20 โรงแรมที่พักฟลอเรนซ์ (Florence) น่าจอง | ครบทุกสิ่งที่ควรทราบ

ฟลอเรนซ์ (Florence) เป็นเมืองหลวงของเขตทัสคานีของประเทศอิตาลี และมีชื่อเสียงเลื่องลือในฐานะมหานครแห่งยุค Renaissance ทำให้นักเดินทางจำนวนมหาศาลเดินทางไปเยี่ยมเยือนฟลอเรนซ์ในแต่ละปีเพื่อสัมผัสบรรยากาศและความสวยงามของที่นี่ครับ

ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก และยังเป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันอย่างเช่นเซียน่าหรือปิซ่าทำให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะพักที่นี่ 2-3 คืนขึ้นไป บทความนี้จึงจะมาช่วยคุณเลือกที่พักในเมืองอันเหมาะสม โดยที่ไม่ต้องเสียเวลานานเกินไปในการหาข้อมูลด้วยตนเองครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองโรงแรมในฟลอเรนซ์ผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

ข้อควรทราบ

ที่พักฟลอเรนซ์น่าจอง (Luxury)

1. Palazzo Portinari Salviati Residenza D’Epoca

Palazzo Portinari Salviati Residenza D’Epoca เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในอาคารที่เรียกได้ว่าเป็นโบราณสถานได้อย่างปราศจากข้อโต้แย้ง เพราะที่นี่เป็นสถานที่พำนักของตระกูล Portinari และ Salviati ครับ

ตระกูล Portinari นั้นเคยเป็นของตระกูลนายธนาคารที่ร่ำรวยในฟลอเรนซ์ในช่วงศตวรรษที่ 13 โดยหนึ่งในสมาชิกตระกูลดังกล่าวคือพ่อของเบียทริตซ์ (Beatrice) หญิงคนรักของกวีชื่อดังอย่าง Dante ส่วนตระกูล Salviati คือมหาเศรษฐีที่ใกล้ชิดกับตระกูลเมดิซีที่ปกครองฟลอเรนซ์ครับ

ด้วยความเป็นที่เจ้าของเป็นสองตระกูลที่มั่งคั่ง ทำเลที่ตั้งของที่นี่จึงยอดเยี่ยมที่สุด เพราะแทบจะอยู่ตรงใจกลางเมืองเก่าพอดิบพอดี ทำให้ไม่ว่าคุณจะเดินไปชมอะไรก็ไม่ต้องเดินไกลนัก ไม่ว่าจะเป็นดูโอโม่หรือว่า Uffizi Gallery ครับ ส่วนร้านอาหารและร้านค้านั้นมีมากมาย ดังนั้นเหมาะกับสายช้อปปิ้งและสายกินครับ

• ที่ตั้ง: Via del Corso, 6, 50122 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ห้องของที่นี่ตบแต่งในสไตล์ Classic ที่มีกลิ่นอายของศิลปะแบบ Florentine อย่างเต็มเปี่ยม เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ในแต่ละห้องพักนั้นเป็นสไตล์คลาสสิคที่มีสีอ่อน ผสานกับของตบแต่งที่เป็นของเก่าแก่ที่สวยงามล้ำค่าครับ ส่วนห้องน้ำนั้นจะสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนชั้นดีที่สุด ทำให้ตัวห้องน้ำสุดจะหรูหรา สรุปแล้วตลอดทุกวินาที คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันร่ำรวยของตัวเมืองครับ

ถึงกระนั้นไม่ใช่ว่าห้องของที่นี่จะเก่าและไม่ทันสมัย พื้นห้องนั้นได้รับการติดตั้งระบบปรับอุณหภูมิช่วยให้ตัวพื้นอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน ตั้งแต่เครื่องทำกาแฟ ทีวีขนาด 50 นิ้วพร้อมระบบดาวเทียม ฯลฯ

ทั้งนี้รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Prestige – 37-45 ตร.ม.
• Junior Suite – 47-60 ตร.ม. ห้อง 60 ตร.ม.จะเห็นวิวเมืองเก่าฟลอเรนซ์แบบพาโนรามาจากระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
• Frescoed Junior Suite – 65 ตร.ม. ความพิเศษของห้องนี้คือมีภาพเขียนสีของจริงสมัยศตวรรษที่ 18 ตบแต่งอยู่ภายในห้อง
• Deluxe Suite – 68-72 ตร.ม.
• Iconic Suite – 75-120 ตร.ม. ห้องสวีทที่ยังคงบรรยากาศแบบเดิมไว้มากที่สุด เพดานสูงที่สร้างจากไม้และตบแต่งด้วยลวดลายสวยงามของแต่ละห้องเป็นของสมัยศตวรรษที่ 15 และทุกห้องมีภาพเขียนสีเฟรสโกสมัยศตวรรษที่ 18
• Executive Grand Suite – 78-100 ตร.ม. ทุกห้องเห็นวิวสวยๆ ของมหาวิหารฟลอเรนซ์
• Penthouse – 147 ตร.ม. มี Terrace ขนาดใหญ่สำหรับชมวิวแบบพาโนรามา
• Presidential Suite – 360-390 ตร.ม. ด้านในมีภาพเขียนสีเฟรสโกรูปยอดเขาโอลิมปัสอันเป็นผลงานของ Gherardini
• Royal Suite – 600 ตร.ม. ห้องสวีทที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี มี Gallery ส่วนตัวสำหรับรับแขก

