5 ไฮไลท์ซังค์โวล์ฟกัง (St.Wolfgang) ที่คุณไม่ควรพลาด

ซังค์โวล์ฟกัง (St. Wolfgang หรือชื่อเต็มว่า St.Wolfgang im Salzkammergut) เป็นเมืองรีสอร์ทขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค Salzkammergut ของประเทศออสเตรีย

ตัวเมืองติดทะเลสาบ Wolfgangsee อันสวยงาม ประกอบกับทิวทัศน์ภูเขาอันงามตา ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมในการพักผ่อนมาทุกยุคทุกสมัยครับ

บทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับซังค์โวล์ฟกังโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักซังค์โวล์ฟกัง (St.Wolfgang)

ซังค์โวล์ฟกังเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศออสเตรีย ตัวเมืองนั้นได้ชื่อมาจากนักบุญ Wolfgang of Regensburg บิชอปในคริสตศาสนาในช่วงศตวรรษที่ 10 ผู้เลือกมาใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายในภูมิภาค Salzkammergut แห่งนี้ และได้สร้างโบสถ์แห่งแรก (Pilgrimage Church) ขึ้นที่ริมทะเลสาบ Wolfgangsee ครับ

หลังจากที่บิชอปผู้นี้ได้กลายเป็นนักบุญ ตัวโบสถ์ได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญที่ดึงดูดผู้ศรัทธาให้เดินทางมาจากทุกสารทิศทุกยุคทุกสมัย ส่งผลให้ซังค์โวล์ฟกังกลายเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบตลอดหลายร้อยปี

ในช่วงศตวรรษที่ 19 ซังค์โวล์ฟกังได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ส่วนหนึ่งเพราะจักรพรรดิแห่งออสเตรีย-ฮังการีได้ทรงมาสร้างที่พำนักช่วงฤดูร้อนที่เมือง Bad Ischl ซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ชนชั้นสูงและเหล่าศิลปินจึงแห่กันมาเยี่ยมเยือนที่นี่ ทำให้ตัวเมืองโด่งดังในเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามและบรรยากาศที่ผ่อนคลายครับ

อย่างไรก็ดีช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลเยอรมันได้สร้างค่ายกักกันย่อยของดาเคา (Dachau) ขึ้นที่นี่ ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงที่มืดมนที่สุดของเมือง แต่เมื่อสงครามสงบ ซังค์โวล์ฟกังก็กลับมาเงียบสงบเช่นเดิม ความสงบและบรรยากาศเดิมๆ ก็ได้ย้อนกลับมาสู่เมืองน้อยแห่งนี้อย่างเช่นแต่ก่อนครับ

ข้อควรทราบ

1. Schafberg

Schafberg เป็นภูเขาสูง 1,783 เมตรในเขตเมืองซังค์โวล์ฟกัง และเป็นจุดชมวิวมุมสูงของเมืองและบริเวณโดยรอบที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลสาบที่สวยงามมากอย่างทะเลสาบโวล์ฟกัง (Wolfgangsee) ครับ บริเวณจุดชมวิวจะมีร้านอาหารที่คุณสามารถชมวิวไปพร้อมๆ กับชิมอาหารออสเตรียนแสนอร่อยด้วยครับ

ในการเดินทางขึ้นไปนั้นจะใช้รถไฟโบราณสีแดงชื่อ Schafbergbahn ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสไตล์วินเทจ รวมไปถึงวิวที่สวยสุดยอดไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืมเลยครับ

ค่าบริการไปกลับจะอยู่ที่ 47.6 ยูโรครับ แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกจองขาไปหรือขากลับอย่างเดียวได้เช่นกัน (อีกขาหนึ่งเลือกเดินชมวิวขึ้นลงเอง)

อย่างไรก็ดีรถไฟนี้ไม่ได้เปิดให้บริการตลอดปี แต่จะเปิดในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงวันปีใหม่เท่านั้น (ช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมก็ไม่ได้เปิดทุกวัน) คุณสามารถตรวจสอบวันเวลาได้จากเว็บไซต์นี้ครับ

2. ล่องเรือชมทะเลสาบโวล์ฟกัง

ทะเลสา่บโวล์ฟกัง (Wolfgangsee) เป็นไฮไลท์ของซังค์โวล์ฟกัง เพราะฉะนั้นการล่องเรือชมทะเลสาบเป็นกิจกรรมยอดนิยมของที่นี่มาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ดังนั้นเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

ตัวเรือจะเชื่อมกับเมืองเล็กทั้งสามริมทะเลสาบได้แก่ซังค์โวล์ฟกัง ซังค์กิลเกน และ Strobl ครับ ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับระยะทางที่คุณใช้บริการ หรือคุณสามารถซื้อ Wolfgangsee Ticket ในราคา 25.6 ยูโรเพื่อที่จะขึ้นลงได้ทุกท่าจอดอย่างละครั้งครับ

เช่นเดียวกับรถไฟขึ้นไปยัง Schafberg นั่นคือเรือจะมีบริการช่วงปลายเดือนเมษายนถึงวันปีใหม่เท่านั้น ตารางเวลาอ่านได้จากเว็บไซต์นี้ครับ

3. วิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ฯลฯ

สำหรับใครที่เป็นนักวิ่ง รอบทะเลสาบโวล์ฟกังมีเส้นทางอยู่หลายเส้นที่คุณสามารถวิ่งได้ ตั้งแต่ 2 กิโลเมตรไปจนถึง 27 กิโลเมตร หรือถ้าสนใจเป็นมาราธอนเลยก็มีเช่นกัน อ่านเพิ่มเติมได้จากเว็บนี้ครับ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือการขี่จักรยาน ซึ่งคุณสามารถเช่าจักรยานไปขี่เองได้ หรือว่าซื้อเป็น Bike Tours แล้วขี่ไปพร้อมกับผู้นำทางได้เช่นกัน เส้นทางมีให้เลือกตั้งแต่ 20-90 กิโลเมตรครับ

ส่วนกิจกรรมทางน้ำก็มีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ว่ายน้ำ กีฬาทางน้ำ ไปจนถึงตกปลาครับ

4. Schwarzensee

Schwarzensee เป็นทะเลสาบขนาดเล็กที่ตั้งอยู่เหนือทะเลสาบโวล์ฟกังขึ้นไป สีของน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีน้ำเงินสวยงาม และโดยรอบปกคลุมด้วยผืนป่าอันบริสุทธิ์ และขุนเขาที่สูงตระหง่าน เหมาะต่อการชมวิวอย่างมากเลยครับ

5. Pilgrimage Church

Pilgrimage Church of St.Wolfgang เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นโดยนักบุญ Wolfgang of Regensburg เมื่อเกือบพันปีก่อน และเป็นที่เคารพของเหล่าผู้แสวงบุญทุกยุคทุกสมัย

ด้านในโบสถ์มี altarpiece ศิลปะโกธิคตอนปลายอันเป็นผลงานของ Michael Pacher ศิลปินชาวออสเตรียครับ

ใกล้กับตัวโบสถ์มีอาคารที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่เปลี่ยนเป็นร้านค้า และร้านอาหารอยู่หลายแห่ง แน่นอนว่าคุณสามารถหาซื้อของฝากพื้นเมืองติดไม้ติดมือกลับไปได้ครับ

References

• Five Treasures
• Wolfgangsee Official Site