โคริยามะ (Koriyama, 郡山) เป็นเมืองขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุชิมะของประเทศญี่ปุ่น และมีสถานะเป็นศูนย์กลางการค้าขายของจังหวัด
จุดเด่นของเมืองแห่งนี้คือมีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ผสมผสานไปกับธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้เป็นอีกที่หนึ่งที่คุณสามารถสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดีที่สุดครับ
ในบทความนี้ผมจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับเมืองโคริยามะคร่าวๆ ก่อนที่จะไปว่ากันถึงสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
ความเป็นมาของเมืองโคริยามะ (Koriyama)
ประวัติความเป็นมาของเมืองนี้ย้อนไปได้ถึงช่วงยุคนารา หรือว่าศตวรรษที่ 8
ในช่วงนั้นรัฐบาลยามาโตะยังไม่ได้ขยายอำนาจการปกครองมายังภาคเหนือของเกาะฮอนชู โคริยามะจึงมีสถานะเป็นเมืองชายแดนที่รัฐบาลกลางใช้ควบคุมดูแลพื้นที่แถบนี้
นับจากนั้นอีกพันกว่าปี โคริยามะได้กลายเป็นเมืองค้าขายที่สำคัญของภูมิภาค แต่ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับเหล่าไดเมียวมากถึงขนาดที่มีการสร้างปราสาทขึ้นที่นี่ครับ
ถึงกระนั้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โคริยามะได้ทวีความสำคัญขึ้น เพราะรัฐบาลเมจิได้ให้เหล่าอดีตซามูไรมาอาศัยอยู่ที่นี่ ประกอบกับที่นี่มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ (นูมากามิ) ทำให้เอื้อต่อการเกษตร จำนวนประชากรของที่นี่จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วครับ
ในช่วงปี ค.ศ.1930 รัฐบาลทหารของญี่ปุ่นได้เปลี่ยนโคริยามะเป็นศูนย์กลางการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการทำสงคราม ผลที่ตามมาก็คือตัวเมืองโดนทิ้งระเบิดอย่างยับเยิน ก่อนที่จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งหลังช่วงสงครามสงบครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองโคริยามะทำอย่างไร?
คุณสามารถไปเที่ยวเมืองโคริยามะได้ไม่ยากนักจากโตเกียว โดยมีตัวเลือกดังต่อไปนี้ครับ
- Tohoku Shinkansen – รถไฟชินคันเซนสาย Tohoku (ขบวน Nasuno และ Yamabiko) จะนำคุณจากโตเกียวมาถึงโคริยามะได้ภายในเวลาไม่เกิน 80 นาทีครับ นอกจากนี้ถ้าคุณอยู่ที่เซนไดหรือว่าโมริโอกะ คุณสามารถนั่งขบวน Yamabiko มายังโคริยามะได้เช่นกัน
- รถบัส – แม้ว่าจะใช้เวลามากกว่ามาก แต่รถบัสเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่าชินคันเซน ผู้ให้บริการอย่าง Sakura Kotsu มีรถรับส่งจากโตเกียวไปยังโคริยามะครับ
- เช่ารถขับ – โคริยามะอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 250 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นการเช่ารถขับจึงเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณจะได้ไม่ต้องมีปัญหาหารถไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่นอกเมืองครับ
ด้วยความที่โคริยามะตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัด ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนรถเพื่อเดินทางไปสถานที่เที่ยวอื่นๆ อย่างเช่นไอสึ-วากามัตสึได้เป็นอย่างดีครับ
ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจากเว็บไซต์ kanko-koriyama.gr.jp ซึ่งเป็นเว็บของการท่องเที่ยวโคริยามะ ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลต่างๆ อาจเปลี่ยนได้ครับ
ไปเที่ยวโคริยามะช่วงไหนดี?
