คุราชิกิ (Kurashiki) เป็นเมืองขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในจังหวัดโอคายาม่า (Okayama) ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น และอยู่ติดกับทะเลเซโตะ ซึ่งเป็นทะเลภายในของประเทศ ตัวเมืองมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องเมืองริมคลองที่สวยงดงาม ซึ่งคุณอาจจะมองว่าเป็นเวนิสของญี่ปุ่นก็ได้ครับ
บทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเมืองคุราชิกิแบบคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเมืองคุราชิกิ (Kurashiki)
คุราชิกิมีประวัติความเป็นมาย้อนไปไดถึงสมัยศตวรรษที่ 5 โดยเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ปกครองโดยอาณาจักรคิบิ (Kingdom of Kibi) ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดโอคายาม่า ก่อนที่อาณาจักรแห่งนี้จะล่มสลายและตกเป็นส่วนหนึ่งของชาวยามาโตะ (บรรพบุรุษของชาวญี่ปุ่นในปัจจุบัน) ครับ
เมื่อเข้าถึงสมัยนาราและเฮอัน คุราชิกิได้เริ่มมีสถานะเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่เชื่อมเกาะทั้งสามของญี่ปุ่น แต่ก็นำพาความเดือดร้อนมาให้ด้วย เพราะการที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่สู้รบระหว่างกลุ่มอำนาจต่างๆ แทบจะตลอดยุคสมัยเลยครับ
ต่อมาในสมัยเอโดะ คุราชิกิได้กลายเป็นเมืองคลังเสบียงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และเป็นสถานที่ซึ่งรัฐบาลโชกุนใช้เก็บภาษีข้าวประจำปี ดังนั้นส่วนใหญ่ของเมืองจึงถูกปกครองโดยตรงจากรัฐบาล ไม่ได้ถูกยกให้กับไดเมียวผู้ใดเหมือนกับเมืองอื่นๆ ครับ ช่วงนี้เองเป็นช่วงที่คลองส่วนใหญ่ถือกำเนิดขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนถ่ายสินค้าระหว่างคลังเสบียงที่มีมากมายในเมืองครับ
ต่อมาในสมัยเมจิ คุราชิกิได้เป็นส่วนหนึ่งของโอคายาม่า และได้พัฒนาตนเองเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการทอผ้า รวมไปถึงการเกษตรและการท่องเที่ยว รัฐบาลญี่ปุ่นยกย่องว่าเมืองคุราชิกินั้นมรดกทางวัฒนธรรมถึงสามอย่างด้วยกัน ซึ่งมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
อย่างแรกก็คือเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรคิบิ และเกี่ยวเนื่องกับตำนานปรัมปรามากมาย อย่างที่สองคือเป็นเมืองท่าที่มีวัฒนธรรมของชาวเรือยุคเอโดะถึงเมจิที่ใช้เรือคิตะมาเอะบูเนะ (Kitamaebune) ในการสัญจร และสุดท้ายก็คือวัฒนธรรมการทอผ้าที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคที่ญี่ปุ่นปฏิรูปประเทศตามแบบตะวันตก และเป็นหนึ่งในสิ่งที่เรียงร้อยสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกันครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองคุราชิกิทำอย่างไร?
