ซัปโปโร (Sapporo, 札幌) เป็นเมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยจำนวนประชากรในปัจจุบันมากถึงเกือบสองล้านคนเลยทีเดียวครับ
เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมาเดินทาง เพราะมีเทศกาลหิมะ ราเมงแสนอร่อย แต่ที่สำคัญที่สุดคือเป็นปากทางสู่สถานที่เที่ยวอื่นๆ บนเกาะฮอกไกโดนั่นเองครับ
รู้จักซัปโปโร (Sapporo)
พื้นที่บริเวณที่เป็นเมืองซัปโปโรนั้นมีชาวไอนุอาศัยมานานหลายพันปีแล้ว ซึ่งตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงช่วงปี ค.ศ.1860 ไม่ได้ถูกปกครองโดยญี่ปุ่นแต่อย่างใด (เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของเกาะฮอกไกโด ยกเว้นแค่ฮาโกดาเตะและเมืองทางใต้เท่านั้น)
ชาวญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยที่นี่ในช่วงที่รัฐบาลเมจิผนวกเกาะฮอกไกโดเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ช่วงนั้นซัปโปโรจึงเป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆ แต่ที่นี่กลับทวีความสำคัญขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นพื้นที่ราบเพียงไม่กี่แห่งที่เกาะฮอกไกโดมีอยู่ เพราะฉะนั้นเหมาะสมต่อการสร้างเมืองขนาดใหญ่
เพราะภัยคุกคามจากรัสเซียทางตอนเหนือ และสภาพภูมิศาสตร์ของหมู่บ้านซัปโปโรที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจย้ายศูนย์กลางเกาะมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ และเริ่มลงทุนสร้างเมืองใหม่ขึ้น
นับตั้งแต่บัดนั้นซัปโปโรจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ โครงสร้างพื้นฐานได้ถูกสร้างขึ้นอย่างเป็นระเบียบ ภายในเวลาประมาณ 50 ปี ซัปโปโรก็กลายเป็นเมืองเอกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ตัวเมืองได้รับความเสียหายในช่วงสงครามพอสมควร แต่ก็ฟื้นฟูกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซัปโปโรจึงเป็นทั้งศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจ และการค้าของเกาะฮอกไกโดมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปยังซัปโปโรทำอย่างไร
ซัปโปโรมีสนามบิน 2 แห่งได้แก่ New Chitose Airport (หรือสนามบินชินชิโตเสะในภาษาญี่ปุ่น) และ Okadama Airport ซึ่งเที่ยวบินส่วนใหญ่จะลงที่สนามบินแรกครับ
ในปัจจุบันคุณสามารถบินจากกรุงเทพไปยัง New Chitose Airport ได้โดยเที่ยวบินตรง (การบินไทย) หรือว่าแวะเปลี่ยนเครื่องในญี่ปุ่น 1 ครั้งครับ
เมื่อถึงสนามบินแล้ว คุณจะมีทางเลือกในการเข้าเมืองหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟหรือรถบัส นอกจากนี้คุณสามารถรับรถเช่าที่สนามบิน และขับรถเที่ยวทั้งเมืองซัปโปโร ไปจนถึงเมืองใกล้ๆ อย่างเช่น โจซังเคออนเซ็น หรือ โอตารุ ต้วยตนเองได้เช่นกัน
การสัญจรในซัปโปโรทำอย่างไร
โดยมากแล้วคุณจะพึ่งพารถไฟใต้ดินในการเดินทาง ซึ่งคุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการซื้อ Subway 1-day card (สำหรับวันธรรมดา) หรือ Donichika Ticket สำหรับวันหยุดครับ
แต่ถ้าคุณวางแผนจะนั่งรถบัสด้วย การซื้อ Prepaid Card อย่าง Kitaca และ Sapica จะช่วยคุณประหยัดเวลาและลดความยุ่งยาก และยังให้ส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ อีกด้วยครับ
ไปเที่ยวซัปโปโรช่วงไหนดี?
