ซอร์เรนโต้ (Sorrento) เป็นเมืองขนาดเล็กในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอิตาลี ตัวเมืองเป็นประตูสู่เมืองและหมู่บ้านอันสวยงามตามชายฝั่งอมัลฟี (Amalfi Coast) อย่างอมัลฟี (Amalfi) หรือ โปซีตาโน (Positano) ครับ
อย่างไรก็ดีเมืองซอร์เรนโต้นั้นมีความสวยงามในตัวเอง ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพักผ่อนที่นี่กันตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 แล้วครับ เราไปดูกันดีกว่าเมืองซอร์เรนโต้แห่งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
รู้จักเมืองซอร์เรนโต้ (Sorrento)
ซอร์เรนโต้ (Sorrento) หรือ Surriento (ตามภาษาท้องถื่น) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดทะเลบริเวณอ่าวเนเปิลส์ (Bay of Naples) ตัวเมืองนั้นมีความเก่าแก่มานานเกือบสามพันปี ตามตำนานเล่าว่าซอร์เรนโต้ได้ถูกสร้างโดยลิปารัส (Liparus) หลานปู่ของโอดิสซิอุส (Odysseus) วีรบุรุษในมหากาพย์โอดิสซีของโฮเมอร์กับนาง Circe
แต่ในหน้าประวัติศาสตร์นั้น ซอร์เรนโต้เริ่มปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาลครับ โดยในช่วงแรกนั้นซอร์เรนโต้อยู่ในการปกครองของชนเชื้อสายอิตาเลียนที่เป็นพันธมิตรของอาณาจักรโรมัน ก่อนที่จะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐในช่วง 90 ปีก่อนคริสตกาลครับ
ช่วงที่ชาวโรมันปกครองนั้น เมืองแห่งนี้มีชื่อว่า Surrentum ในภาษาละติน โดยตัวเมืองได้มีผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญได้แก่ ปลา และแจกันสีแดงสไตล์ campania และได้ส่งออกไปยังหลากหลายเมืองที่อยู่ในการปกครองของอาณาจักรโรมันครับ
หลังจากที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกที่ล่มสลายในปี ค.ศ.476 เมืองหลวงอย่างราเวนนาเรียงรายมาจนถึงเมืองทางภาคใต้อย่างซอร์เรนโต้ได้ถูกปกครองโดยชาว Ostrogoths แต่ซอร์เรนโต้ได้ถูกส่งมอบให้กับจักรวรรดิไบแซนไทน์เมื่อจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 ทรงส่งกองทัพมาตีชิงดินแดนในอิตาลีกลับคืนครับ
ชาวไบแซนไทน์ปกครองเมืองมาหลายศตวรรษ แต่สุดท้ายก็เสื่อมอำนาจลง ทำให้ซอร์เรนโต้กลายเป็นรัฐอิสระที่ปกครองตนเอง (เช่นเดียวกับปิซ่า, เซียน่า และเมืองอื่นๆ ของอิตาลี) ได้เกือบสองศตวรรษ
ทว่าด้วยความที่เป็นเมืองเล็ก ทำให้ยากต่อการป้องกันตนเองได้ ซอร์เรนโต้จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของหลายอาณาจักร จนกระทั่งถูกปกครองโดยอาณาจักรซิซิลี (Kingdom of Sicily) และสเปนที่ได้ปกครองซิซิลีในเวลาต่อมา
ในช่วงศตวรรษที่ 16 จักรวรรดิสเปนได้ทำสงครามกับจักรวรรดิออตโตมัน ปรากฏว่ากองทัพออตโตมันได้มาขึ้นบกและได้ปล้นสะดมเมืองครั้งใหญ่ หลังจากนั้นตัวเมืองก็ถูกคุกคามโดยโจรสลัด (ว่าจ้างโดยสุลต่านออตโตมัน) ทำให้ซอร์เรนโต้ได้รับความเสียหายมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เศรษฐกิจของเมืองจึงซบเซานับตั้งแต่บัดนั้นไปจนถึงช่วงศตวรรษที่ 19 ที่มีการเปลี่ยนผ่านอีกครั้งหนึ่ง
