8 โรงแรมที่พักอาตามิ (Atami) น่าจอง | ครบทุกสิ่งที่ควรทราบ

อาตามิ (Atami) เป็นเมืองออนเซ็นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ด้วยระยะทางที่ใกล้กับโตเกียว และวิวทะเลอันสวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวญี่ปุ่นมาทุกยุคทุกสมัย โดยมากแล้วนักเดินทางมักจะพักที่นี่สักคืนหนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ในชิซุโอกะต่อไป ไม่ว่าจะเป็นฟูจิโนะมิยะ หรือว่าฮามามัตสึครับ

ข้อควรทราบ

ที่พักอาตามิน่าจอง

1. Atami Pearl Star Hotel

Atami Pearl Star Hotel เป็นโรงแรมที่ผมมองว่าอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของโรงแรมทั้งหมดทั้งมวลในอาตามิ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ริมทะเล เพราะฉะนั้นคุณจะชมวิวอ่าวซากามิสวยๆ เช่นเดียวกับเทศกาลดอกไม้ไฟได้จากห้องพักของคุณ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารจำนวนมาก รวมไปถึง Omiya Green Space

ส่วนสถานีรถไฟอาตามิก็ห่างไปแค่ 600 เมตรเท่านั้น เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่จำเป็นอยู่ใกล้โรงแรมทั้งหมดเลยครับ

• ที่ตั้ง: 6-45 Higashikaigancho, Atami, Shizuoka 413-0012, Japan
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

คอนเซปต์ของห้องพักที่นี่คือการเปิดโล่ง (openness) เพื่อให้อากาศอันสดชื่นเข้ามาปะทะกับร่างกายของคุณเพื่อให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า เช่นเดียวกับให้ดวงตาของคุณได้รับความสุขจากการชมวิวสวยๆ ของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ครับ

ในส่วนของการดีไซน์นั้นจะเป็นแบบ Japanese Modern นั่นคือเป็นแบบโมเดิร์นที่ทันสมัยแต่ยังครองไว้ซึ่งวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันเลิศล้ำ ด้วยการใช้วัสดุอย่างไม้และกระดาษแบบ handmade ของญี่ปุ่นไปจนถึงการใช้ไฟสีอ่อนที่จะช่วยสร้างบรรยากาศอันน่าอบอุ่นที่เหมาะต่อการพักผ่อนครับ

ตัวเลือกห้องพักที่นี่มีดังต่อไปนี้

• Superior/Deluxe Ocean View – 76 ตร.ม. Deluxe จะแตกต่างตรงที่ห้องอยู่บนชั้น 7 ขึ้นไป ส่วน Superior จะอยู่ชั้นล่างลงมา ทั้ง Superior และ Deluxe มีให้เลือกห้องสองแบบระหว่าง Roten และ Shitsurai โดยแบบแรกจะมีออนเซ็นที่ระเบียงสำหรับแช่น้ำพร้อมชมวิว ส่วนแบบหลังจะมีโซนที่ปูด้วยเสื่อทาทามิพร้อมโต๊ะญี่ปุ่น
• Junior Suite Ocean View – 104 ตร.ม. มีออนเซ็นให้แช่ที่ระเบียง
• Suite Hillside – 120-132 ตร.ม. ห้องแบบเดียวที่ไม่เห็นวิวทะเล แต่จะเห็นฝั่งภูเขาแทน ในห้องมีออนเซ็นแบบ open-air
• Premier Suite Ocean View – 170 ตร.ม. ห้องใหญ่ที่สุดของโรงแรมมีทั้งออนเซ็นในตัว ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ฯลฯ

