หมู่เกาะมิยาโกะ (Miyako Island) หรือมิยาโกะจิม่า (Miyakojima) เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในจังหวัดโอกินาว่าของญี่ปุ่น ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องหาดทรายสีขาว และน้ำทะเลสี turquoise ที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ รวมไปถึงเป็นสถานที่ดำน้ำตื้นและลึกชั้นนำของญี่ปุ่นด้วยครับ
ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำหมู่เกาะแห่งนี้ให้คุณรู้จักคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเกาะมิยาโกะ (Miyako Island)
หมู่เกาะมิยาโกะเป็นหมู่เกาะที่มีพื้นที่เป็นลำดับที่ 4 ในจังหวัดโอกินาว่า โดยหมู่เกาะนั้นประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย แต่ประชากรทั้งหมดจะอาศัยอยู่ในเกาะใหญ่เพียง 8 แห่งเท่านั้น โดยเฉพาะเกาะมิยาโกะ (Miyako Island) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ครับ
ในสภาพทางภูมิศาสตร์นั้น เกาะมิยาโกะอยู่ห่างจากเกาะโอกินาว่าอันเป็นที่ตั้งของนาฮะ เมืองหลวงของจังหวัดถึง 300 กิโลเมตรทางตอนใต้ เพราะฉะนั้นจะใกล้กับไต้หวันและจีนมากกว่าเกาะใหญ่ทั้งสี่ของญี่ปุ่นมากกว่าอีกครับ
หมู่เกาะมิยาโกะนั้นมีประวัติศาสตร์ย้อนไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 14 เป็นอย่างน้อย บันทึกทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์หยวน (หรือราชวงศ์มองโกล) ได้บันทึกไว้ว่ามีชาวมิยาโกะไปขึ้นฝั่งที่เมืองเวินโจวในปี ค.ศ.1317 ครับ
ชาวริวกิวจากเกาะโอกินาว่าได้เข้ามาปกครองหมู่เกาะมิยาโกะในช่วงศตวรรษที่ 17 แต่หลังจากนั้นไม่นานโอกินาว่าก็ได้ถูกรุกรานโดยตระกูลซัทสุมะแห่งคาโกชิม่า ทำให้ต้องส่งบรรณาการจำนวนมากมายในแต่ละปี รัฐบาลริวกิวจึงขึ้นภาษีชาวเกาะมิยาโกะอย่างมหาศาล ชาวเกาะจึงมีวิถีชีวิตที่แร้นแค้นแสนสาหัส
ในปี ค.ศ.1771 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5-8.5 ริกเตอร์ (นักธรณีวิทยาไม่แน่ชัดว่าความรุนแรงเท่าใดแน่) แต่ที่แน่ๆ ได้ทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ที่ทำให้ชาวเกาะเสียชีวิตไปถึง 12,000 คนหรือว่าเกินครึ่งของประชากรทั้งหมด แถมคลื่นดังกล่าวได้ส่งผลให้ดินบนเกาะกลายเป็นดินเค็มที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้เหมือนแต่ก่อน
ช่วงศตวรรษที่ 19 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ล้มล้างระบอบกษัตริย์ของชาวริวกิว และยึดหมู่เกาะมิยาโกะและหมู่เกาะอื่นๆ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ หลังจากนั้นเกาะมิยาโกะจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโอกินาว่าครับ
ทว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลญี่ปุ่นก็ใช้ที่นี่เป็นฐานทัพสำหรับส่งเครื่องบินกามิกาเซ่ และเตรียมทหารไว้ป้องกันถึงสามหมื่นกว่าคน ทำให้กองทัพสหรัฐต้องทุ่มกำลังเข้าโจมตี แต่ยังยึดไม่ได้สำเร็จ สงครามก็สงบลงเสียก่อน เพราะได้ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ ระหว่างที่โซเวียตเตรียมยกพลขึ้นบกที่ฮอกไกโด
หลังสงครามสงบ รัฐบาลสหรัฐได้เข้ายึดครองที่นี่ไว้จนกระทั่งในปี ค.ศ.1972 ที่ได้มอบกลับไปให้ญี่ปุ่น ปัจจุบันหมู่เกาะมิยาโกะจึงได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแทน ด้วยความที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ เกาะมิยาโกะจึงอบอุ่นตลอดทั้งปี และเป็นสถานที่หนีหนาวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งของชาวญี่ปุ่นครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปหมู่เกาะมิยาโกะทำอย่างไร?
