หน้าแรกโรงแรม12 โรงแรมที่พักเกาะคาปรี (Capri) น่าจอง | ครบทุกสิ่งที่ควรทราบ

12 โรงแรมที่พักเกาะคาปรี (Capri) น่าจอง | ครบทุกสิ่งที่ควรทราบ

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

เกาะคาปรี (Capri) เป็นเกาะในท้องทะเลของประเทศอิตาลีที่เป็นเกาะในฝันของหลายๆคนที่ต้องการไปชมธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่น ถ้าคุณอยากได้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ การพักบนเกาะคาปรีสักคืนเป็นตัวเลือกที่ควรค่าต่อการพิจารณาเป็นอย่างยิ่งครับ

บทความนี้จึงจะมาแนะนำที่พักและโรงแรมที่น่าสนใจบนเกาะคาปรี จะมีที่ไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ด้านล่างเลยครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองโรงแรมบนเกาะคาปรีผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

ที่พักเกาะคาปรี (Capri) ควรตั้งอยู่ริมทะเลอันสวยงาม
by leoks/ShutterStock

Table of Contents

ข้อควรทราบ

เกณฑ์การเลือกที่พักในบทความ

  • ตัวโรงแรมหรือที่พักจะต้องอยู่บนเกาะคาปรี (Capri)
  • ราคาที่พักต่อคืนต้องคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ + ขนาดห้องไม่ควรเล็กเกินไป
  • ต้องได้คะแนนรีวิวจากผู้เข้าพักบนแพลตฟอร์มจองที่พักต่างๆ มากกว่า 80% ขึ้นไป และได้คะแนนสูงเป็นลำดับต้นๆ ของที่พักระดับเดียวกัน
  • ที่พักทุกแห่งต้องมีแอร์
  • ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก (ทั้งในและนอกห้อง) เหมาะสมกับระดับของโรงแรม
  • ที่พักจะต้องไม่มีปัญหาเรื่องความสะอาดหรือเสียง (อ้างอิงจากรีวิวต่างๆ)
  • ถ้าผมเคยเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว ผมต้องได้รับประสบการณ์ที่ดีเท่านั้น

สำหรับที่พักแต่ละแห่งในบทความนี้ ผมจะระบุถึงจุดเด่นของแต่ละที่ด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งผมได้สรุปมาจากรีวิวของผู้เข้าพักจริงจากแพลตฟอร์มจองโรงแรมต่างๆ ผมเชื่อว่าข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกที่พักที่เหมาะสมได้มากขึ้นครับ

พักที่ส่วนไหนของเกาะคาปรีดี?

เกาะคาปรีแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยโดยภูเขาลูกใหญ่อย่าง Monte Solaro ครับ ส่วนแรกคือคาปรี (Capri) ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ตรงกลางและฝั่งตะวันออกของเกาะ ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่คุณลงจากท่าเรือ หลังจากที่นั่งเรือมาจากเนเปิลส์ ซอร์เรนโต้ หรือว่าโปซีตาโนครับ เพราะฉะนั้นเรื่องการเดินทางจะง่ายดายสะดวกสบาย

ไม่เพียงเท่านั้นส่วนนี้จะคับคั่งมากกว่า โดยมีร้านค้า ร้านอาหาร และบาร์มากมาย เพราะฉะนั้นจะเหมาะกับนักเดินทางทั่วไปที่ชอบหาอะไรอร่อยๆ รับประทานและช้อปปิ้งครับ

ส่วนที่สองคืออนาคาปรี (Anacapri) ซึ่งจะตั้งอยู่บนส่วนที่มีความสูงเฉลี่ยจากระดับน้ำทะเลมากกว่าคาปรี ในภาพรวมแล้วส่วนนี้จะเงียบกว่าคาปรี เพราะนักท่องเที่ยวน้อยกว่า ทำให้ยังรักษาวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ไว้ได้

นักเดินทางที่ชอบความสงบ หรือสนใจวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบของแท้จึงเลือกที่จะพักที่นี่ครับ นอกจากนี้หลายคนยังมองว่าวิวจากอนาคาปรีสวยกว่า เพราะตั้งอยู่บนที่สูงที่มองเห็นเบื้องล่างครับ (แต่ก็แล้วแต่คนชอบ บางคนย่อมมองต่างไปว่าวิวจากส่วนคาปรีที่เห็น Faraglioni สวยกว่า ฯลฯ)

อย่างไรก็ดีร้านอาหารในอนาคาปรีจะน้อยกว่ามาก เพราะฉะนั้นถ้าอยากหาอะไรรับประทานนอกโรงแรม คุณจะต้องนั่งแท็กซี่ไปที่ Piazzetta ในส่วนคาปรีซึ่งจะใช้เวลา 10-20 นาทีครับ

ราคาห้องพักต่อคืนที่เกาะคาปรี

เกาะคาปรีนั้นมีที่พักในทุกระดับ ตั้งแต่โรงแรมระดับ Ultra luxury ที่รับรองเซเลประดับโลก ไปจนถึงโรงแรมระดับทั่วไปที่นักเดินทางเข้าถึงได้ ไปจนถึงเกสต์เฮ้าส์สำหรับ backpacker อย่างไรก็ดีค่าเฉลี่ยของราคาต่อคืนย่อมสูงกว่าในเมืองใหญ่อย่างเนเปิลส์ (Naples) หรือซาเลอร์โน (Salerno) โดยจะอยู่ในระดับที่สูสีกับที่พักในโปซีตาโน (Positano) และซอร์เรนโต้ (Sorrento) ครับ

โดยส่วนตัวแล้วถ้าคุณอยากประหยัดค่าใช้จ่าย การพักในเมืองใหญ่แล้วซื้อทัวร์ไปเที่ยวเกาะคาปรีแบบจบในวันย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า (แล้วพักที่เนเปิลส์) แต่ถ้าคุณอยากได้ experience แบบสุดพิเศษ การพักบนเกาะคาปรีย่อมน่าสนใจกว่าแน่นอนครับ

Warning

ในกรณีที่โรงแรมของคุณอยู่ที่อนาคาปรี (Anacapri) หรือว่าไกลจากท่าเรือเกิน 500 เมตรขึ้นไป คุณควรจะเดินทางไปด้วยแท็กซี่ รถบัส หรือว่ารถกระเช้า (Funicular)


สาเหตุคือแม้ว่าระยะทางจะไม่ได้ไกลมากนัก แต่ตลอดเส้นทางจะเป็นการเดินขึ้นเขาแทบจะตลอด แถมบางส่วนยังเป็นบันได ทำให้ไม่เหมาะกับการเดินพร้อมกับกระเป๋าเดินทางทุกประการครับ


อย่างไรก็ดีพื้นที่บางส่วนของเกาะคาปรี (อย่างเช่นบริเวณ Piazzetta และฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ) จะไม่อนุญาตให้ยานพาหนะใดๆ เข้าออก เพราะฉะนั้นสำหรับที่พักบางแห่งนั้น คุณอาจจะต้องเดินนำกระเป๋าขึ้นไปเองอยู่ดี หรือไม่ก็จ้าง Porter จากท่าเรือ ให้นำกระเป๋าไปส่งครับ


ถ้าคุณอยากหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว โปรดเลือกโรงแรมที่รถสามารถผ่านหน้าโรงแรมได้ นอกจากนี้ถ้ามีอะไรไม่แน่ใจ โปรดสอบถามกับทางโรงแรมล่วงหน้าครับ

Tip

สำหรับใครที่สนใจที่พักแบบแนว airbnb ผมแนะนำให้ใช้บริการของ Plum Guide เพราะคุณภาพบ้านพักหรืออพาร์ตเมนต์โดยรวมจะสูงกว่ามากครับ

ที่พักน่าจองในฝั่งคาปรี (Capri)

TOP Pick

Hotel Scalinatella

โรงแรมระดับ 5 ดาวที่ให้บริการห้องพักและวิลล่าอันมีพื้นที่กว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่วนทำเลก็อยู่ใกล้กับ Piazzetta ทำให้ง่ายต่อการหาอะไรทานและช้อปปิ้ง

ส่วนด้านอาหารและการบริการก็ไม่มีอะไรบกพร่อง นอกจากนี้ราคาต่อคืนยังไม่ได้สูงเกินไปด้วยครับ

1. Hotel Scalinatella

Hotel Scalinatella เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ดูแลโดยครอบครัวชาวอิตาเลียนมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 และเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับใครที่ชอบทั้งชมทะเล และช้อปปิ้งครับ

ทำเลที่ตั้งของที่นี่จะช่วยทำให้ความปรารถนาทั้งสองของคุณเป็นจริง โดยโรงแรมอยู่ห่างจาก Piazzetta แค่ 650 เมตรเท่านั้น ซึ่งตามเส้นทางของโรงแรมก็มีร้านค้ามากมายแล้วครับ ส่วนวิวทะเลนั้น โรงแรมตั้งอยู่บนช่องเขาที่ลาดลงทะเล ทำให้เห็นวิวสวยๆ ได้แบบพาโนรามาครับ

เนื่องจากโรงแรมอยู่ในส่วนที่รถผ่านไม่ได้ คุณจะต้องนั่งรถกระเช้าไฟฟ้าหรือแท็กซี่จากท่าเรือไปยัง Piazzetta แล้วเดินเท้าไปยังโรงแรมครับ