ขนาดห้องพักแต่ละห้องของที่นี่จัดว่าใหญ่มากแม้กระทั่งถ้าเราเทียบกับรีสอร์ทระดับ upscale ทั่วไปของญี่ปุ่น ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องนั้นก็เป็นระดับ luxury ตั้งแต่ผ้าอิมาบาริคุณภาพเยี่ยม อุปกรณ์อาบน้ำของ Growth Alchemist ไปจนถึงเครื่องทำกาแฟ Nespresso พร้อมด้วยชุดชาชั้นเลิศจากชิซุโอกะ เช่นเดียวกับชุดนอนและรองเท้าแตะ

ทุกอย่างจึงมีพร้อมสำหรับการพักผ่อนที่สบายที่สุดตลอดทั้งวันครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• Butler Service – การบริการที่ทางโรงแรมภาคภูมิใจ เพราะเป็นที่แรกที่ให้บริการประเภทนี้ให้แขกผู้เข้าพัก โดยคุณจะได้รับการดูแลจาก butler ส่วนตัวในด้านต่างๆ ตั้งแต่การจองตั๋วและยานพาหนะ ไปจนถึงการเสิร์ฟอาหารหรือนำสิ่งของที่คุณต้องการมาให้ เรียกได้ว่าระหว่างอยู่ที่นี่ คุณแทบไม่จำเป็นต้องทำอะไรเองเลยครับ
• ร้านอาหารและบาร์รวม 5 แห่ง
• Lounge และ Terrace
• ออนเซ็นแบบ Infinity Bath
• ฟิตเนสเซนเตอร์และบริการทรีตเมนต์ต่างๆ
• ห้องประชุม
• ร้านค้าขายของฝากและไข่มุก
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

2. Atami Onsen Furuya Ryokan

ถ้าคุณอยากได้ประสบการณ์การพักแบบญี่ปุ่นจ๋าที่อาตามิ ผมมองว่ายากที่มีที่ไหนมาเทียบกับ Atami Onsen Furuya Ryokan แห่งนี้ได้ครับ เพราะที่นี่เป็นเรียวกังที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1806 หรือมากกว่าสองร้อยปีมาแล้ว และยังคงรักษาธรรมเนียมการบริการอย่างโอโมโตะนาชิแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี

ตัวโรงแรมอยู่ในใจกลางเมืองอาตามิ ดังนั้นทุกมุมของโรงแรมจึงมีร้านอาหารให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่นเดียวกับร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และ Family Mart ทว่าโรงแรมอยู่ไกลจากสถานีประมาณ 1.1 กิโลเมตร ซึ่งไกลพอตัว ขาไปนั้นไม่ลำบากอะไรเพราะเป็นการเดินลงเขา แต่ขากลับนั้นน่าจะต้องใช้แท็กซี่ครับ

• ที่ตั้ง: 5-24 Higashikaigancho, Atami, Shizuoka 413-0012, Japan
• Check-in/out: 14.30/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่เป็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ตกทอดมามากกว่าสองศตวรรษได้เป็นอย่างดี นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว ทุกส่วนในห้องพักล้วนแต่เป็นแบบ traditional Japanese ที่งดงามอ่อนหวานครับ ตั้งแต่เสื่อทาทามิไปจนถึงบอนไซครับ

รูปแบบห้องพักของที่นี่มีหลักๆ แค่แบบเดียวนั่นคือห้องแบบญี่ปุ่น แต่จะมีให้เลือกระหว่างไม่มีออนเซ็นในห้อง (38-40 ตร.ม.) และมีออนเซ็น (50-140 ตร.ม.) โดยห้องที่มีออนเซ็นนั้นจะมีบ่อให้อาบน้ำสองบ่อด้วยกัน บ่อแรกจะเป็นแบบเปิดโล่งและใช้น้ำแร่ออนเซ็น ส่วนบ่อด้านในจะใช้น้ำประปาธรรมดาครับ

