หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น8 ที่เที่ยวโทคามาจิ (Tokamachi) และกิจกรรมที่ห้ามพลาด

8 ที่เที่ยวโทคามาจิ (Tokamachi) และกิจกรรมที่ห้ามพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

โทคามาจิ (Tokamachi) เป็นเมืองขนาดเล็กอันเงียบสงบที่เร้นลับอยู่ในจังหวัดนีงาตะในภูมิภาคชุบุของญี่ปุ่น ถ้าคุณเบื่อหน่ายกับเมืองท่องเที่ยวแบบแมสๆ และอยากสัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่นี่ควรค่าต่อการเดินทางมาเป็นอย่างยิ่งเลยครับ

บทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับโทคามาจิ และแนะนำสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักเมืองโทคามาจิ (Tokamachi)

เมืองโทคามาจิเป็นเมืองที่มีสภาพภูมิศาสตร์อันหลากหลาย โดยมีภูเขาสูงใหญ่ตั้งตระหง่าและผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่เป็นปราการให้กับตัวเมือง บริเวณเมืองมีแม่น้ำชินาโนะ (Shinano River) แม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไหลผ่าน พื้นที่แห่งนี้จึงอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำการเกษตรครับ

เมืองโทคามาจิ
by onemu/ShutterStock

โทคามาจิไม่มีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์เท่าใดนัก ที่นี่มีสถานะเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กตลอดมา และอยู่ในการปกครองของรัฐบาลโชกุนโดยตรงในช่วงยุคเอโดะ จนกระทั่งในช่วงยุคเมจิที่โทคามาจิได้กลายเป็นเมืองขึ้นมาครับ

อย่างไรก็ดีโทคามาจิเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น เพราะที่นี่มีหิมะตกหนักมากในแทบทุกปี ทำให้ชาวบ้านต้องสร้างบ้านที่แตกต่างออกไปจากที่อื่น ยกตัวอย่างเช่นโครงเสาจะมีขนาดใหญ่เพื่อให้ทนทานต่อหิมะ พื้นที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ชั้น 2-3 เท่านั้น รวมไปถึงมีไม้ค้ำยันขนาดใหญ่เพื่อป้องกันตัวบ้านครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปเมืองโทคามาจิทำอย่างไร?

การไปโทคามาจิจากโตเกียวจัดว่าสะดวกสบาย โดยคุณมีตัวเลือกต่อไปนี้ครับ

ชินคันเซน + รถบัส – ขั้นตอนแรกคุณจะต้องขึ้น Joetsu Shinkansen จากโตเกียวไปลงที่สถานี Echigo-Yuzawa ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นรถไฟ Hokuhoku Line เข้าเมืองโทคามาจิ ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีครับ

เนื่องจากสถานี Echigo-Yuzawa เป็นปากทางสู่สกีรีสอร์ทชื่อดังของนีงาตะอย่างยูซาวะ คุณสามารถไปเล่นสกีหรือชมวิวไปได้พร้อมๆ กันครับ

เช่ารถขับ – อีกทางเลือกหนึ่งคือเช่ารถขับไปยังโทคามาจิโดยตรง ซึ่งตัวเมืองอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 235 กิโลเมตร ทำให้ขับไปโดยใช้เวลาไม่นานเท่าไรนัก แต่ถ้าขับไปในช่วงฤดูหนาว คุณจะต้องระวังมากขึ้น เพราะว่าหิมะตกหนักมากครับ

ข้อดีของการเช่ารถขับคือ คุณจะเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างง่ายมาก และไม่ต้องเดินไกลและเสียเวลาเหมือนกับขนส่งสาธารณะครับ

ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก My Trip Tokamachi (เว็บไซต์ทางการของเมือง) โปรดตรวจสอบที่ต้นทางก่อนออกเดินทาง เพราะว่าข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ครับ

ไปเที่ยวโทคามาจิช่วงไหนดี?

การไปเที่ยวโทคามาจิทำได้ทุกฤดู แต่ช่วงที่ผมมองว่ามีเสน่ห์ที่สุดคือช่วงฤดูหนาว เพราะคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเมืองหิมะอันเป็นเอกลักษณ์ของโทคามาจิครับ แต่ช่วงนี้อากาศจะหนาวมาก ดังนั้นเครื่องแต่งกายจะต้องพร้อมครับ

1. โตรกคิโยสึ

โตรกคิโยสึ (Kiyotsu Gorge) เป็นหนึ่งในสามสุดยอดโตรกของญี่ปุ่น เคียงคู่กับโตรกคุโรเบะที่โทยามะ และหุบเขาโอสุกิดานิที่จังหวัดมิเอะครับ ตัวโตรกเกิดขึ้นจากการกัดเซาะของแม่น้ำต่อภูเขาหินที่เกิดจากการเย็นตัวลงของแมกมาครับ

จุดเด่นของตัวโตรกคือที่ชั้นหินจะมี columnar jointing หรือเสาหิน 4-6 ด้านที่มีรูปร่างเหมือนข้อต่อ สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการแข็งตัวของแมกมาบนแผ่นหินหลังจากที่เย็นตัวลงครับ