  • ที่ตั้ง: Via Tragara, 8, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/12.00
  • รถผ่านไม่ได้

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบห้องในโรงแรมทั่วไปและวิลล่า การตบแต่งนั้นจะเป็นแบบ Pure Mediterranean style ที่ใช้สีขาวเป็นแกนหลัก โดยตัดกับสีสันของกระเบื้องคาปรีสีน้ำเงินที่มีความวิจิตรโดดเด่น พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ antique ที่ยกระดับความหรูหราครับ

ทั้งนี้ห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

  • Classic – 25-30 ตร.ม. ห้องนี้ไม่มีระเบียง และจะเห็นแค่วิวสวนเท่านั้น
  • Deluxe – 35-40 ตร.ม. เห็นวิวทะเล แต่ไม่มีระเบียง
  • Junior Suite – 45 ตร.ม. มีระเบียงที่เห็นวิวทะเล
  • Deluxe Junior Suite/Prestige Junior Suite – 50 ตร.ม. ใหญ่กว่าห้อง Junior Suite ขึ้นมาเล็กน้อย โดยห้อง Prestige จะเห็นวิวแบบสุดพีค โดยเฉพาะขุนเขาสีเขียวที่ตั้งตระหง่านเหนือท้องทะเลสีคราม
  • Suite – 65 ตร.ม. มีระเบียงขนาดใหญ่ที่เห็นอ่าว Marina Piccola
  • Grand Carmen Suite – 120 ตร.ม. ห้องสวีทขนาดใหญ่ที่มีระเบียงที่ใหญ่เป็นครึ่งหนึ่งของห้อง สะดวกต่อการนั่งเล่น และรับประทานอาหารเช้าพร้อมกับชมวิวสวยๆ ทั้งนี้ดีไซน์ของห้องจะแตกต่างออกไปจากที่อื่น เพราะจะเป็นสไตล์ร่วมสมัยครับ

Villa – สำหรับห้องพักด้านล่างนี้จะเป็นสไตล์วิลล่า กล่าวคือคุณจะได้ครอบครองบ้านพักทั้งหลัง ซึ่งจะเป็นสไตล์ร่วมสมัยที่ใช้สีขาวสะอาดเป็นแกนหลักครับ

  • Glam Orange – 220 ตร.ม. ในวิลล่ามีสวนส่วนตัว
  • Royal Blue – 280 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำแบบ infinity pool ครัว และสวนส่วนตัว

พื้นที่ใช้สอยคือจุดเด่นของห้องพักที่นี่เลยครับ เพราะห้องแต่ละระดับตั้งแต่ Classic จนถึงวิลล่านั้นมีขนาดใหญ่มาก เรียกได้ว่าเกินกว่าโรงแรมระดับ 5 ดาวอื่นๆ ในคาปรีอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับนักเดินทางที่เป็นครอบครัวซึ่งมีเด็กและผู้สูงอายุครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นก็ครบถ้วนไม่มีอะไรขาดไปครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารและบาร์
  • สระว่ายน้ำ 2 แห่งที่เห็นวิวสวยๆ ของท้องทะเล + ห้องฟิตเนส

สรุป

จุดเด่น

  • ได้รับรางวัลสุดยอดโรงแรมจากนิตยสาร Condé Nast Traveler ถึงสองครั้ง (2007, 2010)
  • Location ดี ใกล้กับ Piazzetta ช่วยให้เข้าถึงร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ
  • ห้องพักแต่ละระดับใหญ่มาก โดยเฉพาะแบบวิลล่า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี
  • วิวจากห้องพักแทบทั้งหมดและสระว่ายน้ำสวยงามตระการตา
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าที่มีคุณภาพดี
  • พนักงานเอาใจใส่ในรายละเอียด และให้การช่วยเหลืออย่างดีเยี่ยม
  • ราคาไม่สูงถ้าเปรียบกับโรงแรมระดับ 5 ดาวอื่นๆ

Hotel Scalinatella

โรงแรมชั้นนำที่ให้บริการห้องพักขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์คณะที่เป็นครอบครัว ห้องส่วนใหญ่มีวิวทะเลอันสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ของเกาะคาปรี แถมยังมีวิลล่าขนาดใหญ่ให้เลือกจองอีกด้วย ส่วนทำเลก็ถือว่าดีงาม ใกล้กับย่านการค้าและร้านอาหารครับ

ในส่วนของอาหารเช้าและการบริการก็ถือว่าดีเลิศ ส่วนราคาต่อคืนนั้นไม่ได้สูงเหมือนกับที่พักระดับ 5 ดาวอื่นๆ (เมื่อเปรียบกับห้องในระดับใกล้เคียงกัน) ทำให้ที่นี่เป็นที่พักสุดคุ้มอีกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ

2. Villa Marina Capri Hotel & Spa

Villa Marina Capri Hotel & Spa เป็นโรงแรม 5 ดาวที่หันหน้าออกทะเลไปทางหาด Spiaggia Marina Grande ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือหลักของเกาะคาปรี (ห่างจากโรงแรมประมาณ 600 เมตร) ทำให้สะดวกทั้งการชมวิวและเดินทางไปจากท่าเรือ อย่างไรก็ดีใกล้โรงแรมจะไม่ค่อยมีร้านอาหารเท่าไรนัก คุณจะต้องเดินไปประมาณ 1 กิโลเมตรถึงจะมีร้านรวงมากมายใกล้กับ Piazzetta di Capri จัตุรัสใหญ่ที่มีผู้คนคับคั่งที่สุดบนเกาะครับ

ทันทีที่คุณก้าวเท้าจากท่าเรือ ทางโรงแรมจะไปรับคุณที่นั่นและนำคุณไปยังที่พักโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม (และที่สำคัญที่สุดคือไม่ต้องต่อคิวรอแท็กซี่เหมือนนักท่องเที่ยวอื่นๆ หลายร้อยคน) หลังจากนั้นเมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว คุณจะได้รับการเสิร์ฟ cocktail และให้บริการนวดมือครับ

  • ที่ตั้ง: Via Marina Grande, 191, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/12.00
  • รถผ่านหน้าโรงแรมได้

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ได้รับการรังสรรค์โดย Massimo Esposito สถาปนิกชาวอิตาเลียนที่ผสมผสานการออกแบบแนวร่วมสมัยเข้ากับศิลปกรรมท้องถิ่นของเกาะคาปรี ทำให้ห้องพักทั้งสวยงาม อบอุ่น และนำเสนอวัฒนธรรมพื้นบ้านของที่นี่ให้ออกมาอย่างงามยิ่ง

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

  • Deluxe Sea View – 20 ตร.ม. เห็นอ่าวเนเปิลส์และชายฝั่งซอร์เรนโต้-อมัลฟีที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ
  • Deluxe Corner Sea View – 25 ตร.ม. เห็นวิวทะเลและสวนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนของโรงแรม
  • One Bedroom Suite – 35 ตร.ม.
  • Garden Prestige Sea View – 38-40 ตร.ม ตบแต่งด้วยสีของผืนทรายและภูเขาหินอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิประเทศแถบนี้ ในห้องมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ชมวิวของอ่าวเนเปิลส์
  • Pool Suite Sea View with Terrace – 45 ตร.ม. ห้องสวีทที่มีระเบียงขนาดใหญ่พร้อมด้วยโซฟา เตียง โต๊ะกินข้าว และสระส่วนตัว
  • Castello Suite – 50 ตร.ม. ห้องสวีทที่มีระเบียงชมทะเลพร้อมที่กั้น (pergotenda) แบบ Caprese Style เช่นเดียวกับโซฟาให้คุณชมวิวสบายๆ ได้แบบไม่ร้อน
  • Studio Suite – 67 ตร.ม.

ขนาดห้องโดยรวมถือว่าอยู่ระดับปานกลาง ไม่ได้ใหญ่มากนักถ้าเทียบกับโรงแรมระดับเดียวกันในเมืองรีสอร์ทของอิตาลี ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานนั้นครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องเป่าผม รองเท้าแตะ หรือชุดอาบน้ำ นอกจากนี้คุณยังขอ Beach Kit สำหรับไปเล่นน้ำทะเลหรืออาบแดดได้ด้วย แต่ต้องแจ้งให้พนักงานทราบครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารแบบ Mediterranean Cuisine ที่ใช้วัตถุดิบชั้นยอดจากเกาะคาปรี
  • สระว่ายน้ำในร่ม/กลางแจ้งและห้องฟิตเนส (สระกลางแจ้งจะเห็นวิวอ่าวเนเปิลส์ได้อย่างพาโนรามา)
  • บริการนวดและทรีตเมนต์พร้อมด้วยซาวน่าและอบไอน้ำ
  • บริการจัดงานประชุมและอีเวนต์
  • บริการ Personal Shopper สำหรับช่วยเหลือคุณในการหาของฝากที่คุณภาพเยี่ยมที่สุด เช่นเดียวกับ Concierge ที่ช่วยคุณจองทัวร์และร้านอาหารต่างๆ
  • บริการรับส่งฟรีจากท่าเรือไปยังโรงแรม

