หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น8 ไฮไลท์ที่เที่ยวโคยะซัง (Koyasan) และกิจกรรมน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด

8 ไฮไลท์ที่เที่ยวโคยะซัง (Koyasan) และกิจกรรมน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

โคยะซัง (Koyasan, 高野山) เป็นหมู่ศาสนสถานและเส้นทางแสวงบุญในจังหวัดวากายามะเช่นเดียวกับคุมาโนะโคโด แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือคุมาโนะโคโดนั้นจะเป็นของศาสนาชินโตตามความเชื่อคุมาโนะ (Kumano faith) แต่โคยะซังนั้นเป็นพุทธสถานของนิกายชินงอน (Shingon) หนึ่งในนิกายหลักของศาสนาพุทธในญี่ปุ่นครับ

ในบทความนี้ผมจะนำทุกคนไปรู้จักกับโคยะซังโดยคร่าวๆ และจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแถบนี้เป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักโคยะซัง (Koyasan)

ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 9 ภิกษุญี่ปุ่นรูปหนึ่งนามว่าคุไค (Kukai) ได้เดินทางกลับมาจากจีนและได้รับแนวทางแบบวัชรยานกลับมาด้วย คุไคจึงได้เริ่มเผยแผ่ศาสนาพุทธแบบวัชรยาน จนได้รับการยอมรับจากราชสำนักที่เกียวโต องค์จักรพรรดิจึงให้พระราชทานอนุญาตให้คุไคเลือกพื้นที่ของตนเองในการสร้างศาสนสถานได้

โคยะซัง
by b-hide the scene/ShutterStock

คุไคได้เลือกภูเขาโคยะ หรือโคยะซังในคาบสมุทรคิอิ (Kii Peninsula) เป็นที่ตั้งสำนักของตน และได้ดูแลการสร้างศาสนสถานแห่งนี้ด้วยตนเอง ว่ากันว่าที่นี่มีทำเลที่เป็นมงคล เพราะภูเขา 8 ลูกและห้วงน้ำเบื้องล่างในบริเวณนี้นั้นรวมตัวกันเหมือนกับดอกบัวครับ

หลังจากที่คุไคล่วงลับไปแล้ว เหล่าศาสนิกก็ได้สร้างวัดขึ้นมาอีกมากมายในพื้นที่แห่งนี้จนมีด้วยกันหลายสิบแห่งครับ ทำให้ทุกยุคทุกสมัยที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งชาวนิกายชินงอนเดินทางมาแสวงบุญครับ

ที่เที่ยวโคยะซัง (Koyasan)
by sergey pozhoga/ShutterStock

ในปี ค.ศ.2004 องค์การยูเนสโกได้ยกพื้นที่โคยะซังขึ้นเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า โคยะซังจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมจิตใจ ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดวากายามะครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปโคยะซัง (Koyasan) ทำอย่างไร?

การเดินทางไปโคยะซังนั้นทำได้ง่ายที่สุดจากโอซาก้า โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้ครับ

รถไฟ + เคเบิลคาร์ + รถบัส – ขั้นแรกคุณจะนั่งรถไฟ Nankai Railway (Koya Line) จากสถานี Osaka Namba Station ไปยัง Gokurakubashi Station ซึ่งขั้นนี้จะเร็วที่สุดถ้าคุณนั่งขบวน Limited Express ครับ

หลังจากนั้นคุณจะต้องขึ้นเคเบิลคาร์ไปยังโคยะซัง (Koyasan Station) ครับ ตามด้วยนั่งรถบัสไปอีกสิบนาทีเข้าเมืองโคยะ (Koya) ครับ

เช่ารถ – สำหรับใครที่เช่ารถเที่ยว คุณสามารถขับรถจากโอซาก้ามายังโคยะซังได้เช่นกัน เวลาที่ใช้อยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงครับ

ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Koyasan Official Site และ Nankai Koya ก่อนออกเดินทางผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางอีกครั้งหนึ่ง เพราะข้อมูลส่วนนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ครับ

การสัญจร + วิธีการประหยัด

การสัญจรในเขตโคยะซังนั้นจะใช้รถบัสเป็นหลัก ซึ่งวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายนั้นผมแนะนำให้ซื้อ Koyasan World Heritage Ticket ในราคา 3,400 เยนครับ โดยคุณจะได้สิ่งต่อไปนี้

