หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น10 ที่เที่ยวชินจูกุ (Shinjuku) และกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด

10 ที่เที่ยวชินจูกุ (Shinjuku) และกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

ชินจูกุ (Shinjuku) เป็นย่านในกรุงโตเกียวที่คนไทยน่าจะรู้จักดีที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเป็นทั้งศูนย์กลางการคมนาคม เศรษฐกิจและการค้า แถมยังเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีร้านค้ามากหลาย รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของย่านโคมแดงที่หลายคนปรารถนาจะมาสัมผัสบรรยากาศสักครั้งหนึ่งด้วย

ในบทความนี้ผมจึงจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวน่าไปเยือน รวมไปถึงกิจกรรมที่น่าสนใจซึ่งคุณไม่ควรพลาดครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองบริการต่างๆ ผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

รู้จักชินจูกุ (Shinjuku)

ประวัติความเป็นมาของชินจูกุนั้นเริ่มต้นในสมัยเอโดะ โดยในเริ่มแรกนั้นเป็นสถานีเล็กๆ ของถนนหลวงโคชูไคโด (Koshu-Kaido) ที่เชื่อมระหว่างเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน) และจังหวัดยามานาชิและนากาโน่ครับ พื้นที่ส่วนนี้เดิมเป็นของเมืองไนโตะ-ชินจูกุ ก่อนที่จะถูกผนวกรวมเข้ากับโตเกียวในช่วงปี ค.ศ.1920 เพราะตัวเมืองหลวงนั้นขยายใหญ่เพราะมีจำนวนประชากรมากยิ่งขึ้น

ในปี ค.ศ.1923 ได้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เขตคันโต ทำให้กรุงโตเกียวได้รับความเสียหายอย่างยับเยิน แต่พื้นที่บริเวณชินจูกุนั้นได้รับความเสียหายน้อยมาก เพราะเป็นจุดที่ค่อนข้างสมดุลทางด้านธรณีวิทยาครับ หลังจากนั้นจึงได้มีการสร้างอาคารสูงบริเวณนี้ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

ย่านชินจูกุในปัจจุบัน
ย่านชินจูกุในปัจจุบัน by Sean Pavone/ShutterStock

อย่างไรก็ดีในช่วงสงครามได้ทำลายอาคารเหล่านี้ไปจนเกือบหมด เรียกได้ว่าแทบจะต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ศูนย์ แต่โชคดีโครงสร้างของถนนและรถไฟสมัยก่อนช่วงสงครามนั้นยังคงอยู่ ทำให้ไม่ต้องมีการวางผังเมืองใหม่แต่อย่างใด ชินจูกุจึงฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วในช่วงหลังสงครามครับ

ในปัจจุบันชินจูกุได้กลายเป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจและการค้าของโตเกียว โดยมีสำนักงานใหญ่ของบริษัทจำนวนมากมาย เฉพาะอย่างยิ่งบริษัทญี่ปุ่นอย่างเช่น Epson ไปจนถึงบริษัทเกมอย่าง Square Enix ที่เกมเมอร์รู้จักกันดีในนาม “ค่ายเหลี่ยม” ผู้ผลิตเกมดังอย่าง Final Fantasy ครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปย่านชินจูกุทำอย่างไร?

ชินจูกุเป็นฮับทางด้านการคมนาคมของโตเกียว สถานีรถไฟชินจูกุนั้นเป็นสถานีที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยังมีสถานีรถบัสขนาดใหญ่ซึ่งให้บริการรถบัสไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างเช่นคามิโคจิและฮาคุบะอีกด้วย ดังนั้นถ้าคุณนั่งรถบัสกลับมาโตเกียว มีโอกาสสูงที่คุณจะได้มาลงที่สถานีชินจูกุครับ

ในกรณีที่คุณอยู่ที่สนามบินฮาเนดะหรือนาริตะนั้น คุณสามารถนั่งรถบัสหรือรถไฟเข้ามาถึงชินจูกุได้โดยตรงเลยครับ

