ทาคาจิโฮะ (Takachiho) เป็นเมืองขนาดเล็กในจังหวัดมิยาซากิที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากอย่างโตรกทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge) นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าหลายแห่งที่เซ่นสรวงให้กับเทพเจ้าในตำนานปรัมปราของญี่ปุ่น อันเนื่องมาจากเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่โบราณ ทำให้ที่นี่น่าสนใจมากทั้งด้านการชมทิวทัศน์และสัมผัสวัฒนธรรมครับ
ในบทความนี้จะแนะนำเมืองทาคาจิโฮะให้คุณรู้จักโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะไปแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเมืองทาคาจิโฮะ (Takachiho)
ทาคาจิโฮะตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของจังหวัดมิยาซากิ โดยอยู่บริเวณพรมแดนของสามจังหวัดได้แก่ จังหวัดมิยาซากิ จังหวัดคุมาโมโตะ และจังหวัดโออิตะ บริเวณตัวเมืองเป็นภูเขาสูง แต่มีแม่น้ำโกโคเซะ (Gokose River) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเกิดเป็นโตรกขนาดใหญ่ที่สวยงามครับ
ตำนานปรัมปราของญี่ปุ่นนั้นมีหลายบทที่เกี่ยวพันกับเมืองทาคาจิโฮะ กล่าวคือเทพีอมาเตระสุ (Amaterasu) หรือเทพีแห่งดวงอาทิตย์ได้เกิดพิพาทกับน้องชาย ทำให้นางไปหลบไปถ้ำใกล้กับเมืองนี้ ส่งผลให้โลกทั้งใบปราศจากแสงอาทิตย์ จนสุดท้ายเทพเจ้าอาเมะ โนะ อุสุเมะต้องลวงนางออกมาครับ
นอกจากนี้บริเวณเมืองทาคาจิโฮะยังเป็นจุดที่นินิกิ (Ninigi) นัดดาของอมาเตราสุลงจากสรวงสวรรค์มายังโลกมนุษย์ ซึ่งนินิกิผู้นี้เป็นบรรพบุรุษในตำนานของจักรพรรดิญี่ปุ่นทุกพระองค์ครับ
ในแง่ประวัติศาสตร์นั้น ทาคาจิโฮะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดฮิวกะ ดินแดนในการปกครองของตระกูลคิคุจิในช่วงเซ็นโกกุที่ปกครองดินแดนแถบคุมาโมโตะ ทว่าตระกูลคิคุจิได้เสื่อมถอยลง ทำให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นที่แย่งชิงของตระกูลชิมาสุแห่งคาโกชิม่าและตระกูลโอโตโมะแห่งอุสุกิครับ
ช่วงสมัยเอโดะ ทาคาจิโฮะอยู่ในการปกครองของไดเมียวหลายตระกูลสลับเปลี่ยนกันไป แต่ตระกูลไนโตะ (Naito Clan) เป็นผู้ปกครองยาวนานที่สุด แต่ที่นี่ไม่ได้เป็นเมืองสำคัญแต่อย่างใด เพราะเป็นพื้นที่ชนบทครับ
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทาคาจิโฮะได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว เช่นเดียวกับมีการเกษตรกรรมโดยการปลูกข้าวที่เจริญรุ่งเรืองครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปทาคาจิโฮะ (Takachiho) ทำอย่างไร?
ทาคาจิโฮะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเกาะคิวชู เพราะฉะนั้นเดินทางไปได้ไม่ยากนักจากเมืองใหญ่ต่างๆ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
จากฟุกุโอกะและคาโกชิม่า
ชินคันเซน + รถบัส – ขั้นแรกคุณจะต้องนั่ง Kyushu Shinkansen (ทุกขบวน) ไปลงที่คุมาโมโตะ (Kumamoto Station) หลังจากนั้นไปขึ้นรถบัส (Express Bus Aso-go หรือ Takachiho-go) ไปยังทาคาจิโฮะ ทั้งนี้รถบัสจะมีแค่ 2 เที่ยวต่อวันเท่านั้น คุณจำเป็นต้องจองล่วงหน้าครับ วิธีนี้สามารถใช้กับทุกเมืองที่ Kyushu Shinkansen ผ่านไม่ว่าจะเป็นฟุกุโอกะหรือคาโกชิม่าครับ
รถบัส – ในกรณีที่คุณอยู่ที่ฟุกุโอกะ คุณสามารถนั่งรถบัส Gokase-go จาก Hakata Station ไปยังทาคาจิโฮะได้โดยตรง รถบัสจะมี 4 เที่ยวต่อวันครับ
จากโออิตะและมิยาซากิ
ในกรณีที่คุณอยู่ที่เมืองโออิตะและมิยาซากิ คุณสามารถนั่งรถไฟ Limited Express Nichirin/Nichirin Sea Gaia ไปลงที่ Nobeoka Station หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถบัสไปยังทาคาจิโฮะครับ
นอกจากนี้เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง คุณอาจจะเช่ารถจากเมืองใหญ่และขับไปทาคาจิโฮะด้วยตนเองได้เช่นกันครับ วิธีนี้มีข้อดีคือ คุณสามารถขับรถไปที่เที่ยวอื่นๆ อย่างเช่นอาโซะหรือคุโรคาวะออนเซ็น หรือแม้กระทั่งยูฟุอินโดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนรถครับ
ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงจาก Takachiho Tourist Association โปรดตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพราะอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ครับ
การสัญจรในทาคาจิโฮะทำอย่างไร
เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจะอยู่นอกเมือง นักเดินทางส่วนมากมักจะเช่ารถหรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่ถ้าไม่อยากขับเอง ตัวเลือกที่พึ่งพาได้จะเหลือแค่แท็กซี่ครับ แต่ถ้าร่างกายแข็งแรง การเดินก็เป็นทางออกที่ประหยัดครับ
1. โตรกทาคาจิโฮะ
โตรกทาคาจิโฮะ (Takachiho Gorge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของเมือง ตัวโตรกนั้นเป็นภูเขาที่ถูกกัดเซาะโดยแม่น้ำโกโคเซะ และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปะทุของภูเขาไฟอาโซะ ซึ่งทำให้เกิดการไหลของลาวาครับ
แนวหน้าผาสูงริมน้ำนั้นบ้างว่าเหมือนกับเกล็ดมังกรที่คดเคี้ยว ตัวโตรกนั้นปกคลุมด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงสวยเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ความพิเศษของที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือบริเวณโตรกนั้นมีน้ำตกสูง 17 เมตรตั้งอยู่ชื่อน้ำตกมานาอิ (Manai Waterfall) ทำให้ตัวโตรกงามต่างจากที่อื่นครับ
นอกจากน้ำตกมานาอิแล้ว จุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือสะพานสามแห่งซึ่งเรียงรายกันไปได้แก่สะพานยาริโตะบิบาชิ (Yaritobibashi) สะพานชินบาชิ (Shinbashi) และสะพานทาคาจิโฮะ โอฮาชิ (Takachiho Ohashi) ครับ
การชมโตรกทาคาจิโฮะได้ที่รับความนิยมสูงสุดคือการเช่าเรือแล้วพายไปตามแม่น้ำ ซึ่งคุณจะได้ความรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติ แต่วิธีนี้มีข้อเสียอยู่สองอย่าง นั่นคือแพง (4,100 เยนต่อ 30 นาที) และรอคิวนาน (บางครั้งอาจจะรอนานถึง 3 ชั่วโมง) ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่เว็บเพจนี้จะได้ทราบว่าจะต้องรอเรือนานเท่าใดครับ
อีกทางเลือกหนึ่งคือเดินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ วิธีนี้จะใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงแต่ไม่ต้องรอและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่เรื่องบรรยากาศและความสวยนั้น ผมมองว่าสู้พายเรือไม่ได้ครับ แต่ก็เหมาะถ้าคุณมีเวลาจำกัดครับ
ทั้งนี้โตรกทาคาจิโฮะนั้นจะเปิดไฟในช่วงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม ถ้าคุณพักอยู่ใกล้ๆ แถวนี้ แน่นอนว่าคุณสามารถไปชมความสวยยามค่ำคืนได้ครับ