  • ค่าตั๋วรถไฟไปกลับโคยะซังจากโอซาก้าและเคเบิลคาร์ (มูลค่า 4,220 เยน)
  • ขึ้นรถบัสในเขตโคยะซังได้ไม่จำกัด
  • ส่วนลด 20% ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหลักทั้ง 4 แห่ง
  • ส่วนลดของฝาก 10% ในร้านค้าที่กำหนด

ตัวบัตรนั้นมีอายุสองวัน ซึ่งเพียงพอต่อนักเดินทางส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวโคยะซังอย่างแน่นอนครับ

1. ดันโจการัง

ดันโจการัง (Danjo Garan) เป็นศาสนสถานที่สร้างขึ้นโดยคุไคเพื่อเทศนาและเผยแผ่นิกายของตน ตามตำนานเล่าว่าคุไคได้ขว้างซันโคโช (สามง่ามที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาของนิกายวัชรยาน) โดยอธิษฐานว่าถ้าไปตกที่ใด เขาจะสร้างศาสนสถานขึ้นที่นั่น ปรากฏว่าสามง่ามนั้นไปเสียบต้นไม้ต้นหนึ่งในเขตโคยะซัง คุไคจึงสร้างศาสนสถานหรือดันโจการังขึ้นที่บริเวณนี้ครับ

by Dmitry Morgan/ShutterStock

แม้ว่าอาคารดั้งเดิมนั้นจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว ปัจจุบันดันโจการังยังมีอาคารแบบดั้งเดิมที่สวยงามอยู่หลายหลัง อย่างเช่น

  • ประตูไดมง (Daimon) – ประตูบานใหญ่เป็นประตูสู่โคยะซัง ด้านหน้ามีองครักษ์หน้าดุสองตนยืนประจำอยู่
  • หอคองโด (Kondo Hall) – หอที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ด้านในมีพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้ายากุชิ เนียวไร ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าแห่งการรักษาโรคตั้งอยู่ครับ
  • เจดีย์คอนปง ไดโตะ (Konpon Daito Pagoda) – เจดีย์สีส้มสองชั้นที่คุไคสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงนิกายชินงอน ด้านในมีพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้าไวโรจนะประดิษฐานอยู่ครับ

2. มิเอโดะ

มิเอโดะ (Miedo) เป็นศาสนสถานที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธรูปรวมไปถึงเป็นสถานที่สวดมนต์ของพระคุไค หลังจากนั้นคุไคมรณภาพ ที่นี่ได้ใช้เป็นที่ตั้งของภาพเหมือนของคุไคอันเป็นผลงานของชินเนียว ชินโนะครับ

by gnohz/ShutterStock

ตัวอาคารได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 19 และมีชื่อเสียงว่าสวยประณีตโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหลังคาที่เอียงโค้งอย่างวิจิตรครับ

3. พิพิธภัณฑ์เรย์โฮคัง

พิพิธภัณฑ์เรย์โฮคัง (Reihokan Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดในปี ค.ศ.1921 และใช้เก็บรักษาปูชนียวัตถุและสิ่งของล้ำค่าต่างๆ ของโคยะซังกว่า 78,000 ชิ้นซึ่งมี 21 ชิ้นที่ถือว่าเป็นสุดยอดปูชนียวัตถุของประเทศญี่ปุ่นครับ

สิ่งที่คุณจะได้ชมในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็อย่างเช่น พระพุทธรูปของพระพุทธเจ้าและองค์พระโพธิสัตว์ตามความเชื่อของนิกายมหายานและวัชรยาน ไปจนถึงสิ่งของโบราณที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ครับ

ค่าเข้าชม: 1,300 เยน (อ้างอิงจากเว็บทางการของพิพิธภัณฑ์)

4. วัดคองโกะบุจิ

วัดคองโกะบุจิ (Kongobuji) เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยฮิเดโยชิ โทโยโตมิ ไดเมียวคนสำคัญของยุคเซ็นโกกุเพื่ออุทิศให้กับมารดาของตนที่ล่วงลับไป ในเวลาต่อมาที่นี่ได้กลายเป็นศาสนสถานหลักของนิกายชินงอนที่มีศูนย์กลางอยู่ที่นี้มานานหลายศตวรรษก่อนหน้าครับ