พื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องพักนั้นถือว่าใหญ่มาก เริ่มตั้งแต่ห้องระดับเริ่มต้นอย่าง Prestige ที่ใหญ่ถึง 37 ตร.ม. ซึ่งเหนือกว่าโรงแรม 5 ดาวด้วยกันไปแบบคนละระดับ ส่วนห้องสวีทของที่นี่นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะว่ากว้างขวางโอ่อ่าสุดจะพรรณนาเลยครับ ขณะที่ amenities นั้น ที่นี่จะให้เป็นของพรีเมียมทั้งหมด ถ้าคุณเลือกที่นี่ แทบจะการันตีความฟินตลอดการพักเลยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารระดับ 1 ดาวมิชลินและบาร์
• บริการสปาแบบครบวงจร (สระในร่มสำหรับทำ Ozone Therapy, Finnish Sauna, Steam Bath ฯลฯ) – ใช้บริการได้ 2 ชั่วโมงแต่ต้องจองล่วงหน้า
• บริการจัดเลี้ยงและอีเวนต์
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

2. The St. Regis Florence

The St. Regis Florence เป็นโรงแรมสุดสวยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Arno ของเมืองฟลอเรนซ์ โดยอยู่ในย่านเมืองเก่าฟลอเรนซ์ ทำให้ยังคงกลิ่นอายแห่งยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในห้องพักไปจนถึงบรรยากาศรอบนอกของโรงแรมครับ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Ponte Vecchio หรือ Uffizi Gallery นั้นคุณสามารถเดินลัดเลาะริมแม่น้ำไปได้เลยจากโรงแรม ส่วน Duomo นั้น คุณสามารถเดินลัดเลาะไปได้ตามย่านเมืองเก่าที่สวยงามและมีจุดถ่ายรูปเรียงรายกันไป การเดินเองก็ใช้เวลาไม่นานนัก เพราะแต่ละแห่งอยู่ทิศเดียวกัน และห่างจากโรงแรมประมาณ 1 กิโลเมตรครับ

แต่สิ่งที่ดีงามที่สุดคือบริเวณโรงแรมอัดแน่นไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร และถ้าคุณเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำก็มีร้านรวงอีกจำนวนมาก เรียกได้ว่าเหมาะกับสายช้อปและสายกินอย่างที่สุดเลยครับ ส่วนสถานีรถไฟของเมืองนั้นก็ห่างไปแค่ 900 เมตรเท่านั้นครับ

• ที่ตั้ง: Piazza Ognissanti, 1, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ในอดีตโรงแรมแห่งนี้เคยเป็นวังเก่าของชนชั้นสูงในเมืองมาก่อน โดยน่าจะสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ทว่าได้ถูกแปลงเป็นโรงแรมในช่วงศตวรรษที่ 18 และได้รับแขกผู้มีเกียรติระดับ VVIP มามากมายนับตั้งแต่บัดนั้น หนึ่งในแขกผู้มีชื่อเสียงที่สุดคือควีนวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรครับ

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยที่ห้องพักของที่นี่จะสวยเวอร์วังในดีไซน์แบบสามสไตล์ได้แก่ สไตล์ Florentine, Medici และ Renaissance ของศตวรรษที่ 15 จุดเด่นในห้องพักคือจะมีภาพเขียนสีเฟรสโก เฟอร์นิเจอร์สุดหรูหราซึ่งบางชิ้นเคยเป็นของชนชั้นสูงแห่งเมืองฟลอเรนซ์มาก่อน รวมไปถึง chandelier อันตระการตา โดยรวมแล้วคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ราวกับว่าคุณได้พักในพระราชวังของดยุคแห่งตระกูลเมดิซีเลยทีเดียวครับ

อย่างไรก็ดีในห้องน้ำนั้นจะสวยอลังการไปอีกแบบหนึ่งในสไตล์ Art Deco ที่ปูด้วยหินอ่อนชั้นยอดของอิตาลีอย่างประณีต รับรองว่าถ่ายรูปลง social network แล้วดูหรูเลิศแน่นอนครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วยดังต่อไปนี้

• Deluxe – 20-25 ตร.ม.
• Premium – 25-30 ตร.ม.
• Junior Suite – 35-40 ตร.ม.
• Deluxe Suite – 55 ตร.ม.
• Royal Suite – 80 ตร.ม.
• Bottega Veneta Suite – 90 ตร.ม.
• Presidential Suite – 200 ตร.ม.

สำหรับห้อง Deluxe และ Premium คุณสามารถเลือกห้องที่มีวิวแม่น้ำ Arno ได้ แต่ห้องระดับสูงขึ้นมานั้น ทุกห้องจะมีวิวแม่น้ำให้ชมอยู่แล้วครับ ส่วนพื้นที่ใช้สอยนั้นจัดว่ากว้างขวางสะดวกสบาย แต่ห้อง Deluxe อาจจะเล็กไปบ้างครับ

แม้ว่าตัวห้องจะตบแต่งแบบสไตล์โบราณ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนั้นถือว่าทันสมัยและครบเครื่อง เพราะมีตั้งแต่ LCD TV พร้อมระบบเสียงของ Bose โต๊ะทำงาน จุดชาร์จแบตมือถือหลายจุด อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องเป่าผม และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นการันตีได้เลยว่าคุณจะได้รับความสบายอย่างที่สุดระหว่างที่พักผ่อนในห้องพักครับ

ทุกห้องพักนั้นจะมีบริการ Butler ส่วนตัวที่จะช่วยเหลือคุณในทุกบริบทตลอดเวลาที่คุณพักผ่อนที่นี่ นอกจากนี้พวกเขาจะเสิร์ฟชาหรือกาแฟให้คุณดื่มในช่วงเช้า หรือว่าช่วยจัดซื้อของฝากที่ยอดเยี่ยมจากร้านค้าต่างๆ ในเมืองด้วยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ (มีจัดประเพณี The Sabrage Evening Ritual อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่) และ Wine Cellar
• ฟิตเนสเซนเตอร์
• Ballroom ขนาดใหญ่สไตล์ฝรั่งเศส และสถานที่จัดประชุมและสัมมนา
• Business Center
• บริการรถรับส่งและลีมูซีนจากสนามบินปิซ่า, ฟลอเรนซ์ และโบโลญญ่า (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
• Valet Parking