โตรกคิโยสิ
by Ky Cho/ShutterStock

ตัวโตรกให้ทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปในทุกฤดู แต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะสวยที่สุด เพราะคุณจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี และหิมะปกคลุมนั่นเองครับ

ในปัจจุบันคุณสามารถเดินเข้าไปชมตัวโตรกได้โดยเดินผ่านอุโมงค์เข้าไป ซึ่งจุดชมวิวตรงนี้จะมี 3 แห่งด้วยกัน ซึ่งจุดชมวิวในสุดนั้นคุณจะได้เห็นตัวโตรกแบบพาโนรามาเลยครับ

แถมยังมีความพิเศษด้วยตรงที่มีบ่อน้ำในอุโมงค์ ซึ่งคุณจะได้เห็นภาพสะท้อนของทางออกอุโมงค์และตัวโตรกลงบนผิวน้ำ จุดชมวิวตรงนี้จึงได้ชื่อว่า Tunnel of Light ครับ

Kiyotsu Gorge เมืองโทคามาจิ
by Faula Photo Works/ShutterStock

การเดินทางไปยังตัวโตรกค่อนข้างซับซ้อน ถ้าคุณไม่ได้ขับรถไปเอง คุณจะต้องไปขึ้นรถบัสที่มุ่งไปยัง Morimiyanohara ที่สถานี Echigo-Yuzawa Station โดยคุณจะลงที่ป้าย Kiyotsukyo Iriguchi Bus Stop ครับ และปิดท้ายด้วยการเดินเท้าไปที่ทางเข้าอีกประมาณ 2 กิโลเมตรครับ

ค่าเข้าชม: 1000 เยน

2. นาข้าวขั้นบันได

นาข้าวขั้นบันไดเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองโทคามาจิ ด้วยความที่มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งผลิตข้าวชั้นดีอย่างข้าวอุโอะนุมะ โคชิฮิคาริ ซึ่งได้รับการบยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุดของญี่ปุ่นครับ

ตัวนาข้าวนั้นจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง เพราะนาข้าวจะเปล่งประกายราวกับว่าสะท้อนแสงแดดได้ แต่ในช่วงฤดูร้อนนั้นนาข้าวจะเขียวชอุ่มไปทั่วอาณาบริเวณ ซึ่งจะสวยไปอีกแบบหนึ่งครับ

นาข้าวขั้นบันได เมืองโทคามาจิ
by chen min chun/ShutterStock

นาข้าวที่นิยมไปชมกันได้แก่

  • Hoshitoge – นาข้าวสวยขวัญใจช่างถ่ายภาพจากทั่วทุกสารทิศ
  • Gimyo – นาข้าวยอดนิยมช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะมีซากุระสะท้อนผืนน้ำให้ชม
  • Kamo – นาข้าวที่คุณสามารถเห็นแนวภูเขาหิมะอันสวยงามเป็นฉากหลัง ถ้าสภาพอากาศเป็นใจ
by onemu/ShutterStock

ใครที่ชอบเดินเทรค คุณสามารถเดินเทรคไปตามเส้นทางที่จัดไว้อย่าง Tokamachi Rice Terrace Treks โดยคุณจะมีไกด์นำทางที่ช่วยเหลือคุณไปตามเส้นทางต่างๆ และเล่าถึงประวัติความเป็นมาของนาข้าวแต่ละแห่งครับ นอกจากนี้ยังได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองที่สืบทอดกันมานับศตวรรษอีกด้วย

นาข้าวที่โทคามาจิ
by Faula Photo Works/ShutterStock

หลังจากจบเส้นทาง คุณจะได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนอย่างแน่นอนครับ ถ้าสนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

3. ชมเทศกาลศิลปะร่วมสมัย

เมืองโทคามาจิเป็นสถานที่จัดเทศกาลศิลปะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นั่นก็คือเทศกาลเอจิโกะ-สึมาริ (Echigo Tsumari Art Triennale) ครับ โดยจะจัดในพื้นที่ 6 จุดด้วยกันครับ

ภายในงานจะจัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยมากมาย ตั้งแต่อาคารทั้งหลังอย่าง The House of Light ไปจนถึงรูปปั้นและงานศิลปกรรมหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้มาจากแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่มาจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นใครที่อยากได้แรงบันดาลใจ ไม่ควรพลาดเข้าชมครับ

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้มีจัดอะไรบ้าง คุณสามารถอ่านได้ที่เว็บไซต์ทางการของเทศกาลครับ

4. ป่าบิจินบายาชิ

ป่าบิจินบายาชิ (Bijinbayashi) เป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่มีต้นบีช (beech) เรียงรายกันไปหลายร้อยต้น ความสวยงามของต้นบีชเป็นที่มาของชื่อป่าซึ่งแปลว่าป่าไม้แห่งความงามครับ

ป่าบิจินบายาชิ
by Amstk

ตัวป่านั้นมาเที่ยวได้ทุกฤดู ซึ่งแต่ละช่วงจะให้ความสวยที่ต่างกันออกไป แต่ช่วงที่น่าสนใจน่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะต้นบีชจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีส้ม และเริ่มผลัดใบครับ