สรุป

จุดเด่น

  • Location พอใช้ ไม่ไกลจากท่าเรือ
  • ผู้เข้าพักจำนวนมากประทับใจการต้อนรับตอน check-in ไม่ว่าจะเป็นการไปรับที่ท่าเรือ เครื่องดื่ม และบริการนวดฟรี
  • ทุกห้องพักเป็นแบบ Sea view ของอ่าวเนเปิลส์ และแต่ละหลังได้รับการรังสรรค์อย่าประณีตด้วยฝีมือของสถาปนิกชั้นนำ
  • วิวอ่าวเนเปิลส์จากตัวโรงแรมสวยงามมาก
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าที่คุณภาพดี + อาหารเมดิเตอร์เรเนียนของโรงแรมรสชาติดี
  • การบริการโดยรวมของพนักงานยอดเยี่ยม

Villa Marina Capri Hotel & Spa

โรงแรมระดับ luxury ที่อยู่ใกล้กับท่าเรือ การบริการเมื่อเช็คอินนั้นได้สร้าง first impression อันยอดเยี่ยมกับผู้เข้าพักส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปรอรับที่ท่าเรือ จริงอยู่ว่าห้องพักของที่นี่ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็สวยมีสไตล์ และวิวสวยมากครับ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสระว่ายน้ำและสปาก็เป็นที่ประทับใจในหมู่ผู้ใช้บริการ ส่วนอาหารของโรงแรมก็ได้ตอบรับในแง่บวก โดยรวมแล้วที่นี่เป็นโรงแรมอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจ ถ้าคุณอยากได้ประสบการณ์สุดพิเศษที่เกาะคาปรีครับ

ในกรณีที่ให้ผมเอ่ยถึงจุดด้อย ผมมองว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ตั้งที่ไม่ได้สะดวกต่อการเดินชมเมือง ซึ่งถ้าคุณไม่ต้องการจะเดิน แท็กซี่เป็นตัวเลือกเดียวที่มีอยู่ครับ

3. Luxury Villa Excelsior Park

Luxury Villa Excelsior Park หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Excelsior Parco เป็นโรงแรมหรูที่สร้างขึ้นเหนือวิลล่าโรมันเก่าแก่ในปี ค.ศ.1906 โดยได้รับการ renovate ในแบบ Art Nouveau ที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น

แต่ละส่วนของโรงแรมตลอดจนห้องพักได้รับการประดับประดาด้วย stucco (ปูนขาวผสมทรายและหินอ่อน) ที่มีลวดลายดอกไม้ที่วิจิตรยิ่ง หลังจากการบูรณะเสร็จสิ้น โรงแรมได้รับการยกย่องว่าเป็นวิลล่าแบบ Liberty Style (หรือเรียกได้ว่าเป็น Art Nouveau แบบอิตาเลียน) อันดับต้นๆ ของเกาะคาปรีเลยครับ

ในส่วนของที่ตั้งนั้น โรงแรมอยู่ติดกับ Villa Marina Capri Hotel & Spa เพราะฉะนั้นจะห่างจากท่าเรือประมาณ 600-700 เมตรเท่ากัน ส่วน Piazzetta จะห่างไปเกือบหนึ่งกิโลเมตรครับ ถ้าอยากเดินชมเมืองหรือหาอะไรทาน คุณจะต้องนั่งแท็กซี่ไม่ต่างกันครับ

  • ที่ตั้ง: Via Marina Grande, 179, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/12.00
  • รถผ่านหน้าโรงแรมได้

ห้องพัก

อย่างที่ผมได้ให้ข้อมูลไปแล้วด้านบน ห้องของที่นี่ทุกห้องจะเป็นแบบ Art Nouveau ที่มีความสวยสะดุดตา เพราะฉะนั้นบรรยากาศในห้องจะเหมือนกับคุณได้ย้อนยุคไปเป็นชนชั้นสูงยุโรปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ครับ

ทั้งนี้ในโรงแรมมีห้องพักแค่ 11 ห้องเท่านั้น โดยรูปแบบห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วยดังต่อไปนี้

  • Classic – 22-24 ตร.ม. มีห้องชั้นบนและชั้นล่างให้เลือก ห้องชั้นบนจะเล็กกว่าเล็กน้อย และมีหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้คุณชมสวนสวยของโรงแรม ส่วนชั้นล่างจะมีลานแบบ patio ให้คุณชมสวนครับ
  • Deluxe Sea View – 21-33 ตร.ม. ห้องสไตล์ Art Nouveau ที่มีพื้นห้องระบายมือ majolica อันมีชื่อเสียงของ Capri และยังมีระเบียงชมวิวทะเลขนาดใหญ่อีก 5 ตร.ม.ด้วยครับ บางห้องจะมีจากุชชี่แบบ outdoor ให้แช่แบบฟินๆ ครับ
  • Deluxe Garden View – 26-35 ตร.ม. ห้องนี้จะมีการตบแต่งที่ผสมผสานระหว่าง Art Nouveau กับศิลปกรรมแบบตะวันออก ทำให้ห้องมีความ unique ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ตัวห้องมีลานส่วนตัวแบบ patio เช่นเดียวกับจากุชชี่แบบ outdoor ครับ
  • Deluxe 1906 Sea View Terrace and Outdoor Jacuzzi – 48 ตร.ม. (รวมพื้นที่ระเบียงประมาณ 20 ตร.ม.แล้ว) ห้องที่เจ้าของบ้านเคยใช้เป็นห้องนอนมาก่อน มีระเบียงขนาดใหญ่พร้อมด้วยจากุชชี่ครับ

ขนาดห้องที่นี่ถือว่าปานกลางในทุกระดับ ห้องระดับเริ่มต้นถือว่าใกล้เคียงกับมาตรฐานของโรงแรม 4-5 ดาวในคาปรี แต่ห้องระดับ high-end จะเล็กไปหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะว่าไม่ได้มีห้องระดับสวีทที่ใหญ่โอ่โถงจริงๆ ให้จองเหมือนกับที่อื่นครับ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะข้อจำกัดเรื่องอาคารเก่านั่นเอง

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Smart TV ไดร์เป่าผม อุปกรณ์อาบน้ำ เก้าอี้และโซฟา ฯลฯ ช่วยให้คุณพักผ่อนได้อย่างราบรื่นครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหาร (เสิร์ฟบุฟเฟต์ในช่วงเช้า), บาร์ และ Lounge Terrace
  • สิทธิ์ในการใช้ฟิตเนสเซนเตอร์ใกล้กับ Piazzetta ได้ฟรี (อยู่นอกโรงแรม)
  • บริการนวดและโยคะ
  • กิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ เช่นเรียนทำอาหารอิตาเลียน ล่องเรือ นั่งเฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ
  • บริการรถรับส่งไปยังย่านการค้าของเกาะคาปรี

สรุป

จุดเด่น

  • ได้รับรางวัล Top 25 Small Hotels และ Top 25 Luxury Hotels จาก TripAdvisor
  • ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือหลักและหาด Spiaggia Marina Grande
  • ตั้งอยู่ในอาคารที่ความโดดเด่นทางด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม
  • ห้องพักสวยมีเสน่ห์ มีบรรยากาศสุดโรแมนติก และพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าที่หลากหลายและรสชาติดีมาก
  • พนักงานเป็นมิตร และให้บริการทุกสิ่งอย่างยอดเยี่ยม
  • ราคาไม่สูงเท่าตัวเลือกระดับเดียวกัน

Luxury Villa Excelsior Park

โรงแรมระดับ 5 ดาวที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติกอันเนื่องมาจากตั้งอยู่ในอาคารสไตล์ Art Nouveau ที่งดงามยิ่ง ตัวห้องอาจจะดูกะทัดรัดไปบ้างซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับโรงแรมที่ตั้งอยู่ในอาคารสมัยก่อน แต่ก็พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี และมี vibe ที่ใช่สำหรับการพักผ่อน ส่วนอาหารเช้าและการบริการโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมครับ

4. Hotel la Minerva

Hotel la Minerva เป็นโรงแรมแบบ boutique hotel ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของเกาะคาปรี เพราะฉะนั้นจะหันหน้าออกไปยังทะเล Tyrrhenian Sea อันกว้างใหญ่ ตัวโรงแรมอยู่ห่างจาก Piazzetta di Capri ไปแค่ 550 เมตรเท่านั้น ช่วยให้คุณหาอะไรรับประทานได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินหรือนั่งแท็กซี่ไกลจนเกินไปครับ

นอกจากนี้แลนด์มาร์กของเกาะคาปรีอย่างสวน Giardini di Augusto และถนน Via Krupp ล้วนอยู่ห่างจากโรงแรมไปแค่ 500 เมตรเท่านั้น เพราะฉะนั้นคุณสามารถเดินไปถ่ายรูปชมวิวได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน แม้ว่าจะทำเลจะดีขนาดนี้ แต่รอบโรงแรมค่อนข้างเงียบสงบและไม่พลุกพล่าน เหมาะต่อการพักผ่อนอย่างยิ่งเลยครับ

วิธีการเดินทางไปโรงแรมที่ง่ายที่สุดคือนั่งรถกระเช้าไฟฟ้าจากท่าเรือไปยัง Piazzetta แล้วเดินไปโรงแรมครับ แต่ถ้ากระเป๋าหนักจริงๆ แท็กซี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดครับ

  • ที่ตั้ง: Via Marino Occhio, 8, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 14.00/11.00
  • รถผ่านไม่ได้