ในส่วนของขนาดห้องนั้นถือว่าใหญ่ทีเดียว (มองในมุมห้องพักแบบญี่ปุ่นในเรียวกังระดับหรูหรา) ด้าน room facilities นั้น ทางโรงแรมจัดให้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับเรียวกังระดับ upscale ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะญี่ปุ่น ชุดยูกาตะ อุปกรณ์อาบน้ำ ฯลฯ ซึ่งจะให้คุณได้รับประสบการณ์การพักที่ดีที่สุดครับ

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ที่นี่เทียบที่อื่นไม่ได้ก็คือเรื่องวิวครับ ห้องของที่นี่ทุกห้องจะเห็นสวนญี่ปุ่นของโรงแรม ซึ่งจะบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ แต่จะไม่เห็นวิวทะเลครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและบาร์
• ออนเซ็นแบบในร่มและเปิดโล่ง
• ห้องจัดเลี้ยงแบบญี่ปุ่นขนาดใหญ่
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

3. Atami Kourakuen Hotel

Atami Kourakuen Hotel เป็นที่พักที่อยู่ใกล้กับ Atami Ropeway กระเช้าที่นำผู้เข้าพักไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองอย่าง Atami Castle และ Trick Art Museum และจุดชมวิวมุมสูงของเมืองที่เห็นความสวยงามได้แบบ 270 องศาเลยครับ ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวสำหรับนักท่องเที่ยวครับ

อย่างไรก็ดีที่นี่อยู่ไกลจากสถานีรถไฟประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ไม่ต้องกังวลเพราะมีรถรับส่ง ในส่วนของร้านอาหารนั้น รอบๆ โรงแรมไม่ค่อยมีเท่าไรนัก โดยย่านร้านค้าจะอยู่ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งคุณต้องเดินเลียบริมทะเล หรือว่านั่งแท็กซี่ไปครับ

• ที่ตั้ง: 10-1 Wadahamaminamicho, Atami, Shizuoka 413-8626, Japan
• Check-in/out: 15.00/10.00

ห้องพัก

ห้องพักส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นแบบตะวันตกในสไตล์โมเดิร์น การตบแต่งในห้องจะใช้เป็นโทนอ่อนสีครีม ช่วยให้คุณผ่อนคลายอิริยาบถได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้เลือกมีดังต่อไปนี้ครับ

• Courtyard Room – 24 ตร.ม. เลือกได้ระหว่าง Twin หรือ Double วิวที่เห็นจะเป็นวิวภูเขา
• Japanese Room – 30 ตร.ม. ห้องสไตล์ญี่ปุ่น นอนฟุตง
• Ocean View Room – 40 ตร.ม. ทีเด็ดคือมีระเบียงชมวิว ให้ออกไปนั่งจิบกาแฟรับลมทะเลได้ครับ
• Western Room – 60 ตร.ม.
• Excellency Room – 60-120 ตร.ม. ตบแต่งแบบ Japanese Western (ครึ่งห้องเป็นแบบญี่ปุ่น อีกครึ่งเป็นแบบโมเดิร์น) ในห้องปูด้วยเสื่อทาทามิอย่างดี ห้องจะอยู่ที่ชั้น 15-17 ทำให้ได้วิวดีที่สุด

ในเรื่องพื้นที่ใช้สอยนั้น ห้องของที่นี่เทียบได้กับรีสอร์ทระดับ 4 ดาวทั่วไปในญี่ปุ่น ดังนั้นใหญ่พอที่ให้ผู้เข้าพักพักผ่อนได้อย่างสบายโดยไม่ต้องทรมานกับความอึดอัด สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกก็เพรียบพร้อมไปด้วย ชุดนอน อุปกรณ์อาบน้ำ ทีวี โต๊ะทำงาน ฯลฯ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และ Lounge
• ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air (จองแบบส่วนตัวได้)
• บัตรฟรีสำหรับใช้บริการ Fuua Ocean Spa สปาขนาดใหญ่ที่อยู่ในเครือเดียวกับโรงแรม
• บริการนวดและทรีตเมนต์
• ห้องประชุมและจัดเลี้ยง
• บริการรับส่งจากสถานีรถไฟ