สรุป

3. Hotel La Gemma

Hotel La Gemma เป็นโรงแรมแบบ boutique hotel ที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเก่าฟลอเรนซ์ ทำให้สะดวกต่อการไปชมความงามของสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Ponte Vecchio และ Uffizi Gallery (300 เมตร) แถมโรงแรมยังห้อมล้อมไปด้วยร้านค้าที่ขายเครื่องแต่งกายและร้านอาหารจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเรื่องช้อปปิ้งและหาอะไรรับประทานนี่ไม่ต้องเป็นกังวลเลยครับ

• ที่ตั้ง: Via dei Cavalieri, 2/C, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

โรงแรมแห่งนี้มีคอนเซปต์สุดโรแมนติกว่า “Inspired by Family, Driven by Love” ซึ่งตรงกับตัวโรงแรมที่เป็นธุรกิจในครอบครัว ซึ่งหมายมั่นว่าจะให้ความรู้สึกที่เหมือนได้กลับบ้านแก่ผู้เข้าพักทุกท่านครับ

ส่วนเรื่องดีไซน์นั้นจะเป็นแบบร่วมสมัยที่สอดแทรกศิลปกรรมอันเลื่องลือของฟลอเรนซ์และความหรูหราที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผืนป่า ดังนั้นห้องจะใช้สีเขียวเข้มคู่ไปกับสีชมพูอ่อน เช่นเดียวกับผนังห้องรูปต้นไม้หลายชนิดที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายครับ

ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้เลือกประกอบด้วย

• Signature – 20 ตร.ม.
• Superior – 27 ตร.ม.
• Deluxe – 30 ตร.ม.
• Junior Suite – 35.3 ตร.ม.
• Loft Suite – 38 ตร.ม.
• Prestige Suite – 42 ตร.ม.
• Two Bedroom Suite – 61 ตร.ม.

เรื่องพื้นที่ใช้สอยนั้นไม่เคยเป็นจุดแข็งของโรงแรมแบบ boutique อยู่แล้ว ซึ่งที่นี่ก็เป็นไปแบบเดียวกัน นั่นคือห้องพักจะไม่ได้ใหญ่มากนัก และให้ความรู้สึกที่ดูกะทัดรัดอยู่บ้าง แต่ก็เพียงพอต่อการพักผ่อนสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่านครับ ในส่วนของสิ่งอำนวยสะดวกก็มีพร้อมทุกสิ่ง อย่างที่คุณไม่ต้องรู้สึกกังวลใดๆ เลยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารของโรงแรม
• บริการสปาและทรีตเมนต์แบบครบวงจร
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่นทัวร์ทำอาหาร หรือจองโต๊ะที่ร้านอาหารชั้นนำของฟลอเรนซ์
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

4. Helvetia & Bristol Firenze – Starhotels Collezione

Helvetia & Bristol Firenze เป็นโรงแรม 5 ดาวของเครือ Starhotels Collezione ที่มีประวัติย้อนไปได้ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1880 ซึ่งโรงแรมได้เปิดให้บริการนักเดินทางที่มาเยี่ยมเยือนฟลอเรนซ์เป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่โรงแรมจะอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งครับ

โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่า โดยอยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำ Arno และมหาวิหารฟลอเรนซ์ครับ บริเวณโรงแรมจึงอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำที่เดินไปชมได้สบายๆ เช่นเดียวกับร้านอาหารและคาเฟ่ ตลอดจน shop ของแบรนด์ระดับ luxury อย่าง Louis Vuittion, Cartier, Dior และอื่นๆ อีกมากมายครับ

• ที่ตั้ง: Via dei Pescioni, 2, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ในอดีตอาคารแห่งนี้เคยเป็นวังเก่าของชนชั้นสูงฟลอเรนซ์มาก่อน แม้ว่าได้รับการ renovate ทุกส่วนให้ทันสมัยแล้ว แต่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายดังกล่าวเมื่อคุณเหยียบย่างเข้ามาที่ lobby ครับ

จุดเด่นของห้องพักของที่นี่คือจะแยกเป็นสองฝั่ง โดยฝั่งหนึ่งจะตบแต่งในสไตล์ร่วมสมัยที่เราคุ้นเคย (Bristol Wing) ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็น Florentine Style ที่ราวกับว่าพาคุณย้อนยุคไปสมัยที่ฟลอเรนซ์เป็นมหานครของยุค Renaissance (Helvetia Wing)

ดังนั้นคุณสามารถเลือกห้องพักที่ตรงกับสไตล์ที่คุณชอบได้อย่างอิสระครับ ถึงกระนั้นฝั่ง Helvetia จะเป็นฝั่งที่เพิ่งได้รับการ renovate ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกจะใหม่กว่าครับ

ทั้งนี้ห้องพักที่คุณเลือกจองได้มีดังต่อไปนี้

• Deluxe – 25-30 ตร.ม.
• Junior Suite – 35-38 ตร.ม.
• Family Room – 40 ตร.ม. ห้องนี้จะเป็นสไตล์ Loft ที่มีสองชั้น ห้องนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษสำหรับเด็กเล็กให้บริการเพียงแค่คุณแจ้งทางโรงแรมไปครับ
• Suite – 40-100 ตร.ม.
• Panoramic Suite – 67 ตร.ม. เห็นวิวสวยๆ ของมหาวิหารฟลอเรนซ์ และย่านเมืองเก่า
• Presidential Suite – 100 ตร.ม. ในห้องมี Turkish Bath แบบส่วนตัว

อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้ว ห้องทุกระดับจะมีอยู่ในทั้งสองฝั่งของโรงแรม (Bristol/Helvetia) ครับ ยกเว้นห้อง Presidential Suite เท่านั้นที่จะมีเฉพาะฝั่ง Bristol ครับ

สำหรับพื้นที่ใช้สอยของห้องระดับเริ่มต้นอย่าง Deluxe จัดว่าดีมาก เพราะ 25 ตร.ม.ถือว่าใหญ่กว่าห้องระดับเดียวกันโรงแรม 5 ดาวในฟลอเรนซ์หลายๆ แห่งเลยทีเดียว แต่ห้องระดับสูงขึ้นมานั้นจะไม่ได้ใหญ่กว่าที่อื่นมากนัก โดยรวมแล้วเรื่องขนาดห้องผมมองว่าใหญ่พอให้พักได้ 2 คนอย่างสบายๆ ในทุกระดับครับ นอกจากนี้ทุกห้องจะมี turndown service ที่พนักงานจะเข้ามาเตรียมห้องพักให้พร้อมสำหรับการเข้านอนอีกด้วย

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น แต่ละห้องจะมาพร้อมด้วยอุปกรณ์อาบน้ำระดับ luxury เครื่องเป่าผม ชุดอาบน้ำและรองเท้าแตะ หมอนให้เลือกหลายแบบ ฯลฯ ส่วนห้องสวีทนั้นจะมีพร้อมยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำกาแฟ มินิบาร์ฟรี ผลไม้และช็อคโกแลตให้ทานฟรี ส่วนลดค่าสปา 50% พร้อมบริการเสริมอีกมากมายเลยครับ นอกจากนี้คุณยังขอเช็คเอาท์สายเป็นบ่ายสองโมงได้อีกด้วย

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์รวม 3 แห่ง + บริการ Private Dinner with Chef
• Luxury Spa ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเก่าฟลอเรนซ์ พร้อม facilities ที่ครบเครื่อง ซึ่งรวมไปถึง Roman Baths ที่ฟื้นฟูร่างกายของคุณด้วยความร้อนและความเย็น (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
• ทัวร์และกิจกรรมต่างๆ
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

5. Hotel Savoy

Hotel Savoy เป็นโรงแรมสุดหรูของเครือ Rocco Forte เครือโรงแรมสุดหรูสัญชาติบริติชที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า โดยห่างจากมหาวิหารฟลอเรนซ์ไปเพียงแค่ 200 เมตรเท่านั้นเอง ส่วนใกล้ๆ กับโรงแรมคือ Via dei Calzaiuoli ถนนคนเดินที่เป็นสถานที่ช้อปปิ้งระดับ high-end ของเมือง ส่วนร้านอาหารและคาเฟ่ที่อยู่ในละแวกโรงแรมล้วนแต่มีเลือกหลากหลาย เพราะบริเวณด้านหน้าของโรงแรมคือ Piazza della Repubblica จัตุรัสของเมืองที่คับคั่งไปด้วยผู้คนครับ

• ที่ตั้ง: Piazza della Repubblica, 7, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ได้รับการตบแต่งในสไตล์ร่วมสมัย แต่ก็ใส่ความเป็น Florentine เข้าไปในดีไซน์ของแต่ละห้องอย่างลงตัว เห็นได้จากผ้าสีสดที่มีลวดลายสวยงามอันเป็นสัญลักษณ์ของทัสคานีที่เข้ากันดีกับโทนสีอบอุ่นที่เป็นโครงสร้างหลักของการดีไซน์ครับ ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วยดังต่อไปนี้

• Superior – 25 ตร.ม.
• Premium – 30 ตร.ม.
• Deluxe – 32 ตร.ม.
• Junior Suite – 35 ตร.ม.
• Junior Deluxe Suite – 35-40 ตร.ม.
• Family Room/Deluxe Suite – 50 ตร.ม.
• Family Suite – 65-75 ตร.ม.
• Artist Suite – 104 ตร.ม.
• Duomo Presidential Suite – 152 ตร.ม.

ทุกห้องมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบเครื่อง ตั้งแต่ห้องน้ำที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนชั้นดีของอิตาลี (Carrara marble) ที่มีอุปกรณ์อาบน้ำและสกินแคร์จากแบรนด์ Irene Forte ครบครัน ไปจนถึง Smart TV รองเท้าแตะ โซฟา มินิบาร์ และอื่นๆ อีกมากมายครับ ส่วนขนาดห้องนั้น ห้องพักของที่นี่ถือว่ากว้างขวางสะดวกสบายในทุกระดับ เพราะฉะนั้นรับรองได้ว่าคุณจะพักผ่อนได้อย่างผ่อนคลายที่สุดระหว่างที่อยู่ในห้องพักครับ

สำหรับเรื่องวิวนั้น ห้องพักส่วนใหญ่จะเห็นบริเวณตัวเมืองเก่า หรือจัตุรัส Piazza della Repubblica ที่สวยงาม ยกเว้นแต่ Duomo Presidential Suite เท่านั้นที่จะเห็นตัวมหาวิหารฟลอเรนซ์ (Florence Cathedral) หรือว่าดูโอโม (Duomo) ของเมืองครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์
• ห้องฟิตเนสและโยคะ
• The Spa Suite – บริการสปาแบบครบวงจร
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

