9 ที่เที่ยวโลซานน์ (Lausanne) และกิจกรรมน่าสนใจไม่ควรพลาด

โลซานน์ (Lausanne) คือเมืองสวยของสวิสเซอร์แลนด์ โดยตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา และล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์และจูราอันสวยงามตระการตา ทำให้นักท่องเที่ยวมากมายหลงรักที่นี่ และกลับมาเยือนอีกหลายต่อหลายครั้งครับ

ในบทความนี้ ผมจะแนะนำนำคุณไปรู้จักกับเมืองโลซานน์คร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักเมืองโลซานน์ (Lausanne)

ย้อนไปสองพันกว่าปีก่อน โลซานน์เป็นสถานที่ตั้งค่ายและแนวป้องกันของชาวโรมันที่สู้รบขับเคี่ยวกับอนารยชนชาวเซลต์ริมทะเลสาบเจนีวา ค่ายเหล่านี้ได้กลายสภาพเป็นเมืองเล็กๆ เมื่อเวลาผ่านไป ช่วงยุคกลางเมืองโลซานน์ได้กลายเป็นเมืองแห่งหนึ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอันใดนักในรัฐซาวอย (ต่อมาได้กลายเป็นอาณาจักรที่มีเมืองหลวงอยู่ที่ตูริน) ครับ

ทว่าในช่วงศตวรรษที่ 11 โลซานน์ได้ถูกเปลี่ยนมือมาอยู่ในการปกครองของรัฐบิชอปแห่งโลซานน์ เหล่าบิชอปได้สร้างโลซานน์ให้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง และศาสนาในภูมิภาค มหาวิหารโลซานน์ (Lausanne Cathedral) ก็ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ครับ

ความรุ่งโรจน์ของโลซานน์จบลงเมื่อตัวเมืองถูกยึดครองโดยผู้รุกรานจากเบิร์น (Bern) ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ซึ่งได้ปลดของมีค่าจำนวนมากไปจากเมือง ความสำคัญของเมืองจึงลดน้อยลงไปนับตั้งแต่บัดนั้น จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 19 โลซานน์ก็ได้เข้าร่วมกับสหพันธรัฐสวิส และได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศสวิสเซอร์แลนด์มาจนถึงปัจจุบันครับ

หลังจากนั้นโลซานน์ก็ได้เป็นเมืองอันเงียบสงบที่ใช้จัดงานและเทศกาลสำคัญๆ อยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สำคัญของสวิสเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ในช่วงศตวรรษที่ 20 โลซานน์เป็นเมืองสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ไทยด้วย เพราะเป็นสถานที่ซึ่งรัชกาลที่ 8 และ 9 ทรงประทับเป็นเวลานานนับสิบปี และทั้งสองพระองค์ได้ทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยโลซานน์ครับ

ปัจจุบันโลซานน์ได้เป็นเมืองหลวงของเขตการปกครอง (Canton) ชื่อ Vaud อันเป็นส่วนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักครับ

ข้อควรทราบ

1. ทะเลสาบเจนีวา

ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva หรือ  Lac Léman ในภาษาฝรั่งเศส) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก และเป็นพรมแดนตามธรรมชาติระหว่างประเทศสวิสเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส โดยเมืองรีสอร์ทของฝรั่งเศสอย่าง Évian-les-Bains อยู่ตรงข้ามกับเมืองโลซานน์ครับ

บริเวณทะเลสาบมีทัศนียภาพที่สวยงามมิธรรมดา เพราะรายล้อมไปด้วยแนวภูเขาหิมะที่งดงาม ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินจำนวนมากจากหลากหลายสาขา สำหรับชาวสวิสนั้น พวกเขานิยมมาตั้งแคมป์ ปิกนิก รวมไปถึงทำกิจกรรมทางน้ำกันที่นี่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนครับ

