12 โรงแรมที่พักอาซากุสะ (Asakusa) น่าจอง | พร้อมจุดเด่นจุดด้อย

อาซากุสะ (Asakusa) เป็นย่านในกรุงโตเกียวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมเดินทางมาชมวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รวมไปถึงรับประทานอาหารและซื้อของฝาก ความนิยมของที่นี่ทำให้โรงแรมในย่านนี้ได้รับความนิยมสูงไปโดยปริยายครับ

ในบทความนี้ผมจึงจะมาแนะนำที่พักและโรงแรมในย่านอาซากุสะที่น่าสนใจ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยครับ

ข้อควรทราบ

เรียวกังและที่พักอาซากุสะ (Asakusa) ระดับพรีเมียม

ในส่วนแรกของบทความนี้ ผมจะแนะนำเรียวกังและที่พักอาซากุสะระดับพรีเมียม ถ้าคุณสนใจที่พักราคาย่อมเยากว่านี้ โปรดใช้สารบัญข้ามลงไปด้านล่างเลยครับ

1. Kaminarimon Ryokan

Kaminarimon Ryokan เป็นอีกหนึ่งเรียวกังชั้นยอดของย่านอาซากุสะ ซึ่งคุณสามารถสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างเต็มเปี่ยม ตัวโรงแรมเปิดมาตั้งแต่ยุคโชวะ (ค.ศ.1947) แล้วครับ หรือเป็นเวลานานเกือบ 80 ปีด้วยกัน

ทำเลของโรงแรมนั้นก็ตามชื่อโรงแรมเลย นั่นคืออยู่ติดกับประตูคามินาริมอน และแน่นอนว่าใกล้กับถนนนากามิเซะไปด้วย เพราะฉะนั้นจึงอยู่ห่างจากตัววัดเซ็นโซจิไม่ไกลนัก ส่วนสถานีรถไฟห่างออกไปประมาณ 150 เมตรครับ เรื่องการท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง อาหาร และการเดินทางถือว่าตอบโจทย์ทุกข้อเลยครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-18-2 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
• Check-in/out – 15.00/10.00

ห้องพัก

คอนเซปต์ของโรงแรมคือจะให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงความเป็นวา (Wa, 倭 หรือชื่อเก่าสุดของญี่ปุ่นที่ปรากฏในหน้าพงศาวดารต่างชาติ แต่ในที่นี่หมายถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยรวม)

เพราะฉะนั้นห้องพักส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นแบบญี่ปุ่นในสไตล์ดั้งเดิม ทั้งหมดดูสวยงามและประณีตราวกับว่าได้ย้อนเวลาไปในสมัยนั้นจริงๆครับ นอกจากนี้ยังให้ความอบอุ่นและผ่อนคลายอีกด้วย

อย่างไรก็ดีในเรียวกังก็มีห้องพักแบบสมัยใหม่ด้วย แต่การตบแต่งก็จะเป็นสไตล์ Japanese Modern ที่มีความเป็นญี่ปุ่น shine ออกมาอย่างชัดเจนครับ

รูปแบบห้องที่มีให้เลือกได้แก่

• Matsuba – 17 ตร.ม.
• Japanese Style – 24-36 ตร.ม.
• Western – 36 ตร.ม.
• Seigeiha – 62 ตร.ม. ในห้องมีทั้งห้องแบบตะวันตกและญี่ปุ่น มีออนเซ็นส่วนตัว
• Sakura – 72 ตร.ม. ห้องนี้มีจุดเด่นคือมีระเบียงขนาดใหญ่ให้คุณได้ชมวิวครับ ส่วนในห้องมีทั้งแบบตะวันตกและญี่ปุ่น รวมไปถึงออนเซ็นส่วนตัวเช่นกัน

ขนาดห้องพักเรียวกังแห่งนี้ถือว่าใหญ่มากทุกระดับ เพราะฉะนั้นพื้นที่ใช้สอยนี่เกินพอแน่นอนครับ แถม room facilities นั้นไม่ได้น้อยหน้าที่ใด ตั้งแต่เครื่องทำกาแฟ ชุดชา อุปกรณ์อาบน้ำ ชุดยูกาตะ ไปจนถึงทีวีมีพร้อมสำหรับยามค่ำคืนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง สำหรับเสิร์ฟอาหารเช้า
• เครื่องซักผ้าสำหรับบริการตนเอง

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

Kaminarimon Ryokan เป็นตัวเลือกระดับ AAA สำหรับใครที่อยากพักในเรียวกังและสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทำเลของที่นี่นั้นเยี่ยมยอด แถมห้องพักยังกว้างขวาง (กว่าที่อื่น) และวิวสวยอีกด้วย บรรยากาศในโรงแรมก็อบอุ่นมาก

ข้อเสียเดียวที่มีอยู่น่าจะเป็นเสียงที่อาจจะรบกวนความสงบ แต่ก็หลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะทำเลของโรงแรมครับ

2. Onyado Nono Asakusa Hot Springs

Onyado Nono Asakusa Hot Springs เป็นตัวเลือกระดับท็อปสำหรับนักเดินทาง เพราะว่าทำเลที่ตั้งนั้นดีสุดๆ บริเวณรอบๆ โรงแรมคือวัดเซ็นโซจิ และ Hoppy Street ทำให้มีร้านอาหารนับร้อยแห่ง เรียกได้ว่ากินมื้อละห้าร้าน ตลอดห้าวันก็ยังไม่ครบครับ

อย่างไรก็ดีถนนนากามิเซะโดริและสถานีรถไฟอาซากุสะนั้นอยู่ห่างออกไปประมาณ 600-900 เมตรตามลำดับ นั่นแปลว่าคุณต้องเดินไกลพอสมควร ซึ่งไม่ไกลเกินไปจนเดินไม่ถึงครับ

• ที่ตั้ง: 2 Chome-7-20 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
• Check-in/out: 15.00/11.00

ห้องพัก

Theme ของโรงแรมแห่งนี้คือเป็นที่พักที่ให้บรรยากาศของโตเกียวในสมัยเอโดะ ดีไซน์ของห้องพักที่นี่จึงเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ประณีตและสวยงาม

ทุกห้องจะปูด้วยเสื่อทาทามิอย่างดี เพราะฉะนั้นทุกอย่างก้าวจะไม่รู้สึกถึงความเย็นเลยครับ แต่จะได้ความอบอุ่นที่ดูผ่อนคลายเข้ามาแทนที่ บรรยากาศโดยรวมของตัวห้องจึงดีงามมากเลยทีเดียว

รูปแบบห้องพักของที่นี่ประกอบด้วย

• Single – 14-15 ตร.ม.
• Double – 14-17.7 ตร.ม.
• Queen – 17.8 ตร.ม.
• Twin – 19.4 ตร.ม.

ขนาดห้องพักไม่ได้ต่างกับมาตรฐานโรงแรม 4 ดาวในโตเกียวมากนัก นั่นแปลว่าห้องจะเล็กกว่าที่พักระดับเดียวกันในเมืองอื่นๆ ของญี่ปุ่น แต่ถ้าคุณไม่ได้พกกระเป๋ามาหลายใบ ผมมองว่าพื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องจะพอดีสำหรับ 1-2 คนครับ

เตียงของที่นี่จะใช้แบรนด์ Serta ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีตั้งแต่ Smart TV ไปจนถึงกาต้มน้ำและชุดชาที่คุณสามารถชงดื่มเพื่อผ่อนคลายความหนาวครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air (แต่ไม่ได้เปิดโล่งเหมือนกับ rotenburo ทั่วไป)
• ฟรีโยนากิโซบะแสนอร่อย – เนื่องจากที่นี่เป็นโรงแรมในเครือ Dormy Inn เพราะฉะนั้น ผู้เข้าพักสามารถรับประทานโยนากิโซบะได้ฟรีในช่วงสามทุ่มครึ่งถึงห้าทุ่ม ผมรับประกันได้เลยว่าอร่อย เพราะเคยรับประทานมาแล้วครับ
• ที่จอดรถของโรงแรม

โรงแรมแห่งนี้มีกฎว่าคุณจะต้องถอดรองเท้าที่หน้าโรงแรม ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากครับ เพราะทำให้ตัวที่พักสะอาด ไม่ค่อยมีฝุ่น และยังได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นอีกด้วย

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

โรงแรมแห่งนี้เป็นตัวเลือกระดับ A+ ในอาซากุสะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องการที่พักราคาสูงหน่อยแต่ให้การบริการที่คุ้มค่ากับสิ่งที่คุณจ่ายไป ทุกสิ่งในโรงแรมนั้นเรียกได้ว่าประณีตแบบญี่ปุ่นเลยครับ เหมาะกับนักเดินทางที่มาเที่ยวโตเกียวเป็นครั้งแรกเป็นที่สุด

อย่างไรก็ดีด้วยความที่โรงแรมคิดค่าจอดรถแพงมาก ที่นี่อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครที่เช่ารถมาด้วย ทั้งนี้คุณอาจจะต้องนำรถไปจอดที่อื่นแทนครับ

3. Ryokan Kamogawa Asakusa Hotel

Ryokan Kamogawa Asakusa Hotel เป็นเรียวกังขนาดเล็กในย่านอาซากุสะที่แสนจะมีเสน่ห์ ทั้งด้านนอกและด้านในของโรงแรมนั้นคงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เหมาะกับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบดั้งเดิมอย่างมากครับ

ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ทางใต้ของวัดเซ็นโซจิ เยื้องกับถนนนากามิเซะโดริที่มีร้านค้ามากมาย (100 เมตร) ส่วน Hoppy Street ออกมาประมาณ 300-400 เมตร เช่นเดียวกับสถานีรถไฟอาซากุสะที่ห่างออกมาในระยะทางเดียวกัน แต่ที่ดีสุดๆคือ โรงแรมอยู่ในดงร้านอาหารเลยครับ เพราะฉะนั้นจบปัญหาเรื่องไม่มีอะไรกินแน่นอน

• ที่ตั้ง: 1 Chome-30-10 Asakusa, 台東区 Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
• Check-in/out – 15.00/10.00

ห้องพัก

ห้องในที่พักเป็นแบบญี่ปุ่นทั้งหมด ส่วนดีไซน์ก็เป็นแบบดั้งเดิมเหมือนกับที่พักในยุคเอโดะประมาณ 70% ส่วนอีก 30% ไม่เหมือนเพราะว่าทางที่พักได้ใส่สิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยเข้ามานั่นเองครับ

ที่นี่มีห้องพักให้เลือกสามรูปแบบด้วยกันได้แก่

• Economy – 12 ตร.ม.
• Standard – 13 ตร.ม.
• Deluxe – 18 ตร.ม.