โคริยามะเป็นเมืองที่เที่ยวได้ทุกฤดู ในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นมีซากุระโปรยปราย ช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่ทุ่งทานตะวันมีดอกบานสะพรั่ง ช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาของใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนช่วงฤดูหนาวนั้น ทะเลสาบอินาวะชิโระจะมีหงส์หลายพันตัวที่บินหนีหนาวมาจากไซบีเรียครับ
ที่พัก
เนื่องจากมีสถานที่เที่ยวอยู่รอบเมืองหลายแห่ง ทำให้การพักที่โคริยามะข้ามคืนเป็นสิ่งที่จำเป็น ในกรณีที่ยังไม่ได้จองที่พัก ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักโคริยามะดีๆ ของผม เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
1. สวนไคเซซัง
สวนไคเซซัง (Kaiseizan Park) เป็นสวนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคริยามะ ภายในสวนแห่งนี้มีต้นซากุระกว่า 1,300 ต้น ทำให้เป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดฟุกุชิมะไปโดยปริยายครับ โดยเฉพาะช่วงเย็นที่สวยเป็นพิเศษเพราะมีการเปิดไฟครับ
ตัวสวนเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่หลงเหลืออยู่ของการพัฒนาที่ดินอาซากะ (Asaka Pioneering) ในช่วงยุคเมจิครับ
ภายในสวนไคเซซังยังมีสวนดอกกุหลาบตั้งอยู่ด้วย โดยมีต้นกุหลาบมากกว่า 440 ชนิดให้ได้ชมกัน สวนกุหลาบแห่งนี้จะเปิดในช่วงเดือนมิถุนายนและตุลาคมครับ
2. มิฮารุทากิซากุระ
มิฮารุทากิซากุระ (Miharu Takizakura) เป็นต้นซากุระขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่ามีอายุ 400-1000 ปี (ต้นซากุระในสวนต่างๆ ของญี่ปุ่นส่วนมากอายุไม่เกิน 100 ปี) ทำให้ตัวต้นแตกกิ่งก้านสาขาจนมีรูปร่างเหมือนกับสายน้ำตกครับ ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดให้ต้นซากุระต้นนี้เป็นมรดกทางธรรมชาติของประเทศ
ใกล้กับต้นซากุระมีศาลเจ้าของพระโพธิสัตว์กษิติครรภ หรือ จิโซในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผู้ศรัทธามักจะเดินทางมาขอพรให้ลูกน้อยของตนมีอายุยืนนานครับ
3. สวนเรียวคุสุอิเอ็น
สวนเรียวคุสุอิเอ็น (Ryokusuien) เป็นสวนขนาดใหญ่กว่า 100 ตารางกิโลเมตรที่มีทั้งต้นซากุระ แปะก๊วย และเมเปิ้ล ในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นจะมีซากุระบานสะพรั่งให้ชมอย่างจุใจ แถมยังมีภูเขาหิมะเป็น background ให้อีกด้วย
ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ต้นไม้เหล่านี้จะพากันเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีแดง สีส้ม ซึ่งสวยงามอย่างมากเลยครับ ในช่วงดังกล่าวชาวเมืองมักจะมาปิกนิก ตั้งแคมป์ และชมนกกันที่นี่ครับ
4. สวนทานตะวันนูโนะบิกิ คาเซ โนะ
สวนทานตะวันนูโนะบิกิ คาเซ โนะ (Nunobiki Kaze no) เป็นสวนที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงกว่า 1,000 เมตร ในบริเวณสวนจะมีกังหันลมที่ใช้ผลิตไฟฟ้ากว่า 33 ต้น ซึ่งมากเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศครับ
บริเวณใกล้ๆ จะมีการปลูกทานตะวันไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงปลายฤดูร้อนครับ นอกจากนี้วิวจากสวนแห่งนี้ยังสวยมาก เพราะคุณจะได้เห็นทั้งทะเลสาบอินาวะชิโระ และยอดเขาบันไดครับ