ซัปโปโรเป็นเมืองที่มีกิจกรรมน่าสนใจให้ไปชมหรือเข้าร่วมทุกฤดู แต่ช่วงที่ได้ความนิยมสูงสุดแน่นอนว่าเป็นช่วงฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงของเทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และสกีรีสอร์ทรายรอบเมืองก็เปิดทำการอีกด้วยครับ
ที่พัก
ซัปโปโรเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลหิมะ ทำให้คุณอาจจะต้องพักที่นี่ 1-2 คืน ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักซัปโปโรของผมเพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกที่พักครับ
1. เทศกาลหิมะซัปโปโร
เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 และดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่าสองล้านคนให้มาที่นี่ในทุกๆ ปีครับ
ภายในช่วงเวลาดังกล่าว รูปปั้นหรือแม้กระทั่งสถานที่จำลองขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหิมะจะถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชมและถ่ายรูป ในช่วงเย็นและค่ำก็จะมีการเปิดไฟอันสวยงามส่องไปที่ประติมากรรมดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้ยิ่งดูสวยงามขึ้นไปอีกครับ
นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลก็มีการแข่งขันด้วย ซึ่งคุณสามารถโหวตให้ผู้เข้าแข่งขันได้ผ่านทางแอปได้ด้วยครับ
สถานที่จัดงานนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 จุดด้วยกันได้แก่ Odori Site, Susukino Site และ Tsudome Site อย่างแห่งสุดท้ายจะมีจุดเด่นที่มีเครื่องเล่นให้คุณสามารถเล่นได้ เหมือนกับที่สกีรีสอร์ทเลยครับ แต่ Odori Site นั้นมีรูปปั้นให้ชมมากที่สุด และอลังการที่สุด
อย่างไรก็ดีรูปแบบงานจะเปลี่ยนได้ทุกปี อย่างเช่นในปี 2023 นั้นไม่มีจัดที่ Tsudome Site เพราะฉะนั้นผมแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ Snowfes ที่เป็นเว็บไซต์ทางการของเทศกาลไว้ล่วงหน้าครับ
2. สวนโอโดริ
สวนโอโดริ (Odori Park) เป็นสวนขนาดใหญ่ยาว 1.5 กิโลเมตร ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร และทำหน้าที่เป็นปอดให้กับเมืองแห่งนี้ รวมไปถึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ชาวเมืองเองก็มักจะนำบุตรหลานมาเล่นที่สนามเด็กเล่นในสวนแห่งนี้อีกด้วย
เทศกาลใหญ่และสำคัญล้วนแต่จัดที่นี่ครับ ตั้งแต่เทศกาลหิมะไปจนถึงเทศกาล Beer Garden ไปจนถึง Autumn Fest หรือ Christmas Market ในช่วงฤดูหนาวครับ ซึ่งถ้าคุณไปเที่ยวซัปโปโรในช่วงดังกล่าว การมาชมงานเทศกาลเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดเลยครับ
3. ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์
ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองซัปโปโร โดยตัวหอคอยตั้งอยู่ด้านตะวันออกของสวนโอโดริครับ ทั้งนี้ตัวหอคอยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1957 และอยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานเกือบ 70 ปีแล้ว
หอคอยแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ซึ่งคุณควรจะเก็บภาพ มิฉะนั้นก็เหมือนกับว่ามาไม่ถึง นอกจากนี้คุณยังสามารถขึ้นไปชมวิวแบบ 360 องศาของซัปโปโรบนหอคอยได้อีกด้วย
ในช่วงเทศกาลหิมะนั้น นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวด้านบน เพราะจะได้เห็นและถ่ายรูปสิ่งก่อสร้างและประติมากรรมต่างๆ แบบพาโนรามาครับ
ค่าขึ้นไปชม: 1000 เยน สำหรับใครที่ไปเที่ยวซัปโปโรแบบคู่รัก คุณสามารถจองจุดชมวิวแบบ private ได้เป็นเวลา 30 นาทีหลังจากที่หอปิดทำการ โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 10,000 เยนครับ