ในห้องจะมีทั้งห้องอาบน้ำและห้องน้ำในตัว ซึ่งจะต่างจากเรียวกังจำนวนมากในญี่ปุ่นที่มักจะให้ผู้เข้าพักใช้ห้องอาบน้ำรวม ดังนั้นคุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวแบบ 100% ครับ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ที่นี่มีชุดยูกาตะและรองเท้าไม้ให้คุณได้สวมใส่ได้ฟรี (แต่ใส่ไปข้างนอกไม่ได้) ส่วนอุปกรณ์อาบน้ำ โต๊ะ และทีวีก็มีพร้อมสำหรับการใช้งานครับ

Facilities และบริการ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• ออนเซ็นแบบส่วนตัว
• บริการพาไป Workshop วัฒนธรรมญี่ปุ่นต่างๆ อย่างเช่น ชงชา นั่งรถสองล้อแบบญี่ปุ่น (คนลาก) ไปจนถึงเช่ากิโมโน ฯลฯ

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

ถ้าคุณกำลังหาเรียวกังในย่านอาซากุสะที่จะส่งต่อประสบการณ์แบบญี่ปุ่นแบบแท้ๆ ให้กับคุณ ผมมองว่า Ryokan Kamogawa Asakusa Hotel เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งที่มีอยู่ เพราะดีงามตั้งแต่ทำเล ห้องพัก ไปจนถึงการบริการเลยครับ

4. Asakusa Kaede

Asakusa Kaede เป็นโรงแรมแบบ boutique hotel ที่ตั้งอยู่ในทำเลทองของย่านอาซา่กุสะ เพราะคุณจะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีในการเดินไปสถานีรถไฟ หรือว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนก็ตามภายในย่านครับ แถมร้านอาหารใกล้ๆ ก็มีนับร้อยเลยด้วย

• ที่ตั้ง: 1-31-5 Asakusa, Taito-ku, Tokyo 111-0032 Japan
• Check-in/out – 15.00/11.00

ห้องพัก

ด้วยความที่เป็นโรงแรมแบบ boutique hotel ที่นี่มีห้องพักเพียง 9 ห้องเท่านั้น แต่ละห้องเป็นแบบโมเดิร์นแต่ตบแต่งด้วยศิลปะญี่ปุ่นเข้ามาอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนแบบ ukiyo-e ไปจนถึงเครื่องแก้วคิโรโกะจากสมัยเอโดะครับ เพราะฉะนั้นบรรยากาศในห้องของคุณจะไม่เหมือนกับที่ใด

ภายในโรงแรมมีรูปแบบห้องให้เลือกดังต่อไปนี้

• Queen Suite – 19 ตร.ม.
• Junior Suite – 24 ตร.ม.
• Deluxe Suite – 28 ตร.ม.
• Family Suite – 47 ตร.ม. มีห้องน้ำสองห้อง และพักได้มากที่สุดถึง 6 คน

ในห้องพักนั้นจะมีทั้งเตียงเดี่ยวและฟุตงให้เลือกนอน (ยกเว้น Family Suite ที่ทุกคนต้องนอนบนฟุตง) โดยทางโรงแรมจะปูฟูกฟุตงให้บริเวณพื้นยกสูงที่มีการปูเสื่อทาทามิครับ

สิ่งที่โดดเด่นของที่นี่คือห้องพักใหญ่กว่าตัวเลือกระดับเดียวกันในอาซากุสะอย่างชัดเจน ขณะที่ราคาไม่ได้แพงกว่าเลย ผมจึงมองว่าถ้าคุณเดินทางมาเป็นหมู่คณะ การเลือกพักห้องใหญ่แล้วแชร์ค่าห้องกันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปมากทีเดียวครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• Workshop วัฒนธรรมญี่ปุ่น อย่างเช่นทำแก้วหรือชิมสาเก

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

Asakusa Kaede เป็นตัวเลือกอันยอดเยี่ยมสำหรับใครที่อยากได้ห้องพักสวยๆ กว้างขวาง ทำเลดี โดยที่ราคาไม่แรงจนเกินไป ทำให้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเป็นครอบครัวครับ

อย่างไรก็ดีในโรงแรมจะขาด facilities อย่างเช่นเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ทำให้เป็นอุปสรรคไม่น้อย ถ้าคุณวางแผนจะพักนานกว่า 2-3 วันครับ

