคนจิ (Heikenji Temple) เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในเมืองคาวาซากิ โดยเป็นของนิกายจิซัง หนึ่งในนิกายย่อยของพุทธศาสนานิกายชินงอนของญี่ปุ่น

ตัวอาคารของเดิมนั้นไม่เหลือแล้ว เพราะถูกทำลายในช่วงสงคราม ตัววัดที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ.1958 ครับ ด้านในประดิษฐานรูปปั้นของพระคุไคที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะเรื่องการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายครับ

ใกล้กับบริเวณวัดนั้นจะมีร้านค้าขายอาหารอย่างเช่นคุซุโมจิ (Kuzu Mochi) รวมไปถึงของที่ระลึกอย่างตุ๊กตาดารุมะ ซึ่งคุณซื้อเป็นของฝากได้ด้วยครับ

ห่างไปจากวัดคาวาซากิไดชิไม่ไกลนักจะมีสวนชื่อสวนไดชิ (Daishi Park) ซึ่งด้านในจะมีสวนย่อยที่เป็นสวนแบบจีน รวมไปถึงของเล่นหลายชนิดสำหรับเด็กเล็กครับ

3. สวนอิคุตะเรียวคุจิ

สวนอิคุคะเรียวคุจิ (Ikuta Ryokuchi Park) เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองคาวาซากิ และเป็นสถานที่หลักในการชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งอย่างสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิของชาวเมือง ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นก็สวยไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเพราะใบไม้เปลี่ยนสี

นอกจากนี้ด้านในสวนยังมีสวนดอกไม้ที่ปลูกดอกกุหลาบและไอริสให้คุณได้ชมด้วยครับ (กุหลาบจะเปิดช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ส่วนไอริสจะเปิดช่วงฤดูร้อนครับ)

4. นิฮง มินคาเอ็น

นิฮง มินคาเอ็น (Nihon Minkaen) เป็นพิพิธภัณฑ์บ้านโบราณของญี่ปุ่นครับ โดยตัวพิพิธภัณฑ์จะเป็นแบบ open-air ที่ให้คุณได้เข้าไปชมบ้านโบราณได้อย่างอิสระ ซึ่งบ้านโบราณเหล่านี้ได้รับการเคลื่อนย้ายมาจากหลายแห่งในประเทศ อย่างเช่นจากจังหวัดโทยามะหรือกิฟุ ไปจนถึงยามากาตะและอิวาเตะครับ

รวมแล้วในพิพิธภัณฑ์มีบ้านทั้งหมดกว่า 25 หลังด้วยกัน แทบทั้งหมดมาจากสมัยเอโดะเพราะฉะนั้นมีอายุตั้งแต่ 150-300 ปี แต่ละแห่งจะเปิดด้านในให้คุณเข้าไปชมวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้านได้ครับ

นอกจากนี้ด้านในพิพิธภัณฑ์ยังมี workshop ให้ทำหลายอย่าง และยังมีร้านโซบะและดังโงะเปิดให้ซื้อมาลองชิมอีกด้วยครับ

5. ชมวิวโรงงานอุตสาหกรรมช่วงกลางคืน

คาวาซากินั้นเป็นเมืองที่มีพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมขนาดยักษ์ตั้งอยู่ ซึ่งจะเปิดไฟสว่างไสวในช่วงกลางคืน แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพลังที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่นมานานหลายทศวรรษครับ

การไปชมนั้นส่วนมากจะใช้การนั่งรถบัส ซึ่งจะพาคุณไปจุดที่เห็นโรงงานได้แบบพาโนรามา หรือว่านั่งเรือไปตามคลองเพื่อความยิ่งใหญ่จากผืนน้ำครับ อ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บทางการของผู้ให้บริการครับ

References

• Kawasaki City Tourism Association
• Fujiko F Fujio Museum Official Site
• Nihon Minkaen English Site