จริงอยู่ว่าคุณสามารถชมทะเลสาบแห่งนี้ได้จากแทบทุกส่วนในตัวเมือง แต่ถ้าอยากชมให้สวยถึงใจ การล่องเรือกลไฟที่มีชื่อเสียงนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 38 CHF ต่อคนครับ

2. มหาวิหารโลซานน์และย่านเมืองเก่า

มหาวิหารโลซานน์ (Lausanne Cathedral) หรืออีกชื่อหนึ่ง Cathedral of Notre Dame of Lausanne เป็นมหาวิหารที่ตั้งตระหง่านเป็นศูนย์กลางของเมืองมาตั้งแต่ยุคกลาง ในปัจจุบันที่นี่ยังเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในย่านเมืองเก่าด้วยครับ

เสน่ห์ของมหาวิหารแห่งนี้คือสร้างขึ้นในสไตล์ Gothic ทั้งหลังในช่วงศตวรรษที่ 13 และจัดว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง โครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์นี้อย่าง Nave, Transept และ Apse ยังปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน และสวยงามยิ่ง ส่วนด้านในถูกประดับประดาอย่างอลังการด้วยกระจกสีของเดิมสมัยศตวรรษที่ 13 ครับ

ส่วนด้านนอกนั้นมีหอคอยที่ตั้งอยู่เคียงกันอยู่ถึง 5 ต้น บริเวณหอกลางที่สูง 72 เมตรนั้นเป็นจุดที่มีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตะโกนบอกเวลาตอนช่วงสี่ทุ่มถึงตีสองของทุกวัน ธรรมเนียมนี้ได้สืบต่อกันเป็นเวลา 600 ปีแล้วครับ

ทั้งนี้คุณสามารถขึ้นบันได 224 ขั้นเพื่อขึ้นไปชมวิวมุมสูงจากเมืองจากบริเวณจุดชมวิวได้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโลซานน์เลยครับ

ใกล้กับมหาวิหารเป็นย่านเมืองเก่า (La Cité) ที่มีร้านอาหารและคาเฟ่ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งซ่อนตัวอยู่ในอาคารสไตล์ยุคกลางที่สวยงามอลังการ เหมาะกับการดื่มด่ำบรรยากาศแบบดั้งเดิมครับ

3. Ouchy

Ouchy เป็นย่านริมทะเลสาบเจนีวาของเมืองโลซานน์ โดยมีปราสาทหลังใหญ่อย่าง Chateau d’Ouchy ซึ่งใช้เป็นสถานที่เซ็นสนธิสัญญาโลซานน์ (Treaty of Lausanne) ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสถาปนาประเทศ Turkiye ในปัจจุบัน ทุกวันนี้ที่นี่ได้กลายเป็นโรงแรมหรูที่มีร้านอาหารชั้นนำของเมืองตั้งอยู่ครับ ถ้าอยากได้บรรยากาศก็แน่นอนว่าสามารถไปเข้าไปใช้บริการได้

ย่านนี้เป็นย่านยอดนิยมของการเดินเล่น เพราะมีอาคารที่สวยงามอยู่จำนวนมาก หลายแห่งนั้นเป็นโรงแรมที่ทูตของคู่สงครามสองฝ่ายมาเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งกันที่นี่ นอกจากนี้ยังมีสวนด้วยอย่างเช่น สวน Place du Général Guisan ที่มีดอกกุหลาบให้ชมถึง 130 สปีชีส์ด้วยกันครับ

4. Plateforme 10

Plateforme 10 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านศิลปะแห่งใหม่ของเมืองโลซานน์ โดยที่นี่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ 3 แห่งด้วยกันที่จัดแสดงผลงานของหลายยุคหลายสมัย อย่างเช่น Musée de l’Élysée ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายจากทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นคุณจะได้เห็นภาพถ่ายที่ทรงพลังหลายรูป และยังได้เรียนรู้วิธีการพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เก็บภาพที่ยอดเยี่ยมมาได้ตั้งแต่อดีตครับ

