มิยาซากิ (Miyazaki) เป็นเมืองรีสอร์ทยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ตัวเมืองตั้งอยู่บนเกาะคิวชูโดยมีสถานะเป็นเมืองหลวงของจังหวัดชื่อเดียวกัน คนไทยจำนวนมากน่าจะเคยได้ยินชื่อเมืองนี้เพราะเนื้อมิยาซากิเป็นเนื้อวากิวอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และเป็นเมนูที่คุณไม่ควรพลาดทุกประการถ้าได้ไปเยือนที่นี่ครับ
ในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเมืองมิยาซากิโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเมืองมิยาซากิ (Miyazaki)
มิยาซากิตั้งอยู่ทางตะวันออกค่อนไปทางตอนใต้ของเกาะคิวชู ดังนั้นพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมืองจึงเป็นชายฝั่งทะเล ภูมิประเทศของมิยาซากินั้นเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำที่หาได้ไม่ง่ายนักในประเทศที่มีภูเขามากมายอย่างญี่ปุ่น แต่ก็ต้องแลกกับการที่เป็นจุดรับพายุไต้ฝุ่นจำนวนมากในแต่ละปีครับ
ในอดีตมิยาซากิเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดโบราณชื่อว่าฮิวกะ (Hyuga Province) แต่ยังไม่ได้มีสถานะเป็นเมืองแต่อย่างใด จนกระทั่งในปี ค.ศ.1551 ได้มีการสร้างหมู่บ้านโจงาซากิขึ้นที่บริเวณนี้เพื่อใช้ค้าขายทางทะเลกับเมืองอื่นๆ ที่อยู่ริมทะเลภายในเซโตะ (อย่างเช่นฮิโรชิม่าหรือชิโมโนเซกิ) ไปจนถึงเมืองต่างๆ ในเขตคันไซครับ (โอซาก้า, เกียวโต ฯลฯ)
ช่วงสมัยเอโดะ พื้นที่บริเวณนี้ได้อยู่ในการปกครองของตระกูลอิโตะ ซึ่งก็ไม่ได้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากนัก จนกระทั่งสมัยเมจิที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปลี่ยนโครงสร้างการปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่ และได้มีการก่อตั้งจังหวัดมิยาซากิขึ้น โดยเมืองหลวงนั้นให้ตั้งอยู่ที่โจงาซากิที่ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของจังหวัดพอดีครับ
ดังนั้นโจงาซากิจึงได้กลายเป็นเมืองชื่อว่าเมืองมิยาซากิในปี ค.ศ.1889 ที่นี่ได้กลายเป็นเมืองรีสอร์ทยอดนิยมในช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตอย่างก้าวกระโดด ถ้าถามชาวญี่ปุ่นช่วงนั้นว่าสถานที่ฮันนีมูนหรือพักผ่อนหย่อนใจอันดับท็อปๆ อยู่ที่ไหน รับรองว่ามิยาซากิต้องอยู่ในอันดับต้นๆ เพราะที่นี่มีอากาศที่อบอุ่นกว่าที่อื่นใดในญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดีความนิยมของเมืองนั้นเริ่มลดถอยลงหลังจากที่ญี่ปุ่นเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ทุกวันนี้มิยาซากิไม่ได้รับความนิยมเท่าเดิม แต่ก็ยังเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักเนื้อครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเมืองมิยาซากิ (Miyazaki) ทำอย่างไร?
สำหรับเมืองอื่นๆ นอกเกาะคิวชูนั้น วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดคือบินในประเทศญี่ปุ่นไปลงที่ Miyazaki Airport โดยตรง
แต่ถ้าคุณอยู่ที่ฟุกุโอกะ คุณสามารถไปมิยาซากิได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
รถบัส – ตัวเลือกที่ซับซ้อนน้อยที่สุด มีผู้บริการรถบัสไปยังมิยาซากิจากสถานีรถบัส Hakata Bus Terminal ซึ่งคุณจะไปถึงได้ในเวลาประมาณ 4.5 ชั่วโมงครับ
ชินคันเซน + รถไฟ – ขั้นแรกคุณจะต้องนั่ง Kyushu Shinkansen ไปลงที่ Kagoshima Chuo Station อันเป็นสถานีหลักของเมืองคาโกชิม่า หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็น Limited Express (Kirishima) ไปยังมิยาซากิครับ วิธีนี้ใช้กับเมืองอื่นๆ ที่ Kyushu Shinkansen ผ่านได้ด้วยเช่นกัน อย่างเช่นคุมาโมโตะเป็นต้น รายละเอียดอ่านเพิ่มเติมได้ที่ JR Kyushu ครับ
ชินคันเซน + รถบัส – ขั้นแรกคุณจะต้องนั่ง Kyushu Shinkansen ไปลงที่ Shin-Yatsushiro Station หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถบัส B&S Miyazaki bus ไปยังมิยาซากิครับ
ส่วนเมืองอื่นๆ ที่เป็นทางผ่านของทางรถไฟ Nippo Main Line อย่างเช่นคิตะคิวชู (Kokura Station), เบปปุ (Beppu Station), อุสุกิ (Usuki Station) คุณสามารถนั่งรถไฟไปยังมิยาซากิได้เลย โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนรถแต่อย่างใดครับ
ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจาก JR Kyushu และ Visit Miyazaki โปรดตรวจสอบที่ต้นทางก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ครับ
การสัญจรในเมืองมิยาซากิทำอย่างไร?