6. Portrait Firenze

Portrait Firenze เป็นโรงแรมในกลุ่ม Lungarno Collection เครือโรงแรมหรูจากอิตาลีของตระกูล Ferragamo เสน่ห์ของโรงแรมแห่งนี้อยู่ตรงที่ทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Arno ส่วนที่มีสะพาน Ponte Vecchio (สะพานเก่าแก่แห่งเดียวที่รอดพ้นสงครามโลกครั้งที่ 2) พาดผ่าน บริเวณโรงแรมจึงมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย เช่นเดียวกับร้านค้าบนสะพานให้คุณได้เลือกซื้อจับจ่ายซื้อของ รวมไปถึงหาอะไรอร่อยๆ รับประทานครับ

ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ก็ไม่ได้อยู่ไกลเลย อย่าง Uffizi Gallery นั้นก็แค่เดินริมแม่น้ำไปแค่ 300 เมตรเท่านั้น ส่วนมหาวิหารฟลอเรนซ์ห่างไปแค่ 700 เมตรเท่านั้นเองครับ

• ที่ตั้ง: Lungarno degli Acciaiuoli, 4, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

โรงแรมแห่งนี้เป็นแบบ all-suite property เพราะฉะนั้นห้องพักทุกห้องจะเป็นระดับสวีท เรื่องพื้นที่ใช้สอยและความสะดวกสบายจึงไม่ต้องพูดถึง เพราะว่าใหญ่ครบเครื่องแน่นอนครับ

สำหรับเรื่องการตบแต่งนั้นจะเป็นสไตล์ร่วมสมัยที่ใส่ความเป็น Classic พอสมควร (ทางโรงแรมเรียกว่า Dolce Vita Style) โดยเป็นผลงานของสถาปนิกนามว่า Michele Bonan ในการแต่งห้องจะมีการใช้สีเทาผสานไปกับสีน้ำตาลของไม้ที่ดูอบอุ่น ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดูหรูหราทางการแบบชนชั้นสูง แต่ก็ยังไม่ได้ทิ้งความผ่อนคลายสบายๆ ครับ โดยรวมแล้วตัวห้องจะให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคไปช่วงปี 1950 ครับ

ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้เลือกจองมีดังต่อไปนี้

• Portrait Studio – 40 ตร.ม.
• Studio Deluxe – 49 ตร.ม.
• Superior Suite – 52 ตร.ม.
• Prestige Suite – 56 ตร.ม.
• Family Suite – 58 ตร.ม.
• Timeless Suite – 60 ตร.ม.
• Portrait Suite – 85 ตร.ม.
• Two-Bedroom Suite – 105-120 ตร.ม.
• Ponte Vecchio Suite – 160 ตร.ม. ห้องสวีทที่มีจุดเด่นคือมีระเบียงขนาดใหญ่ถึง 40 ตร.ม. และครอบคลุมส่วนหนึ่งของโรงแรมทั้งหมด ช่วยให้เห็นวิวของสะพาน Ponte Vecchio ได้อย่างงามยิ่ง
• Portrait Penthouse – 323 ตร.ม. ห้องสวีทขนาดใหญ่ที่รวมห้องสวีททั้ง 4 เข้าด้วยกันเป็นห้องเดียว ในห้องมีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ถึง 50 ตร.ม.

สำหรับห้องพักส่วนใหญ่ของโรงแรมนั้นจะเห็นวิวแม่น้ำ Arno และสะพาน Ponte Vecchio จะมีเพียงห้อง Portrait Studio, Timeless Suite และ Family Suite เท่านั้นที่จะไม่เห็น แต่จะเห็นเป็นวิวเมืองเก่าฟลอเรนซ์แทนครับ

จุดเด่นของที่นีคือห้องพักทุกห้อง (ยกเว้นห้อง Portrait Studio) จะมีห้องครัวขนาดเล็ก (Kitchenette) พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ อย่างครบครัน เพราะฉะนั้นคุณสามารถทำอาหารรับประทานได้ครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ นั้นล้วนแต่ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ทุกห้องจะมีเครื่องทำกาแฟ Nespresso ไมโครเวฟ อุปกรณ์อาบน้ำ โซฟา โต๊ะทำงาน ทุกอย่างจะมีพร้อมให้คุณได้รับความสะดวกสบายอย่างที่สุดครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์รวม 5 แห่ง (มีร้านอาหารริมน้ำ และ Rooftop Bar รวมอยู่ด้วย)
• White Iris Spa (บริการสปาแบบครบวงจร)
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ
• บริการจัดเลี้ยงและสัมมนา
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

7. The Westin Excelsior, Florence

The Westin Excelsior, Florence เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Arno โดยตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมของเครือ St.Regis (คนละฝั่งของ Piazza Ognissanti) ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้นั้นโรแมนติกในรูปแบบที่ไม่ต่างกัน

ทั้งนี้สถานที่สำคัญของเมืองล้วนแต่อยู่ในระยะที่เดินไปถึงได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นสะพาน Ponte Vecchio, Uffizi Gallery หรือว่ามหาวิหารฟลอเรนซ์ ส่วนร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ในย่านเมืองเก่าก็อยู่รายล้อมตัวโรงแรม ซึ่งคุณสามารถเดินไล่ชมได้อย่างอิสระครับ

• ที่ตั้ง: Piazza Ognissanti, 3, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักที่นี่ได้รับการแต่งองค์ทรงเครื่องในแบบ Classic ที่ใส่กลิ่นอายความเป็น Florentine ในแทบทุกอณู แต่ละห้องจะมีเพดานสูงที่ช่วยให้คุณรู้สึกปลอดโปร่ง และมี chandelier อันสง่างามเป็นศูนย์กลาง ส่วนสีที่ใช้นั้นจะเป็นสีครีมสบายตาควบคู่ไปกับสีฉูดฉาดที่ช่วยปลุกความกระปรี้กระเปร้าในช่วงเช้าครับ

ทั้งนี้ห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Deluxe – 20-25 ตร.ม.
• Penthouse – 22-33 ตร.ม.
• Premium – 25-30 ตร.ม.
• Junior Suite – 30-43 ตร.ม.
• Belvedere Suite – 50 ตร.ม.
• Grand Deluxe Suite – 65 ตร.ม.
• Presidential Suite – 80 ตร.ม.