ส่วนพิพิธภัณฑ์อีกสองแห่งได้แก่ Cantonal Museum of Fine Arts (MCBA) ที่จัดแสดงผลงานภาพวาดของศิลปินมากมายจากทั่วทั้งยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศิลปินชาวสวิสให้ได้ชม หรือว่า Cantonal Museum of Contemporary Design and Applied Arts (mudac) ที่จัดแสดงผลงานแนวร่วมสมัยครับ

สำหรับใครที่ชอบแนวนี้ แน่นอนว่าคุณสามารถไล่ชมได้ทั้งวันครับ บริเวณย่านนี้มีร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนไม่น้อย เพราะฉะนั้นคุณสามารถหาอะไรรับประทานและกลับเข้าไปชมต่อได้ ส่วนเรื่องตั๋วนั้น คุณสามารถซื้อตั๋วเหมาทั้ง 3 แห่งในราคา 25 CHF อ่านเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บของพิพิธภัณฑ์ครับ

5. ชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ

นอกเหนือจาก Plateforme 10 แล้ว โลซานน์ยังมีพิพิธภัณฑ์ชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นระดับท็อปๆ ของยุโรปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น

Olympic Museum – พิพิธภัณฑ์ริมทะเลสาบที่เล่าเรื่องราวของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มไปจนถึงยุคใหม่ เช่นเดียวกับสิ่งของสำคัญและเทปบันทึกภาพเหตุการณ์สำคัญของกีฬาโอลิมปิกครั้งต่างๆ สาเหตุที่พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่นี่ก็เพราะสำนักงานใหญ่ของ IOC (International Olympic Committee) ตั้งอยู่ที่โลซานน์ครับ

Collection de l’Art Brut – พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีคอนเซปต์ที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นแห่งที่จัดแสดงผลงานของศิลปินที่เรียนรู้ทักษะทางด้านศิลปะด้วยตนเองโดยไม่มีครูสอน บางคนนั้นอาจจะเป็นคนคุกที่ได้รังสรรค์ผลงานเหล่านี้ขึ้นมาระหว่างที่ถูกคุมขัง ดังนั้นผลงานแต่ละชิ้นจะโดดเด่นแปลกตาครับ

Fondation de l’Hermitage – พิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำของโลซานน์ที่รวบรวมผลงานศิลปะที่ได้รับการบริจาคมาจากผู้ใจบุญ ซึ่งมีงานของจิตรกรชั้นนำอย่าง Manet, Monet หรือแม้กระทั่ง Van Gogh ทั้งนี้ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารสมัยศตวรรษที่ 19 ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบและมีสวนดอกไม้สวยๆ ตั้งอยู่ด้วยครับ

6. ชมสวนสาธารณะอันตระการตา

โลซานน์เป็นเมืองที่มีสวนมากมาย และเป็นสวนที่งดงามมากด้วย สำหรับใครที่รักการชมสวนจึงไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเลยครับ แห่งที่น่าสนใจได้แก่

• Elysée Park – สวนสวยที่มีวิวทะเลสาบและภูเขาหิมะ แต่ที่ทำให้ที่นี่โด่งดังคือมีต้นซากุระที่ในยามสะพรั่งแล้วนั้นสวยไม่แพ้ญี่ปุ่นเลยครับ
• Valency Park – สวนทรงเสน่ห์ที่เป็นจุดยอดนิยมของบรรดาช่างถ่ายรูป ตรงกลางสวนแห่งนี้มีรูปปั้นลูกม้าอันเป็นเอกลักษณ์ครับ
• Mon-Repos Park – สวนที่ได้รับการขนานนามว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลซานน์ และเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของเมืองครับ

7. Place de la Palud

Place de la Palud เป็นย่านเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ตอนล่างของมหาวิหารโลซานน์ ที่นี่มีจุดที่น่าสนใจหลายแห่งอย่างเช่น Fontaine de la Justice น้ำพุที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง และสร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาที่จะแสดงละครได้ให้ได้ชมกันด้วยครับ

บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางเมืองมาตั้งแต่โบราณ เพราะฉะนั้นจะมีอาคารเก่าแก่อายุหลายร้อยปีให้ได้ชมและถ่ายรูป ซึ่งรวมไปถึงสถานที่ว่าการเมืองด้วย ส่วนในช่วงเช้าของวันพุธและเสาร์ก็จะมีตลาดเช้าที่ชาวเมืองนำสินค้าต่างๆ มาวางขายครับ

8. ชมวิวตามจุดสวยต่างๆ

โลซานน์นั้นมีจุดชมวิวที่สวยงดงาม และคุณสามารถไล่ชมโดยไล่เรียงต่อกันได้ อย่างเช่น

• Sauvabelin Tower – หอคอยไม้สูง 35 เมตรที่เป็นจุดชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศาที่สวยงามยิ่ง คุณจะได้เห็นทะเลสาบเจนีวา และเทือกเขาแอลป์อันสุดแสนจะงดงามครับ
• Sentier du Signal – ในอดีตเคยเป็นสถานที่ซึ่งทหารใช้สอดแนมข้าศึกที่จะมารุกรานเมือง ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวทะเลสาบที่สวยมาก
• St-Maire Castle esplanade – พื้นที่บริเวณเนินเขา (Cite) ที่ใช้สร้างปราสาทอันเก่าแก่และมหาวิหารโลซานน์ บริเวณนี้จะเห็นวิวสวยๆ ของทะเลสาบเช่นเดียวกับย่านเมืองเก่าครับ
• Flon Footbridge – จากจุดนี้คุณจะได้เห็นวิวของ Flon Quarter ที่เป็นศูนย์กลางของย่านเมืองใหม่โลซานน์ในปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่เห็นทะเลสาบ แต่อาคารบ้านเรือนในบริเวณนี้สวยงามไม่เบาเลยครับ
• Montbenon Esplanade – จุดที่ได้ชื่อว่าเป็น “ระเบียง” ที่ชมทะเลสาบเจนีวาได้อย่างงดงามที่สุด โดยมีลักษณะเป็นสวนขนาดใหญ่ที่หันหน้าไปยังทะเลสาบและแนวภูเขาครับ ตัวสวนจะไม่ได้อยู่ริมทะเลสาบ แต่ตั้งอยู่บนส่วนที่สูงขึ้นมา ทำให้เห็นวิวได้แบบพาโนรามาครับ
• LE CRÊT DE MONTRIOND – เนินเขาที่เป็นจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง

9. Lavaux Vineyards

Lavaux Vineyards เป็นพื้นที่ปลูกไวน์ริมทะเลสาบเจนีวาที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก โดยพื้นที่เหล่านี้มีประมาณ 8.3 ตารางกิโลเมตร แต่ลัดเลาะไปตามริมทะเลสาบถึง 30 กิโลเมตร

ทัศนียภาพบริเวณพื้นที่ปลูกไวน์แห่งนี้ถือว่าสวยสุดๆ เพราะด้านหน้าไร่เป็นทะเลสาบ ส่วนด้านหลังเป็นแนวเทือกเขาแอลป์ นักท่องเที่ยวจึงมักไปเดินชมวิวตามเส้นทางต่างๆ กันที่นี่ครับ เส้นทางที่ได้รับความนิยมคือจาก Ouchy ไปจบที่ Chillon Castle ที่ระยะทางทั้งหมด 32 กิโลเมตร แต่เส้นที่สั้นกว่านั้นก็มีเช่นกันครับ นอกจากนี้คุณอาจจะเลือกขี่จักรยานแทนก็ได้ครับ

References

• cgn.ch
• Lausanne Tourisme
• Plateforme 10 Official Site
• Collection de l’Art Brut Official Site
• My Switzerland – Lavaux Vineyards