วัดคองโกะบุจิ (Kongobuji)
by WorldStock/ShutterStock

จุดที่น่าสนใจในบริเวณวัดได้แก่

เซย์มง (Seimon) – ประตูขนาดใหญ่ที่เป็นทางเข้าสู่บริเวณวัด ในอดีตประตูใหญ่แห่งนี้จะเปิดรับเฉพาะองค์จักรพรรดิ เชื้อพระวงศ์ และนักบวชระดับสูงเท่านั้นที่จะผ่านได้ พระและคนทั่วไปจะต้องใช้ประตูเล็กที่ตั้งอยู่ด้านขวาครับ

เซย์มง
by alinasharoiko/ShutterStock

ห้องโอฮิรามะ (Ohirama) – ห้องที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตลอดจนเทศกาลสำคัญๆ ในห้องถูกตบแต่งอย่างวิจิตรด้วยภาพเขียนสี อันเป็นผลงานของจิตรกรชื่อดังชาวญี่ปุ่นอย่างไซโต้ โทชิสึครับ ใกล้กับห้องโอฮิรามะมีห้องชื่อว่าโยนากิ โนะ มะ ซึ่งเป็นห้องที่ฮิเดสึกุปลิดชีพตนเองตามคำสั่งของฮิเดโยชิในปี ค.ศ.1595 ครับ

โชอิน โจดันโนมะ (Shoin Jodannoma) – ห้องใหญ่ที่ใช้ต้อนรับองค์พระจักรพรรดิ รวมไปถึงใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ ตัวเพดานนั้นสร้างขึ้นในรูปแบบโชอิน-สึคุริซึ่งสวยงามมาก

สวนหินบินริวเตย์ (Banryutei Garden) – สวนหินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งมีหินเก่าแก่ที่นำมาจากบ้านเกิดของคุไค ที่นี่โด่งดังเพราะมีกลุ่มหินที่ละม้ายคล้ายกับมังกรสองตัวที่โบยบินอยู่บนเมฆครับ

สวนหินบินริวเตย์
by Mathias Berlin/ShutterStock

ห้องครัว – ที่นี่ใช้เป็นสถานที่ประกอบอาหารให้กับพระสงฆ์ รวมไปถึงศาสนิกและผู้แสวงบุญ ด้วยขนาดที่ใหญ่โต ทำให้ในอดีตที่นี่สามารถทำอาหารให้ผู้คนได้ถึงสองพันครับ

นอกเหนือจากสถานที่เหล่านี้แล้ว ในวัดยังมีอาคารแบบญี่ปุ่นที่สวยงามหลายหลังซึ่งคุณสามารถไปชมความงามได้ครับ

5. สุสานโตกุกาวะ

สุสานโตกุกาวะ (Tokugawa Mausoleum) เป็นสุสานที่สร้างขึ้นโดยโตกุกาวะ อิเอมิสึ (Tokugawa Iemitsu) โชกุนคนที่สามแห่งยุคเอโดะ โดยเจตนารมณ์ของเขาก็คือปรารถนาให้ตระกูลของตนได้มีสุสานใกล้กับพระคุไคที่เคารพนับถือครับ

สุสานโตกุกาวะ
by wissuta.on/ShutterStock

ตัวสุสานสร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมเอโดะตอนต้น ซึ่งคล้ายกับศาลเจ้าโทโชกุในนิกโก้ ดังนั้นมีความสวยงามที่ใกล้เคียงกันครับ

6. โอคุโนะ-อิน

โอคุโนะ-อิน (Okuno-in) เป็นศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโคยะซัง เพราะเป็นเส้นทางที่นำไปสู่สุสานของพระคุไคที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวพุทธชินงอนมาทุกยุคสมัย ตัวเส้นทางนั้นมีความยาว 2 กิโลเมตร และรายล้อมไปด้วยหลุมฝังศพถึงสองแสนหลุม ทำให้ที่นี่เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นครับ

โอคุโนะ-อิน
by Mirko Kuzmanovic/ShutterStock

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะแรงศรัทธาของศาสนิกที่หวังว่าเมื่อจากไปแล้วก็อยากปรารถนาที่ได้อยู่ใกล้กับพระคุไค ทำให้สุสานแห่งนี้ขยายใหญ่ตลอดช่วงเวลาพันกว่าปีครับ ทุกวันนี้สุสานแห่งนี้ก็ยังมีการฝังร่างเพิ่มอยู่เรื่อยๆ