5. Prostyle Ryokan Tokyo Asakusa

Prostyle Ryokan Tokyo Asakusa เป็นเรียวกังแบบญี่ปุ่นในย่านอาซากุสะ ซึ่งทำเลของที่นี่น่าสนใจทีเดียว เพราะตั้งอยู่ติดกับสวนสุมิดะ (Sumida Park) ดังนั้นแม่น้ำสุมิดะที่ไหลผ่านกรุงโตเกียวก็อยู่ใกล้มาก เปิดโอกาสให้คุณได้เดินหรือวิ่งริมแม่น้ำในช่วงเช้าๆ ครับ

ทั้งสถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะและวัดเซ็นโซจิห่างออกไปประมาณ 400-500 เมตรครับ ทำให้การเดินทางไม่ยาก นอกจากนี้ Tokyo Skytree นั้นห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินถึงครับ

ส่วนร้านอาหารนั้น ใกล้กับโรงแรมมีร้านอาหารพอสมควร แต่เนื่องจากอยู่คนละฝั่งกับถนนนากามิเซะโดริ ทำให้จะมีตัวเลือกน้อยกว่ามากครับ

• ที่ตั้ง: 2-12-11 Hanakawado, Taito City, Tokyo, 111-0033
• Check-in/out – 15.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่จะเป็นแบบ Japanese Western นั่นคือในห้องจะตบแต่งแบบญี่ปุ่นแฝงด้วยโมเดิร์นและแทรกด้วยความเป็น minimalistic เกิดเป็นบรรยากาศแบบดั้งเดิม แต่ก็ดูทันสมัยและเรียบง่ายในคราวเดียว

ในห้องจะปูด้วยเสื่อทาทามิอย่างดี แต่ที่นอนจะไม่ใช่แบบฟุตงครับ เพราะมีเตียงแบบตะวันตก (Twin/Double) เข้ามาแทนที่

ดังนั้นประสบการณ์ที่คุณได้รับจะไม่ได้เป็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แบบ 100% แต่ก็ให้ความสะดวกสบายเรื่องการลุกนั่งเข้ามา ซึ่งช่วยผู้สูงอายุหรือผู้เข้าพักที่มีปัญหาเรื่องเข่าครับ

รูปแบบห้องที่มีให้เลือกมีดังต่อไปนี้

• Double – 18 ตร.ม.
• 2-Bed Double/King – 26-27 ตร.ม.
• Corner Twin – 32 ตร.ม.
• Suite – 37 ตร.ม.

ห้อง Corner Twin และ Suite มีความพิเศษตรงที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 13 เพราะฉะนั้นคุณจะได้ชมวิวแม่น้ำสุมิดะ และ Tokyo Skytree จากห้องพักของคุณครับ นอกจากนี้ห้อง King ขึ้นไปยังมีอ่างอาบน้ำแบบ open-air ให้ใช้ในห้องอีกด้วย (แต่น้ำไม่น่าจะใช่น้ำแร่แบบออนเซ็นครับ)

ส่วนเรื่องขนาดนั้น ที่นี่ถือเป็นเรียวกังที่ให้ห้องพักที่ใหญ่ โดยเฉพาะถ้าเทียบกับราคาต่อคืนที่ไม่ได้แรงกว่าที่อื่น ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าทีเดียวครับ

สำหรับ room facilities ที่นี่ก็จัดเต็มเหมือนกับเรียวกังชั้นยอด ตั้งแต่อุปกรณ์อาบน้ำ ชุดนอนและรองเท้าแตะ ชุดชาและกาแฟ ไปจนถึงโต๊ะทำงานและทีวี ช่วยให้คุณพักผ่อนได้อย่างสบายใจช่วงค่ำคืนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• ที่จอดรถของโรงแรม (มีก็จริง แต่เล็กมากครับ จอดได้แค่ 2 คันเท่านั้น)

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

Prostyle Ryokan Tokyo Asakusa เป็นตัวเลือกที่ดีเลิศถ้าบรรยากาศเป็นปัจจัยหลักในการเลือกโรงแรมของคุณ ตัวโรงแรมติดสวนสาธารณะและแม่น้ำ และมีวิวสวยๆ ให้ชม ส่วนในโรงแรมก็มีเป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่ดูเรียบง่ายอีกด้วย

ข้อเสียที่แท้จริงของโรงแรมเห็นจะเป็นทำเลที่ห่างออกจากย่านช้อปปิ้งพอสมควร ทำให้คุณต้องเดินไกลพอสมควรเวลาจะไปหาอะไรกินหรือว่าช้อปปิ้ง แต่ก็แลกมาว่าความพลุกพล่านที่น้อยกว่าครับ

6. Mimaru Tokyo Asakusa Station

โรงแรมของเครือ Mimaru นั้นจะต่างกับตัวเลือกส่วนใหญ่ในบทความนี้ เพราะจะเป็นที่พักแบบ apartment-hotel หรือพูดง่ายๆ คือห้องจะเป็นแบบอพาร์ตเมนต์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกกครบถ้วน ผสมผสานไปด้วยการบริการบางประเภทที่ใกล้เคียงโรงแรมครับ

ส่วนที่ตั้งของ Mimaru Tokyo Asakusa Station ก็ตามชื่อเลยครับ นั่นคือตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟอาซากุสะเลย ส่วนอีกหนึ่งเป็นแม่น้ำสุมิดะครับ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศแออัดน้อยกว่าโรงแรมที่ตั้งอยู่กลางย่านช้อปปิ้ง

