ฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) หรือฟิลลี่ (Philly) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐเพนซิลเวเนีย (Pennsylvania) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวเมืองเป็นเมืองสำคัญของประเทศมาตั้งแต่ก่อนการประกาศอิสรภาพ ทำให้มีสถานที่เที่ยวสำคัญทางด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจหลายแห่งครับ
บทความนี้จะมาแนะนำความเป็นมาของเมืองแห่งนี้คร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia)
ฟิลาเดลเฟียมีประวัติความเป็นมาเช่นเดียวกับเมืองใหญ่อื่นๆ ของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก บอสตัน หรือแอตแลนตา นั่นคือเคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวอเมริกันพื้นเมืองมาก่อน แต่หลังจากที่ชาวยุโรปเข้ามาบุกเบิกพื้นที่บริเวณนี้ก็ได้ไล่ชาวอเมริกันพื้นเมืองออกไปครับ
อย่างไรก็ดีชาวยุโรปที่มาถึงฟิลาเดลเฟียกลุ่มแรกคือ ชาวดัชต์ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 ก่อนที่จะเปลี่ยนไปอยู่ในกำมือของชาวอังกฤษในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษ วิลเลียม เพนน์ (William Penn) ได้รับมอบดินแดนจากกษัตริย์อังกฤษ และได้เจรจาขอซื้อพื้นที่ใกล้เคียงจากชาวอเมริกันพื้นเมืองที่เหลือ หลังจากนั้นก็ได้สร้างเป็นเมืองใหม่ชื่อว่าฟิลาเดลเฟียตามชื่อในภาษากรีกที่แปลว่าความรักระหว่างพี่น้องครับ
สิ่งที่แตกต่างไปของเมืองฟิลาเดลเฟียคือ เพนน์ต้องการให้ประชาชนทุกคนในเมืองมีสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาใดๆ ก็ได้ นี่เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ตัวเมืองมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงทำให้ตัวเมืองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวอเมริกันท้องถิ่นด้วยครับ
หลังจากยุคของเพนน์ ฟิลาเดลเฟียได้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และได้รับการปรับปรุงให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ครบเครื่องมากขึ้นในช่วงยุคของเบนจามิน แฟลงคลิน (Benjamin Franklin, คนเดียวกับที่ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยว่าว) ในไม่ช้าฟิลาเดลเฟียก็เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แซงหน้าบอสตันครับ
ในช่วงสงครามอิสรภาพอเมริกัน ฟิลาเดลเฟียเป็นสถานที่ซึ่งการจัดประชุม Second Continental Congress ซึ่งนำไปสู่การประกาศอิสรภาพของประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงการประกาศสงครามกับกองทัพอังกฤษด้วย ซึ่งในช่วงสงคราม พื้นที่ใกล้กับเมืองฟิลาเดลเฟียก็ได้เป็นสมรภูมิหลักครับ
ชัยชนะของฝ่ายอาณานิคมได้ทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับอิสรภาพ ในช่วงที่ประเทศก่อตั้งใหม่ๆ นั้นฟิลาเดลเฟียมีสถานะเป็นเมืองหลวงของประเทศ ก่อนที่กรุงวอชิงตัน ดีซีกำลังถูกสร้างขึ้นจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1800
นับตั้งแต่บัดนั้นความสำคัญของฟิลาเดลเฟียกลับลดลง เพราะรัฐเพนซิลเวเนียได้ย้ายเมืองหลวงไปที่อื่น และศูนย์กลางการค้าได้ย้ายไปที่นิวยอร์กซิตี้ แต่ตัวเมืองก็ยังเจริญขึ้นในฐานะเมืองอุตสาหกรรมมาจนถึงปัจจุบันครับ
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพนซิลเวเนียเป็นหนึ่งใน Swing States ที่คะแนนเสียงระหว่างสองพรรคสูสีกันมาก ตัวเมืองฟิลาเดลเฟีย และส่วนอื่นๆ ของรัฐจึงเป็นสถานที่ซึ่งผู้สมัครประธานาธิบดีมักจะมาหาเสียงอยู่บ่อยครั้งครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปยังเมืองฟิลาเดลเฟียทำอย่างไร?
ฟิลาเดลเฟียนั้นสามารถเดินทางไปได้ไม่ยากจากเมืองใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือรถบัส หรือแม้กระทั่งเครื่องบินครับ ส่วนการเดินทางจากต่างประเทศนั้น ฟิลาเดลเฟียมีสนามบินนานาชาติที่รองรับเที่ยวบินอย่าง Qatar Airways ที่มาจากโดฮา ช่วยให้คุณประหยัดการเดินทางมาจากกรุงเทพไปได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียว
ความปลอดภัยในเมืองฟิลาเดลเฟียเป็นอย่างไร?
