นิเซโกะ (Niseko, ニセコ町) เป็นเมืองขนาดเล็กในฮอกไกโด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมที่สุดของเกาะ และมี facilities ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้นักท่องเที่ยวที่รักการทำกิจกรรมช่วงฤดูหนาวเดินทางมาที่นี่จำนวนมากมายในทุกปีครับ
ในบทความนี้จะแนะนำให้คุณรู้จักนิเซโกะโดยคร่าวๆ และจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักนิเซโกะ (Niseko)
นิเซโกะตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะฮอกไกโด เพราะฉะนั้นจะรับลมหนาวจากภูมิภาคไซบีเรียของรัสเซีย ทำให้มีหิมะตกจำนวนมากทุกปี แต่หิมะของที่นี่มีความพิเศษคือจะนุ่มและไม่หยาบกระด้าง เอื้อต่อการเล่นหิมะและสกีเป็นที่สุดเลยครับ
ต้นกำเนิดของหมู่บ้านนิเซโกะย้อนไปได้ถึงช่วงปี ค.ศ.1891 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เข้าผนวกเกาะฮอกไกโด และได้มีการส่งนักสำรวจชาวญี่ปุ่นเข้ามาที่แห่งนี้ครับ
ด้วยความที่มีธรรมชาติที่สวยงามและฤดูหนาวที่ยาวนาน นิเซโกะได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวฤดูหนาวยอดนิยม สกีรีสอร์ทหลายแห่งได้ถูกสร้างขึ้นและให้บริการนักท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบันครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปนิเซโกะทำอย่างไร?
ในกรณีที่คุณอยู่ที่เมืองอื่นๆ ของญี่ปุ่น อย่างเช่นโตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า คุณจะต้องบินไปยังสนามบิน New Chitose Airport ซึ่งเป็นสนามบินหลักของเกาะฮอกไกโดครับ
หลังจากนั้นคุณจะต้องนั่งรถบัสของ Chuo Bus, Hokkaido Access Network หรือ White Liner ไปยังนิเซโกะครับ ซึ่งรถบัสเหล่านี้ออกทั้งจากตัวเมืองซัปโปโรและสนามบิน New Chitose Airport ครับ
อีกทางเลือกหนึ่งคือนั่งรถไฟของ JR Hokkaido ไป แต่วิธีหลังนี้คุณจะต้องเปลี่ยนรถไฟหลายครั้ง และต้องใช้บริการแท็กซี่ด้วย ซึ่งยุ่งยาก แพง และไม่สะดวกสบายเท่ากับรถบัสที่คุณสามารถนอนยาวไปได้เลยครับ
สำหรับใครที่ต้องการความยืดหยุ่น แน่นอนว่าคุณสามารถเช่ารถขับได้จากในเมืองซัปโปโร หรือสนามบิน และขับมาจากนิเซโกะได้ วิธีสะดวกสบายเพราะคุณจะตัดปัญหาการเดินทางมานิเซโกะ และการเดินทางภายในหมู่บ้านด้วย
นอกจากนี้คุณยังสามารถแวะไปสถานที่เที่ยวอื่นด้วย อย่างเช่นรุสุซึ (Rusutsu) สกีรีสอร์ทที่อยู่ใกล้กัน ไปจนถึงโจซังเคออนเซ็น หรือทะเลสาบโทยะครับ
ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Niseko Tourism , Niseko United และ Niseko Resort Tourist Association (เว็บไซต์ทางการของนิเซโกะ) ทั้งนี้ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางก่อนที่จะออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดครับ
ไปเที่ยวนิเซโกะช่วงไหนดี?