สรุป

4. Atami Onsen Sakuraya Ryokan

Atami Onsen Sakuraya Ryokan เป็นอีกหนึ่งเรียวกังที่มีประวัติความเป็นมาเกือบ 80 ปี ตัวโรงแรมเป็นอาคารแบบญี่ปุ่นที่งดงามทั้งด้านนอกและด้านใน ส่วนที่ตั้งนั้นอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟอาตามิไปแค่ 300 เมตรเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงมีร้านอาหารให้เลือกจำนวนมาก ตั้งแต่ร้านขายซีฟู้ดไปจนถึงของหวานครับ

แม้ว่าจะใกล้กับสถานีรถไฟมาก แต่ทางโรงแรมแนะนำให้จองรถรับส่งของทางโรงแรมไว้ล่วงหน้า (ให้บริการเฉพาะช่วงบ่ายโมงถึงหกโมงเท่านั้น) เพราะระยะทางนั้นใกล้ก็จริง แต่คุณจะต้องขึ้นลงบันได 77 ขั้นที่ค่อนข้างชัน หรือไม่ก็ต้องเดินอ้อมไปตามถนนครับ ดังนั้นไม่น่าจะสะดวกถ้าคุณมีกระเป๋าใบใหญ่มาด้วยครับ

• ที่ตั้ง: 9-１１ Higashikaigancho, Atami, Shizuoka 413-0012, Japan
• Check-in/out: 13.00/10.00

ห้องพัก

ห้องพักส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นแบบญี่ปุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจในการตบแต่งมาจากเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบพื้นบ้าน บางห้องนั้นมีความพิเศษตรงที่ทั้งห้องสร้างจากต้น zelkova ที่สวยงาม อย่างไรก็ดีห้องแบบตะวันตกและแบบผสม (Japanese Western) ก็มีเช่นกัน ทุกห้องนั้นจะโฟกัสกับการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับผู้เข้าพักครับ

• Japanese Style Room with Open-air Bath – 26.5-29 ตร.ม. ไม่รวมห้องรับแขก จุดเด่นของห้องนี้คือมีบ่อเซรามิกให้แช่ออนเซ็นได้แบบส่วนตัวครับ
• Japanese Western – 30 ตร.ม. ห้องตบแต่งแบบญี่ปุ่นแต่มีเตียงแบบตะวันตก ในห้องมีระเบียงชมวิว
• Japanese Style Room with Reception Room – 37 ตร.ม.ไม่รวมห้องรับแขก
• Maisonette – ห้องนี้จะเป็นที่พักแบบสองชั้น ชั้นล่างจะเป็นห้องอาหารส่วนตัว ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอนแบบญี่ปุ่น ตัวห้องนอนนั้นจะกว้าง 17 ตร.ม. ส่วนด้านล่างไม่ระบุ แต่ถ้าดูจากสายตาแล้วพื้นที่น่าจะใกล้เคียงกันครับ จุดเด่นคือมีระเบียงแบบ veranda ที่กว้างขวางและชมวิวได้สองด้าน

สำหรับเรื่องวิวนั้น ห้องพักของที่นี่ครึ่งหนึ่งจะได้วิวสวนแบบญี่ปุ่น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นวิวทะเลครับ ถ้าอยากได้วิวแบบไหนต้องเลือกจองตั้งแต่หน้าเว็บ Agoda ครับ

ขนาดห้องของที่นี่อาจจะไม่ได้ใหญ่เหมือนกับตัวเลือกอื่นๆ แต่ด้วยดีไซน์ห้องพักและวิวภายนอกที่เป็นทะเลหรือสวน ทำให้คุณยากที่จะรู้สึกว่าอึดอัดครับ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกก็มาครบตามมาตรฐานของเรียวกังชั้นดี ตั้งแต่ Smart TV ไปจนถึงชุดยูกาตะและอุปกรณ์อาบน้ำครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการทรีตเมนต์
• Club (มีดีลบุฟเฟต์เครื่องดื่มและคาราโอเกะ)
• ห้องจัดเลี้ยงและประชุมสัมมนา
• ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง
• ที่จอดรถฟรี
• บริการรับส่งสถานีรถไฟ