ห้องพักส่วนใหญ่ของที่นี่นั้นจะเลือกได้ระหว่างห้องที่มีวิวแม่น้ำ และวิวเมืองเก่า ยกเว้นห้องสวีทที่มีให้เลือกแบบเดียวนั่นคือวิวแม่น้ำ ซึ่งเป็นวิวที่ดีกว่าในทั้งสองแบบครับ บางห้องจะมีระเบียงแบบ Terrace ขนาดใหญ่ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกของเมืองแห่งนี้ครับ

ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยอาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก โดยเฉพาะห้องสวีทที่เล็กทีเดียวถ้าเปรียบโรงแรมระดับ 5 ดาวอื่นๆ แต่ผมเชื่อว่าคุณจะพักผ่อนได้อย่างสบาย เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกอันมากมายที่ทางโรงแรมจัดมาให้ ร่วมกับ turndown service ที่ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มที่สุดครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์
• ห้องฟิตเนส
• บริการจัดอีเวนต์ ประชุม และสัมมนา
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

8. Palazzo Vecchietti

Palazzo Vecchiettei เป็นโรงแรมที่อยู่บริเวณตรงกลางของย่านเมืองเก่า โดยอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของ Piazza della Repubblica ที่มีชื่อเสียงของเมืองฟลอเรนซ์ (ตรงข้ามกับ Hotel Savoy) จากบริเวณนี้นั้นคุณเดินไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างง่ายดายสะดวกสบายมาก ไม่ว่าจะเป็น Ponte Vecchio (400 เมตร), Uffizi Gallery 450 เมตร และมหาวิหารฟลอเรนซ์ (350 เมตร)

นอกจากนี้เนื่องด้วยโรงแรมอยู่ที่ตรงกลางย่านเมืองเก่า บริเวณโดยรอบจึงอัดแน่นไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายเครื่องแต่งกายของแบรนด์เนมทั้งแบรนด์ระดับโลก และแบรนด์ high-end ของอิตาลีให้ได้เลือกสรรอย่างจุใจครับ

• ที่ตั้ง: Via degli Strozzi, 4, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

โรงแรมตั้งอยู่ในวังเก่าสมัยศตวรรษที่ 16 ที่เคยเป็นของตระกูล Vecchietti คหบดีชั้นนำของเมืองในสมัย Renaissance ปัจจุบันด้านในโรงแรมได้รับการ renovate ในสไตล์ร่วมสมัย โดยมีแกนหลักเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้กับเครื่องหนังชั้นเลิศเคียงคู่กับห้องน้ำหินอ่อนที่สร้างขึ้นโดยใช้ Chocolate marble ครับ

ทั้งนี้โรงแรมมีห้องพักเพียง 12 ห้องเท่านั้น โดยประกอบด้วยรูปแบบดังต่อไปนี้

• Deluxe – 40-46 ตร.ม.
• Suite – 56-73 ตร.ม.
• Leonardo Da Vinci Premier Suite – 100 ตร.ม.

ด้วยความที่เป็นโรงแรมแบบ boutique hotel ห้องพักของที่นี่ย่อมไม่ได้ใหญ่โต แต่คุณจะรู้สึกว่าห้องใหญ่ขึ้นกว่าความเป็นจริง เพราะทุกห้องจะมีเพดานสูงนั่นเองครับ แต่สำหรับห้องพักระดับเริ่มต้นอย่าง Deluxe นั้นถือว่าให้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องระดับเดียวกันในโรงแรม 5 ดาวส่วนใหญ่แล้วครับ

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ทุกห้องจะมีห้องครัวขนาดเล็กและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอย่างโซฟา อุปกรณ์อาบน้ำ ทีวี โต๊ะอาหารนั้นมีพร้อมอยู่แล้วครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้า
• บริการจัดทัวร์และกิจกรรมต่างๆ + บริการเช่ารถ
• บริการจัดอีเวนต์สำคัญ
• ที่จอดรถของโรงแรมและ Valet Parking

สรุป

9. Four Seasons Hotel Firenze

Four Seasons Hotel Firenze น่าจะเป็นโรงแรมที่ราคาต่อคืนสูงที่สุดในฟลอเรนซ์ก็ว่าได้ แต่จุดเด่นของที่นี่คือในโรงแรมนั้นมีสวน Giardino Della Gherardesca ซึ่งเป็นสวนส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองที่มีรูปปั้นและน้ำพุที่สวยงามมากมายครับ เพราะฉะนั้นเรื่องความหรูหราจึงไม่ต้องตั้งคำถามเลยว่ามากเท่าใด

สำหรับเรื่องทำเลนั้น ตัวโรงแรมจะอยู่บริเวณชานเมืองเก่าฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะฉะนั้นความพลุกพล่านแน่นอนว่าจะไม่เท่าบริเวณในเมือง ทำให้พักผ่อนได้สบายกว่า เช่นเดียวกับได้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า ทว่าถ้าการไปชมสถานที่ต่างๆ ก็จะไกลกว่า (คุณอาจจะต้องใช้บริการแท็กซี่เพื่อความคล่องตัวและประหยัดเวลาครับ)