สำหรับการสัญจรในมหานครโตเกียวนั้น การเดินทางไปชินจูกุทำได้ง่ายที่สุดด้วยการใช้รถไฟครับ อย่างเช่น JR Yamanote Line หรือ Tokyo Metro Marunouchi Line เป็นต้น

Note

ถ้าคุณอยากพักที่ชินจูกุและยังไม่ได้จองที่พัก ผมแนะนำให้อ่านบทความโรงแรมชินจูกุน่าจองของผมเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ

1. Tokyo Metropolitan Government Office

Tokyo Metropolitan Government Office เป็นตึกแฝดสูง 243 เมตรซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของย่านชินจูกุ ทั้งนี้ตัวตึกเป็นที่ทำการรัฐของกรุงโตเกียว เช่นเดียวกับออฟฟิศของบริษัทมากมาย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วนั้น ส่วนมากนิยมขึ้นไปชมวิวมุมสูงของย่านชินจูกุที่ชั้น 45 ของตึกใดตึกหนึ่ง (แต่ตึกฝั่งใต้จะได้รับความนิยมมากกว่า)

Tokyo Metropolitan Government Office หนึ่งในที่เที่ยวสำคัญของชินจูกุ
by fpdress/ShutterStock

จุดชมวิวจะสูงจากพื้น 202 เมตร และเห็น Tokyo Skytree ในย่านอาซากุสะ รวมไปถึง Tokyo Tower และในวันฟ้าใสจะเห็นภูเขาไฟฟูจิอีกด้วยครับ แถมยังเข้าชมได้ฟรีอีกด้วย (อ้างอิงจาก TMG Visitor Guide) เพราะฉะนั้นไม่ควรพลาดแน่ๆ แบบ 100% เลยครับ

บริเวณตัวตึกนั้นเป็นย่านตึกระฟ้าของชินจูกุ ซึ่งตึกระฟ้าเหล่านี้เป็นทั้งออฟฟิศและโรงแรม และยังมีร้านค้าด้านในอีกด้วย แน่นอนว่าคุณสามารถมาเก็บภาพและสัมผัสบรรยากาศความเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจของกรุงโตเกียวได้ครับ

2. สวนชินจูกุเกียวเอ็น

แม้ว่าชินจูกุจะเป็นย่านธุรกิจ แต่ก็มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้ผู้คนได้ผ่อนคลายความเครียดด้วยเช่นกัน สวนที่ว่านี้คือสวนชินจูกุเกียวเด็น (Shinjuku Gyoen) ซึ่งมีต้นไม้จำนวนมากถึงสองหมื่นต้น เพราะฉะนั้นจึงเป็นปอดของเมืองที่ให้ความร่มรื่นและความรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีสระน้ำขนาดใหญ่อีกด้วยครับ

สวนชินจูกุเกียวเอ็น
by Benny Marty/ShutterStock

ในอดีตที่นี่เคยเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของไดเมียวตระกูลไนโตะมาก่อน แต่ต่อมาถูกดูแลโดยสำนักงานพระราชวังในช่วงยุคเมจิ ก่อนที่จะกลายเป็นพื้นที่สาธารณะในปี ค.ศ.1947 ครับ หลังจากที่จักรพรรดิโชวะ (ฮิโรฮิโต) สวรรคตในปี ค.ศ.1989 งานพระศพได้ถูกจัดขึ้น ณ สวนแห่งนี้ครับ

สวนชินจูกุเกียวเอ็นมีต้นซากุระมากถึง 1,500 ต้น ที่นี่จึงเป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว และเป็นจุดที่ชาวญี่ปุ่นมักจะมานั่งปิกนิกและชมดอกไม้กันในช่วงฤดูใบไม้ผลิครับ

3. คาบุกิโจ

คาบุกิโจ (Kabukicho) เป็นย่านย่อยที่เป็นส่วนหนึ่งของย่านชินจูกุ ถ้าจะให้อธิบายอย่างง่าย ย่านคาบุกิโจก็คือย่านโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดในมหานครโตเกียว เพราะฉะนั้นเป็นสถานที่เที่ยวกลางคืนยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ (เช่นเดียวกับรปปงหงิ)