เนื่องจากนิเซโกะโด่งดังในฐานะสกีรีสอร์ท เพราะฉะนั้นช่วงฤดูหนาวจึงเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด ช่วงนี้จึงน่าไปที่สุดถ้าคุณอยากสัมผัสกับความเป็นนิเซโกะอย่างแท้จริงครับ
อย่างไรก็ดีจริงๆแล้วนิเซโกะนั้นเที่ยวได้ทุกฤดู ช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมสำหรับการท่องป่า พายเรือคายัค และกิจกรรมผจญภัยอื่นๆ ส่วนช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มีซากุระ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้เปลี่ยนสีครับ
ที่พัก
สำหรับใครที่ยังไม่ได้หาที่พัก ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักนิเซโกะน่าจองของผมเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
1. สกีรีสอร์ท
นิเซโกะมีสกีรีสอร์ทหลักทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า Niseko United โดยประกอบด้วย
Grand Hirafu – สกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในทั้งหมด โดยมี skilift ถึง 12 ตัวและกอนโดลาอีกด้วย กิจกรรมที่มีให้เล่นมีทุกรูปแบบตั้งแต่สกี สโนว์บอร์ด ฯลฯ แต่จุดแข็งของที่นี่คือมีร้านอาหารและบาร์มากมาย รวมไปถึงชุมชนที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติครับ
Annupuri – สกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงเรื่องลานสกีหลากหลายรูปแบบ และหิมะคุณภาพเยี่ยม ตัวรีสอร์ททั้งอยู่ตะวันตกสุดของนิเซโกะครับ
Niseko Village – สกีรีสอร์ทที่มีกิจกรรมฤดูหนาวหลากหลายให้เล่น รวมไปถึงเลื่อนเทียมกวางเรนเดียร์ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัว แต่ที่นี่ก็มีลานสกียากๆ สำหรับนักสกีที่ต้องการความท้าทายระดับสูงเช่นกัน
Hanazono – สกีรีสอร์ทลูกของ Grand Hirafu ลานสกีของที่นี่กว้างขวาง และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการทำกิจกรรมฤดูหนาวอื่นๆ ครับ
เพื่อความคุ้มค่า คุณสามารถซื้อ All Mountain Pass เพื่อเข้าสกีรีสอร์ททั้ง 4 ได้ครับ ราคาในช่วง Regular Season (กลางธันวาถึงกลางมีนา) เริ่มต้นที่ 8,500 เยนต่อวันครับ แต่ช่วงเดือนกลางมีนาถึงกลางพฤษภา ราคาจะต่ำกว่านั้น
ข้อดีของการซื้อพาสนี้ก็คือจะรวมค่าใช้รถบัส Niseko United Shuttle ที่ให้บริการระหว่างสกีรีสอร์ทแต่ละแห่งด้วยครับ
นอกจากนี้จริงๆแล้วนิเซโกะมีสกีรีสอร์ทอีกแห่งหนึ่งชื่อนิเซโกะ โมอิวะ (Niseko Moiwa) ซึ่งมีขนาดเล็ก แต่เหมาะเป็นพิเศษสำหรับนักสกีหน้าใหม่ ถึงกระนั้นค่าเข้าที่นี่จะไม่รวมกับอีก 4 แห่งครับ ถ้าอยากจะเข้าแน่นอนว่าต้องจ่ายเพิ่ม
2. ยอดเขาโยเตอิ
ยอดเขาโยเตอิ (Mt.Yotei) เป็นยอดเขาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนิเซโกะ ทั้งนี้คุณมองเห็นได้จากทุกจุดภายในหมู่บ้านเลยครับ
แต่ถ้าร่างกายคุณพร้อม คุณสามารถปีนยอดเขาอันนุปุริ (Mt.Annupuri) เพื่อความสวยงามของยอดเขาโยเตอิได้ด้วยครับ
หลังจากที่คุณขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว คุณจะเห็นยอดเขาโยเตอิ และทัศนียภาพอันสวยงามของเบื้องล่างอย่างสวยงามมาก และถ้าคุณขึ้นไปช่วงเช้า คุณจะเห็นดวงอาทิตย์ทอแสงเหนือทะเลหมอกด้วย กิจกรรมนี้ถือว่าห้ามพลาดเลยครับ
3. ทะเลสาบฮันเกสึ
ทะเลสาบฮันเกสึ (Hangetsu) เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ที่ฐานของยอดเขาโยเตอิ ซึ่งแน่นอนว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปีก่อน
ตัวทะเลสาบมีจุดเด่นที่มีรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยวที่เกือบเต็มครึ่งดวง รายล้อมทะเลสาบคือป่าเมืองหนาวอันสมบูรณ์ยิ่ง ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีระดับท็อปเลยครับ แต่ช่วงฤดูหนาวก็จะมีหิมะปกคลุม ซึ่งสวยงามไม่แพ้กัน