• ที่ตั้ง: Via Ghibellina, 87, 50122 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของเครือ Four Seasons ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา ซึ่งสำหรับที่นี่แล้วนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าแห่งอื่นไปอีกระดับหนึ่ง ตัวโรงแรมตั้งอยู่ในวังเก่าสมัยศตวรรษที่ 15 ด้านในตัวโรงแรมและห้องพักตบแต่งในสไตล์ของทัสคานีที่โอ่งอ่าสวยงามมีกลิ่นอายแบบ Florentine รวมไปถึง baroque ครับ

ทั้งนี้ผู้เข้าพักหลายคนในนิยามไว้ว่าสวยจนตะลึงเลยทีเดียว โดยเฉพาะห้องพิเศษที่ใส่เฟอร์นิเจอร์แบบสมัยโบราณลงไปทุกส่วนสัดของห้อง หรือว่าตบแต่งด้วยภาพเขียนสีเฟรสโก เพราะฉะนั้นคุณจะสัมผัสความเป็นชนชั้นสูงแห่งฟลอเรนซ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Superior – 39 ตร.ม.
• Deluxe – 43 ตร.ม.
• Premier – 45 ตร.ม.
• Four Seasons Room – 51 ตร.ม.
• Junior Suite – 55 ตร.ม.
• Executive Suite – 65-105 ตร.ม.
• Deluxe/Premier Two Bedroom – 97-105 ตร.ม. เหมือนกับห้อง Deluxe และ Premier แต่จะมีห้องนอน 2 ห้องครับ
• Two Bedroom Suite – 110 ตร.ม.
• Historical Suites – 60-234 ตร.ม. ห้องสวีทแบบย้อนยุคที่ให้บรรยากาศแบบสมัยก่อนมากที่สุด มีให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ห้องในสวน หรือว่าห้องบนอาคารหลักที่จะเห็นวิวของมหาวิหารฟลอเรนซ์ครับ
• Presidential Suite – 226-282 ตร.ม.
• Royal Three Bedroom Suite – 372 ตร.ม.
• La Villa – 1,825 ตร.ม. วิลล่าสมัยศตวรรษที่ 16 ที่เป็นที่พักโซนพิเศษทั้งหมด 37 ห้องที่รองรับเพียงกรุ๊ปเดียวเท่านั้นที่ใช้สำหรับงานแต่งงานหรืองานอีเวนต์สุดหรูที่จัดในบริเวณโรงแรม ด้านในมี reception ส่วนตัวที่ให้บริการเฉพาะคุณเท่านั้น เช่นเดียวกับห้องอาหาร และ ballroom ครับ

พื้นที่ใช้สอยไม่เคยเป็นปัญหาของเครือนี้อยู่แล้ว ห้องทุกระดับของโรงแรมนั้นมีขนาดใหญ่มาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าดีคือห้องของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายกว่าที่อื่นครับ กล่าวคือห้องส่วนมากสามารถ customize ลงไปได้อีกต่อหนึ่ง อย่างเช่นเลือกได้ระหว่าง King หรือ Twin รวมไปถึงต้องการห้องสวีทที่เห็นวิวสวนหรือวิวเมืองก็สามารถเลือกจองได้เช่นกัน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นครบเครื่องทุกสิ่งตามมาตรฐานของโรงแรมระดับ ultra luxury ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์ 3 แห่ง
• บริการสปาแบบครบวงจร
• สระว่ายน้ำแบบ outdoor และห้องฟิตเนส
• สวนสไตล์อิตาเลียนขนาดใหญ่ (มีการแสดงผลงานศิลปะทุกวันจันทร์)
• Concierge & Business Services
• บริการจัดเลี้ยง งานแต่งงาน และโอกาสพิเศษต่างๆ
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

10. Brunelleschi Hotel

Brunelleschi Hotel เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่แทรกตัวอยู่ใกล้กับ Via del Corso และ Via dei Calzaiuoli ถนนคนเดินที่คับคั่งไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารของย่านเมืองเก่า ทำให้ที่นี่เป็นแดนสวรรค์ของใครที่ชอบช้อปปิ้งสินค้าหลากชนิด และหาอะไรอร่อยๆ รับประทาน ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็เดินไปถึงไม่ได้ยากเลย อย่างมหาวิหารฟลอเรนซ์นั้นใช้เวลาเดินไปแค่ 200 เมตร ส่วน Uffizi Gallery ห่างไปแค่ 350 เมตรเท่านั้นเองครับ

เสน่ห์ของโรงแรมแห่งนี้นั้นเหลือล้นถึงขนาดที่นักเขียนชื่อดังอย่าง Dan Brown ยังกล่าวถึงในนิยาย The Da Vinci Code ของเขาว่าเป็นโรงแรมระดับ luxury ที่ผู้ดูแลมอบให้เมื่อพระเอกอย่าง Robert Langdon เดินทางไปสัมมนาที่เมืองฟลอเรนซ์ครับ

• ที่ตั้ง: Piazza Sant’Elisabetta, 3, 50122 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ลักษณะของโรงแรมเป็นแบบ boutique hotel โดยในอดีตเจ้าของคือ Filippo Brunelleschi สถาปนิกผู้เป็นกำลังสำคัญในการออกแบบและสร้างโดมของมหาวิหารฟลอเรนซ์ครับ แต่ตัวโรงแรมนั้นมีส่วนที่เก่าแก่กว่านั้นอีก กล่าวคือ Torre della Pagliazza หอคอยที่เป็นส่วนของโรงแรมนั้นมีประวัติย้อนไปได้ถึงสมัยศตวรรษที่ 6 เลยครับ