ชินคันเซน + รถไฟ: คุราชิกิมีสถานีรถไฟชินคันเซนเป็นของตนเอง (Shin-Kurashiki Station) ซึ่งห่างจากตัวเมืองคุราชิกิไปประมาณ 9 กิโลเมตร ซึ่งคุณสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ด้วย Sanyo Shinkansen (Kodama ทุกขบวนและ Hikari บางขบวนเท่านั้น) จากเมืองอย่างโอซาก้า ฮิโรชิม่า หรือว่าโกเบ เช่นเดียวกับเมืองฮิเมจิครับ
อย่างไรก็ดีถ้าคุณเดินทางด้วยชินคันเซน คุณจะต้องต่อรถไฟ (local train) เข้าไปที่ตัวเมืองอีกต่อหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ใช้เวลามากมายอะไรครับ (ประมาณ 17 นาที)
อีกทางเลือกที่นิยมคือ นั่งชินคันเซนไปลงที่โอคายาม่า (เมืองหลวงของจังหวัด) ก่อน แล้วค่อยนั่งรถไฟที่วิ่งบน JR Sanyo Line มายังสถานีคุราชิกิโดยตรงครับ รายละเอียดเรื่องรอบรถไฟทั้งหมดสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บของ JR West ครับ
รถบัส – อีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณโอเคกับการนั่งรถข้ามคืน (ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของที่พัก) คุณสามารถนั่งรถบัสจากโกเบ เกียวโต หรือแม้กระทั่งนาโกย่า โตเกียว และฟุกุโอกะไปยังคุราชิกิได้ครับ
ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจาก Kurashiki Tabi เว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวคุราชิกิ โปรดตรวจสอบที่ต้นทางก่อนจอง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัยสำคัญครับ
1. พื้นที่ประวัติศาสตร์บิคัง
พื้นที่ประวัติศาสตร์บิคัง (Bikan Historical Area) คีอเขตเมืองเก่าของคุราชิกิที่เต็มไปด้วยคลองโบราณ ซึ่งสองข้างทางคือบ้านเรือนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในหลายยุคหลายสมัย พร้อมด้วยต้นไม้ที่ปลูกอย่างสวยงามเรียงรายกันไป ทำให้บรรยากาศเป็นแบบย้อนยุคที่สวยงามยิ่ง
เหล่าบ้านเรือนของสองฝั่งคลองถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ และได้รับการบูรณะอย่างสวยงามเมื่อไม่นานมานี้ และได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ รวมไปถึงร้านค้าต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวครับ
จุดที่น่าสนใจในพื้นที่ประวัติศาสตร์มีดังต่อไปนี้ครับ
Shinkei-en – บ้านพักที่สร้างขึ้นในสมัยปี ค.ศ.1893 ของคหบดีชั้นนำของเมืองอย่างโคชิโร่ โอฮาระ ด้านมีอาคารและโรงชาแบบญี่ปุ่นที่สวยงาม เช่นเดียวกับสวนญี่ปุ่นที่งามสง่า
Ohara Museum of Art – พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก็บรักษางานศิลปะตะวันตกที่สร้างขึ้นแห่งแรกของญี่ปุ่น โดยเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 ปัจจุบันยังคงมีงานศิลปะให้ชมไม่น้อย โดยเฉพาะงานของ Monet ครับ เช่นเดียวกับผลงานจากศิลปินญี่ปุ่น และโบราณวัตถุจากประเทศในเอเชียตะวันออกอย่างจีนครับ
Kurashiki Ivy Square – จัตุรัสที่เคยเป็นโรงงานปั่นผ้าที่รุ่งโรจน์ในอดีต โดยมีอาคารอิฐสีแดงที่สร้างขึ้นช่วงยุคเมจิเรียงรายกันไป ปัจจุบันที่นี่ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ Kurabo Museum ให้คุณได้ชมประวัติความเป็นมาของอุตสาหกรรมทอผ้า เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กอีกหลายแห่ง และร้านอาหารอีกจำนวนหนึ่งครับ
Kurashiki Archaeological Museum – พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในอาคารที่เคยเป็นโรงเก็บข้าวในสมัยเอโดะ ด้านในจัดแสดงเครื่องหินเครื่องปั้นดินเผาที่มีอายุกว่าพันปีครับ