ซอร์เรนโต้ได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศอิตาลีที่ได้สถาปนาขึ้นมาใหม่ และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่าชนชั้นสูงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การปลูกส้มและมะนาวจำนวนมากยังให้ผลผลิตคุณภาพเยี่ยมที่ส่งออกไปทั่วทั้งยุโรป ซอร์เรนโต้จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวและเกษตรกรรมที่สำคัญของภูมิภาค campania มาจนถึงทุกวันนี้ครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปซอร์เรนโต้ (Sorrento) ทำอย่างไร
โดยมากแล้วนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปยังซอร์เรนโต้จากเมืองนาโปลี (หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่าเนเปิลส์)
รถบัสจากสนามบิน – สนามบินที่ใกล้กับซอร์เรนโต้มากที่สุดคือสนามบินเนเปิลส์ (Naples International Airport) จากสนามบินนั้น คุณสามารถนั่งรถบัสของ Curreri Viaggi ไปยังซอร์เรนโต้ได้ครับ รถบัสจะมีค่าบริการเที่ยวละ 10 ยูโร อย่างไรก็ดีรถบัสจะไม่มีให้บริการในช่วงวันคริสต์มาสถึงปีใหม่ครับ
รถไฟท้องถิ่น – ตัวเลือกราคาประหยัดที่สุด โดยคุณสามารถนั่งรถไฟ Circumvesuviana จากเนเปิลส์ไปยังซอร์เรนโต้ได้ แต่ด้วยความที่ราคาถูก ทำให้ผู้ใช้บริการมีจำนวนมหาศาล แถมยังจอดบ่อยด้วย (ระยะทาง 47 กิโลเมตรแต่มี 36 สถานี เพราะฉะนั้นโดยเฉลี่ยแล้วจอดทุกๆ 1.3 กิโลเมตร) นอกจากนี้ยังไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไรนักโดยรวมแล้วเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยดีเท่าไรครับ
เรือเฟอร์รี่ – เรือเฟอร์รี่ของผู้ให้บริการอย่าง Alilauro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงฤดูร้อน/ต้นฤดูใบไม้ร่วง เพราะในราคา 14 ยูโร คุณจะเดินทางไปถึงซอร์เรนโต้ได้ภายในเวลา 45 นาทีเท่านั้น แถมยังได้ชมวิวสวยๆ ของท้องทะเลอีกด้วย แต่เรือจะมีให้บริการช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมเท่านั้น
แท็กซี่ – ทางเลือกราคาสูง แต่ให้ความสะดวกสบายมากกว่ารถบัส ค่าเดินทางโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 ยูโรครับ
เช่ารถขับ – คุณสามารถเช่ารถส่วนบุคคลจากเนเปิลส์ หรือเมืองอื่นๆ ของอิตาลีแล้วขับไปซอร์เรนโต้ด้วยตัวเองครับ ซึ่งวิธีหลังเป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุดในการท่องเที่ยวเมืองซอร์เรนโต้และชายฝั่งอมัลฟีครับ
เดินทางไปซอร์เรนโต้ช่วงไหนดี
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของเมือง อากาศของที่นี่จะอบอุ่น อากาศจะดีมีแสงแดดตลอดวัน และเป็นช่วงที่ท้องทะเลสวยงามที่สุดครับ
1. Marina Grande/Marina Piccola
เศรษฐกิจของเมืองซอร์เรนโต้นั้นขึ้นอยู่กับการค้าขายทางทะเลมาตั้งแต่โบราณ ดังนั้นท่าเรือจึงเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย
ท่าเรือของเมืองซอร์เรนโต้นั้นมีอยู่สองแห่งหลักๆ นั่นคือ Marina Grande และ Marina Piccola ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นจุดที่ดีที่สุดสำหรับการสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเมือง ซึ่งจะนำปลาที่จับได้จากท้องทะเลมาขึ้นฝั่งกันที่บริเวณนี้ในช่วงเช้าครับ
ในท่าเรือทั้งสองแห่งนั้นจะมีร้านอาหารแบบซีฟู้ดอยู่จำนวนมาก ดังนั้นถ้าคุณชอบรับประทานซีฟู้ด คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
2. City Walls of Sorrento
เมืองซอร์เรนโต้นั้นเป็นเมืองท่า เพราะฉะนั้นจึงเผชิญกับภัยคุกคามจากโจรสลัดมาตั้งแต่อดีตกาล ตัวกำแพงเดิมนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 400 BC ก่อนที่เมืองจะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันเสียอีก
เมื่อชาวโรมันได้ครอบครองซอร์เรนโต้ก็ได้ขยายกำแพงให้ใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกับชาวสเปนที่ได้เสริมกำแพงเดิมให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะได้สกัดการปล้นสะดมของโจรสลัดออตโตมัน
ปัจจุบันกำแพงเมืองเหล่านี้ยังคงอยู่ และอยู่ในสภาพดีเยี่ยมเหมือนในอดีต ซึ่งคุณสามารถเดินชมได้ครับ
3. Bagni della Regina Giovanna
Bagni della Regina Giovanna เป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรซอร์เรนโต้ที่ถูกปิดกั้นโดยแนวภูเขา จนเกิดเป็นสระน้ำสีสวยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่บริเวณนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของคฤหาสน์ของชนชั้นสูงโรมัน นอกจากนี้ราชินี Giovanna D’Angelo แห่งซิซิลีเองก็เคยใช้ที่นี่เป็นสถานที่พลอดรักกับชู้รักมากหน้าหลายตาครับ
ปัจจุบันนักเดินทางนิยมมาว่ายน้ำผ่อนคลายกันที่บริเวณนี้ รวมไปถึงชมโบราณสถาน Villa Pollio Felice คฤหาสน์โรมันที่มีอายุกว่าสองพันปีครับ
4. Sorrento Cathedral
Sorrento Cathedral หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Cathedral of Saint Phillips and James เป็นมหาวิหารหลักของเมืองซอร์เรนโต้ ตัวมหาวิหารสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 11 เพื่ออุทิศให้กับนักบุญในคริสตจักรสองท่าน แต่ได้รับการสร้างใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 15 ในสไตล์ Romanesque ครับ
ใกล้กับตัวมหาวิหารนั้นมีหอระฆังตั้งอยู่แนบชิดติดกัน ฐานของหอดังกล่าวนั้นมีความเก่าแก่มาก โดยย้อนไปได้ถึงช่วงที่จักรวรรดิโรมันปกครองเมืองซอร์เรนโต้ครับ
5. Piazza Tasso
Piazza Tasso เป็นจัตุรัสอันเป็นศูนย์กลางของเมืองซอร์เรนโต้ และเป็นสถานที่ให้ชาวเมืองได้จัดเทศกาลรวมไปถึงนัดพบปะกักนมาตั้งแต่โบราณ บริเวณตรงกลางของจัตุรัสนั้นมีรูปปั้นของนักบุญ St. Antonio ตั้งอยู่ครับ
ปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของโรงแรมหรู ร้านอาหาร และคาเฟ่ต่างๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยมที่ว่ากันว่าไม่แพ้เมืองใหญ่อย่างเนเปิลส์ครับ