คาบุกิโจ
by Tawei Yang/ShutterStock

ด้านในมีทั้งร้านอาหาร บาร์ ไนท์คลับ และสถานที่เริงรมณ์ช่วงกลางคืนต่างๆ ซึ่งจะเปิดทำการหลังตะวันตกดิน ดังนั้นถ้าใครเป็นสาย hangout หรือหลงรักแสงสีเสียง การไปเที่ยวคาบุกิโจสักครั้งย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดครับ

อย่างไรก็ดีด้วยความที่เป็นย่านสีเทา คุณอาจจะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยมากกว่าสถานที่แห่งอื่นเสียหน่อย อย่างเช่นหลีกเลี่ยงบาร์ที่ดูไม่น่าไว้วางใจ หรือว่าไปเที่ยวเป็นกลุ่มจะดีที่สุดครับ

4. โกรุเด็น-ไก

โกรุเด็น-ไก (Goruden-Gai) หรือ Golden Gai เป็นย่านขนาดเล็กใกล้กับคาบุกิโจ ตัวย่านมีลักษณะเป็นซอยเล็กทั้งหมด 6 ซอยด้วยกัน แต่ด้านในนั้นมีร้านอาหารและบาร์ขนาดเล็กถึง 200 แห่ง

แต่ละแห่งนั้นจะรับนักกินดื่มได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ก็เป็นที่โปรดปรานสำหรับชาวเมืองโตเกียว (โดยเฉพาะใครที่ทำงานสายศิลปะ) เพราะแทบทุกร้านจะมี theme เป็นของตนเองครับ

5. โอโมอิเดะ โยโคโจ

โอโมอิเดะ โยโคโจ (Omoide Yokocho) เป็นย่านย่อยที่เป็นโตรกขนาดเล็กคล้ายกับโกรุเด็น-ไก โดยอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสถานีรถไฟชินจูกุ

โอโมอิเดะ โยโคโจ
by Yulia Grigoryeva/ShutterStock

ย่านนี้เป็นถิ่นของร้านอาหารขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นราเมง ยากิโทริ ซูชิ ฯลฯ ดังนั้นจะรับลูกค้าได้คราวละไม่กี่คนเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นสถานที่น่าสนใจถ้าคุณอยากสัมผัสวัฒนธรรมอาหารของกรุงโตเกียวครับ

6. ช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่

ชินจูกุนั้นมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งห้างที่มีชื่อเสียงโด่งดังล้วนแต่มีสาขาที่นี่ ทำให้ที่นี่เป็นย่านช้อปปิ้งยอดนิยมไม่แพ้ย่านกินซ่าเลยครับ

ห้างที่น่าสนใจได้แก่

  • อิเซตัน (Isetan) – แบรนด์ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี แม้ว่าจะเลิกกิจการในไทยไปแล้วก็ตาม ห้างอิเซตันที่ชินจูกุนั้นเป็นระดับเรือธงครับ โดยมีถึง 10 ชั้นและจัดจำหน่ายสินค้ามากมาย
  • ทาคาชิมายะ (Takashimaya) – อีกหนึ่งห้างญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยเพราะมีสาขาที่ห้างไอคอนสยาม สำหรับที่ชินจูกุนั้นห้างนี้มีถึง 15 ชั้น โดยมีสามชั้นเป็นร้านอาหารทั้งหมด เรียกได้ว่าดึงดูดทั้งสายช้อปและสายกินสุดๆ เลยครับ
  • Keio – มี 11 ชั้น และมีร้านค้าและร้านอาหารอีกจำนวนมากเช่นกัน

7. ศาลเจ้าฮานะโซโนะ

ศาลเจ้าฮานะโซโนะ (Hanazono Shrine) เป็นศาลเจ้าโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะโดยตระกูลฮานะโซโนะเพื่อสักการะบูชาเทพเจ้าอินาริ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ครับ

