โอบิฮิโระ (Obihiro, 帯広) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของฮอกไกโด โดยเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแห่งนี้ ด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่มีสีสัน ทำให้โอบิฮิโระครองใจนักเดินทางมาทุกยุคทุกสมัยครับ
ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำเมืองโอบิฮิโระให้คุณรู้จักคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเมืองโอบิฮิโระ (Obihiro)
โอบิฮิโระถือว่าเป็นดินแดนที่ใหม่มากของประเทศญี่ปุ่น เพราะเพิ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงปี ค.ศ.1883 หลังจากที่รัฐบาลเมจิผนวกเกาะฮอกไกโดได้ไม่นานนัก
ถึงกระนั้นโอบิฮิโระได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉพาะพื้นที่บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ต่อการทำเกษตรกรรม ทำให้เมื่อเส้นทางรถไฟเชื่อมกับคุชิโระเสร็จสิ้น ชาวเมืองจึงส่งออกผลผลิตต่างๆ ได้สะดวกสบายมากขึ้น ส่งผลต่อพัฒนาการของเมืองครับ
ปัจจุบันอุตสาหกรรมหลักของเมืองยังเป็นการเกษตร แต่สิ่งที่เข้ามาเพิ่มก็คือเรื่องการท่องเที่ยวนั่นเองครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปโอบิฮิโระทำอย่างไร?
จากซัปโปโร
- รถไฟ – JR Hokkaido มีบริการรถไฟ Limited Express (Ozora/Tokachi) จากซัปโปโรไปยังโอบิฮิโระทุกวัน สนนราคาอยู่ที่ 7,790 เยน และใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่งครับ
- รถบัส – มีรถบัสจากซัปโปโรไปยังโอบิฮิโระทุกวัน ราคาจะถูกกว่ารถไฟ แต่จะใช้เวลามากกว่าประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
- เช่ารถขับ – โอบิฮิโระอยู่ห่างจากซัปโปโรประมาณ 200 กิโลเมตร ดังนั้นการเช่ารถและขับไปถือว่าไม่ยากนัก แต่ในช่วงฤดูหนาวต้องระมัดระวังให้มากขึ้นครับ
สำหรับเมืองอื่นๆ
- เครื่องบิน + รถบัส – คุณสามารถบินจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างเช่นโตเกียวมายังสนามบิน Tokachi-Obihiro Airport หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสเข้าเมืองครับ
ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Obikan.jp ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวโอบิฮิโระ ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนได้ครับ
1. ชมการแข่งม้า
ช่วงแรกที่ชาวญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยที่โอบิฮิโระนั้น พวกเขาได้นำม้าเข้ามามากมายเพื่อบุกเบิกพื้นที่เกษตรกรรม และลากเลื่อนสิ่งของต่างๆ
ปัจจุบันชาวเมืองโอบิฮิโระจึงมีเทศกาลการแข่งม้าที่ระลึกถึงช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเรียกว่าบาไอย์ เคียวโซะ (Banei Kyoso, ばんえい競走) แต่การแข่งม้านี้ไม่ใช่แข่งธรรมดาในสนามแข่งม้า เพราะม้าทุกตัวจะมีเลื่อนเหล็กติดไว้ที่หลังพร้อมนักแข่งให้มันลากไปอีกด้วย การแข่งแบบนี้มีอยู่ที่โอบิฮิโระที่เดียวในโลกเท่านั้นครับ
ถ้าสนใจจะรับชมก็ชมได้ที่ Banei Tokachi ค่าเข้าชมก็เล็กน้อยแค่ 100 เยนเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ใกล้กับสนามแข่งจะมีพิพิธภัณฑ์ Obihiro Horse Museum ซึ่งเล่าถึงความสำคัญของม้าในการพัฒนาเมือง รวมไปถึงประวัติของการแข่งม้าครับ
2. โทคาจิกาวะออนเซ็น
โทคาจิกาวะออนเซ็น (Tokachigawa Onsen) เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่อยู่ติดกับเมืองโอบิฮิโระ เพราะฉะนั้นเดินทางไปไม่ยากนัก (ขับรถไปประมาณ 20 นาที แต่ถ้าไม่ได้เช่ามาต้องใช้แท็กซี่ครับ)
จุดเด่นของน้ำพุร้อนที่นี่คือเป็นไม่กี่ที่ในโลกที่มีส่วนประกอบจากพืช กล่าวคือซากพืชถูกฝังคู่ไปกับน้ำใต้ดินความร้อนสูงตั้งแต่อดีตกาล เพราะฉะนั้นน้ำของออนเซ็นจะมีแร่ธาตุที่ช่วยฟื้นฟูความชื้นให้กับผิวมากกว่าที่อื่น และยอดเยี่ยมสำหรับการประทินโฉมครับ