ฟิลาเดลเฟียเป็นเมืองที่มีคะแนนด้านอาชญากรรมต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ แต่ก็ไม่ได้ต่ำกว่ามากนัก ดังนั้นเรื่องความปลอดภัย คุณยังจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมาก และใช้ common sense พื้นฐานเพื่อระวังภัยจากบุคคลภายนอกครับ
ถึงกระนั้นระหว่างที่ผมไปเที่ยวเมืองนี้นั้น ผมไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ ครับ การอยู่ในบริเวณย่านสถานที่ท่องเที่ยวและถนนคนเดินจะช่วยคุณปลอดภัยได้อย่างมากเลยครับ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้จองที่พักในเมืองแห่งนี้ ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้เพื่อช่วยคุณเลือกจองโรงแรมแห่งที่เหมาะสมครับ
1. Independence Hall
Independence Hall เป็นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาเลยก็ว่าได้ เพราะสถานที่ซึ่งมีการประกาศอิสรภาพ รวมไปถึงการแต่งตั้งจอร์จ วอชิงตันเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพอาณานิคมทั้งหมด นอกจากนี้หลังจากที่ได้รับอิสรภาพแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ซึ่งผู้แทนจากรัฐทั้งสิบสามมารวมตัวกันเพื่อบัญญัติรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายสูงสุดของประเทศด้วยครับ
ปัจจุบันคุณสามารถเข้าไปชมสถานที่แห่งนี้ได้โดยไม่มีค่าเข้า แต่ต้องจองล่วงหน้าที่เว็บไซต์นี้ครับ
ในละแวกเดียวกันมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ตั้งแต่ The President’s House ซึ่งเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่จอร์จ วอชิงตันและจอห์น อดัมส์เคยพำนักก่อนที่กรุงวอชิงตัน ดีซีจะสร้างเสร็จ และ Congress Hall ที่สมาชิกคองเกรสเคยมาเข้าสภากันที่นี่ก่อนที่จะย้ายไปที่ The Capitol ครับ
นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่งด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Museum of American Revolution พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิวัติอเมริกัน และ National Constitution Center พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาที่ไม่เคยถูกฉีก หรือแม้กระทั่งแก้ไขเลยสักครั้งเดียวครับ
2. Liberty Bell Center
Liberty Bell Center เป็นสถานที่เก็บรักษา Liberty Bell หรือระฆังซึ่งถูกสั่นเมื่อวินาทีที่มีการลงนามในรัฐธรรมนูญของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ระฆังแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของสิทธิเสรีภาพนับตั้งแต่บัดนั้นครับ
อย่างไรก็ดีตัวระฆังนั้นมีรอยแตกไปแล้วเรียบร้อยตั้งแต่ปี ค.ศ.1846 แต่โดยรวมแล้วยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่ครับ
3. Elfreth’s Alley
Elfreth’s Alley เป็นโตรกที่ขนาบข้างด้วยอาคารโบราณจำนวน 32 หลัง ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของช่างฝีมือและพ่อค้าเมื่อกว่า 300 ปีก่อน ปัจจุบันอาคารเหล่านี้ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เปิดให้คุณได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศเมื่อครั้งที่ฟิลาเดลเฟียยังเป็นศูนย์กลางของอาณานิคม 13 แห่ง ในการปกครองของอังกฤษได้ครับ
4. Delaware River Waterfront
Delaware River Waterfront เป็นย่านในเมืองฟิลาเดลเฟียที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเดลาแวร์ บริเวณนี้เป็นย่านพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง สถานที่จัดอีเวนต์ รวมไปถึงมีร้านค้าและร้านอาหาร จุดที่น่าสนใจเหมาะแก่การมาเดินเล่น หรือหาอะไรรับประทานได้แก่ Race Street Pier และ Cherry Street Pier ซึ่งบางช่วงนั้นจะมีตลาดที่มีสินค้านานาชนิดมาวางขายด้วยครับ
จากจุดเหล่านี้คุณสามารถชมสะพานเบนจามิน แฟลงคลิน (Benjamin Franklin Bridge) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของฟิลาเดลเฟีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกครับ นอกจากนี้ถ้าคุณเดินไปฝั่งตรงข้าม (ฝั่งรัฐนิวเจอร์ซี) ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Adventure Aquarium ที่มีสัตว์กว่า 12,000 ตัวให้ชมด้วย