5. มัตสึโนะยามะออนเซ็น

มัตสึโนะยามะออนเซ็น (Matsunoyama Onsen) เป็นออนเซ็นอายุ 700 ปีที่ค้นพบโดยช่างตัดไม้ที่เห็นเหยี่ยวตัวนึงบินถลาเข้าไปสถานที่หนึ่งอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงเดินตามเข้าไปและค้นพบบ่อน้ำร้อนที่งดงามแห่งนี้ครับ

จุดเด่นของน้ำที่นี่คือในน้ำมีปริมาณเกลือที่สูงมาก ถึงขนาดที่จับตัวเป็นก้อนได้เลยทีเดียว สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะน้ำเหล่านี้เป็นน้ำทะเลในโบราณกาลที่ถูกกักไว้ในผืนดินถึง 10 ล้านปีด้วยกันครับ

อีกหนึ่งคือจุดเด่นคือ น้ำพุร้อนของที่นี่จะร้อนจัดถึง 90 องศา หรือเรียกว่าเกือบจะเดือดอยู่แล้ว ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าปราศจากเชื้อโรคได้แบบ 100% อย่างไรก็ดีโรงอาบน้ำแต่ละแห่งจะปรับอุณหภูมิให้ลดลงมาจนเหมาะสมต่อการอาบได้ครับ

สำหรับใครที่ไม่ชอบแช่ออนเซ็น คุณสามารถซื้อไข่และเนื้อหมูตากแดดแล้วมาต้มในน้ำออนเซ็น (ในจุดที่กำหนดไว้ให้) ได้เช่นกันครับ

6. เล่นกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ

ที่มัตสึโนะยามะออนเซ็นนั้นมีสกีรีสอร์ท (Matsunoyama Onsen Ski Resort) ซึ่งคุณสามารถเล่นกิจกรรมฤดูหนาวหลากหลายชนิดในหิมะที่อาจตกได้ถึง 5 เมตรในช่วงฤดูหนาว

โทคามาจิในช่วงฤดูหนาว
by Yongmin9/ShutterStock

กิจกรรมที่มีให้เลือกมีตั้งแต่เล่นสกี, สโนว์โมบิล, Snowshoe Trekking, Airboarding ไปจนถึงแบบ extreme สุดๆ เช่นขับรถกวาดหิมะขนาดใหญ๋ หรือล่องแพหิมะครับ

ช่วงฤดูหนาวที่นี่ก็จะมีการจัด Snow Festival ที่มีรูปปั้นหิมะให้ได้ชมกันอีกด้วย แต่ความยิ่งใหญ่จะไม่เท่ากับที่ซัปโปโรหรืออาซาฮิคาวะครับ

7. เทศกาลกิโมโน

ชุดกิโมโนเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจสูงสุดของเมืองโทคามาจิ โดยมีความเป็นมากว่าพันปี และได้รับความนิยมไปทั่วทั้งญี่ปุ่น ทำให้โทคามาจิมีชื่อเสียงในฐานะเมืองกิโมโนไปด้วยครับ

ในวันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี เมืองโทคามาจิจะจัดเทศกาลกิโมโน (Tokamachi Kimono Festival) ซึ่งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจะพากันสวมใส่ชุดกิโมโนอันงดงาม และเดินไปตามถนนที่ได้รับการตบแต่งอย่างสวยงามรับกับเทศกาลครับ

แต่ถ้าคุณไม่ได้ไปเที่ยวเมืองโทคามาจิในช่วงนั้น คุณสามารถจองทัวร์ทอกิโมโนได้ ซึ่งช่างทอกิโมโนจะแนะนำให้คุณรู้จักเทคนิคการทออย่างละเอียด พร้อมๆ กับให้คุณได้ลองทำเองด้วยครับ

8. ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองรสเด็ด

โทคามาจิมีหลายเมนูที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น

Hekisoba
Hegisoba by akebi
  • Hegisoba – เฮกิโซบะเป็นเส้นโซบะพิเศษที่ใส่สาหร่ายฟุโนริ ซึ่งทำให้ตัวเส้นแน่นแต่เรียบลื่น เวลานำมาเสิร์ฟนั้นก็จะมีรูปลักษณ์ต่างจากทั่วไป เพราะจะเรียงมาเป็นวงๆ เหมือนกับเส้นด้ายที่ใช้ในการทอผ้าครับ
  • เมนูข้าว – เนื่องจากข้าวโคชิฮิคารินั้นถือเป็นข้าวอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ถ้าคุณมาเที่ยวที่นี่ คุณไม่ควรพลาดลองเมนูข้าวสักครั้งครับ
  • Tsumari Pork – เนื้อหมูสึมาริเป็นเนื้อหมูที่เลี้ยงโดยไม่ใช้ยา antibiotics ทำให้เนื้อหมูมีรสชาติที่กลมกล่อมครับ
  • Shinkomochi – โมจิใส่ถั่วแดงที่ห่อมาในใบไผ่ รสชาติเหนียวนุ่มของโมจินี้ครองใจนักท่องเที่ยวมาทุกยุคทุกสมัยครับ

References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!