โรงอาบน้ำในหมู่บ้านออนเซ็นนั้นมีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง (rotenburo) ซึ่งคุณสามารถเลือกได้อย่างอิสระครับ
นอกเหนือจากแช่ออนเซ็นแล้ว ที่โทคาจิกาวะออนเซ็นยังมีหลายกิจกรรมน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นการชมหิ่งห้อยที่สวนโทคาจิกาโอกะในช่วงฤดูร้อน หรือการสำรวจท้องฟ้ายามค่ำคืนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ
แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ Hakucho Festival ที่เป็นการจุดโคมไฟหลากสีเป็นแนวยาวในช่วงกลางคืน บรรยากาศของที่นี่จึงโรแมนติกมากและเหมาะกับคู่รักเป็นที่สุดครับ
3. สวนสัตว์โอบิฮิโระ
สวนสัตว์โอบิฮิโระ (Obihiro Zoo) เป็นสวนสัตว์แห่งที่สองของเกาะฮอกไกโด โดยเปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1963
แม้ว่าสัตว์จะไม่ได้มากและอลังการเหมือนกับสวนสัตว์อาซาฮิยามะที่อาซาฮิคาวะ แต่ก็มีสัตว์ให้ชมมากมาย โดยเฉพาะนกฟลามิงโกที่มีหลายชนิดครับ
4. ชมดอกไม้ไฟ
ที่ริมแม่น้ำโทคาจิในเมืองโอบิฮิโระจะมีการจุดดอกไม้ไฟอย่างอลังการในคืนวันที่ 13 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งดอกไม้ไฟกว่า 20,000 ลูกจะถูกจุดตลอดช่วงเวลา 90 นาที พร้อมๆ กับเสียงดนตรีอันไพเราะที่ช่วยให้บรรยากาศโดยรอบนั้นแสนจะโรแมนติก
เพราะฉะนั้นถ้าคุณไปเที่ยวเมืองโอบิฮิโระในช่วงดังกล่าว กิจกรรมนี้ถือว่าไม่ควรพลาดเลยครับ
5. Jewelry Ice
Jewelry Ice เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการที่น้ำจากแหล่งน้ำใกล้กับยอดเขาโทคาจิแข็งตัวในช่วงฤดูหนาว หลังจากนั้นก็ถูกกระแสน้ำพัดออกมาตามแม่น้ำโทคาจิ จนสุดท้ายก็ออกทะเล และน้ำทะเลก็ซัดบางส่วนเข้าฝั่งจนเห็นเป็นก้อนน้ำแข็งรูปทรงต่างๆ บนหาดทราบ (อาจจะไม่ได้มากขนาดปกคลุมท้องทะเลแบบ Drift Ice ที่ชิเรโตโกะและอาบาชิริ)
การชมปรากฏการณ์นี้จะชมได้ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่เมืองโทโยโคโระ (Toyokoro) ซึ่งห่างจากเมืองโอบิฮิโระไป 32 กิโลเมตรครับ
6. ทะเลสาบชิการิเบทสึ
ทะเลสาบชิการิเบทสึ (Lake Shikaribetsu) เป็นทะเลสาบในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง และเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในฮอกไกโดครับ
ทัศนียภาพของทะเลสาบสวยงามมาก นอกจากเดินชมทั่วไปแล้ว คุณสามารถเช่าเรือแคนูไปพายเล่นในทะเลสาบได้อีกด้วย
7. สะพานทาอุสุเบทสึ
สะพานทาอุสุเบทสึ (Taushubetsu River Bridge) ได้ชื่อว่าเป็น “สะพานลึกลับ” เพราะบางช่วงของปี สะพานจะจมลงไปใต้พื้นน้ำของทะเลสาบนุกะบิระ (Lake Nukabira)
ทุกอย่างอธิบายได้ตามวิทยาศาสตร์ ในอดีตสะพานนี้ก็เป็นสะพานทั่วไป แต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้สร้างเขื่อนแห่งใหม่ขึ้นมา ทำให้ตัวสะพานจมลงไปใต้น้ำในช่วงที่น้ำมาก (กลางฤดูใบไม้ร่วง)
พอช่วงกลางฤดูหนาว ระดับน้ำในทะเลสาบลดลงและแข็งเป็นน้ำแข็ง สะพานจึงโผล่ขึ้นมาครับ และอยู่แบบนั้นจนสิ้นสุดฤดูร้อน
8. ชิมข้าวหน้าหมูย่าง
ภูมิภาคโทคาจิเป็นต้นกำเนิดของข้าวหน้าหมูย่าง (Butadon) เมนูที่หลายคนหลงรัก และมีให้กินแพร่หลายมาจนถึงประเทศไทยครับ
เมนูนี้นั้นมีต้นกำเนิดที่เมืองโอบิฮิโระแห่งนี้นี่เอง โดยเจ้าของร้าน Panchou ในปี ค.ศ.1930 ในปัจจุบัน ร้านนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ใครที่สนใจก็สามารถไปชิมเมนูนี้แบบต้นตำหรับได้ครับ
References
- Obikan.jp
- JNTO – Obihiro
- Tokachigawa Onsen Official Site
- Banei Tokachi Official Site
- Taushubetsu Bridge (Nippon.com)