สำหรับเรื่องการเดินทางนั้นไม่ต้องกังวล เพราะวัดเซ็นโซจิ และถนนนากามิเซะโดริห่างไปแค่ 150 เมตร ส่วนวัดเซ็นโซจิห่างไป 500 เมตรครับ ส่วนร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ก็ครบถ้วนบริบูรณ์

• ที่ตั้ง: 2 Chome-20-4 Kaminarimon, Taito City, Tokyo 111-0034, Japan
• Check-in/out – 15.00/11.00

นอกจากที่นี่แล้ว เครือ Mimaru มีที่พักอีกแห่งหนึ่งในย่านอาซากุสะในนาม Mimaru Suites Tokyo Asakusa ซึ่งให้บริการห้อง Suite ขนาด 60-74 ตร.ม.เท่านั้นครับ เพราะฉะนั้นถ้าคุณสนใจห้อง Suite แต่ที่นี่เต็ม คุณสามารถไปจองที่นั่นได้ครับ

ห้องพัก

อย่างที่ผมเกริ่นไปแล้วว่าห้องพักของที่นี่เป็นแบบ apartment-hotel เพราะฉะนั้นขนาดห้องจะใหญ่กว่าตัวเลือกอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญครับ

ส่วนเรื่องดีไซน์นั้นเป็นแบบร่วมสมัยที่เน้นการตบแต่งโดยใช้โทนสีสบายตา บรรยากาศในห้องจึงดูอบอุ่นและละมุน ช่วยให้คุณหลับสบายครับ

รูปแบบห้องของที่นี่มีดังต่อไปนี้

• Family Apartment – 35 ตร.ม. เลือกห้องที่เห็นวิวแม่น้ำสุมิดะได้
• Two-Bedroom Suite – 53 ตร.ม. เลือกวิวแม่น้ำได้
• Deluxe Two-Bedroom Suite – 71 ตร.ม.

ขนาดห้องพักของที่อื่นนั้นไม่อาจเปรียบได้กับโรงแรมของเครือ Mimaru อยู่แล้วครับ เพราะแต่ละห้องนั้นดูออกแบบให้รับผู้เข้าพักตั้งแต่ 4-8 คน แต่ก็แลกมาด้วยราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าที่อื่นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะฉะนั้นเวลามาพัก ถ้าคุณมาแบบเป็นกลุ่มใหญ่แล้วหารกันจะคุ้มค่ากว่าครับ

นอกจากขนาดที่ใหญ่กว่าชัดเจนแล้ว ในห้องยังมี facilities ที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ครัว เครื่องซักผ้า เครื่องฟอกอากาศ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งนักเดินทางแบบระยะสั้นและ long stay ครับ

อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่ต้องทราบคือ ห้องของคุณจะได้รับทำความสะอาดตั้งแต่วันที่ 4 เป็นต้นไปเท่านั้น สิ่งที่พนักงานจะทำให้คุณในแต่ละวันมีเพียงแค่เปลี่ยนอุปกรณ์อาบน้ำ และเทขยะครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

Mimaru Tokyo Asakusa Station ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใด นอกจากในห้องครับ

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

ด้วยความที่ห้องกว้างมาก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบอพาร์ตเมนต์ แถมด้วยทำเลที่ดีงาม ทำให้ Mimaru Tokyo Asakusa Station เป็นตัวเลือกอันดับท็อปๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ

อย่างไรก็ดีในโรงแรมไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใดนอกจากในห้อง และไม่ได้มีทำความสะอาดทุกวัน แต่ถ้าคุณพักแค่ 1-2 วัน ผมมองว่าข้อเสียนี้ไม่ได้สร้างปัญหาเลยครับ

7. Koko Hotel Residence Asakusa Tawaramachi

สำหรับใครที่โอเคกับการเดินไปสถานที่ต่างๆ ที่ต้องเดินทางไปไกลสักนิดนึง Koko Hotel Residence Asakura Tawaramachi เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ

ตัวโรงแรมอยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักในย่านอาซากุสะประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งไกลพอสมควร แต่ใกล้กับโรงแรมคือสถานีรถไฟใต้ดิน Tawaramachi คุณจึงนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานีอาซากุสะได้ (1 สถานี) ครับ

• ที่ตั้ง: 2 Chome-8-12 Kotobuki, Taito City, Tokyo 111-0042, Japan
• Check-in/out – 15.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่มีสองแบบหลักๆ นั่นคือแบบตะวันตกและแบบผสม ซึ่งแบบหลังก็คือในห้องจะมีทั้งเตียงแบบตะวันตกและพื้นที่สำหรับปูฟุตงแบบญี่ปุ่นครับ

รูปแบบห้องที่มีประกอบด้วย (ห้อง Japanese คือห้องผสมครับ)

• Standard – 32 ตร.ม.
• Superior Japanese – 36 ตร.ม.
• Deluxe Japanese – 44-47 ตร.ม.
• Premier – 54 ตร.ม.