ทางเข้าสู่สุสานของพระคุไคในโคยะซัง
ทางเข้าสู่สุสานของพระคุไค by b-hide the scene/ShutterStock

หลังที่ผ่านเส้นทางดังกล่าวมาแล้ว คุณจะมาถึงตัววัดโอคุโนะ-อิน ซึ่งเริ่มแรกนั้นจะเห็นหอโทโรโดะ (Torodo Hall) ที่มีโคมไฟกว่าหมื่นดวงที่บริจาคโดยศาสนิกผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา ซึ่งจะถูกจุดให้แสงสว่างครับ

เมื่อเดินผ่านหอดังกล่าวมาแล้ว คุณจะถึงเข้าถึงจุดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของโคยะซัง นั่นก็คือสุสานของโคโบะ ไดอิชิ (อีกชื่อหนึ่งของพระคุไค) ตามตำนานเล่าว่าพระคุไคยังไม่ได้นิพพาน (เป็นพระอรหันต์แล้ว) แต่อยู่ในสมาบัติชั่วนิรันดร์จนกว่าพระศรีอาริยเมตไตรยจะเสด็จลงมาประกาศศาสนาของพระองค์ครับ ที่นี่เป็นจุดที่เหล่าศาสนิกจะมาสวดมนต์เพื่อสักการะพระคุไคครับ

7. นอนพักข้ามคืนที่วัด

ในโคยะซังนั้นมีวัดกว่า 50 แห่งที่คุณสามารถเลือกนอนพักที่วัดได้ หรือเรียกในภาษาญี่ปุ่นว่าชุคุโบะ (Shukubo) ซึ่งระหว่างที่นอนที่วัดนั้น คุณจะได้สัมผัสความเป็นอยู่ของพระชาวญี่ปุ่น และรับประทานอาหารเจแบบดั้งเดิม หรือที่เรียกว่าโชจิน เรียวริ (Shojin Ryori) ที่หาทานได้ยากมากครับ

อาหารเจที่วัดญี่ปุ่นในโคยะซัง
by Wissuta.on/ShutterStock

ที่พักในวัดนั้นก็จะเป็นแบบญี่ปุ่นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิเช่นเดียวกับเรียวกังทั่วไป แต่คุณจะได้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาอย่างเช่นสวดมนต์ช่วงเช้า คัดลอกพระสูตร ไปจนถึงทำสมาธิแบบชินงอน ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจะได้รับบุญกุศลอย่างมหาศาลครับ

8. เดินแสวงบุญ

สำหรับใครที่หลงรักในการเดินป่า คุณสามารถเลือกเดินเท้าตามเส้นทางต่างๆ ของโคยะซังได้เช่นกัน เพื่อจะได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นผู้แสวงบุญในอดีตครับ เส้นทางที่น่าสนใจได้แก่

เส้นทางแสวงบุญในโคยะซัง
by Petr Brezina/ShutterStock
  • Koyasan Choishi Michi trail – ยาว 23.5 กิโลเมตร โดยจะเป็นการเดินขึ้นมายังประตูไดมง ซึ่งเป็นทางเข้าสู่โคยะซังจากสถานีรถไฟ Kudoyama Station ครับ แต่ถ้าขี้เกียจ คุณสามารถเริ่มที่ Kii-Hosokawa Station ได้เช่นกันที่จะลดระยะทางเหลือแค่ประมาณ 9.5 กิโลเมตรครับ
  • Fudozaka Trail – ยาว 2.5 กิโลเมตร เส้นทางนี้พูดง่ายๆ คือขึ้นมาโคยะซังโดยไม่อาศัยเคเบิลคาร์ครับ เพราะเริ่มที่ Gokurakubashi Station และจบที่ Nyonindo ซึ่งเป็นศาสนสถานในโคยะซัง
  • Kohechi Trail – เส้นทางที่ซับซ้อนที่สุดเพราะเชื่อมโคยะซังเข้ากับคุมาโนะโคโด การเดินเท้าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่เดินยากและซับซ้อน ควรเตรียมตัวล่วงหน้าให้ดีครับ

References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!