ห้องพัก

ด้วยความที่เป็น boutique hotel ห้องของที่นี่จะมีแค่ 19 ห้องเท่านั้น โดยทุกห้องเพิ่งจะได้รับการ renovate ไม่นานมานี้ในสไตล์ร่วมสมัยที่ผสมผสานกับศิลปกรรมท้องถิ่นของเกาะคาปรี เช่นกระเบี้อง Majolica อย่างดี เช่นเดียวกับเซรามิกที่ทำโดยช่างฝีมือเยี่ยมชาวอิตาเลียนครับ

จุดเด่นของที่นี่อีกอย่างหนึ่งคือห้องเกือบทั้งหมดนั้นจะตั้งอยู่บนภูเขาและหันหน้าออกทะเล เพราะฉะนั้นคุณจะชมทัศนียภาพอันอลังการของท้องทะเล Tyrrhenian Sea อย่างจุใจผ่านระเบียงส่วนตัว โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นที่จะสวยเป็นพิเศษเลยครับ

ทั้งนี้รูปแบบห้องที่มีให้จองประกอบด้วย (ข้อมูลพื้นที่ในแต่ละห้องของที่นี่จะยังไม่รวมพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ เว้นแต่เพียงห้อง Standard ที่ไม่มีระเบียงครับ)

  • Standard – 14-18 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ไม่มีระเบียง และวิวทะเล โดยจะมีหน้าต่างที่เห็นวิวด้านในของโรงแรมเท่านั้น โดยส่วนตัวแล้วผมไม่แนะนำให้จองครับ
  • Superior – 25-30 ตร.ม.
  • Deluxe – 30 ตร.ม. ห้องนี้ได้รับความนิยมในหมู่คู่รักที่ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ส่วนหนึ่งเพราะว่ามีห้องน้ำที่มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เห็นวิวทะเลอันสวยงาม
  • Emma Premier Room – 37 ตร.ม. ห้องนี้มีจุดเด่นคืออยู่ชั้นล่างสุดในบรรดาทุกห้อง ทำให้ห้องนี้ใกล้กับสวนสวยของโรงแรมมากที่สุด
  • Laura Junior Suite – 40 ตร.ม.

ขนาดห้องพักจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับ Boutique hotel แต่ก็ให้พื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสมเพียงพอกับคู่รักหรือนักเดินทางที่มาด้วยกัน 2 ท่านครับ ขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าดีมาก ไม่ว่าจะเป็น Smart TV อุปกรณ์อาบน้ำเกรดพรีเมียมของแบรนด์ Carthusia Capri ไปจนถึงรองเท้าแตะ โต๊ะทำงาน ฯลฯ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารและบาร์ (ตัวร้านจะเป็นแบบ Terrace ที่เห็นวิวทะเลอันสวยงาม)
  • สระว่ายน้ำแบบ outdoor
  • บริการนวด
  • ใช้บริการห้องฟิตเนสฟรีที่ Athena Gym ใกล้กับโรงแรม
  • บริการรับส่งจากท่าเรือ (ไม่ฟรี)

สรุป

จุดเด่น

  • ทำเลดี ใกล้กับ Piazzetta และร้านค้าต่างๆ เช่นเดียวกับ Giardini di Augusto อันเป็นแลนด์มาร์กของเกาะคาปรี
  • ตั้งอยู่บนหน้าผาเหนือท้องทะเล ทำให้เห็นวิวมุมสูงที่สวยมาก
  • ผู้เข้าพักหลายคนชื่นชอบบรรยากาศและ vibe ของโรงแรม
  • ห้องส่วนใหญ่มีวิวทะเล สะอาด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าที่ผู้เข้าพักประทับใจ
  • พนักงานให้การช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างดีเยี่ยม

Hotel la Minerva

โรงแรมแบบ boutique hotel ที่ตั้งอยู่บนชะง่อนผาหันไปทางใต้ของเกาะคาปรี ทำให้เห็นวิวสวยๆ ได้อย่างเต็มๆ ตา และยังใกล้กับย่านการค้าและจัตุรัสสำคัญของเกาะ ช่วยให้สะดวกต่อการเดินเล่นและหาอะไรรับประทาน ด้านห้องพักนั้นอาจจะไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็สะอาด มีทุกสิ่งครบ และมีบรรยากาศสุดโรแมนติกเหมาะกับคู่รักเป็นอย่างยิ่ง อาหารเช้าและการบริการโดยรวมก็ยอดเยี่ยมด้วยครับ

อย่างไรก็ดีโรงแรมจะอยู่ค่อนข้างไกลจากท่าเรือ และอยู่ในส่วนที่รถผ่านไม่ได้ เพราะฉะนั้นการเดินทางไปโรงแรมจะยากพอสมควรครับ

5. Casa Morgano Hotel

Casa Morgano Hotel เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวของตระกูล Morgano ที่เป็นเจ้าของโรงแรมแบบ boutique hotel ในประเทศอิตาลีมาหลายชั่วอายุคน ตัวโรงแรมอยู่ในย่านเดียวกับ Hotel Scalinatella เพราะฉะนั้นวิวท้องทะเลจากบริเวณนี้จึงสวยไม่แพ้กัน และยังให้คุณเข้าถึง Piazzetta (600 เมตร) และร้านขายสินค้าอื่นๆ บนถนน Via Camerelle อย่างไม่ยากเย็นครับ

สำหรับวิธีการเดินทางไปโรงแรมที่ง่ายที่สุดคือใช้บริการรถกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยัง Piazzetta และเดินไปยังโรงแรม ซึ่งจะใช้เวลาเดินประมาณ 8-9 นาทีครับ ทั้งนี้คุณสามารถให้ตัวแทนของทางโรงแรมจะไปรอคุณที่ท่าเรือ เพื่อที่จะนำกระเป๋าไปที่โรงแรมให้กับคุณได้ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ

  • ที่ตั้ง: Via Tragara, 6, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/12.00
  • รถผ่านไม่ได้

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ตบแต่งในแบบ Mediterranean Style ที่ผสานวัฒนธรรมของเกาะคาปรีลงไปอย่างลงตัว โดยจะเสริมด้วยกระเบื้อง Majolica ลวดลายสวย ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์แนว antique (เช่น Chandelier) ที่ยกระดับความหรูหราอลังการครับ

  • Double Classic/Superior – 25 ตร.ม.
  • Deluxe Double – 35 ตร.ม.
  • Junior Suite – 45 ตร.ม.
  • Deluxe Junior Suite – ขนาดไม่ระบุ แต่น่าจะใหญ่กว่าห้อง Junior Suite ทั่วไปพอสมควร
  • Villa – ขนาดไม่ระบุ แต่วิลล่าจะเป็นอาคารแบบสองชั้นที่พักได้สูงสุด 5 คน ในห้องมีครัว ระเบียง และสวนส่วนตัว

ในส่วนของเรื่องวิวนั้น ห้องทุกห้องยกเว้น Double Classic/Superior จะเห็นวิวทะเลอันสวยงามของเกาะคาปรีได้อย่างเต็มๆ ตาผ่านหน้าต่างบานใหญ่แบบ floor-to-ceiling เพราะฉะนั้นเรื่องทัศนียภาพไม่มีด้อยกว่าที่อื่นเลยครับ

ส่วนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน ตั้งแต่ทีวีพร้อมระบบดาวเทียม รองเท้าแตะ อุปกรณ์อาบน้ำ ห้องน้ำที่ทำมาจากหินอ่อนพร้อมอ่างอาบน้ำ รับรองได้ว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงความหรูหรา และได้รับความสบายอย่างเต็มเปี่ยมครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารของโรงแรม (เสิร์ฟแบบ continental breakfast ในช่วงเช้า)
  • สระว่ายน้ำกลางแจ้งและห้องฟิตเนส
  • บริการ Boat Trips

สรุป

จุดเด่น

  • ทำเลดี ไม่ไกลจาก Piazzetta และร้านรวงต่างๆ
  • ห้องพักส่วนใหญ่เห็นวิวทะเล และมีหน้าต่างแบบ floor-to-ceiling
  • ตัวห้องสวยงามหรูหรา สะอาดแบบไร้ที่ติ และมี facilities ที่ดี
  • วิวทะเลจากสระว่ายน้ำ และห้องพักส่วนมากงดงามยิ่ง
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าแบบ continental (ให้เสิร์ฟในห้องพักได้)
  • พนักงานเอื้อเฟื้อ และให้บริการอย่างดีเยี่ยม

Casa Morgano Hotel

โรงแรมขนาดเล็กที่มีบรรยากาศที่หรูหราโรแมนติก ห้องพักของที่นี่สวยงาม และส่วนมากมีวิวอันสุดอลังการให้คุณชมได้อย่างเต็มอิ่มแบบไม่ต้องออกไปที่ใด แต่ถ้าอยากไปช้อปปิ้งหรือหาอะไรทานก็ง่ายมาก เพราะ Piazzetta ใช้เวลาเดินไปแค่ไม่กี่นาที ด้านอาหารและการบริการก็ยอดเยี่ยมอีกด้วยครับ

6. Hotel la Floridiana Capri

Hotel la Floridiana Capri เป็นโรงแรม 4 ดาวที่น่าจะเรียกได้ว่าน่าสนใจมากสำหรับนักเดินทางทั่วไป เพราะให้ประสบการณ์ชั้นยอดในการพักที่คาปรี แต่คุณไม่ต้องจ่ายแพงในระดับ 5 ดาวครับ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ห่างจาก Piazzetta ประมาณ 550 เมตร และอยู่ในละแวกเดียวกับโรงแรม 5 ดาวอย่างเช่น Hotel la Minerva เพราะฉะนั้นเรื่องความสวยงามของทิวทัศน์ย่อมไม่ได้ด้อยกว่าเลยครับ