เช่นเดียวกับที่พักแบบ Apartment-Hotel อื่นๆ ห้องพักของที่นี่กว้างมากกว่าของโรงแรมทั่วไปในย่านอาซากุสะอย่างชัดเจน ทำให้พักสบายมาก และเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องมีทั้งเครื่องซักผ้า โต๊ะอาหาร ครัว (พร้อมไมโครเวฟ) ไปจนถึงอุปกรณ์อาบน้ำ แต่พนักงานจะทำความสะอาดให้ทุกๆ 3 วันเท่านั้นครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใดนอกจากในห้อง

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

ที่นี่เป็นตัวเลือกที่พักแบบ Apartment-Hotel ราคาประหยัด เหมาะกับคณะที่ไปเที่ยวโตเกียวกัน 4-6 คน เพราะเวลาหารค่าห้องต่อคืนออกมาจะถูกมากครับ

โดยรวมแล้วที่นี่สูสีกับ Mimaru แม้ว่าทำเลและขนาดห้องจะสู้ไม่ได้ แต่ราคานั้นถูกกว่าเกือบ 50% ซึ่งจะช่วยคุณประหยัดค่าที่พักในแต่ละวันได้อย่างมากเลยครับ

ที่พักราคาย่อมเยาในย่านอาซากุสะ

8. Asakusa Tobu Hotel

Asakusa Tobu Hotel เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวที่ผมมองว่าอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านอาซากุสะ

สาเหตุก็คือตัวโรงแรมอยู่ตรงกลางระหว่างถนนนากามิเซะ (ห่างไป 160 เมตร) และสถานีรถไฟ (ห่างไป100 เมตร) ทำให้ทุกอย่างอยู่ใกล้มาก และมีร้านอาหารให้เลือกจำนวนมหาศาลเลยครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-1-15 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
• Check-in/out – 14.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่เป็นแบบตะวันตกทั้งหมด โดยแทบทุกห้องจะตบแต่งในสไตล์ร่วมสมัยที่เรียบง่ายครับ แต่จะมีห้องพิเศษด้วยเช่นกันที่ตบแต่งในธีม Hello Kitty ทั้งห้อง ซึ่งจะดูฟรุงฟริ๊ง หวานแหววที่เหมาะกับครอบครัวที่มีลูกสาวครับ

เนื่องจากห้องพักที่นี่มีหลายแบบมาก ผมขอสรุปเป็นหมวดหมู่ว่าห้องพักที่นี่มีรูปแบบดังต่อไปนี้

• Double – 16-33 ตร.ม.
• Twin – 20-28 ตร.ม.
• Triple – 35 ตร.ม.
• Quadruple/Hello Kitty – 36 ตร.ม.

สำหรับห้อง Double นั้นช่วงขนาดของห้องนั้นจะกว้างมาก กล่าวคือห้องใหญ่ (30-33 ตร.ม. นั้นนอกจากให้พื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นแล้ว เตียงในห้องจะใหญ่ขึ้นด้วย (จาก 160 x 203 ซม เป็น 200 x 203 ซม) แต่ก็แลกกับราคาที่สูงขึ้นมาอย่างชัดเจนครับ

ขนาดห้องของที่นี่ถือว่าใหญ่พอตัว โดนห้องพักระดับเริ่มต้นใหญ่ถึง 16 ตร.ม. เหนือกว่าที่พักสามดาวในโตเกียวส่วนมากที่จะอยู่ที่ 12-14 ตร.ม. ส่วนห้องพักระดับสูงขึ้นมาก็ไม่มีห้องไหนที่ดูเล็กแต่อย่างใด

ด้านในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย โดยมี Tablet สำหรับควบคุมสิ่งต่างๆ ในห้อง ไปจนถึงทีวี โต๊ะทำงาน และอุปกรณ์อาบน้ำครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• เครื่องซักผ้าสำหรับบริการตนเอง
• ที่จอดรถของโรงแรม

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

ด้วยทำเลที่ยอดเยี่ยม ห้องพักที่กว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี พร้อมกับบริการที่ได้มาตรฐานในราคาที่ไม่แรงจนเกินเหตุ ทำให้ Asakusa Tobu Hotel เป็นหนึ่งในที่พักระดับ 3 ดาวที่คุ้มค่าที่สุดในย่านนี้อย่างไม่ต้องสงสัยครับ

9. Richmond Hotel Premier Asakusa International

สำหรับใครที่เน้นการกินดื่มและ hangout เป็นหลัก ผมมองว่า Richmond Hotel Premier Asakusa International คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะโรงแรมตั้งอยู่ที่ถนน Hoppy Street ที่มีร้านอาหารเกือบร้อยแห่ง ดังนั้นเหมาะกับการกินดื่มยาวๆ จนพุงกาง แล้วเดินกลับที่พักแบบสบายๆ ครับ

อย่างไรก็ดีการที่โรงแรมอยู่ที่ถนน Hoppy Street ทำให้ห่างออกมาจากถนนนากามิเซะและสถานีรถไฟอาซากุสะพอสมควร (400 และ 600 เมตรตามลำดับ) แต่ก็ไม่ไกลมากขนาดที่เดินจนเหนื่อยครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-1-15 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032, Japan
• Check-in/out – 14.00/11.00

ห้องพัก

เช่นเดียวกับโรงแรมในเครือ Richmond อื่นๆ ห้องพักของที่นี่เป็นแบบตะวันตกตามสไตล์โรงแรมธุรกิจทั่วไปที่ให้ความสำคัญกับการใช้งานมากที่สุด รูปแบบห้องมีดังต่อไปนี้ครับ

• Single/Double – 18 ตร.ม.
• Twin – 21-33 ตร.ม.
• Triple – 27-33 ตร.ม.

สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวคนเดียวจะชอบที่นี่มากถึงมากที่สุด เพราะทางโรงแรมใจกว้างมากถึงกับให้ห้องเดี่ยวที่กว้างถึง 18 ตร.ม. เลยครับ ขณะที่ห้องเดี่ยวทั่วไปในใจกลางโตเกียวนั้นอย่างดีก็ 14 ตร.ม. ส่วนห้องอื่นก็กว้างดีเช่นกัน แต่ไม่ได้โดดเด่นเท่าห้องเดี่ยวครับ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็มีพร้อม ตั้งแต่อุปกรณ์อาบน้ำแบรนด์ mikimoto ชุดกาแฟและชา รองเท้าแตะ ชุดนอน ไปจนถึงโต๊ะทำงาน, LCD TV และ ที่ชาร์จโทรศัพท์ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ
• บริการกาแฟฟรีที่ล็อบบี้
• ที่จอดรถของโรงแรม (5,000 เยนต่อคืน)

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

Richmond Hotel Premier Asakusa International ตั้งอยู่ที่ Hoppy Street ซึ่งเป็นทำเลที่ดีที่สุดในการหาอะไรกินในย่านอาซากุสะแห่งนี้ ห้องพักของที่นี่เป็นแบบโรงแรมธุรกิจชั้นดีในญี่ปุ่น ดังนั้นจะให้ความสะดวกสบายในราคาที่ไม่แรงจนเกินไปครับ

ข้อเสียหลักของนักเดินทางส่วนใหญ่คือ สถานีรถไฟอยู่ไกลออกไปพอสมควร ซึ่งอาจจะไม่เป็นมิตรเท่าไร ถ้าคุณมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ครับ

10. Hotel Gracery Asakusa

อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจถ้าคุณกำลังมองหาที่พักราคาไม่แพงในย่านอาซากุสะอยู่ ตัวโรงแรม Hotel Gracery Asakusa อยู่ค่อนมาทางใต้ของทั้งสถานีรถไฟและถนนนากามิเซะครับ (ประมาณ 200 เมตร) ทำให้เดินไปชมวัดเซ็นโซจิ และเดินเลือกซื้อของฝากได้อย่างสบายๆ

ข้อดีอย่างหนึ่งของการที่โรงแรมไม่ได้อยู่ติดตัวถนนนากามิเซะโดยตรง คือเสียงและความพลุกพล่านจะลดลงไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้ใครที่ sensitive กับเสียงหลับได้สบายขึ้นครับ

• ที่ตั้ง: 2 Chome-8-12 Kotobuki, Taito City, Tokyo 111-0042, Japan
• Check-in/out – 14.00/11.00

ห้องพัก

ที่นี่เป็น Business Hotel ดังนั้นเรื่องดีไซน์ไม่มีอะไรหวือหวาครับ นั่นคือเป็นแบบตะวันตกสไตล์โมเดิร์นตามมาตรฐาน เช่นเดียวกับห้องพักที่มีให้เลือกแค่สองแบบหลักเท่านั้นได้แก่

• Double – 18 ตร.ม.
• Twin – 23-25 ตร.ม.

ส่วน amenities ในห้องถือว่าดีทีเดียว ตั้งแต่น้ำแร่ ชุดชากาแฟ ชุดอุปกรณ์อาบน้ำ รองเท้าแตะ ชุดนอน ฯลฯ ทุกอย่างถูกจัดเป็นเซตๆ เพื่อให้ใช้ง่ายสะดวกสบายครับ

ด้านขนาดห้องก็ถือว่าใหญ่ดี เพราะขนาดเริ่มต้นที่ 18 ตร.ม. ส่วนห้อง Twin นั้นจะไม่ได้มีห้องใหญ่เหมือนกับที่อื่นซึ่งผมแนะนำไปด้านบน แต่ก็ให้พื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอสำหรับผู้เข้าพัก 2 คนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่งสำหรับเสิร์ฟอาหารเช้า
• เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

Hotel Gracery Asakusa เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ผู้เข้าพักส่วนใหญ่ ทั้งเรื่องทำเลที่อยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญในย่านแทบทุกแห่ง ห้องพักที่กว้างขวาง (ตามมาตรฐานญี่ปุ่น) ไปจนถึงราคาห้องพักที่ไม่แพงเกินไปครับ

11. Dormy Inn Global Cabin Asakusa

Dormy Inn Global Cabin Asakusa อยู่ในเครือ Dormy Inn เช่นเดียวกับ Onyado Nono ที่ผมแนะนำไปด้านบนครับ ดังนั้นหลายๆอย่างในโรงแรมจะเหมือนกันครับ แต่เรื่องความพรีเมียมของที่พัก ที่นี่จะต่ำลงมาพอสมควร