4. ตลาดนิโจ
ตลาดนิโจ (Nijo Market) เป็นตลาดใหญ่ 1 ใน 3 แห่งฮอกไกโดคู่กับตลาดเช้าของฮาโกดาเตะ และตลาดเมืองคุชิโระ ตัวตลาดมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว และเป็นที่ตั้งของร้านขายซีฟู้ดสดๆ รวมไปถึงร้านอาหารต่างๆ ด้วยครับ
ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพของซีฟู้ด เพราะฉะนั้นใครที่รักซูชิและซาชิมิควรจะลิ้มลองข้าวหน้าอาหารทะเล หรือไคเซนด้ง ซึ่งเป็น signature ของฮอกไกโดครับ ส่วนมากแล้วร้านอาหารจะเปิดตั้งแต่หกโมงเช้า และปิดในเวลาสามทุ่ม แต่ไปช่วงเช้าจะดีที่สุด เพราะของจะเริ่มหมดหลัง 11 โมงครับ
สำหรับใครที่ชอบชาเขียว คุณสามารถไปชิมชาระดับเทพจากทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นได้ที่ร้าน Gyokusuien ที่เปิดทำการมา 90 ปีแล้ว นอกจากนี้ที่นี่ยังขายของหวานที่ทำจากชาเขียวอีกด้วยครับ
อีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจคือตลาดโจไกชิโจ (Curb Market) ซึ่งเป็นตลาดซีฟู้ดเช่นกัน และมีร้านอาหารอีกมากมาย เนื่องจากที่นี่อยู่ไม่ไกลจากตลาดนิโจเท่าไรนัก
5. ที่ทำการรัฐบาลเก่า
อาคารอิฐสีแดงแห่งนี้เคยทำหน้าที่เป็นที่ทำการรัฐบาลเก่า (Former Hokkaido Government Office Building) เป็นเวลานานถึง 80 ปีนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1888 โดยสร้างขึ้นในสไตล์ American neo-Baroque ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงยุคเมจิครับ
ปัจจุบันตัวอาคารได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ของเกาะฮอกไกโดแทนครับ
6. สวนโมเอะเรนุมะ
Moerenuma Park หรือ สวนโมเอะเรนุมะ เป็นสวนที่อยู่นอกเมืองซัปโปโรไปประมาณ 12 กิโลเมตร ตัวสวนออกแบบและจัดสร้างโดยสถาปนิกนามกระเดื่องชาวญี่ปุ่นนามว่าอิซามุ โนกุชิ (Isamu Noguchi) คอนเซปต์ของตัวสวนจะเน้นไปที่การผสมผสานระหว่างศิลปะและธรรมชาติ
หนึ่งในแลนด์มาร์กของตัวสวนคือพีระมิดแก้วชื่อฮิดะมาริ (Hidamari) ด้านในร้านอาหารและคาเฟ่ที่คุณสามารถนั่งพักผ่อนพร้อมกับสัมผัสบรรยากาศรอบๆ สวนได้อย่างลงตัวครับ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือน้ำพุที่จะฉีดสายน้ำขึ้นไปในอากาศสูงถึง 25 เมตร (แต่ไม่ได้ฉีดตลอดเวลา เฉพาะช่วงที่มีการแสดงเท่านั้นครับ)
7. Hill of the Buddha
Hill of the Buddha หรือ Takino Reien เป็นสวนที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อก้องอย่างทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) ตัวสวนประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งสูงถึง 13.5 เมตร แต่จุดเด่นก็คือองค์พระนั้นถูกครอบเอาไว้ด้วยตัวอาคาร ดังนั้นถ้าคุณมองจากระยะไกล คุณจะเห็นแค่ส่วนหนึ่งของเศียรพระเท่านั้นเองครับ
ช่วงฤดูร้อนนั้นรายรอบองค์พระมีดอกลาเวนเดอร์มากถึง 150,000 ดอกซึ่งจะบานสะพรั่งพร้อมกัน ซึ่งความสวยงามเรียกได้ว่าไม่แพ้ที่ฟุราโนะเลยครับ
8. ศาลเจ้าฮอกไกโด
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะบูชาเหล่าเทพเจ้าที่ปกป้องรักษาเมืองแห่งนี้ตามความเชื่อทางศาสนาชินโต ชาวเมืองซัปโปโรมักจะมาที่นี่เป็นประจำเพื่อขอพร รวมไปถึงโชคในด้านต่างๆครับ
ตัวศาลเจ้าร่มรื่นมาก เพราะอยู่ติดกับสวนมารุยามะ ในบริเวณศาลเจ้าก็มีต้นซากุระ 1,400 ต้นที่ออกดอกบานสะพรั่งให้ได้ชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เช่นเดียวกับใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเช่นกัน
ส่วนในช่วงฤดูร้อน ที่นี่เป็นสถานที่จัดงาน Hokkaido Shrine Festival ซึ่งเป็นเทศกาลพื้นบ้าน ชาวเมืองจะสวมใส่เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน และนำรถแห่ออกมาเดินพาเหรดตามท้องถนน พร้อมด้วยเสียงกังวาลของเครื่องดนตรีโบราณต่างๆ ครับ