  • ที่ตั้ง: Via Campo di Teste, 16, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/12.00
  • รถผ่านไม่ได้

ห้องพัก

ห้องที่นี่ทุกห้องได้รับการดีไซน์แบบ Capri Style โดยผนัง เพดานและส่วนต่างๆ ของห้องจะใช้สีขาวเป็นหลัก แต่เฟอร์นิเจอร์จะใช้เป็นสีน้ำเงิน และสีครามตามสีท้องทะเลของเกาะคาปรี เสริมด้วยลวดลายดอกไม้ของกระเบื้องระบายมืออันมีชื่อเสียง ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมผ่อนคลาย และให้คุณเสพความสุขตามคอนเซปต์ La Dolce Vita ครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

  • Classic – 18 ตร.ม.
  • Comfort – 20-22 ตร.ม.
  • Superior – 25-30 ตร.ม.
  • Deluxe/Deluxe Top Floor – 22-30 ตร.ม. ห้อง Top Floor จะเห็นวิวทะเลทั้งหมด แต่จะเล็กกว่า Deluxe ธรรมดาพอสมควร และห้องธรรมดาจะมี outdoor jacuzzi ให้แช่ตัวพร้อมชมวิวสวยๆ ด้วยครับ
  • Deluxe Superior – 30-34 ตร.ม.
  • Prestige – 34-40 ตร.ม.

สำหรับห้อง Classic และ Comfort นั้นจะเห็นแค่วิวตัวเมืองโดยรอบ และสวนของโรงแรมเท่านั้น ส่วนห้องอื่นๆ จะเห็นวิวทะเลอย่างสวยงาม ทว่าไม่ว่าห้องไหนก็ตามก็จะมีระเบียงให้คุณออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ รวมไปถึงยืดเส้นยืดสายในยามเช้าครับ ส่วนขนาดห้องนั้นจะเล็กกว่าโรงแรม 5 ดาวพอสมควร แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินไป คุณยังคงพักผ่อนได้อย่างสบายยิ่งครับ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าครบถ้วนดี ไม่ว่าจะเป็น LCD TV พร้อมระบบดาวเทียม อุปกรณ์อาบน้ำ มินิบาร์ ไดร์เป่าผม ฯลฯ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารของโรงแรม
  • สระว่ายน้ำกลางแจ้งและสระน้ำวนพร้อมด้วย poolside bar
  • Solarium สำหรับนั่งอาบแดดและชมวิวทะเล
  • ใช้บริการ Athena Gym ที่อยู่ใกล้กับโรงแรมฟรี
  • บริการทัวร์และเช่าสกูตเตอร์

สรุป

จุดเด่น

  • ทำเลดี ไม่ไกลจาก Piazzetta และร้านรวงต่างๆ
  • ทุกห้องพักมีระเบียงชมวิว + ผู้เข้าพักจำนวนมากประทับใจบรรยากาศในโรงแรม
  • ตัวห้องสะอาดมาก กว้างพอใช้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าที่ได้รับคำชมเรื่องคุณภาพอย่างล้นหลาม
  • พนักงานมีน้ำใจ สุภาพ และให้การช่วยเหลืออย่างดีมาก
  • ราคาต่อคืนเหมาะสม

Hotel la Floridiana Capri

โรงแรม 4 ดาวบรรยากาศดีที่อยู่ในทำเลที่ผู้เข้าพักได้ชมวิวสวยๆ และเดินเที่ยวชมเกาะคาปรีได้อย่างสะดวกสบาย ห้องพักของที่นี่ใหญ่ได้มาตรฐานของโรงแรม 4 ดาว และมี facilities ชั้นยอด ส่วนอาหารเช้าก็หลากหลายและรสชาติ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องการบริการที่ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของที่พักแห่งนี้ครับ

คุณจะได้รับทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 50% หรือ 25% ของโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งโดยรวมแล้วผมมองว่าเกินคุ้มครับ

7. Capri Tiberio Palace

Capri Tiberio Palace เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ได้ชื่อมาจากจักรพรรดิ Tiberius แห่งโรมที่เคยโปรดปรานเกาะคาปรีเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นแทบจะการันตีได้เลยในเรื่องความหรูหราอลังการครับ ตำแหน่งของโรงแรมอยู่ตรงกลางของเกาะคาปรีพอดี ทำให้ไม่ไกลจากทั้งท่าเรือและ Piazzetta จนเกินไป ทั้งนี้คุณสามารถนั่งรถกระเช้าขึ้นมาจากท่าเรือ และเดินไปอีกประมาณ 400 เมตรก็จะถึงโรงแรมครับ

  • ที่ตั้ง: Via Croce, 11-15, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/12.00
  • รถผ่านไม่ได้

ห้องพัก

ลักษณะของโรงแรมเป็นแบบ boutique hotel ที่มีคอนเซปต์ชัดเจน โดยจะใช้คอนเซปต์ “La Dolce Vita” หรือชีวิตที่อุดมไปด้วยความสุขและความหรูหรา ร่วมกับแนวการออกแบบสไตล์ร่วมสมัย และศิลปะท้องถิ่นแบบ Caprese ของเกาะคาปรีครับ

สีที่ใช้ในห้องจะเป็นสี turquoise และสีเหลืองแบบ Saffron ที่เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายโดยนัยถึงธรรมชาติรอบเกาะ เช่นเดียวกับสีฉูดฉาดอื่นๆ ที่ดูแล้วสดใส ส่วนเฟอร์นิเจอร์จะเป็นสไตล์ vintage อันมีที่มาจากทั่วโลก ทำให้ตัวห้องดูสวยไม่เหมือนใคร เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากได้ประสบการณ์แบบ luxury ครับ

นอกจากนี้หนึ่งสิ่งที่ทำให้ที่นี่ต่างกับที่อื่นคือ แม้แต่ระเบียงของตัวห้องก็จะปูด้วยกระเบื้อง Majolica ที่มีลวดลายสวยงามโดดเด่น ส่วนห้องน้ำก็จะทำมาจากหินอ่อนอย่างดี สิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวห้องสวยมาก เหมาะกับการถ่ายรูปลง social network หรือว่าทำ content ครับ

ระดับห้องของที่นี่จะเป็นสวีทเกือบทั้งหมด โดยรูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

  • Superior – 20-25 ตร.ม. ห้องนี้จะไม่เห็นวิวทะเล ทว่าจะมีระเบียงที่เห็นวิวตัวเมืองโดยรอบ
  • Deluxe – 30-35 ตร.ม. เห็นวิวทะเล มีระเบียงชมวิวพร้อมโต๊ะอาหาร
  • Junior Suite – 40-50 ตร.ม. ห้องนี้ไม่เห็นวิวทะเล เช่นกัน โดยจะเห็นสวนของโรงแรม หรือว่าตัวเมืองบนเกาะคาปรีครับ (เลือกได้) แต่ว่าจะมีระเบียงอันสวยงามที่ปูด้วยกระเบื้อง Majolica ที่ให้คุณออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อผ่อนคลายได้
  • Studio Suite – 50-55 ตร.ม. ห้องนี้มีระเบียงที่เห็นวิวทะเล ดีไซน์จะเน้นสีสันแสบตา
  • Terrace Suite – 50-60 ตร.ม. มีระเบียงที่เห็นวิวทะเล โดยระเบียงเป็นแบบ Terrace ที่มีขนาดใหญ่ โดยจะมี sunbed ให้คุณนอนเล่นชมวิวทะเลครับ
  • Comfort Suite – 65-70 ตร.ม. ดีไซน์ห้องนี้จะเน้นการใช้สีที่ดูฉูดฉาดหลากหลาย ทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ในบริเวณห้องมีสวนส่วนตัว แต่ไม่เห็นวิวทะเลครับ
  • Suite – 70/75 ตร.ม. มีระเบียงขนาดใหญ่ที่เห็นวิวทะเลของ Marina Piccola Bay โดยบางห้องจะมีขนาดระเบียงใหญ่ถึง 20 ตร.ม.
  • Chantecler Suite – 95 ตร.ม. ห้องสวีทที่เป็นการ collab กับแบรนด์เครื่องประดับอย่าง Chantecler โดยการแต่งห้องจะใช้ของตกแต่งแบบยุค 1950 อันเป็นช่วงเวลาที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องประดับเคยพำนักอยู่ที่เกาะคาปรีครับ
  • Bellevue Suite – 250 ตร.ม. ห้องสวีทขนาดใหญ่ที่ใช้ theme แบบ Hollywood Diva ด้านในตัวห้องจะมีห้องฟิตเนสส่วนตัว สระว่ายน้ำส่วนตัวแบบ outdoor เช่นเดียวกับ rooftop ขนาดใหญ่ที่ให้คุณชมวิวสวยๆ อย่างเต็มอิ่ม