การสัญจรบนเกาะมิยาโกะทำอย่างไร?
โดยมากแล้วถ้าคุณเลือกพักในเกาะมิยาโกะ ที่พักส่วนใหญ่จะให้บริการรถรับส่งจากสนามบิน เช่นเดียวกับการเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่นดำน้ำ แต่ถ้าคุณอยากได้อิสระในการเดินทาง การเช่ารถเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ ส่วนอีกวิธีที่สะดวกแต่แพงแน่นอนว่าคือแท็กซี่ครับ
1. ชมชายหาดต่างๆ
ข้อควรทราบเรื่องความปลอดภัย
หาดต่างๆ บนเกาะมิยาโกะนั้นไม่ได้มีไลฟ์การ์ดมากเหมือนกับหาดทั่วไปในญี่ปุ่น แถมบางแห่งยังเป็นหาดร้างที่ไม่มีไลฟ์การ์ดควบคุม ดังนั้นการว่ายน้ำต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ทางเว็บไซต์ทางการแนะนำอย่างยิ่งให้หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในหาดร้าง และควรปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด อย่างตอนที่มีลมแรงนั้นไม่ควรลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพึงระวังหรือแมงกะพรุนที่จะถูกพัดเข้าหาฝั่งช่วงที่มีลมรุนแรงครับ
เกาะมิยาโกะนั้นมีชื่อเสียงว่าเป็นเกาะที่มีชายหาดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ดังนั้นการไปเที่ยวชมหาดจึงเป็นกิจกรรมอันดับ 1 ของนักเดินทางที่ไปเยี่ยมเยือนที่นี่ หาดที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้
หาดมาเอะฮามะ (Maehama Beach) – หาดทรายขาวที่มีความยาวถึง 7 กิโลเมตร น้ำบริเวณชายหาดแห่งนี้ตื้นและใสสะอาดจนเห็นพื้นทรายเบื้องล่าง ที่นี่จึงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามสำหรับการทำเล่นน้ำและกิจกรรมทางน้ำครับ นอกจากนี้การชมตะวันตกดินก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเช่นกัน
หาดโยชิโนะ (Yoshino Beach) – หาดทรายสีขาวที่มีปะการังและสัตว์น้ำอันอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ไม่ไกลจากฝั่ง ทำให้ที่นี่เป็นจุดดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนเกาะครับ การว่ายน้ำก็ทำได้เช่นกันเพราะคลื่นลมไม่รุนแรงมากนัก แต่มีความเสี่ยงจะไปเหยียบปะการัง ทำให้ไปว่ายเป็นหาดมาเอะยามะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
Sunset Beach – อีกหนึ่งหาดทรายสีขาวของเกาะมิยาโกะ โดยที่นี่เป็นจุดชมวิวตะวันตกดินที่ยอดเยี่ยม และยังเห็นสะพานอิราบุได้อีกด้วย
หาดซุนะยามะ (Sunayama Beach) – หาดทรายสีขาวที่มีแลนด์มาร์กคือถ้ำขนาดเล็กบริเวณริมหาด เหมาะต่อการถ่ายรูป อย่างไรก็ดีการว่ายน้ำบริเวณนี้ไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก เพราะพื้นทะเลจะลาดลึกลงไปอย่างรวดเร็วครับ การไปว่ายที่หาดอื่นจะปลอดภัยกว่าครับ
หาดพาอิกานามะ (Painagama Beach) – หาดสวยที่อยู่ใกล้กับเมืองมิยาโกะจิม่า ตัวเมืองบนเกาะมิยาโกะมากที่สุด ที่นี่ได้รับการป้องกันด้วยตาข่ายกันแมงกะพรุน ทำให้เป็นตัวเลือกการว่ายน้ำที่ดีไม่น้อยครับ
2. Ingya Marine Garden
Ingya Marine Garden เป็นสวนหาดที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะมิยาโกะ โดยพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นเกาะแก่งที่มีหาดทรายสีขาว บริเวณนี้มีปะการังและสัตว์น้ำอื่นๆ ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมในการดำน้ำตื้นครับ
3. ดำน้ำตื้นและลึก