1. เกาะอาโอะชิม่า
เกาะอาโอะชิม่า (Aoshima Island) เป็นเกาะขนาดเล็ก (เส้นรอบวงแค่ประมาณ 1.5 กิโลเมตร) แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาผ่อนคลาย เพราะว่าถูกโอบล้อมด้วยหาดทรายขาวที่งดงาม เหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำครับ
ศูนย์กลางของเกาะคือศาลเจ้าอาโอะชิม่า (Aoshima Shrine) ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมมาขอพรให้เดินทางปลอดภัย หาคู่ครองที่เหมาะสม ไปจนถึงคลอดบุตรอย่างราบรื่นครับ
ไฮไลท์ของเกาะแห่งนี้คือพื้นหินในทะเลที่มีรูปร่างเหมือนกระดานซักเสื้อผ้า (ที่มาของชื่อว่า “กระดานซักเสื้อผ้าของปีศาจ”) ซึ่งคุณจะมองเห็นได้ช่วงที่น้ำลงครับ
2. ศาลเจ้ามิยาซากิ
ศาลเจ้ามิยาซากิ (Miyazaki Shrine) เป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในเมือง ตัวศาลเจ้าอุทิศให้กับจักรพรรดิจินมุ (Emperor Jinmu) จักรพรรดิองค์แรกในญี่ปุ่น ซึ่งตามข้อสันนิษฐานของนักประวัติศาสตร์ว่าน่าจะเป็นจักรพรรดิในตำนานครับ
ตัวศาลเจ้านั้นได้รับการตบแต่งอย่างเรียบง่าย ที่นี่เป็นสถานที่ที่ใช้จัดเทศกาลพื้นเมืองต่างๆ อย่างเช่นการขี่ม้ายิงธนูครับ
3. Sun Messe Nichinan
Sun Messe Nichinan เป็นสวนสาธารณะริมทะเลที่มีรูปปั้นหินโมอัย (Moai) ของแท้ที่ทางเกาะอีสเตอร์ให้มาทั้งหมด 7 ตัว โดยรูปปั้นหินตั้งเรียงรายกัน โดยมี background เหมือนกับที่เกาะอีสเตอร์แทบไม่มีผิดเพี้ยนเลยครับ
ดังนั้นถ้าคุณอยากเห็นโมอัยของจริงสักครั้ง แต่ไม่อยากบินข้ามน้ำข้ามทะเล 30 ชั่วโมงไปถึงอเมริกาใต้ การไปเยี่ยมเยือนที่นี่ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ นอกจากนี้ในบริเวณสวนยังมีพิพิธภัณฑ์แมลงหายาก ตลอดจนร้านอาหารพื้นเมืองให้ได้ลองชิมด้วยครับ
4. สวนเฮย์วะได
สวนเฮย์วะได (Heiwadai Park) เป็นสวนที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวโรกาสครบ 2,600 ปีของการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิจินมุ จักรพรรดิพระองค์แรกของญี่ปุ่น โดยตรงกลางสวนจะมีแลนด์มาร์กชื่อว่าหอคอยแห่งสันติภาพ (Peace Tower) ซึ่งเป็นหอคอยหินที่สร้างขึ้นจากหินจากนานาประเทศทั่วทั้งทวีปเอเชียครับ
ในบริเวณเดียวกันจะมีสวนชื่อว่าสวนฮานิวะ (Haniwa Garden) ที่มีรูปปั้นฮานิวะกว่า 400 ตัวซึ่งในยุคโคฟุน (ประมาณเกือบสองพันปีก่อน) ถูกปั้นขึ้นเพื่อวางไว้บริเวณหลุมฝังศพเพื่ออุทิศให้กับผู้ตายตามความเชื่อโบราณครับ
5. ลิ้มลองเมนูพื้นเมือง
เมนูอันดับหนึ่งที่ห้ามพลาดทุกกรณีก็คือเนื้อมิยาซากิ (Miyazaki Beef) เนื้อที่ครองบัลลังก์อันดับ 1 ของญี่ปุ่นมาหลายยุคหลายสมัย เนื้อมิยาซากินั้นไม่ว่าจะเอาไปทำอะไรก็อร่อย ตั้งแต่ยากินิคุไปจนถึงสเต๊กหรือรูปแบบอื่นๆ ครับ
อีกเมนูที่น่าสนใจได้แก่ไก่ย่างถ่านที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นถ่าน และอุดมไปด้วยรสชาติ ส่วนของหวานนั้นส่วนมากจะเป็นผลิตภัณฑ์จากมะม่วง ซึ่งจะอร่อยสู้มะม่วงไทยได้หรือไม่ก็ต้องลองชิมดูครับ
References
- Visit Miyazaki
- Miyazaki City Tourism