5. Philadelphia Museum of Art
Philadelphia Museum of Art เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา และเก็บรักษาผลงานศิลปะไว้มากมาย ตั้งแต่ผลงานสมัยยุคศิลปะวิทยา ยุค impressionist มาจนถึงผลงานที่วาดโดยจิตรกรชาวอเมริกันครับ ดังนั้นใครที่ชอบชมงานศิลปะหรืออยากได้แรงบันดาลใจไม่ควรพลาดเช่นกัน
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงของที่นี่ของรูปปั้นร็อกกี้ (Rocky) จากภาพยนตร์ Rocky III ซึ่งชาวอเมริกันที่มีอายุมากหน่อยจะรู้จักกันดี ดังนั้นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันมักจะถ่ายรูปกับรูปปั้นนี้ครับ ทั้งนี้รูปปั้นนี้ถูกมอบให้กับเมืองฟิลาเดลเฟียโดย Sylvester Stallone นักแสดงผู่แสดงเป็น Rocky ในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวครับ
ห่างจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไปไม่ไกลนัก จะมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะของ Barnes Foundation ซึ่งรวบรวมผลงานงานศิลปะยุคร่วมสมัย เช่นเดียวกับงาน impressionist และ post-impressionist อีกจำนวนมาก อย่างเช่นงานของแวนโก๊ะและปิกัสโซเป็นต้น ถ้าใครยังรู้จักว่าชมที่แรกแล้วยังไม่เต็มอิ่ม คุณสามารถมาต่อที่นี่ได้ครับ
อีกพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากคือ Rodin Museum ซึ่งรวบรวมผลงานของช่างทำรูปปั้นระดับตำนานชาวฝรั่งเศสอย่าง Auguste Rodin ครับ คอลเล็กชันของที่นี่นั้นใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยครับ
6. Eastern State Penitentiary
ในอดีต Eastern State Penitentiary ถือคุกที่มีชื่อเสียงและมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และใช้คุมขังนักโทษอย่างเช่นเจ้าพ่ออย่างอัลคาโปน (Al Capone) มาแล้วครับ ที่นี่จึงได้กลายเป็นต้นแบบของคุกทั่วโลกไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันที่นี่ไม่ได้เป็นคุกอีกต่อไปแล้ว แต่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์แทน คุณจะได้ชมคุกขังเดี่ยวที่น่าพรั่นพรึงของที่นี่ เช่นเดียวกับชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่านักโทษ เช่นเดียวกับสตอรี่มากมายเกี่ยวกับผู้ต้องขังที่พยายามหลบหนีไปจากที่นี่ครับ
7. Franklin Institute
ละแวกเดียวกันกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ผมแนะนำไปด้านบนคือ Franklin Institute หรือสถาบันวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ทางสถาบันได้มีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ให้ผู้สนใจได้ชมกันด้วย โดยคุณจะได้เห็นการทดลองที่เบนจามิน แฟลงคลินลงมือทำเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน ไปจนถึงความรู้ทางด้านเทคโนโลยีทุกแขนงครับ
ห่างกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ไกลนัก มีอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ชื่อ The Academy of Natural Sciences of Drexel University ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งแรกของสหรัฐอเมริกา ด้านในมีฟอสซิลไดโนเสาร์ไปจนถึงสัตว์นานาชนิดให้ได้ชมกันด้วยครับ
8. Reading Terminal Market
Reading Terminal Market เป็นตลาดเก่าแก่ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นแลนด์มาร์กของเมืองที่มีความสำคัญ โดยตัวตลาดนั้นเปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1893 เลยครับ
ในปัจจุบันที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของเมือง คุณสามารถเลือกชิมได้ตั้งแต่ไก่ย่างบาร์บีคิว พาย ไอศกรีม รวมไปถึงของคาวของหวานอีกสารพัดชนิดครับ นอกจากนี้ยังมีอาหารสด ของที่ระลึกและสินค้าอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
9. Philadelphia City Hall