สรุป

5. Hotel New Sagamiya

Hotel New Sagamiya เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักเดินทางที่อยากได้ที่พักติดทะเล แต่ลดความพลุกพล่านลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โรงแรมแห่งนี้อยู่ที่ถนน Atami Beach Line และห่างจากสถานีรถไฟและย่านใจกลางเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้บริเวณโดยรอบเงียบสงบกว่า เหมาะต่อการพักผ่อนครับ

ในส่วนของร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อในบริเวณโรงแรมนั้นแทบจะไม่มี แต่คุณสามารถนั่งรถรับส่งฟรี (ต้องจองล่วงหน้า) เข้าไปที่สถานีรถไฟได้ ทำให้ผมมองว่าไม่ใช่ปัญหาครับ

• ที่ตั้ง: 601 Izusan, Atami, Shizuoka 413-0002, Japan
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

โรงแรมแห่งนี้มีค่านิยมที่สืบเนื่องมาจากเรียวกังโบราณชื่อเดียวกัน (Sagamiya) ที่เปิดตั้งแต่กลางยุคเอโดะ คอนเซปต์การบริการของที่นี่จึงเป็นการนำของเดิมมาผสมกับของใหม่ที่ทันกับยุคสมัยครับ

สำหรับห้องพักในโรงแรมนั้นมีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ได้แก่

• Japanese Room – 16.5-26.5 ตร.ม. บางห้องสามารถ request ขอให้เสิร์ฟอาหารในห้องได้
• Twin – 33 ตร.ม. ห้องแบบตะวันตกแบบโมเดิร์นร่วมสมัย
• Japanese Western – 46-49 ตร.ม. แปลนห้องคือห้อง Twin ที่เชื่อมกับห้องญี่ปุ่นที่มีขนาด 13-16 ตร.ม.

จุดแข็งอันดับหนึ่งคือที่นี่คือทุกห้องจะมีวิวทะเล โดยคุณสามารถนั่งชมได้จากโซฟาหรือเก้าอี้ซึ่งตั้งอยู่ติดกับหน้าต่างใบใหญ่ที่เรียงติดกันในแต่ละห้องครับ

ส่วนตัวห้องพักนั้นถือว่าใหญ่ใช้ได้ (สำหรับรีสอร์ทระดับ 3-4 ดาวครับ) ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกนั้นรับประกันได้เลยว่ามีพร้อม ไม่ว่าจะเป็นชุดยูกาตะและซามุเอะ ชุดชา อุปกรณ์อาบน้ำ ฯลฯ ช่วยให้คุณพักผ่อนอย่างราบรื่นที่สุดครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและคาเฟ่
• สระว่ายน้ำและโต๊ะปิงปอง
• ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air (พร้อมวิวทะเล)
• บริการเครื่องดื่มฟรี
• บริการนวด
• บริการรับส่งสถานีรถไฟ
• ร้านขายของใช้และของที่ระลึก รวมไปถึงสินค้าพื้นเมือง
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

6. Atami Sekaie

Atami Sekaie เป็นที่พักที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองอาตามิ ดังนั้นผู้เข้าพักที่นี่จะได้ชมวิวสวยๆ ของเมืองอาตามิเบื้องล่าง ตลอดจนท้องทะเลของอ่าวซากามิได้อย่างสุดลูกหูลูกตา ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับสายชอบนั่งชิวชมวิวครับ

อย่างไรก็ดีโรงแรมจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 1.3 กิโลเมตร และรอบๆ ไม่มีร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้อใดๆ เลย ทว่าทางโรงแรมมีบริการรถรับส่งฟรีครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางครับ

• ที่ตั้ง: 601 Izusan, Atami, Shizuoka 413-0002, Japan
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่เป็นแบบตะวันตกในสไตล์ร่วมสมัยทั้งหมด โดยอาคารของโรงแรมจะมีสองแห่งได้แก่ Sekaie Building และ Sekaie Tsuki no Michi Building ครับ ส่วนรูปแบบห้องพักนั้นมีให้เลือกดังต่อไปนี้

Sekaie Building

• Superior – 48 ตร.ม.
• Suite – 78 ตร.ม.

Sekaie Tsuki no Michi Building

• Premium – 58 ตร.ม.
• Suite – 78 ตร.ม.
• Penthouse – 123-148 ตร.ม. ในห้องมีครัวและห้องอาหารอันหรูหรา

สำหรับห้องพักที่นี่ทุกห้องนั้นจะเป็นแบบ Ocean View (พร้อมระเบียงให้ชมวิว) เช่นเดียวกับออนเซ็น open-air แบบส่วนตัวให้แช่ได้ในห้องพัก เช่นเดียวกับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมอื่นๆ ที่การันตีความสบายตลอดการพักให้กับคุณครับ

นอกจากนี้ถ้าคุณเลือกพักที่ Sekaie Tsuki no Michi Building นั้น ที่นี่จะมีบริการ Butler Service ที่อำนวยความสะดวกให้กับคุณในเรื่องต่างๆ ยิ่งไปกว่าโรงแรมทั่วไปอีกด้วยครับ

ในส่วนของขนาดห้องพักนั้นถือว่ากว้างขวางมาก แม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่ที่สุดในอาตามิ แต่คุณมีพื้นที่สำหรับยืดเส้นยืดสายได้อย่างสบายแน่นอนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 2 แห่ง
• Lounge สำหรับนั่งเล่นและ Terrace สำหรับชมวิว
• ออนเซ็นในร่ม
• บริการทรีตเมนต์
• โยคะและกิจกรรมเพื่อสุขภาพต่างๆ
• ห้องประชุมและสัมมนา
• บริการรับส่งสถานีรถไฟ
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

7. Fufu Atami

Fufu Atami เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุดแห่งหนึ่งในอาตามิเลยก็ว่าได้ ตัวโรงแรมมีการปลูกต้นไม้อย่างหนาแน่น ทำให้คุณรู้สึกว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ซึ่งเอื้อต่อการพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายเป็นที่สุด

โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟและย่านร้านอาหารประมาณ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งค่อนข้างไกลแต่ไม่เป็นปัญหาเพราะทางโรงแรมมีบริการรับส่งให้ถึงที่ครับ

• ที่ตั้ง: 11-48 Minaguchicho, Atami, Shizuoka 413-0016, Japan
• Check-in/out: 15.00/11.00

ห้องพัก

แม้ว่าโรงแรมจะมีขนาดใหญ่ แต่ห้องพักของที่นี่มีแค่ 32 ห้อง และเป็นห้องระดับสวีททั้งหมด การตบแต่งจะเป็นแบบร่วมสมัยที่ดูหรูหราด้วยวัสดุจากธรรมชาติ ส่วนขนาดห้องจะอยู่ที่ 54-97 ตร.ม.ทุกห้องพักจะมีออนเซ็นแบบ open-air ให้แช่ตัวชมวิวสวนด้านนอกได้อย่างสบายอารมณ์ครับ