9. หอนาฬิกาซัปโปโร
หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นแลนด์มาร์กเก่าแก่ของเมือง โดยสร้างขึ้นในช่วงที่ซัปโปโรยังเป็นเมืองเล็กๆ
ปัจจุบันหอนาฬิกายังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าถึงความเป็นมาของตัวอาคาร และการพัฒนาเมืองซัปโปโรครับ
10. ชมสวนสวยๆ
ซัปโปโรนั้นเหมือนเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นนั่นคือมีสวนสวยๆ หลายแห่ง นอกเหนือที่ผมแนะนำไปด้านบนแล้ว ยังมีสวนเหล่านี้ด้วยครับ
สวนมารุยามะ (Maruyama Park) – ตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าฮอกไกโด ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวซากุระที่สวยงามมากของซัปโปโรครับ
สวนนาคาจิมะ (Nakajima Park) – สวนที่ตั้งอยู่ใจกลางของย่าน downtown ด้านในมีสระขนาดใหญ่ หอดูดาว ฯลฯ ที่นี่เป็นจุดชมดอกไม้และใบไม้เปลี่ยนสีที่ยอดเยี่ยมครับ
นอกจากนี้ในบริเวณสวนยังมีอาคาร Hoheikan ซึ่งเคยเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่ใช้รับแขกบ้านแขกเมืองอีกด้วยครับ
สวนศิลปะซัปโปโร (Sapporo Art Park) – สวนอันเงียบสงบที่เป็น outdoor gallery ซึ่งจัดแสดงผลงานของศิลปินที่มีความเกี่ยวข้องกับเกาะฮอกไกโด นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีทีเดียวครับ
11. ชมวิวที่ภูเขาโมอิวะ
ภูเขาโมอิวะ (Mt.Moiwa) อยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรออกไปประมาณครึ่งชั่วโมง ด้านบนภูเขามีจุดชมวิวที่คุณสามารถชมวิวมุมสูงของซัปโปโรได้อย่างสวยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวช่วงกลางคืนที่ได้รับการจัดอันดับเป็นลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยครับ นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมอย่างจุใจอีกด้วย
สำหรับการขึ้นไปจุดชมวิวนั้น คุณจะเดินหรือขึ้นกระเช้า (Mt.Moiwa Ropeway) ไปก็ได้ โดยค่ากระเช้าไปกลับอยู่ที่ 1,400 เยนครับ
12. ชมวิวที่ JR Tower Observatory T38
สำหรับใครที่อยากชมวิวมุมสูง แต่ไม่อยากเดินทางออกจากเมือง คุณสามารถขึ้นไปชมได้ที่ JR Tower Observatory T38 ครับ ตัวตึกจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟซัปโปโรเลย ทำให้ไปได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายมาก
จุดชมวิวจะอยู่สูงขึ้นไป 160 เมตร เมื่อขึ้นไปแล้วคุณจะชมวิวเมืองซัปโปโรแบบไม่มีอะไรปิดกั้นได้จากทุกมุม นอกจากนี้ด้านบนยังมีคาเฟ่และร้านขายของสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
13. เล่นกิจกรรมฤดูหนาวที่สกีรีสอร์ท
ใกล้กับซัปโปโรมีสกีรีสอร์ทที่น่าสนใจหลายแห่ง ดังนั้นถ้าคุณมีเวลาจำกัด คุณไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงนิเซโกะ หรือว่ารุสุซึก็ได้ครับ
- Sapporo Kokusai Ski Resort – สกีรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่มีหิมะแสนละมุน ลานสกีก็มีขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ผู้เล่นทุกระดับครับ
- Teine Ski Resort – สกีรีสอร์ทที่เคยใช้เป็นสนามแข่งโอลิมปิกฤดูหนาวในช่วงปี ค.ศ.1972 และคุณภาพหิมะไม่แพ้ที่ใดในฮอกไกโด จากลานสกี คุณสามารถเห็นวิวสวยๆ ของเมืองได้อีกด้วย
- Moiwayama Ski Resort
- Hitsujigaoka Snow Park – ที่ตั้งของอนุสาวรีย์วิลเลียม สมิท คลาร์ก ชาวอเมริกันผู้เป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่เล่นกิจกรรมฤดูหนาวหลากชนิดครับ
14. เช้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