นอกจากห้อง Superior ระดับเริ่มต้นที่จัดว่าเล็กไปหน่อยแล้ว ห้องระดับสูงขึ้นมาล้วนแต่ใหญ่สมศักดิ์ศรีของที่พักระดับ luxury โดยเฉพาะห้องระดับสวีทที่ถือว่าใหญ่กว่าที่อื่นอย่างชัดเจนครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นก็จัดเต็ม ไม่มีอะไรบกพร่องครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารและบาร์ที่ให้วัตถุดิบท้องถิ่นของเกาะคาปรี (ทางโรงแรมว่าใช้ ‘zero kilometer approach’ หรือวัตถุดิบสดใหม่ที่ได้จากสวนของทางโรงแรมเอง ส่วนโปรตีนก็ใช้ปลาที่จับจากน่านน้ำของเกาะคาปรีครับ)
  • สระว่ายน้ำแบบในร่ม
  • บริการสปา นวด และทรีตเมนต์แบบครบวงจร
  • บริการ Concierge ทัวร์ส่วนตัว และกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ
  • บริการรับส่งแบบ luxury จากเมืองเนเปิลส์หรือกรุงโรม (นั่ง Hydrofoil ส่วนตัว มีรถรับส่งเสร็จสรรพ ราคาเริ่มต้นที่ 340 ยูโรต่อคน)

สรุป

จุดเด่น

  • Location ดี ใกล้กับ Piazzetta ร้านอาหาร และสถานีรถกระเช้า
  • ดีไซน์การตบแต่งของแต่ละห้องพักสวยมีสไตล์ โดยเฉพาะบริเวณระเบียง
  • ห้องพักส่วนใหญ่เป็นระดับสวีทที่กว้างขวาง สะอาด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้า (ซึ่งรสชาติดี และเสิร์ฟจนถึง 11.30 ทำให้ตอบโจทย์ใครที่ไม่อยากตื่นเช้า)
  • การบริการโดยรวมของพนักงานไร้ที่ติ ทั้งเป็นมิตรและเอาใจใส่ทุกรายละเอียด

Capri Tiberio Palace

โรงแรมระดับ luxury ที่ให้ประสบการณ์การพักระดับเลอค่า ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่ตบแต่งอย่างประณีตและแสดงออกถึงความเป็นคาปรีอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีเยี่ยม อาหารเช้าโอชารสและหลากหลาย การบริการที่เอาใจใส่ทุกกระเบียดนิ้ว แน่นอนว่าเรื่องราคาย่อมสูงกว่าที่อื่น แต่ถ้าคุณอยากได้ experience ที่ดีที่สุด ที่นี่ย่อมอยู่ในตัวเลือกที่คุณควรจะพิจารณาครับ

8. Grand Hotel Quisisana

Grand Hotel Quisisana เป็นโรงแรม 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนถนน Via Camerelle ที่มีแบรนด์ชื่อดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Saint Laurent, Balenciaga และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆ ของใครที่ชอบเดินช้อปปิ้งหรือเลือกซื้อสินค้าอย่างกระเป๋า รองเท้า เครื่องแต่งกาย ฯลฯ ส่วนร้านอาหารและคาเฟ่ก็มีให้เลือกใกล้ๆ อย่างหลากหลายครับ

นอกจากนี้ Piazzetta ยังห่างจากโรงแรมแค่ 240 เมตร ดังนั้นคุณสามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้าจากท่าเรือไปลงที่ Piazzetta และเดินไปยังโรงแรม ภายในเวลาไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วครับ

  • ที่ตั้ง: Via Camerelle, 2, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/12.00
  • รถผ่านไม่ได้

ห้องพัก

โรงแรมมีประวัติความเป็นมาเกินกว่า 150 ปี โดยเปิดรับนักเดินทางครั้งแรกในปี ค.ศ.1845 ปัจจุบันโรงแรมได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย โดยสไตล์การแต่งห้องจะเป็นแบบโมเดิร์นที่มี Mediterranean touch ผสมผสานลงไปพอสมควร ทั้งนี้ห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้ครับ

  • Standard/Deluxe – 18-20 ตร.ม. ห้อง Standard จะเห็นวิวส่วนของตัวหมู่บ้านในเกาะคาปรี โดยจะไม่มีระเบียง ส่วน Deluxe จะมีระเบียงที่เห็นสวนและสระว่ายน้ำ โดยมีท้องทะเลเป็นฉากหลังไกลๆ ครับ
  • Superior – 23-26 ตร.ม. เห็นวิวหมู่บ้านเหมือน Standard แต่ขนาดห้องจะใหญ่กว่า และมีระเบียงชมวิว
  • Premier Deluxe – 30-34 ตร.ม. เหมือนกับ Deluxe แทบจะทุกประการ แต่ห้องใหญ่กว่า
  • Junior Suite Park – 35-40 ตร.ม. มีให้เลือกระหว่างวิวสวนหรือวิวทะเล
  • Suite – 50 ตร.ม. เห็นวิวของ Faragiloni และ Garden of Augustus แต่วิว Faraglioni จะไม่ได้ชัดเจนเหมือนกับที่ Hotel Punta Tragara
  • Private Villa – ขนาดไม่ระบุ แต่พักได้สูงสุดถึง 6 คน

พื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องถือว่าค่อนข้างเล็ก โดยถ้าเทียบกับโรงแรม 5 ดาวอื่นๆ ถือว่าเล็กกว่าพอสมควร แต่ยังถือว่าพอได้สบายๆ สำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่านที่มีสัมภาระไม่เยอะนัก ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานจัดว่าครบเครื่อง โดยห้องสวีทนั้นจะมีเครื่องทำกาแฟและสระน้ำวนเสริมเข้ามา เพื่อให้พักผ่อนได้อย่างสบายที่สุดครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารและบาร์
  • สระว่ายน้ำแบบในร่ม + ซาวน่าและ Turkish Bath
  • บริการนวด ทรีตเมนต์ และ Hair Salon
  • ห้องประชุมและสัมมนา
  • บริการทัวร์

สรุป

จุดเด่น

  • ใกล้กับร้านค้าแบรนด์เนมมากมายบนถนน Via Camerelle และ Piazzetta
  • ห้องพักสะอาดมากและมี facilities ครบครัน
  • วิวจากห้องพักส่วนใหญ่สวยงาม โดยเฉพาะห้องสวีทที่เห็น Faraglioni
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าแบบบุฟเฟต๋ที่มีเมนูหลากหลาย และรสชาติดี
  • พนักงานให้การดูแลทุกบริบทอย่างดีเลิศ

Grand Hotel Quisisana

ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครที่ชอบเดินช้อปปิ้ง หรือสัมผัสกับแสงสีและความครึกครื้นของ Piazzetta เพราะนี่เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนถนนคนเดิน และใกล้กับศูนย์กลางของเกาะคาปรีมากที่สุด ตัวห้องพักอาจจะไม่ได้กว้างหรือใหม่เอี่ยมเหมือนกับที่พักบางแห่ง แต่ก็สะอาดมาก และมีทุกสิ่งที่จำเป็น

ในส่วนของอาหารเช้าก็หลากหลายและคุณภาพดี ส่วนพนักงานล้วนแต่ดูแลเอาใจใส่อย่างสุภาพ เป็นมิตร และมีความเป็นมืออาชีพ ทำให้เป็นที่พักที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งเลยครับ

9. Hotel Punta Tragara

Hotel Punta Tragara เป็นที่พักที่อยู่ทางใต้สุดของเกาะคาปรี และสุดถนนคนเดินอย่าง Via Tragara เพราะฉะนั้นจะค่อนข้างไกลจาก Piazzetta (1 กิโลเมตร) รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ แต่สิ่งที่คุณได้รับคือ วิวสวยๆ ของ Faraglioni ที่แทบไม่มีที่พักแห่งอื่นจะให้ได้ นอกจากนี้บริเวณโรงแรมจะเงียบสงบมาก ซึ่งเหมาะกับการพักผ่อนอย่างที่สุดเลยครับ

  • ที่ตั้ง: Via Tragara, 57, 80073 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 16.00/12.00
  • รถผ่านไม่ได้

ห้องพัก

ห้องพักแต่ละห้องได้รับการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัย แต่ว่าสอดแทรกเทคนิคแบบท้องถิ่นเข้าไปด้วย อาทิเช่นการใช้โค้ง (arched design) หรือลวดลายของพืชพรรณแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งช่วยเพิ่มองค์ประกอบแบบ luxury ที่ทำให้ตัวห้องดูหรูหรายิ่งขึ้น ทั้งนี้ห้องที่มีให้เลือกจองมีดังต่อไปนี้

  • Prestige/Superior – 25 ตร.ม. ห้องทั้งสองแบบจะไม่ได้หันหน้าออกทะเล แต่จะได้วิวของ Marina Piccola หรือแนวภูเขาอันสวยงามของเกาะคาปรีครับ
  • Double/Master Deluxe – 30/35 ตร.ม. ห้องหลังจะเหนือว่าตรงที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย แต่มีห้องน้ำแบบหินอ่อน
  • Junior Suite – 36 ตร.ม.
  • Suite – 45-90 ตร.ม. ห้องสวีทของที่นี่แยกได้ลงไปอีกหลายแบบ ซึ่งแต่ละห้องจะแตกต่างกันมากนัก โดยส่วนมากจะอยู่ที่พื้นที่ใช้สอยครับ แต่ทุกห้องจะเป็นวิวอ่าวเนเปิลส์ และ Faraglioni จากห้องพัก สิ่งนี้คือไฮไลท์ของที่นี่อย่างแท้จริง เพราะบริเวณนี้จะสวยมากในช่วงเช้าและเย็นครับ