สิ่งที่ทำให้ที่นี่ shine ออกมาคือ facilities ในห้องพักที่เรียกได้ว่าครบเครื่องสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่เครื่องดื่มฟรีไปจนถึงโซฟาขนาดใหญ่ไปจนถึงส่วนของห้องที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ และโต๊ะญี่ปุ่น และเตียงชั้นเลิศที่สุดของแบรนด์ Simmons และ Sealy ขณะที่ amenities อย่างอุปกรณ์อาบน้ำและสกินแคร์ก็เป็นเกรดพรีเมียมจากแบรนด์ YOKOU ของญี่ปุ่นครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารของโรงแรม (เสิร์ฟซูชิ เทปันยากิ และไคเซกิ)
• บาร์ เลาจน์ และ Terrace
• ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air และซาวน่า
• บริการสปาและทรีตเมนต์ (by Sisley)
• บริการรับส่งสถานีรถไฟ

สรุป

8. Watei Kazekomichi Hotel

Watei Kazekomichi Hotel เป็นที่พักในอาตามิที่ผมมองว่ามีความ exclusive ที่สุดแห่งหนึ่ง ถ้าคุณอยากสัมผัสวัฒนธรรมโอโมโตะนาชิแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่พิถีพิถันกับการต้อนรับผู้เข้าพัก ที่นี่เป็นตัวเลือกที่มองข้ามไปไม่ได้เลยครับ

อย่างไรก็ดีโรงแรมอยู่ไกลจากตัวเมืองอาตามิไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร แต่เรื่องการเดินทางนั้นไม่ต้องกังวลเลย เพราะทางโรงแรมมีรถรับส่งฟรีถึงจากสถานีเลยครับ

• ที่ตั้ง: 28-18 Baiencho, Atami, Shizuoka 413-0032, Japan
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่มีเพียง 8 ห้องเท่านั้น แต่ละห้องอยู่ในคอนเซปต์ที่ต้องการให้ผู้เข้าพักสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นพร้อมกับผ่อนคลายทั้งกายใจไปกับธรรมชาติครับ ตัวห้องเป็นไม้แทบทั้งหมด และได้รับการตบแต่งตามสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม แม้แต่โคมไฟก็เป็นแบบโบราณ ถ้าตัดสิ่งอำนวยความสะดวกออกไปแล้ว ห้องแต่ละห้องดูเหมือนกับว่าย้อนเวลามาจากสมัยเอโดะเลยครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้เลือกมีแค่สองแบบเท่านั้นได้แก่

• Japanese Room – 45-66 ตร.ม.
• Japanese Western Room – 57-89 ตร.ม. ห้องแบบนี้ของที่นี่จะแค่มีเตียงในห้องครับ แต่การตบแต่งจะเป็นแบบญี่ปุ่นแท้เกือบจะ 100% ต่างจากเรียวกังบางแห่งที่จะแบ่งแบบครึ่งๆ

ห้องพักทุกห้องของที่นี่กว้างขวางและมีออนเซ็นแบบ open-air ให้แช่แบบส่วนตัว ส่วนวิวนั้นจะมีทั้งวิวทะเลและวิวผืนป่าโดยรอบ (หรือเห็นทะเลบางส่วน) แต่วิวผืนป่านั้นไม่ใช่ว่าไม่ดีครับ เพราะว่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้บนภูเขาก็จะเปลี่ยนสีให้ได้ชมอย่างละลานตาเลยครับ

สำหรับเรื่อง amenities นั้น ที่นี่ให้ความสำคัญและพิถีพิถันมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังของญี่ปุ่น ผ้าอิมาบาริที่ใช้เช็ดร่างกาย ชุดชาชั้นยอดที่สุดของชิซุโอกะ ธูปหอมที่สร้างความผ่อนคลาย ไปจนถึงเครื่องครัวญี่ปุ่นที่ลวดลายสวยงาม ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับ experience ของคุณให้ขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเลยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารของโรงแรม
• บริการนวดและทรีตเมนต์ในห้อง
• ร้านขายสินค้าในโรงแรม
• ที่จอดรถฟรี
• บริการรับส่งฟรี

สรุป

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองที่พักในอาตามิผ่านทางลิงค์ในบทความครับ