หมู่เกาะมิยาโกะถือว่าเป็นสรวงสวรรค์สำหรับการดำน้ำตื้นและลึกของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบนเกาะนั้นมีไดฟ์ช้อปหลายแห่งที่เปิดขายทัวร์ที่นำคุณขึ้นเรือไปยังจุดดำน้ำตื้นและลึกระดับท็อปๆ ของหมู่เกาะ บางแห่งจะอยู่ห่างออกจากฝั่งไปพอสมควรเลยครับ
สำหรับใครที่เคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว คุณอาจจะเลือกทัวร์ที่ specialized มากกว่านั้น เช่นการดำน้ำลึกเพื่อสำรวจถ้ำหรือช่องแคบใต้ทะเล (จัดว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่) หรือว่าชมเต่าทะเลครับ
4. แหลมฮิกาชิ-เฮนนาซากิ
แหลมฮิกาชิ-เฮนนาซากิ (Cape Higashi-Hennazaki) เป็นแหลมความยาว 2 กิโลเมตรที่ทะเลจีนตะวันออกบรรจบกับมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณปลายสุดของแหลมนั้นมีประภาคารสูง 24.5 เมตรตั้งเป็นเอกลักษณ์ครับ
บริเวณชายฝั่งของแหลมนั้นจะมีหินขรุขระมากมาย เช่นเดียวกับน้ำทะเลที่สวยงามมาก ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเกาะมิยาโกะครับ
5. ชมสะพานเชื่อมหมู่เกาะ
เกาะมิยาโกะเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมิยาโกะ ซึ่งจากเกาะนี้จะมีสะพานเชื่อมเกาะต่างๆ ที่อยู่ใกล้กัน โดยสะพานข้ามทะเลที่สวยงามและน่าไปชมได้แก่
สะพานอิราบุ (Irabu Bridge) – สะพานข้ามทะเลความยาว 3.5 กิโลเมตรที่นำนักเดินทางไปสู่เกาะอิราบุที่มีหาดสวยๆ ให้ชมเพิ่มเติม นอกจากนี้วิวสองฝั่งของสะพานก็สวยงามตระการตา เพราะน้ำใสช่วยให้เห็นท้องทะเลอย่างงดงามมากครับ
สะพานอิเคมะ (Ikema Bridge) – สะพานที่เชื่อมเกาะมิยาโกะกับเกาะอิเคมะ วิวบริเวณสะพานนั้นถือว่างดงามมาก โดยเฉพาะในวันฟ้าใสครับ
สะพานคุริมะ (Kurima Bridge) – สะพานที่นำคุณไปสู่เกาะคุริมะ เกาะที่มีหาดร้างอีกมากมายให้ได้ชม (แต่แน่นอนว่าไม่ควรไปว่ายน้ำครับ) จากบริเวณสะพาน คุณสามารถมองเห็นหาดมาเอะฮามะได้อีกด้วย
6. Higa Road Park
หนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตที่นิยมทำกันที่หมู่เกาะมิยาโกะคือขับรถชมวิว ซึ่งหนึ่งในจุดที่สวยที่สุดคือ Higa Road Park ที่มีจุดที่หันหน้าไปยังทะเลจีนตะวันออก โดยตั้งอยู่บนหน้าผาที่สูงเกือบถึง 100 เมตร
จากจุดนี้คุณจะได้เห็นวิวแบบพาโนรามาของเกาะมิยาโกะและเกาะอื่นๆ โดยรอบอย่างสุดลูกหูลูกตา รวมไปถึงแนวปะการังและท้องทะเลที่งดงามอีกด้วย ช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมคือช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินครับ
7. ชิมอาหารพื้นเมือง
หมู่เกาะมิยาโกะนั้นมีหลากหลายเมนูที่น่าสนใจ นอกเหนือจากซีฟู้ดและอาหารโอกินาว่าที่มีชื่อเสียงแล้ว สิ่งที่คุณควรลองแน่นอนว่าคือเนื้อมิยาโกะ (Miyako Beef) ที่นุ่มลิ้นสุดจะพรรณนา ไปจนถึงมิยาโกะโซบะ (Miyako Soba) เมนูเส้นที่มีชื่อเสียงเลื่องลือครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือผลไม้ต่างๆ ซึ่งผลไม้ที่นี่จะเป็นผลไม้เขตร้อนคล้ายกับประเทศไทย แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว อย่างเช่นมะม่วงหรือสับปะรดครับ ถ้าคุณอยากไปชมการปลูกผลไม้ของที่นี่ ไปจนถึงเก็บผลไม้และชิมผลิตภัณฑ์จากผลไม้ ผมแนะนำให้ไปที่ Maipari Miyakojima Tropical Fruit Farm (ค่าเข้าอยู่ที่ 700 เยนครับ)