ใกล้กับบริเวณจัตุรัสมีถนนขนาดเล็กชื่อ Via San Cesareo ที่เป็นที่ตั้งของร้านค้านานาชนิดมาตั้งแต่อดีตกาล ใครที่อยากหาซื้อของฝากสามารถหาได้จากที่นี่ครับ
6. Chiostro di San Francesco
Chiostro di San Francesco เป็นอารามในคริสตจักรที่ความเก่าแก่กว่า 1,200 ปี เพราะสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 8 ครับ บางส่วนอาจจะเก่าแก่กว่านั้นเพราะน่าจะสร้างขึ้นทับศาสนสถานกรีก-โรมันเดิมครับ
ไฮไลท์ของที่นี่คือบริเวณทางเดิน (Cloister) ที่มีรากไม้ปกคลุมอย่างเป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้มักใช้เป็นสถานที่จัดการแสดงดนตรีบ่อยครั้งครับ
7. Basilica of Sant’Antonino
St. Antonino เป็นนักบุญผู้อุปถัมภ์ของเมืองซอร์เรนโต้แห่งนี้ ในช่วงศตวรรษที่ 11 ชาวเมืองจึงสร้างมหาวิหารสไตล์ Romanesque แห่งนี้ขึ้นเพื่ออุทิศให้กับท่าน โดยสร้างขึ้นโดยใช้โครงสร้างจากอาคารเดิมในสมัยโรมันครับ
ด้านในมหาวิหารมีภาพเขียนอันสวยงามอยู่หลายภาพ อย่างเช่นภาพเขียนสีเฟรสโกของ Camillo Gavasetti นอกจากนี้ยังมีกระดูกของวาฬขนาดยักษ์ประดิษฐานอยู่ด้วยครับ ว่ากันว่าวาฬตัวนี้เคยพยายามจะกินเด็กคนหนึ่งทั้งตัว แต่นักบุญ Antonino ได้ช่วยเหลือเอาไว้ได้ครับ
8. Villa Comunale
Villa Comunale เป็นสถานที่ซึ่งคู่รักหรือใครก็ตามที่หลงใหลในความโรแมนติกไม่ควรพลาดเลยครับ ที่นี่เป็นสวนสาธารณะอยู่ติดกับ Chiostro di San Francesco และอยู่ด้านบนของท่าเรือ Marina Grande พอดิบพอดี ทำให้คุณมองเห็นวิวท่าเรือพร้อมกับเรือสีสวยในบริเวณนั้นได้อย่างสวยงามมาก และถ้ามองไปไกลอีกสักหน่อย คุณจะเห็นภูเขาไฟวิซุเวียสด้วยครับ
แต่สิ่งที่สวยที่สุดคือพระอาทิตย์ตกดินที่ลับขอบฟ้าที่คาบสมุทรซอร์เรนโต้ครับ ภาพดังกล่าวจะอยู่ในความทรงจำของคุณไปตลอดกาลเลยทีเดียว
9. ชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
ในเมืองซอร์เรนโต้นั้นมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งด้วยกัน อาทิเช่น
- Museo Archeologico – พิพิธภัณฑ์โบราณคดีของเมืองที่เก็บโบราณวัตถุมาตั้งแต่สมัยโรมัน ซึ่งหลายชิ้นนั้นจะแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของผู้คนในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดีครับ
- Correale di Terranova Museum – พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะช่วงยุคศตวรรษที่ 17-18 รวมไปถึงเครื่องปั้นดินเผาและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ครับ
10. ชิมอาหารพื้นเมือง
เมนูที่คุณที่ไม่ควรพลาดทุกประการเมื่อได้มาเหยียบเมืองซอร์เรนโต้ได้แก่
- Scialatielli alle Vongole – พาสต้าเส้น Scialatielli ผัดกับหอยสดๆ จากท้องทะเล เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ควรลิ้มลองอย่างยิ่งครับ
- Gnocchi alla Sorrentina – พาสต้ามันฝรั่งคลุกเคล้ากับซอสมะเขือเทศและชีส
- พิซซ่า
- Limoncello และผลิตภัณฑ์จากมะนาวต่างๆ