Philadelphia City Hall เป็นหนึ่งในที่ทำการรัฐบาลเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตัวอาคารมีหอคอยสูงถึง 548 ฟุต (167 เมตร) ซึ่งด้านบนประดิษฐานรูปปั้นของวิลเลียม เพนน์ ผู้ให้กำเนิดเมืองนี้ หอคอยแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเมืองมากว่านับร้อยปี ทั้งๆที่ปราศจากโครงเหล็กกล้าใดๆ ครับ ปัจจุบันคุณสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเมืองฟิลาเดลเฟียได้จากบนหอคอยได้ด้วยครับ
สำหรับในตัวที่ทำการรัฐนั้นมีห้องที่ใหญ่อลังการและสวยงาม (เป็นลำดับต้นๆ ของอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย) แต่การชมจะต้องจองล่วงหน้าผ่านเว็บ Philadelphia Visitor Center ครับ
10. LOVE Park
LOVE Park เป็นชื่อเล่นของ John F Kennedy Plaza แต่ชื่อเล่นนี้เป็นที่รู้จักมากกว่าชื่อทางการไปแล้ว เพราะว่าได้มีการตั้งรูปปั้น LOVE ซึ่งเป็นผลงานของ Robert Indiana ในปี ค.ศ.1976 ด้วยความที่ตัวรูปปั้นนั้นมีความ iconic สุดๆ ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปลง Instagram กันที่นี่ครับ นอกจากนี้ชาวเมืองยังนิยมมาแต่งงานกันที่นี่ด้วยเช่นกันครับ
11. ลองชิมฟิลลี่ชีสสเต็ก
ฟิลลี่ชีสสเต็ก (Philly Cheese Steak) เป็นเมนูที่โด่งดังที่สุดของฟิลาเดลเฟีย และเป็นหนึ่งในเมนูอาหารอเมริกันที่ผมชอบที่สุดด้วย (แต่แคลอรีก็สูงมากเช่นกัน) สำหรับใครที่อยากลองเมนูนี้นั้นคงไม่มีที่ใดดีกว่า Pat’s King of Steaks ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นตำหรับของเมนูนี้ โดยเริ่มทำตั้งแต่ปี ค.ศ.1930
ส่วนอีกร้านหนึ่งที่น่าสนใจคือ Geno’s Steaks ที่เป็นคู่แข่งกันและร้านก็อยู่ใกล้กันด้วย ถ้าได้ไปฟิลาเดลเฟีย เมนูนี้ผมแนะนำอย่างยิ่งว่าห้ามพลาดครับ
12. Philadelphia Zoo
Philadelphia Zoo เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา และปัจจุบันก็ยังเปิดให้เข้าชมสัตว์ต่างๆ ได้อยู่ ปัจจุบันสัตว์ในสวนสัตว์นั้นมีกว่า 1,300 ตัว ซึ่งคุณสามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิดด้วยระบบ Zoo360 ที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายครับ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ให้ได้รับความสนุกสนานด้วยเช่นกัน สำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ $25 ต่อคน (อ้างอิงจากเว็บทางการของสวนสัตว์ครับ)
13. University of Pennsylvania
University of Pennsylvania เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านธุรกิจ (Wharton) และทางการแพทย์ ด้านในมหาวิทยาลัยนั้นมีอาคารโบราณอายุนับร้อยปีเรียงรายกันไป ซึ่งดูสวยงามมาก เหมาะกับการมาถ่ายรูปครับ
สำหรับใครที่อยากจะสมัครเข้ามาเรียนที่นี่ คุณสามารถติดต่อทางมหาวิทยาลัยเพื่อขอมา visit ได้เช่นกันครับ
14. Longwood Gardens
Longwood Gardens เป็นสวนพฤษภศาสตร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากเมืองฟิลาเดลเฟียไปประมาณ 50 กิโลเมตร ที่นี่มีพืชมากกว่า 9,000 ชนิด ซึ่งรวมไปถึงดอกไม้สีสวยจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก คนรักดอกไม้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ไม่เพียงเท่านั้น ทางสวนยังมีการแสดงโชว์หลากหลายทั้งกลางวันกลางคืน อย่างกลางคืนนั้นจะมีการแสดงแสงสีเสียงที่บริเวณน้ำพุของสวนที่สุดแสนจะอลังการ ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือน ไม่ควรพลาดชมอย่างแน่นอนครับ
15. King of Prussia Mall
King of Prussia Mall เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่นอกเมืองฟิลาเดลเฟีย (ห่างไปประมาณ 26 กิโลเมตร) ด้านในมีร้านค้ามากมายกว่า 450 ร้าน
ร้านที่ตั้งอยู่ที่นี่มีตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายราคาประหยัด ไปจนถึง shop ของแบรนด์ระดับ luxury เรียกได้ว่าเหมาะกับการมาละลายเงินดอลลาร์เป็นที่สุดเลยครับ
References
- Visit Philadelphia
- Discover Philadelphia
- Philadelphia Visitor Center