หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น8 ไฮไลท์เมืองโอบิฮิโระ (Obihiro) ที่คุณไม่ควรพลาด

8 ไฮไลท์เมืองโอบิฮิโระ (Obihiro) ที่คุณไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

โอบิฮิโระ (Obihiro, 帯広) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของฮอกไกโด โดยเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแห่งนี้ ด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่มีสีสัน ทำให้โอบิฮิโระครองใจนักเดินทางมาทุกยุคทุกสมัยครับ

ในบทความนี้ผมจะมาแนะนำเมืองโอบิฮิโระให้คุณรู้จักคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักเมืองโอบิฮิโระ (Obihiro)

โอบิฮิโระถือว่าเป็นดินแดนที่ใหม่มากของประเทศญี่ปุ่น เพราะเพิ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานในช่วงปี ค.ศ.1883 หลังจากที่รัฐบาลเมจิผนวกเกาะฮอกไกโดได้ไม่นานนัก

เมืองโอบิฮิโระ และเทือกเขาที่ล้อมรอบ
by makieni/ShutterStock

ถึงกระนั้นโอบิฮิโระได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉพาะพื้นที่บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ต่อการทำเกษตรกรรม ทำให้เมื่อเส้นทางรถไฟเชื่อมกับคุชิโระเสร็จสิ้น ชาวเมืองจึงส่งออกผลผลิตต่างๆ ได้สะดวกสบายมากขึ้น ส่งผลต่อพัฒนาการของเมืองครับ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมหลักของเมืองยังเป็นการเกษตร แต่สิ่งที่เข้ามาเพิ่มก็คือเรื่องการท่องเที่ยวนั่นเองครับ

ถนนในเมืองโอบิฮิโระ
by Tanya Jones/ShutterStock

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปโอบิฮิโระทำอย่างไร?

จากซัปโปโร

  • รถไฟ – JR Hokkaido มีบริการรถไฟ Limited Express (Ozora/Tokachi) จากซัปโปโรไปยังโอบิฮิโระทุกวัน สนนราคาอยู่ที่ 7,790 เยน และใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่งครับ
  • รถบัส – มีรถบัสจากซัปโปโรไปยังโอบิฮิโระทุกวัน ราคาจะถูกกว่ารถไฟ แต่จะใช้เวลามากกว่าประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
  • เช่ารถขับ – โอบิฮิโระอยู่ห่างจากซัปโปโรประมาณ 200 กิโลเมตร ดังนั้นการเช่ารถและขับไปถือว่าไม่ยากนัก แต่ในช่วงฤดูหนาวต้องระมัดระวังให้มากขึ้นครับ

สำหรับเมืองอื่นๆ

  • เครื่องบิน + รถบัส – คุณสามารถบินจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างเช่นโตเกียวมายังสนามบิน Tokachi-Obihiro Airport หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสเข้าเมืองครับ

ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Obikan.jp ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวโอบิฮิโระ ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนได้ครับ

1. ชมการแข่งม้า

ช่วงแรกที่ชาวญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยที่โอบิฮิโระนั้น พวกเขาได้นำม้าเข้ามามากมายเพื่อบุกเบิกพื้นที่เกษตรกรรม และลากเลื่อนสิ่งของต่างๆ

ปัจจุบันชาวเมืองโอบิฮิโระจึงมีเทศกาลการแข่งม้าที่ระลึกถึงช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเรียกว่าบาไอย์ เคียวโซะ (Banei Kyoso, ばんえい競走) แต่การแข่งม้านี้ไม่ใช่แข่งธรรมดาในสนามแข่งม้า เพราะม้าทุกตัวจะมีเลื่อนเหล็กติดไว้ที่หลังพร้อมนักแข่งให้มันลากไปอีกด้วย การแข่งแบบนี้มีอยู่ที่โอบิฮิโระที่เดียวในโลกเท่านั้นครับ

การแข่งม้าที่เมืองโอบิฮิโระ
by Yoshihito Yoshida/ShutterStock

ถ้าสนใจจะรับชมก็ชมได้ที่ Banei Tokachi ค่าเข้าชมก็เล็กน้อยแค่ 100 เยนเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ใกล้กับสนามแข่งจะมีพิพิธภัณฑ์ Obihiro Horse Museum ซึ่งเล่าถึงความสำคัญของม้าในการพัฒนาเมือง รวมไปถึงประวัติของการแข่งม้าครับ

2. โทคาจิกาวะออนเซ็น

โทคาจิกาวะออนเซ็น (Tokachigawa Onsen) เป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่อยู่ติดกับเมืองโอบิฮิโระ เพราะฉะนั้นเดินทางไปไม่ยากนัก (ขับรถไปประมาณ 20 นาที แต่ถ้าไม่ได้เช่ามาต้องใช้แท็กซี่ครับ)

จุดเด่นของน้ำพุร้อนที่นี่คือเป็นไม่กี่ที่ในโลกที่มีส่วนประกอบจากพืช กล่าวคือซากพืชถูกฝังคู่ไปกับน้ำใต้ดินความร้อนสูงตั้งแต่อดีตกาล เพราะฉะนั้นน้ำของออนเซ็นจะมีแร่ธาตุที่ช่วยฟื้นฟูความชื้นให้กับผิวมากกว่าที่อื่น และยอดเยี่ยมสำหรับการประทินโฉมครับ