5. ทะเลสาบอินาวะชิโระ
ทะเลสาบอินาวะชิโระ (Lake Inawashiro) เป็นทะเลสาบสุดสวยที่เป็นแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัดฟุกุชิมะ ตัวทะเลสาบนั้นมีวิวที่สวยมากในช่วงฤดูหนาวเพราะมียอดเขาบันได (Mt.Bandai) ที่มีหิมะปกคลุมเป็นฉากหลังครับ
อย่างไรก็ดีไฮไลท์ของที่นี่คือเหล่าหงส์หลายพันตัวที่พากันหลบลี้หนีหนาวมาจากไซบีเรียมาอาศัยอยู่ที่นี่ ทั้งนี้คุณสามารถชมพวกมันได้อย่างใกล้ชิดเลยครับ
6. หมู่บ้านทาคาชิบะ เดโกะ ยาชิกิ
โคริยามะเป็นเมืองการค้าที่สำคัญในสมัยเอโดะ เพราะฉะนั้นที่นี่จึงเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของช่างฝีมือจำนวนมาก ซึ่งพวกเขาได้อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านทาคาชิบะ เดโกะ ยาชิกิ (Takashiba Deko Yashiki) แห่งนี้ครับ
ภายในหมู่บ้านจะมีบ้านโบราณตั้งอยู่หลายหลัง แต่ละหลังจัดแสดงผลงานต่างๆ ของช่างฝีมืออย่างเช่น งานแกะสลักไม้ ตุ๊กตาฮาริโคะ ไปจนถึงหน้ากากที่ใช้ในการแสดงต่างๆ ไปจนถึงเครื่องรางนำโชคตามความเชื่อท้องถิ่นครับ
นอกจากนี้ถ้าสนใจ คุณสามารถเข้าร่วม workshop ซึ่งจะมีการสอนการประดิษฐ์งานฝีมือเหล่านี้ด้วยเช่นกันครับ
7. บันไดอาตามิออนเซ็น
บันไดอาตามิออนเซ็น (Bandai Atami Onsen) เป็นออนเซ็นอายุกว่า 800 ปีซึ่งเชื่อกันว่าถูกค้นพบโดยเจ้าหญิงฮากิฮิมะ เธอได้ลงแช่ในบ่อน้ำร้อนที่นี่ และหายจากอาการป่วยซึ่งเชื่อกันว่าไม่มีทางรักษาครับ
อย่างไรก็ดีหลังจากนั้นออนเซ็นแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีน้ำซึ่งช่วยบำรุงเรื่องความสวยความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องผิวพรรณครับ
ตัวออนเซ็นอยู่ริมแม่น้ำโกฮยาคุ ซึ่งโรงอาบน้ำบางแห่งจะมีออนเซ็นกลางแจ้งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวแช่น้ำไปพร้อมๆ ชมวิวแม่น้ำครับ
8. น้ำตกโชชิกะตากิ
น้ำตกโชชิกะตากิ (Choshigataki Falls) เป็นน้ำตกสูง 48 เมตรที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น รูปทรงน้ำตกนั้นว่ากันว่าเหมือนกับขวดเหล้าสาเกครับ นั่นเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้นั่นเอง
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมของชาวเมืองในการชมใบไม้เปลี่ยนสี เพราะบริเวณรอบๆ มีต้นเมเปิ้ลปลูกได้ด้วยครับ
9. ชิมอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย
โคริยามะมีหลายเมนูที่คุณไม่ควรพลาดลองชิม อย่างเช่น
เนื้ออุเนเมะ (Uneme) – เนื้อวากิวชั้นเยี่ยมแสนอร่อยที่ไม่ว่าจะเอามาทำอะไรก็อร่อย ตั้งแต่สุกี้ยากี้ ชาบู ยากินิคุ หรือแม้กระทั่งสเต็กครับ
ปลาคาร์ป (Carp) – ปลาที่อยู่ในสายตระกูลเดียวกับปลาที่เลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม ชาวเมืองโคริยามะนั้นมีธรรมเนียมการรับประทานปลาชนิดนี้มาเป็นเวลานานแล้วครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกินเป็นซาชิมิ
อุซุคาวะ มันจู (Usukawa Manju) – ขนมสอดไส้ถั่วคลุมด้วยเปลือกน้ำตาลทรายแดง ตัวขนมเป็นขนมโบราณอายุเกือบ 200 ปีของโคริยามะครับ
References
- Koriyama Kanko
- Fukushima Travel (Official Tourism Site)