4. แม่น้ำชิริเบทสึ
แม่น้ำชิริเบทสึ (Shiribetsu River) คือแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองนิเซโกะ ตัวแม่น้ำได้ชื่อว่าใสสะอาดที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะมีผู้คนอาศัยอยู่น้อยมาก และแทบจะไม่มีมลภาวะใดๆ เลยครับ
ในช่วงฤดูร้อน นักท่องเที่ยวมักจะมาพายเรือหรือล่องแพไปตามกระแสน้ำ ซึ่งให้ประสบการณ์คล้ายกับการล่องแก่งครับ
5. สระโอยุนุมะ
สระโอยุนุมะ (Oyunuma) เป็นบ่อร้อนขนาดใหญ่ที่ปล่อยน้ำร้อนออกมา 1000 ลิตรทุกนาที ซึ่งตัวน้ำได้รับความร้อนจากแก๊สและกระบวนการทางธรณีวิทยาใต้พิภพครับ
ตัวสระอยู่ห่างจากนิเซโกะไปประมาณ 15 กิโลเมตรใกล้กับยูกิชิจิบุออนเซ็นครับ (คนละแห่งกับสระชื่อเดียวกันที่โนโบริเบทสึ)
6. ชินเซนนุมะ
ชินเซนนุมะ (Shinsennuma) เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งอุดมไปด้วยผืนป่าและเหล่าพืชน้ำ แถมบางจุดยังมีดอกไม้ให้ชมอีกด้วย การเดินก็ไม่ยากอะไรก็มีทางเดินปูด้วยไม้อย่างดีไปตลอดทางครับ
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะสวยเป็นพิเศษ เพราะผืนป่าจะเปลี่ยนสีเป็นสีสันแสบตา ซึ่งตัดกับสีของสายน้ำอันเงียบสงบได้เป็นอย่างดี
7. ชมซากุระ
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ใกล้กับเมืองนิเซโกะเป็นจุดชมดอกซากุระไม่แพ้ที่ใดในฮอกไกโดเลยครับ โดยมีจุดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
- Twin Cherry Trees – ตั้งอยู่ในตัวเมืองนิเซโกะ ที่นี่มีต้นซากุระเพียงสองต้นเท่านั้นครับ แต่จุดเด่นคือมียอดเขาโยเตอิเป็นฉากหลัง เกิดเป็นทิวทัศน์ระดับคลาสสิกที่มักปรากฏอยู่ตามนิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
- Makkari Shrine – ศาลเจ้าที่อยู่ที่ฐานของยอดเขาโยเตอิ สองข้างทางไปสู่ตัวศาลเจ้ามีต้นซากุระที่ออกดอกบานสะพรั่งช่วงฤดูใบไม้ผลิ และมีวิวภูเขาเป็นฉากหลังอีกด้วย
- Shiribetsugawa Lan Lan Park – ตั้งอยู่ริมแม่น้ำชิริเบทสึ ในเมืองรันโกชิ (Rankoshi) ซึ่งห่างจากนิเซโกะ 16 กิโลเมตร ภายในสวนมีต้นซากุระเรียงรายไปตามสองข้างทางที่สวยไม่เบาครับ
8. แช่ออนเซ็น
ใกล้กับนิเซโกะมีโรงแรม เรียวกัง และโรงอาบน้ำคุณภาพเยี่ยมที่ให้คุณไปแช่น้ำผ่อนคลายอยู่หลายแห่งด้วยกัน ตัวเลือกก็จะมีตั้งแต่แบบในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งสนนราคาก็จะอยู่ที่ 500-1000 เยนต่อครั้ง โดยรวมแล้วไม่แพงเลยครับ
แต่แห่งที่ได้รับความนิยมที่สุดเห็นจะเป็น Goshiki Onsen และ Yukichichibu Onsen ซึ่งมีชื่อเสียงมานานตั้งแต่ในอดีตครับ
9. ขับรถชมวิว
ในกรณีที่คุณได้เช่ารถมาเที่ยวนิเซโกะ กิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือการขับรถชมวิวตามเส้นทาง Niseko Panorama Line ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองนิเซโกะกับอิวาไน (Iwanai) และยาว 45 กิโลเมตรครับ
ตลอดเส้นทางคุณจะได้เห็นแนวภูเขา หุบเขา ผืนป่าเมืองหนาว ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะต้นไม้ทุกต้นจะเปลี่ยนเป็นสีสันสดใสอันงดงามครับ
แจกตัวอย่างแพลนทริปนิเซโกะ
สำหรับด้านล่างจะเป็นตัวอย่างแพลนทริปที่มีนิเซโกะเป็นส่วนประกอบ ซึ่งคุณนำไปใช้แพลนทริปได้อย่างที่ต้องการ รวมไปถึงปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม สิ่งสำคัญอย่างเดียวคือต้องตรวจสอบเรื่องวิธีการเดินทางให้ดี เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนได้ตลอดเวลาครับ
References
- Niseko Tourism
- Niseko Tourist Association
- Niseko United
- Niseko Moiwa