จุดเด่นสำคัญของที่นี่คือห้องพักทุกห้องจะมีระเบียง ดังนั้นคุณจะได้ชมวิวอย่างเต็มอิ่มอย่างแน่นอน ด้านพื้นที่ใช้สอยอาจจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับโรงแรมบางแห่ง แต่ก็ถือว่าเท่ากับมาตรฐานของโรงแรม 5 ดาวทั่วไป เรื่องความอึดอัดจึงไม่น่าใช่เรื่องที่ต้องเป็นห่วงครับ

เรื่องวิวคือสิ่งที่ดีงามที่สุดของที่นี่ เพราะว่าห้องระดับเริ่มต้นก็ได้เห็นวิวที่สวยงามของ Marina Piccola ส่วนห้อง Deluxe และ Junior Suite ก็จะได้เป็น Sea view ส่วนห้องสวีทจะดีที่สุด เพราะเห็น Faraglioni นั่นเองครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • ร้านอาหารและบาร์ (ร้าน Le Monzu ของที่นี่ได้รับดาวมิชลิน 1 ดวง)
  • ห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำกลางแจ้ง
  • บริการนวดและทรีตเมนต์
  • ห้องจัดอีเวนต์

สรุป

จุดเด่น

  • เห็นวิว Faraglioni จากโรงแรมได้ + ทุกห้องพักมีระเบียงชมวิว
  • บรรยากาศบริเวณโรงแรมเงียบสงบ ปราศจากความพลุกพล่าน
  • ห้องพักสวยงาม สะอาด ใหญ่พอตัว และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้ารสชาติเยี่ยม + ร้านอาหารในโรงแรมเป็นระดับมิชลินสตาร์
  • พนักงานให้บริการทุกสิ่งอย่างดีมาก

Hotel Punta Tragara

สุดยอดโรงแรมที่เป็นที่พักเพียงไม่กี่แห่งที่ให้คุณชมวิวสวยๆ ของ Faraglioni ได้อย่างเต็มๆ ตาทั้งจากห้องพักระดับสวีทและร้านอาหาร แถมบริเวณโดยรอบยังเงียบมาก เหมาะกับใครที่ชอบนอนหลับตาริมระเบียง และฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งครับ ตัวห้องพักกว้างขวางพอสมควร และได้รับการดีไซน์อย่างสวยงามทันสมัย ส่วนร้านอาหารของการันตีด้วย 1 ดาวมิชลิน ขณะที่การบริการก็ถือว่าสมบูรณ์แบบครับ

จุดด้อยของที่นี่คือทำเลที่ไกลจาก Piazzetta แถมรถยังผ่านหน้าโรงแรมไม่ได้ เพราะฉะนั้นทำให้การเดินทางลำบาก โดยเฉพาะถ้าคุณมีสัมภาระมาก (อาจจะต้องจ้าง Porter ถ้านำไปไม่ไหวครับ)

10. Capri Wine Hotel

Capri Wine Hotel เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวที่ทางเจ้าของโรงแรมได้เปลี่ยนไร่ไวน์อันเป็นกิจการเดิมของครอบครัวให้เป็นโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวในปี ค.ศ.2013 และได้การตอบรับในแง่บวกอย่างล้นหลามจากผู้เข้าพัก จนทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่รีวิวสูงที่สุดในเกาะคาปรีในทุกแพลตฟอร์ม และน่าจะเป็นแห่งที่สูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา หลังจากเขียนบทความโรงแรมเกินกว่า 200 บทด้วยครับ

ทำเลที่ตั้งของโรงแรมอยู่ที่ Via Marina Grande หนึ่งในถนนสายหลักของเกาะคาปรี เพราะฉะนั้นรถสามารถจอดใกล้กับโรงแรม และเดินไปประมาณ 50 เมตรก็ถึงแล้วครับ ซึ่งคุณสามารถแจ้งให้ทางโรงแรมไปรับที่ท่าเรือได้ฟรีอีกด้วย ส่วน Piazzetta ก็ไม่ได้ไกลมาก เพราะห่างจากโรงแรมแค่ 550 เมตรครับ

  • ที่ตั้ง: Via Marina Grande, 69, 80076 Capri NA, Italy
  • Check-in/out: 14.00/11.00
  • รถผ่านใกล้กับโรงแรมได้

ห้องพัก

สไตล์การแต่งห้องจะเป็นแบบ island style ของคาปรีที่เน้นความเรียบง่ายสบายๆ เพราะฉะนั้นตัวห้องอันจะไม่ได้ดูโอฬารเหมือนกับที่พักระดับ 5 ดาว แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายยิ่งครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

  • Single – 10 ตร.ม. ห้องเดี่ยวสำหรับ solo traveler ในห้องเห็นวิวทะเลบางส่วน
  • Standard – 20 ตร.ม. ห้องนี้จะไม่มีวิวทะเล แต่จะตั้งอยู่ติดกับสวนของโรงแรม ซึ่งคุณสามารถออกไปเดินเล่นถ่ายรูปอ่าวเนเปิลส์ได้ครับ
  • Deluxe – 22 ตร.ม. มีระเบียงส่วนตัวที่มีวิวสวยๆ ของท้องทะเล และแนวภูเขาอันสวยงามของคาปรีให้ได้เชยชมอย่างปราศจากข้อจำกัด

เรื่องขนาดห้องนั้น ห้องของที่นี่จะค่อนข้างเล็ก แต่ก็ไม่แปลกอะไรนักสำหรับโรงแรมระดับ 3 ดาวครับ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าใช้ได้ทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโซฟา อุปกรณ์อาบน้ำ ทีวีพร้อมระบบดาวเทียม มินิบาร์ ฯลฯ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • บริการอาหารเช้า (เสิร์ฟในสวนของโรงแรม)
  • Wine Bar
  • สวนแบบอิตาเลียนที่ครอบคลุมทั้งลานแบบ patio ไร่องุ่น และสวนเลมอน
  • บริการรับส่งฟรีจากท่าเรือ
  • บริการ Boat Tours

สรุป

จุดเด่น

  • Location ดี รถผ่านใกล้กับโรงแรมได้ และไม่ไกลจาก Piazzetta + มีบริการรับส่งฟรีจากท่าเรือ
  • บรรยากาศและวิวจากที่พักเป็นที่ประทับใจอย่างท่วมท้นจากผู้เข้าพัก
  • ห้องพักสะอาด ทันสมัย เรียบง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดี
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่หลากหลายและรสชาติดีมากจากฝีมือของเจ้าของโรงแรม
  • เจ้าของและพนักงานให้บริการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันใจ เป็นมิตร และสุภาพ
  • ราคาต่อคืนเหมาะสม

Capri Wine Hotel

โรงแรมที่อาจจะเรียกได้ว่าอยู่ในอุดมคติสำหรับใครที่ชอบที่พักเล็กๆ น่ารัก และให้บริการโดยเจ้าของชาวอิตาเลียนผู้เป็นมิตร บรรยากาศที่โรงแรมเงียบสงบและดูผ่อนคลาย เพราะเป็นแบบสวนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่เขียวชอุ่ม ส่วนวิวท้องทะเลก็มิได้ด้อยกว่าที่ใด

จริงอยู่ว่าห้องพักของที่นี่ไม่ได้ใหญ่ แต่ก็มีทุกสิ่งที่จำเป็น ช่วยให้คุณพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม ส่วนอาหารและการบริการเรียกได้ว่าสุดวิเศษเลยก็ว่าได้ เป็นสองสิ่งที่ได้รับการชื่นชมอย่างเป็นเอกฉันท์ครับ

อย่างไรก็ดีด้วยความที่บริเวณโรงแรมเป็นสวนและไร่ที่มีพืชผลจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณจุดที่เสิร์ฟอาหารเช้า ทำให้ผู้เข้าพักหลายคนรู้สึกว่าถูกคุกคามโดยผึ้ง แต่คุณสามารถแจ้งทางโรงแรมให้จัดการได้ครับ

11. Hotel Caesar Augustus

Hotel Caesar Augustus เป็นโรงแรมชั้นนำของฝั่งอนาคาปรี โดยโรงแรมจะตั้งอยู่บนหน้าผาอันสูงชันที่มองลงไปจะเป็น หาด Spiaggia Marina Grande และพื้นที่บริเวณท่าเรือที่คับคั่งของเกาะ ทางโรงแรมให้คำนิยามว่าเปรียบเหมือนกับรังของนกอินทรีที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของภูเขาหินครับ

เนื่องจากโรงแรมอยู่ที่อนาคาปรี ทางโรงแรมจะมีบริการรถรับส่งจากท่าเรือ แต่ในกรณีที่คุณต้องการจะไป Piazzetta คุณจะต้องนั่งแท็กซี่ไปเองครับ ทว่าร้านอาหารและร้านค้าใกล้โรงแรมก็มีไม่น้อยที่ใจกลางของอนาคาปรี ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมไปแค่ประมาณ 600 เมตรครับ

  • ที่ตั้ง: Via Giuseppe Orlandi, 4, 80071 Anacapri NA, Italy
  • Check-in/out: 15.00/11.00
  • รถผ่านหน้าโรงแรมได้