โรงอาบน้ำในหมู่บ้านออนเซ็นนั้นมีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง (rotenburo) ซึ่งคุณสามารถเลือกได้อย่างอิสระครับ

นอกเหนือจากแช่ออนเซ็นแล้ว ที่โทคาจิกาวะออนเซ็นยังมีหลายกิจกรรมน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นการชมหิ่งห้อยที่สวนโทคาจิกาโอกะในช่วงฤดูร้อน หรือการสำรวจท้องฟ้ายามค่ำคืนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ

Hakucho Festival
by equuskoku/ShutterStock

แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ Hakucho Festival ที่เป็นการจุดโคมไฟหลากสีเป็นแนวยาวในช่วงกลางคืน บรรยากาศของที่นี่จึงโรแมนติกมากและเหมาะกับคู่รักเป็นที่สุดครับ

3. สวนสัตว์โอบิฮิโระ

สวนสัตว์โอบิฮิโระ (Obihiro Zoo) เป็นสวนสัตว์แห่งที่สองของเกาะฮอกไกโด โดยเปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1963

แม้ว่าสัตว์จะไม่ได้มากและอลังการเหมือนกับสวนสัตว์อาซาฮิยามะที่อาซาฮิคาวะ แต่ก็มีสัตว์ให้ชมมากมาย โดยเฉพาะนกฟลามิงโกที่มีหลายชนิดครับ

4. ชมดอกไม้ไฟ

ที่ริมแม่น้ำโทคาจิในเมืองโอบิฮิโระจะมีการจุดดอกไม้ไฟอย่างอลังการในคืนวันที่ 13 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งดอกไม้ไฟกว่า 20,000 ลูกจะถูกจุดตลอดช่วงเวลา 90 นาที พร้อมๆ กับเสียงดนตรีอันไพเราะที่ช่วยให้บรรยากาศโดยรอบนั้นแสนจะโรแมนติก

เพราะฉะนั้นถ้าคุณไปเที่ยวเมืองโอบิฮิโระในช่วงดังกล่าว กิจกรรมนี้ถือว่าไม่ควรพลาดเลยครับ

5. Jewelry Ice

Jewelry Ice เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการที่น้ำจากแหล่งน้ำใกล้กับยอดเขาโทคาจิแข็งตัวในช่วงฤดูหนาว หลังจากนั้นก็ถูกกระแสน้ำพัดออกมาตามแม่น้ำโทคาจิ จนสุดท้ายก็ออกทะเล และน้ำทะเลก็ซัดบางส่วนเข้าฝั่งจนเห็นเป็นก้อนน้ำแข็งรูปทรงต่างๆ บนหาดทราบ (อาจจะไม่ได้มากขนาดปกคลุมท้องทะเลแบบ Drift Ice ที่ชิเรโตโกะและอาบาชิริ)

by San Hoyano/ShutterStock

การชมปรากฏการณ์นี้จะชมได้ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่เมืองโทโยโคโระ (Toyokoro) ซึ่งห่างจากเมืองโอบิฮิโระไป 32 กิโลเมตรครับ

6. ทะเลสาบชิการิเบทสึ

ทะเลสาบชิการิเบทสึ (Lake Shikaribetsu) เป็นทะเลสาบในอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง และเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในฮอกไกโดครับ

ทะเลสาบชิการิเบทสึ
by Tanya Jones/ShutterStock

ทัศนียภาพของทะเลสาบสวยงามมาก นอกจากเดินชมทั่วไปแล้ว คุณสามารถเช่าเรือแคนูไปพายเล่นในทะเลสาบได้อีกด้วย

7. สะพานทาอุสุเบทสึ

สะพานทาอุสุเบทสึ (Taushubetsu River Bridge) ได้ชื่อว่าเป็น “สะพานลึกลับ” เพราะบางช่วงของปี สะพานจะจมลงไปใต้พื้นน้ำของทะเลสาบนุกะบิระ (Lake Nukabira)

สะพานทาอุสุเบทสึ
by Taushubetsu River Bridge/ShutterStock

ทุกอย่างอธิบายได้ตามวิทยาศาสตร์ ในอดีตสะพานนี้ก็เป็นสะพานทั่วไป แต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้สร้างเขื่อนแห่งใหม่ขึ้นมา ทำให้ตัวสะพานจมลงไปใต้น้ำในช่วงที่น้ำมาก (กลางฤดูใบไม้ร่วง)

พอช่วงกลางฤดูหนาว ระดับน้ำในทะเลสาบลดลงและแข็งเป็นน้ำแข็ง สะพานจึงโผล่ขึ้นมาครับ และอยู่แบบนั้นจนสิ้นสุดฤดูร้อน

8. ชิมข้าวหน้าหมูย่าง

ภูมิภาคโทคาจิเป็นต้นกำเนิดของข้าวหน้าหมูย่าง (Butadon) เมนูที่หลายคนหลงรัก และมีให้กินแพร่หลายมาจนถึงประเทศไทยครับ

ข้าวหน้าหมูย่าง
by toto1116ra/ShutterStock

เมนูนี้นั้นมีต้นกำเนิดที่เมืองโอบิฮิโระแห่งนี้นี่เอง โดยเจ้าของร้าน Panchou ในปี ค.ศ.1930 ในปัจจุบัน ร้านนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ใครที่สนใจก็สามารถไปชิมเมนูนี้แบบต้นตำหรับได้ครับ

References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!