2. ศาลเจ้าทาคาจิโฮะ
าลเจ้าทาคาจิโฮะ (Takashiho Shrine) เป็นศาลเจ้าโบราณที่เชื่อกันว่ามีอายุถึง 1,900 ปี ตัวศาลเจ้าแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่เป็นสถานที่จัดเทศกาลสำคัญอย่างทาคาจิโฮะ โยคากุระ (Takachiho Yokagura) หรือพิธีกรรมชินโตที่เซ่นสรวงเทพเจ้าในช่วงฤดูหนาว เพื่อให้การเก็บเกี่ยวสำเร็จด้วยปี ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข และช่วยให้หญิงตั้งครรภ์คลอดบุตรอย่างราบรื่นครับ
ทั้งนี้ที่ศาลเจ้าจะมีการแสดงด้วยในช่วงสองทุ่มถึงสามทุ่ม ซึ่งเป็นการแสดงเต้นรำที่ผู้แสดงจะสวมใส่หน้ากาก ส่วนพลอตเรื่องแน่นอนว่าจะมาจากตำนานปรัมปราของญี่ปุ่นครับ
3. ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ
ศาลเจ้าอามาโนะอิวาโตะ (Amanoiwato Shrine) สร้างขึ้นในถ้ำที่เชื่อกันว่าเทพีอมาเตระสุเสด็จไปพำนักหลังจากที่ทะเลาะเบาะแว้งกับน้องชาย เพราะฉะนั้นชาวญี่ปุ่นจึงสร้างศาลเจ้าขึ้นที่นี่เพื่อใช้สักการะองค์เทพี อย่างไรก็ดีตัวถ้ำนั้นคุณไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ แต่จะชมได้จากจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น
สำหรับสายมู คุณสามารถรีเควสให้นักบวชชินโตสวดมนต์เพื่อขอให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงได้ รวมไปถึงขอให้เดินทางปลอดภัย ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง หายจากอาการป่วย สอบผ่าน ฯลฯ
ห่างจากศาลเจ้าไม่ไกลนักคือถ้ำอีกแห่งหนึ่งชื่อถ้ำ อามาโนะยาสุกะวาระ (Amano Yasukawara) ตามตำนานเล่าว่าเป็นสถานที่ซึ่งเทพเจ้ามารวมตัวกันเพื่อคิดแผนที่จะล่อเทพีอมาเตระสุให้ออกมาจากในถ้ำ ใกล้กับบริเวณนี้จะเห็นก้อนหินเรียงเป็นชั้นๆ ซึ่งเกิดจากผู้แสวงบุญในอดีตทำไว้ครับ
อีกศาลเจ้าที่น่าสนใจในทาคาจิโฮะคือ ศาลเจ้าอาราตาเตะ (Aratate Shrine) เพราะศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องการหาคู่ ใครที่ยังเป็นโสดและอยากหาคนรู้ใจ แน่นอนว่าไม่ควรพลาดไปขอพรครับ
4. Takachiho Amaterasu Railway
Takachiho Amaterasu Railway เป็นรถไฟแบบ Super Cart ที่ใช้ทางรถไฟเก่ามาเดินรถสำหรับการชมวิวในบริเวณเมืองทาคาจิโฮะ ซึ่งคุณจะได้เห็นนาข้าวอันสวยงามของทาคาจิโฮะ ไปจนถึงศาลเจ้าต่างๆ ตลอดจนโตรกอันสวยงามที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองนี้ครับ แต่ที่พีคที่สุดคือ Takachiho Iron Bridge ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสะพานสำหรับรถไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นครับ
ทั้งนี้การนั่งให้ครบสายนั้นจะใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง แต่เห็นวิวสวยๆ แทบจะตลอดทาง ทำให้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาดครับ
5. คุนิมิกาโอกะ
คุนิมิกาโอกะ (Kunimigaoka) เป็นจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 513 เมตร และมีชื่อเสียงมากเพราะว่าเป็นจุดชมทะเลเมฆหมอกคืออุนไคที่ดีที่สุดของจังหวัดมิยาซากิ เช่นเดียวกับวิวสวยๆ ของภูเขาไฟอาโซะ และแนวทิวเขาโดยรอบได้อีกด้วย
อย่างไรก็ดีทะเลเมฆหมอกนั้นจะเห็นแค่ในช่วงเช้าของตอนฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น และในวันนั้นจะต้องมีอากาศเย็นและไม่มีลม ทำให้โอกาสจะได้เห็นนั้นมีไม่มากนักครับ
6. ชิมเมนูเด็ด
แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็ก แต่ทาคาจิโฮะนั้นมีหลายเมนูเด็ดให้ได้ลิ้มลอง ตั้งแต่เนื้อทาคาจิโฮะ (Takachiho Beef) เนื้อวากิวแสนอร่อยที่เคยชนะการแข่งขันวากิวโอลิมปิกมาแล้ว เนื้อชนิดนี้นำไปทำอะไรก็อร่อย แต่ที่นิยมเห็นจะเป็น Takachiho croquette เมนูของทอดที่ใช้เนื้อวากิวชนิดนี้เป็นส่วนประกอบครับ
เมนูอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงได้แก่ไก่ทอดนัมบัง และคากุระอุด้งที่ใช้เนื้อไก่ ไปจนถึงนากาชิโซเมน (Nagashi Somen) คือเส้นโซเมนที่ไหลตามน้ำในรางไม้ไผ่ครับ
References
- Amano Iwato Shrine Official Site
- Miyazaki Pref Travel Guide
- Takachiho Tourist Association