ห้องพัก

ในอดีตโรงแรมแห่งนี้เคยเป็นของชนชั้นสูงรัสเซียอย่าง Emmanuel Bulhak มาก่อน ผู้เปลี่ยนวิลล่าโบราณให้กับคฤหาสน์ที่สวยงาม โอ่โถง และอลังการ โดยเขาได้ตั้งอนุสาวรีย์ของจูเลียส ซีซาร์ไว้ที่ระเบียงของโรงแรม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อและเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมในเวลาต่อมา

สไตล์ของห้องพักแต่ละห้องจะเป็นแบบร่วมสมัยผสมคลาสสิคที่อุดมไปด้วยกลิ่นอายแบบเมดิเตอร์เรเนียน เพราะฉะนั้นในห้องจะมีครบทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นความหรูหรา บรรยากาศที่น่าผ่อนคลาย และการนำเสนอที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

  • Classic Garden View – 18 ตร.ม. ห้องที่ออกแบบมาสำหรับนักเดินทางแบบท่านเดียว ในห้องจะไม่เห็นวิวทะเล แต่จะเห็นสวนสไตล์อันอุดมสมบูรณ์ของทางโรงแรมครับ
  • Deluxe Sea View – 28 ตร.ม. ทุกห้องมีระเบียงแบบ terrace ที่เห็นวิวทะเล แต่คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการฝั่งหน้าผาหรือไม่ โดยฝั่งหน้าผานั้นจะวิวสวยกว่ามาก เพราะจะเห็นทะเลสีสวยแบบพาโนรามาพร้อมกับแนวภูเขาอันยิ่งใหญ่ของคาปรีครับ
  • Junior Suite – 35-38 ตร.ม. ห้องนี้มีให้เลือกวิวถึงสามแบบ ได้แก่วิวภูเขา วิวทะเลฝั่งหน้าผา และวิวทะเลปกติ ทุกห้องจะมีระเบียงหรือลานแบบ patio ครับ
  • Vesuvio Master Suite – 45 ตร.ม. ห้องพักน้อยแห่งในเกาะคาปรีที่สามารถเห็นภูเขาไฟวิซุเวียส (แห่งที่ทำลายเมืองปอมเปอี) เช่นเดียวกับท้องทะเล จากยอดหน้าผาที่สวยงามยิ่ง
  • Farouk Master Suite – 50 ตร.ม. ห้องนี้ได้รับการตั้งชื่อตามกษัตริย์ฟารุคแห่งอียิปต์ ซึ่งในอดีตพระองค์จะทรงจองห้องพักห้องนี้อย่างผูกขาดตลอดทั้งปี ตัวห้องได้รับการตบแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบ antique เหมือนครั้งที่พระองค์ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ในห้องมีระเบียงที่เห็นวิวทะเลได้แบบพาโนรามา และจากุชชี่แบบ outdoor ครับ
  • Tatiana – 80 ตร.ม. ห้องสวีทที่ตั้งชื่อตามพระธิดาองค์ที่สองของซาร์องค์สุดท้ายของรัสเซีย ในอดีตห้องนี้เป็นที่โปรดปรานของเจ้าชายผู้เป็นอดีตเจ้าของโรงแรม ตัวห้องมีลักษณะเป็นห้อง Sea View สองห้องที่ connect กันได้ครับ
  • Caesar/Capri Master Suite – 85 ตร.ม. ทั้งสองห้องเห็นวิวทะเลได้แบบ 180 องศาและมีอ่างจากุชชี่ แต่ระเบียงของห้อง Capri Master Suite นั้นจะใหญ่ถึง 180 ตร.ม. ซึ่งใหญ่กว่าตัวห้องเสียอีก ทำให้คุณชมวิว ทานอาหาร นอนเล่น หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้สบายอารมณ์ครับ

ขนาดห้องพักของที่นี่อาจจะไม่ได้ใหญ่เท่าโรงแรม 5 ดาวบางแห่ง แต่ก็ให้พื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอสำหรับสองท่าน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าเป็นระดับพรีเมียมทั้งหมด ตั้งแต่อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องบำรุงผิวอย่างดีที่ทำจากน้ำมันมะกอก ไดร์เป่าผม ทีวีพร้อมระบบดาวเทียม นอกจากนี้ยังได้มินิบาร์ฟรีอีกด้วยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

  • Infinity Terrace – ระเบียงขนาดใหญ่ที่เป็นจุดชมวิวท้องทะเลชั้นยอด และเป็นสถานที่ตั้งอนุสาวรีย์จูเลียส ซีซาร์ อันเป็นสัญลักษณ์ของทางโรงแรม
  • ร้านอาหารวิวสวย + บริการ Chef’s Table
  • Kitchen Garden – สวนที่คุณสามารถไปเลือกผักและสมุนไพรที่คุณต้องการให้เชฟนำไปปรุงเป็นอาหารได้
  • สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง (ยาวถึง 27 เมตร) + Poolside Bar
  • ห้องฟิตเนส + Wellness Center ริมผาสำหรับให้บริการนวดและทรีตเมนต์
  • บริการทัวร์และกิจกรรมอื่นๆ

สรุป

จุดเด่น

  • ตั้งอยู่บริเวณภูเขา Monte Solaro ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องล่างได้อย่างสวยมาก โดยเฉพาะจาก Infinity Terrace และสระว่ายน้ำ
  • ใกล้กับใจกลางอนาคาปรี ซึ่งคุณสามารถไปเดินเล่นตามร้านค้าที่ขายสินค้าพื้นบ้านได้
  • ด้านในห้องพักโอ่โถงสวยงาม แทบทุกห้องจะมีระเบียงชมวิวขนาดใหญ่
  • บรรยากาศในโรงแรมเป็นแบบ old world charm เหมาะกับใครที่ชอบความวินเทจ
  • ทุกการจองรวมอาหารเช้าเลิศรส + มี Kitchen Garden ให้เลือกวัตถุดิบได้เอง
  • พนักงานมีน้ำใจ และให้การช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างเต็มที่

Hotel Caesar Augustus

โรงแรมระดับ 5 ดาวในอนาคาปรีที่มีระเบียงขนาดใหญ่ที่วิวจากบริเวณดังกล่าวงดงามราวกับว่ามองผ่านสายตาของนกอินทรี บรรยากาศของโรงแรมและห้องพักเป็นแบบ old world ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล ทุกห้องได้รับการดูแลและตบแต่งอย่างประณีต และครบเครื่องด้วย facilities ชั้นยอด ส่วนอาหารและการบริการก็ยอดเยี่ยมด้วยครับ

จุดด้อยน่าจะเพียงอย่างเดียว นั่นคือที่ตั้งของโรงแรมที่ไกลจาก Piazzetta ซึ่งคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการนั่งแท็กซี่ไปกลับครับ

12. ที่พักอื่นๆ ในเกาะคาปรี

  • Hotel la Tosca – ที่พักระดับ 2 ดาวที่อยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยม เพราะใกล้กับ Piazzetta แต่คุณสามารถเห็นวิวของ Faraglioni ได้ ตัวห้องระดับเริ่มต้นเองก็ไม่ได้เล็กกว่าห้องของโรงแรม 4 ดาวมากนัก แต่เรื่องราคาจะสูงกว่า B&B ทั่วไปพอสมควรเลยครับ
  • Hotel La Reginella – โรงแรมระดับ 3 ดาวที่เป็นตัวเลือกราคาประหยัดที่น่าสนใจ วิวจากโรงแรมนั้นสวยไม่เบา แต่ทำเลของโรงแรมค่อนข้างไกลจาก Piazzetta และห้องพักจัดว่าเล็กมากครับ
  • Villa Calypso – วิลล่าระดับ 4 ดาวที่มีห้องพักที่ใหญ่ใช้ได้ (25-60 ตร.ม.) ราคาต่อคืนเหมาะสม และวิวสวยด้วย เพราะอยู่บริเวณตรงกลางของอ่าวฝั่งใต้ของเกาะคาปรี แต่ที่พักมีแค่ 4 ห้องเท่านั้นเองครับ
  • Il Giardino dell’Arte – ที่พักแบบ Bed & Breakfast ในอนาคาปรีที่รีวิวสูงมากในทุกแพลตฟอร์ม เพราะห้องพักคุณภาพดี ใหญ่ วิวสวย และสิ่งอำนวยความสะดวกใช้ได้ และราคาไม่สูงครับ
  • Relais Villa Anna – เกสต์เฮ้าส์รีวิวเลิศในอนาคาปรีที่ให้บริการห้องพักราคาไม่สูง ห้องใหญ่ใช้ได้ แต่ไม่ค่อยมี facilities เท่าไรนัก
  • Villa Ceselle – ที่พักราคาไม่สูงที่ตั้งอยู่ใจกลางอนาคาปรี ทำให้เดินชมร้านรวงที่ขายของพื้นเมืองได้อย่างสบาย ห้องของที่นี่ใหญ่ใช้ได้ เพราะเริ่มต้นที่ 18 ตร.ม. แต่ห้องส่วนมากจะไม่เห็นวิวทะเล และห้องที่เห็นทะเลก็จะไม่ชัดเท่ากับแห่งที่ผมแนะนำ เพราะว่าโรงแรมอยู่ตอนในของเกาะครับ นอกจากนี้โรงแรมยังไกลจาก Piazzetta มากอีกด้วย (3.5 กิโลเมตร)

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

Most Popular

error: Content is protected !!