Japanese Toy and Doll Museum – พิพิธภัณฑ์ของเล่นที่จัดแสดงของเล่นจากทั้ง 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่วนมากจะเป็นของเล่นในสมัยเอโดะที่มีอายุร้อยกว่าปีครับ
นอกเหนือจากนี้ในเขตพื้นที่ประวัติศาสตร์ยังหลงเหลืออาคารที่สวยงามหลายแห่ง ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของพ่อค้าผู้ร่ำรวย อย่างเช่น Ohashi House หรือ Inoue House ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมได้ครับ
ท้ายที่สุดหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่คือการล่องเรือพายไปตามคลองที่สวยงามเพื่อสัมผัสบรรยากาศสองข้างทางของคุราชิกิ โดยค่าบริการก็อยู่ที่คนละ 500 เยนเท่า่นั้นเองครับ
ถ้าคุณได้เดินทางไปคุราชิกิในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ (ปลายกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมีนาคม) ที่นี่จะมีเทศกาล Kurashiki Haruyoi Akari Festival ซึ่งทั้งพื้นที่ประวัติศาสตร์จะมีการประดับประดาโคมไฟญี่ปุ่นอย่างสวยงามยิ่ง เรียกได้ว่าไม่ควรพลาดเลยครับ
2. ถนนโคจิมะ
ถนนโคจิมะ หรือ Kojima Jeans Street เป็นถนนที่มีร้านค้าที่ขายกางเกงยีนส์เรียงรายกันไป ซึ่งสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ในอดีตที่เขตโคจิมะในเมืองคุราชิกิเคยเป็นสถานที่ผลิตกางเกงยีนส์แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นครับ บรรยากาศของร้านค้าบริเวณนี้จะออกเป็นสไตล์ retro อย่างชัดเจนครับ
นอกจากนี้ใกล้ๆ กับถนนโคจิมะยังมี Jeans Museum ที่คุณสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์การผลิตการเกงชนิดดังกล่าวในประเทศญี่ปุ่น และได้ทราบว่ากางเกงยีนส์ในญี่ปุ่นเมื่อร้อยกว่าปีก่อนมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรด้วย
3. สะพานเซโตะ โอฮาชิ
สะพานเซโตะ โอฮาชิ (Seto Ohashi Bridge) เป็นกลุ่มสะพานที่เชื่อมเกาะฮอนชูและเกาะชิโกกุของประเทศญี่ปุ่น โดยพาดผ่านทะเลเซโตะ
กลุ่มสะพานแห่งนี้นั้นแสดงให้เห็นถึงสุดยอดความสามารถทางด้านวิศวกรรมของญี่ปุ่น เพราะพาดผ่านเกาะถึง 5 แห่งด้วยกัน และมีความยาวถึง 13.1 กิโลเมตร ประกอบด้วยสะพานแขวนและสะพานประเภทอื่นๆ อีกหลายแห่งที่เชื่อมต่อกัน ส่งผลให้การคมนาคมระหว่างสองเกาะใหญ่สะดวกสบายครับ
ช่วงที่สะพานแห่งนี้สวยเป็นพิเศษจะเป็นช่วงกลางคืน เพราะว่าจะมีการเปิดไฟแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการครับ จุดชมวิวสะพานแห่งนี้ที่ดีที่สุดคือเขาวาชูซัง (Washuzan Hill) ครับ
4. ชมวิวช่วงกลางคืนของ Mizushima Industrial Complex
Mizushima Industrial Complex เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองคุราชิกิ ซึ่งผลิตเคมีภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ตัวเขตนี้ถือว่าใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญ๊่ปุ่น ทั้งนี้นักเดินทางนิยมมาชมวิวช่วงกลางคืนที่เปิดไฟส่องสว่างครับ
5. ชิมอาหารพื้นเมือง
คุราชิกินั้นมีหลากหลายเมนูที่น่าสนใจที่ไม่ควรพลาดลองชิม อาทิเช่น
- Bukkake Udon – อุด้งเย็นสูตรลับของเมืองคุราชิกิซึ่งเคยได้แชมป์ประเทศมาแล้วถึงสองครั้ง และเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาวเมืองครับ
- ทุกเมนูจากหมึกยักษ์
- Kaeshizushi – เมนูซูชิแบบดั้งเดิมที่คิดค้นโดยคนโบราณเพื่อปกปิดวัตถุดิบมูลค่าสูงเอาไว้ เพราะชนชั้นทั่วไปถูกห้ามไม่ให้บริโภคของมีราคาในเวลานั้น
- Fujito Manju – เมนูขนมสอดไส้ถั่วแดงจากร้านที่มีอายุมากกว่า 800 ปี
- พีชสีขาว (White Peach) และองุ่น Muscat of Alexandria
References
- Explore Okayama
- Kurashiki-Tabi