ซัปโปโรเป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิเช่น
- Historic Village of Hokkaido – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีบ้านแบบโบราณสมัยเมจิและไทโชกว่า 60 หลัง ซึ่งคุณสามารถเข้าไปเดินเล่นและสัมผัสบรรยากาศในช่วงเวลาดังกล่าวได้ครับ
- Hokkaido Museum – พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุ และเล่าเรื่องราวของธรรมชาติในเกาะฮอกไกโด รวมไปถึงวิถีชีวิตของชาวไอนุอย่างน่าสนใจ
- Hokkaido Museum of Modern Art – พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด
- Sapporo Beer Museum – พิพิธภัณฑ์เบียร์ที่เล่าความเป็นมาของเบียร์แห่งเมืองซัปโปโรด้วยครับ
- Sapporo Pirka Kotan – พิพิธภัณฑ์ที่เล่าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไอนุ ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองของเกาะฮอกไกโด ในบางช่วงที่นี่จะมีจัดพิธีและการแสดงพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วยครับ
15. ย่านร้านอาหารและช้อปปิ้ง
ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) เป็นย่านอันดับ 1 ในซัปโปโรสำหรับร้านอาหาร รวมไปถึงสถานที่เที่ยวช่วงกลางคืนอย่างเช่นผับและบาร์ ในย่านนี้มีร้านอาหารให้เลือกมหาศาล ซึ่งจะตอบโจทย์นักเดินทางทุกคนได้อย่างไม่ยากเย็นครับ
ถ้าคุณชอบแสงสียามค่ำคืน ที่นี่เป็น a must ของคุณเลยครับ
สำหรับใครที่ชอบช้อปปิ้ง ย่านที่น่าสนใจคือถนนทานุกิ โคจิ (Tanuki Koji) ถนนคนเดินเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ถนนคนเดินแห่งนี้มีของที่ระลึกและอาหารต่างๆ ซึ่งคุณซื้อไปเป็นของฝากได้ นอกจากนี้ด้านในยังมีร้านอาหารให้เลือกอีกมากเลยครับ
16. ลิ้มลองอาหารและขนมแสนอร่อย
ซัปโปโรเป็นอีกเมืองในญี่ปุ่นที่มีวัฒนธรรมอาหารที่แข็งแกร่ง เมนูที่คุณไม่ควรพลาดชิมได้แก่
มิโซะราเมง (Miso Ramen) – ซัปโปโรเป็นเมืองที่มีชื่อในเรื่องของราเมง แกนหลักของน้ำซุปคือมิโซะชั้นดีที่ให้ทั้งความหอมและความข้น ส่วนตัวเส้นนั้นจะหนากว่าทั่วไป ขณะที่เครื่องจะเป็นหมูชาชูและไข่ต้มครับ อย่างไรก็ดีแต่ละร้านจะมีสูตรของตนเองให้คุณได้เลือกชิมครับ
ซูชิ ซาชิมิ และไคเซนด้ง – ฮอกไกโดเป็นเกาะซึ่งอาหารทะเลรสชาติดีมาก บ้างว่าอยู่ในอันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าคุณเป็นสาวกอาหารทะเลดิบ คุณห้ามข้ามไปเด็ดขาดเลยครับ
Soup Curry – แกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นที่ใส่ผักนานาชนิด แต่น้ำจะข้นกว่าปกติมากจนซดเปล่าๆ กินได้ เมนูนี้ถือกำเนิดที่ซัปโปโรเมื่อหลายทศวรรษก่อน และในปัจจุบันได้กลายเป็นเมนูระดับสัญลักษณ์ของเมืองไปแล้วครับ
เนื้อย่างเจงกิสข่าน – รูปแบบเนื้อย่างที่ใช้เตาคล้ายกับหมูกะทะของไทย (บ้างว่าร้านในไทยนำไอเดียไปดัดแปลงเป็นแบบของตนเองเมื่อหลายสิบปีก่อน) แต่เนื้อย่างเจงกิสข่านนี้จะเน้นที่เนื้อลูกแกะครับ
Shiroi Koibito – ขนมสอดไส้ที่เป็นของฝากยอดฮิตจากญี่ปุ่น ขนมนี้มีต้นกำเนิดจากซัปโปโรครับ ซึ่งโรงงานของบริษัทก็ตั้งอยู่ที่นี่ และยังมีสวนสนุก Shiroi Koibito Park ที่เปิดให้คุณเข้าชมกระบวนการผลิตได้ และรังสรรค์ขนมของคุณเองด้วยครับ
แจกแพลนทริปซัปโปโร
สำหรับด้านล่างจะเป็นตัวอย่างแพลนทริปที่มีซัปโปโรเป็นส่วนประกอบ ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้เลยได้อย่างอิสระ แต่ต้องตรวจสอบวิธีการเดินทางด้วยตนเองอีกครั้ง เนื่องด้วยข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้เลยครับ
References
- Welcome to Sapporo
- Visit Sapporo
- Snowfes
- Moerenuma Park Official Site
- Takino Reien Official Site