ศาลเจ้าฮานะโซโนะ
by Mihai-Bogdan Lazar/ShutterStock

ปัจจุบันที่นี่เป็นสถานที่อันเงียบสงบที่ใช้ปลีกหนีความคับคั่งพลุกพล่านของย่านชินจูกุ ที่นี่เป็นสถานที่จัดเทศกาลชินโตที่จัดขึ้นเกือบตลอดทั้งปีครับ

8. ชินโอคุโบะ

ชินโอคุโบะ (Shin-Okubo) นั้นเป็นย่าน Korean Town ของกรุงโตเกียวนั่นเอง ที่นี่เป็นที่ตั้งของร้านอาหารเกาหลีจำนวนมาก เช่นเดียวกับร้านค้าและร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลีใต้

ชินโอคุโบะ
by XIAOHANG LUO/ShutterStock

ทั้งนี้ชินโอคุโบะเป็นที่นิยมขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น เพราะกระแสความนิยม K-Pop ที่แพร่หลายเข้ามาในดินแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้นั่นเองครับ

9. Ninja Trick House

Ninja Trick House เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับเด็กๆ ที่ชื่นชอบนินจา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอนิเมะ) โดยที่นี่นั้นจะเปิดให้ผู้มาเที่ยวได้ศึกษาเกี่ยวกับนินจา ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการต่อสู้ การป้องกันตัว การหลบหลีก ไปจนถึงการใช้อาวุธอย่างเช่นดาวกระจายในการจัดการคู่ต่อสู้

ดังนั้นถ้าคุณได้ไปเที่ยวที่นี่กับบุตรหลานตัวน้อย การไปเที่ยวที่นี่จะให้ความสนุกสนานได้อย่างมากเลยครับ

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3,200 เยน, เด็ก 4-15 ปี 2,800 เยน (อ้างอิงจากเว็บทางการของ Ninja Trick House)

10. รับประทานอาหารต่างๆ

ย่านชินจูกุนั้นร้านอาหารจำนวนมากซึ่งควรค่าต่อการไปลองชิม ซึ่งวิธีการเลือกร้านก็คือตรวจสอบคะแนน Tabelog และ TripAdvisor ไว้ด้วยเพื่อเป็นการอ้างอิง ซึ่งคุณควรจะใช้ Tabelog เป็นหลัก เพราะเป็นเว็บรีวิวอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าคะแนนได้ประมาณ 3.5 ขึ้นไปถือว่าดีมากครับ

อย่างไรก็ดีบางร้านอาจจะจองยากหรือว่ารอคิวนาน เพราะฉะนั้นผมจึงได้รวบรวมร้านอาหารที่น่าสนใจที่สามารถจองได้ผ่าน Klook เพียงแค่คุณกดลิงค์ด้านล่างก็สามารถจองได้ทันทีเลยครับ

  • Rokkasen Annex (Tabelog Score: 3.53, TripAdvisor 4.5) – ร้านเนื้อย่างแบบบุฟเฟต์ที่มีชื่อเสียงในย่านชินจูกุ จองได้ทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็น ทว่าไฮไลท์นั้นจะอยู่ที่ช่วงเย็น เพราะว่าจะเสิร์ฟทั้งเนื้อโกเบและมัตสึซากะแบบไม่อั้น ใครที่รักการทานเนื้อย่างไม่ควรพลาดทุกประการครับ
  • Yakitori MIKADO (Tabelog Score: 3.58) – ร้านอิซากายะที่เปิดโอมากาเสะเมนูยากิโทริ (ไก่ย่างเสียบไม้) ที่มีชื่อเสียง
  • Teppanyaki Sakura (Tabelog Score: 3.55, TripAdvisor 4.5) – ร้านเทปันยากิแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ในร้านตบแต่งแบบดั้งเดิม ทำให้ได้กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นยุคเก่าอย่างชัดเจน
  • Ushijirushi – (Tabelog Score: 3.46) – ร้านเนื้อย่างที่มีไฮไลท์อยู่ที่ Wagyu Tenderloin Sandwich

References

  • Go Tokyo
  • TMG Visitor Guide
  • Ninja Trick House Official Site

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!