ด้านที่ตั้งของโรงแรมนั้นอยู่ติดกับสถานีรถไฟอาซากุสะเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนในโตเกียวก็ง่ายดาย นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากถนนนากามิเซะอีกด้วย ช่วยให้คุณเดินช้อปปิ้งและหาอะไรรับประทานได้ไม่ยากครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-3-4 Hanakawado, Taito City, Tokyo 111-0033, Japan
• Check-in/out – 15.00/11.00

ห้องพัก

จุดเด่นของที่นี่คือมีห้องพักเป็นแบบ Cabin โดยจะมีเตียงสองชั้นแบบห้องโดยสารบนรถไฟครับ ทำให้ในห้องดูกว้างขึ้น เพราะเสียไปกับพื้นที่วางเตียงน้อยลง แต่ห้องแบบโรงแรมธุรกิจทั่วไปก็มีเช่นกัน

ทั้งนี้รูปแบบห้องที่มีให้เลือกประกอบด้วย

• Twin Cabin/Bank Twin Room – 16 ตร.ม.
• Double – 16 ตร.ม.
• Queen – 20 ตร.ม.
• Wanyo – 28 ตร.ม. ห้องนี้มีความพิเศษอยู่ตรงที่ในห้องจะปูเสื่อทาทามิครับ

ในมุมของพื้นที่ใช้สอยนั้น ห้องทุกห้องถือว่าไม่เล็กเลยถ้าเทียบกับโรงแรมระดับเดียวกันในโตเกียว

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นก็ถือว่าดีเยี่ยม ตั้งแต่เตียงนอนสบายของแบรนด์ Simmons, TV พร้อมกับช่องต่างๆ ผ่านระบบดาวเทียม ไปจนถึงโต๊ะทำงานและอุปกรณ์อาบน้ำมีให้แบบเสร็จสรรพครับ นอกจากนี้บางห้องยังเห็นวิวแม่น้ำสุมิดะได้อีกด้วย

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• บริการโยนากิโซบะฟรีทุกคืน (Signature ของเครือนี้ครับ รสชาติอร่อยมาก)
• ออนเซ็นแบบในร่มและเปิดโล่ง (open-air) ซึ่งคุณสามารถชมวิวสวยๆ ของย่านอาซากุสะระหว่างที่แช่น้ำไปด้วยได้ แต่ข้อเสียคือไม่ได้แช่ได้ตลอดเวลา เพราะมีข้อกำหนดสลับการใช้งานระหว่างหญิงชายครับ
• เครื่องดื่มและไอศกรีมฟรีหลังแช่ออนเซ็น
• บ่อแช่เท้า (สำหรับใครที่ไม่พร้อมจะแช่ออนเซ็น)
• เครื่องซักผ้าสำหรับบริการตนเอง
• ที่จอดรถของโรงแรม (4,000 เยนต่อคืน)

จุดเด่นจุดด้อย

สรุป

Dormy Inn Global Cabin Asakusa เป็นที่พักซึ่งคุณสามารถไว้วางใจได้ในเรื่องคุณภาพห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการ ทำเลของตัวโรงแรมก็ใกล้กับทั้งสถานีรถไฟ แม่น้ำสุมิดะ และสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เพราะฉะนั้นจะให้ความสะดวกให้กับนักเดินทางอย่างมากเลยครับ

ข้อเสียหลักของตัวโรงแรมคือค่อนข้างเก่าถ้าเทียบกับที่อื่นๆ เพราะที่นี่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1997 ครับ แม้ว่าจะได้รับการ renovate แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ดูใหม่เท่ากับโรงแรมที่เพิ่งเปิดครับ

12. ตัวเลือกราคาประหยัดอื่นๆ

ในกรณีที่คุณไม่ซีเรียสเรื่องทำเลมากนัก หรือว่าโอเคกับการที่ห้องพักเล็กมาก ผมมองว่าโรงแรมด้านล่างนี้น่าสนใจไม่น้อยครับ

• Henn na Hotel Tokyo Asakusa Tawaramachi – โรงแรมรีวิวดีที่ให้บริการห้องพักกว้างใช้ได้ ในราคาย่อมเยา แต่ข้อเสียคือต้องเดินไกล หรือไม่ก็นั่งรถไฟจากสถานี Tawaramachi ไปครับ
• Hotel Wing International Select Asakusa Komagata – โรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ใช้ได้ เพราะใกล้สถานีรถไฟและแม่น้ำสุมิดะ แต่มีข้อเสียคือห้องพักเล็กมาก
• The Kanzashi Tokyo Asakusa – อีกหนึ่งตัวเลือกราคาย่อมเยาที่ให้บริการห้องพักคุณภาพ แต่ข้อเสียก็คือตั้งอยู่ตอนเหนือของวัดเซ็นโซจิ เพราะฉะนั้นจะไกลจากทั้งสถานีรถไฟ ถนนคนเดิน และย่านของกินหลักครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองที่พักอาซากุสะผ่านทางลิงค์ในบทความครับ