ทันทีที่คุณก้าวขาเข้าไปในโรงแรม คุณจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเครื่องหอมชื่อ Acqua Barocca ที่เลือกสรรโดย Laura Tonatto เครื่องหอมที่ว่านี้ทำมาจากดอกนาร์ซิสซัสและลิลลี่แห่งหุบเขา (Lily of the Valley) โดยดอกแรกจะให้กลิ่นหอมหวล ส่วนดอกที่สองจะให้กลิ่นที่ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายครับ

สำหรับห้องพักของที่นี่จะเป็นร่วมสมัยทั้งหมดที่รังสรรค์โดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง Benelli ทำให้ห้องพักดูสวยมีคลาสกว่าห้องร่วมสมัยปกติ โทนสีสุภาพที่ใช้ในห้องจะถูกแทรกด้วยสีม่วงหรือเขียวอ่อนที่ส่งผลต่อตัวห้องโดยรวมมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นครับ รูปแบบห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Classic Executive – 18 ตร.ม.
• Deluxe Executive Panorama – 25 ตร.ม.
• Deluxe – 26 ตร.ม.
• Family Room – 36-52 ตร.ม.
• Junior Suite – 38-40 ตร.ม.
• Suite – 45-90 ตร.ม. ห้องสวีทที่เลือกลงไปได้หลายรูปแบบ โดยคุณสามารถเลือกวิวได้ หรือบางห้องจะมีระเบียงขนาดใหญ่สำหรับชมวิว หรือว่ามีจากุชชี่เป็นต้น
• Pagliazza Tower Suite – 66 ตร.ม. ห้องสวีทสุดพิเศษที่ตั้งอยู่ในหอคอยของโรงแรมที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6
• Penthouse Apartment – 115 ตร.ม.

จุดแข็งของที่นี่คือไม่ว่าคุณจะเลือกห้องพักไหนก็ตาม แม้กระทั่งห้องขนาดเริ่มต้นก็จะมีวิวสวยๆ ของย่านเมืองเก่าและสถานที่สำคัญในเมืองฟลอเรนซ์ที่สวยมาก ห้องตาบอดแบบไม่มีวิวใดๆ นั้นไม่มีในโรงแรมแห่งนี้ครับ ส่วนพื้นที่ใช้สอยนั้นอยู่ในระดับดี สำหรับโรงแรม boutique ระดับ 4 ดาว แต่แน่นอนว่าสู้ห้องโรงแรม 5 ดาวของเครือใหญ่ไม่ได้ครับ

ทว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักของที่นี่นั้นครบเครื่องจริงๆ เรียกได้ว่าไม่แพ้แห่งใดในฟลอเรนซ์แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเตียงแบรนด์ Simmons เกรดพรีเมียม LCD TV ขนาด 50-60 นิ้วพร้อมระบบดาวเทียม เครื่องทำกาแฟและชา ไปจนถึงอุปกรณ์อาบน้ำ โต๊ะและโซฟา ไม่เพียงเท่านั้นแม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาดให้วันละสองครั้งด้วยครับ

ส่วนห้องสวีทนั้นจะมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกเสริมให้ยิ่งกว่านั้นอีก ไม่ว่าจะเป็นบริการผลไม้และแชมเปญ น้ำแร่ รวมไปถึงบริการรับส่งสนามบินหรือสถานีรถไฟฟรีครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ และ Bistro (ร้าน Santa Elisabetta ของโรงแรมได้ดาวมิชลินถึง 2 ดวงด้วยกัน)
• ห้องฟิตเนส
• บริการรับส่งสนามบินหรือสถานีรถไฟฟลอเรนซ์ (ฟรี 1 ครั้งสำหรับผู้เข้าพักห้อง Junior Suite ขึ้นไป)
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ
• บริการจัดประชุมและอีเวนต์

สรุป

โรงแรมน่าจองในฟลอเรนซ์ (ทั่วไป)

11. Golden Tower Hotel & Spa

Golden Tower Hotel & Spa เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวทำเลดีที่ราคาต่อคืนไม่ห่างกับ 4 ดาว ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณอยากพักอย่างสบายที่สุด โดยที่ไม่ต้องเปลืองงบจนเกินไปนักครับ

ทำเลของโรงแรมอยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยม นั่นคือบริเวณตรงกลางย่านเมืองเก่าที่แวดล้อมไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร แถมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของฟลอเรนซ์ล้วนแต่เดินไปถึงในอย่างสบายๆ ไม่ไกลจนเกินไปอีกด้วยครับ

• ที่ตั้ง: Piazza degli Strozzi, 11r, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ตบแต่งด้วย 3 สไตล์ด้วยกัน นั่นคือร่วมสมัยที่เราคุ้นเคย คลาสสิคที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลา และทิวดอร์ (Tudor) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชาวบริติช ทั้งนี้ห้องพักทุกห้องตั้งอยู่ใน Torre degli Strozzi สถานที่พำนักของตระกูล Strozzi หนึ่งในตระกูลคหบดีที่มั่งคั่งที่สุดในฟลอเรนซ์ในช่วงศตวรรษที่ 15 ครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วยดังต่อไปนี้

• Basic – 18 ตร.ม.
• Classic – 19-22 ตร.ม.
• Tower Suite – 24-26 ตร.ม. ห้องแบบนี้จะมีเพดานสูง และการตบแต่งแบบดั้งเดิมที่จะสวยงดงามที่สุดครับ
• Deluxe – 24-31 ตร.ม. เลือกเตียงได้ระหว่าง Double หรือ Twin บางห้องมีอ่างอาบน้ำ
• Luxury – 29-31 ตร.ม.
• Junior Suite – 25-37 ตร.ม. บางห้องมีระเบียงชมวิวตัวเมือง เช่นเดียวกับการแบ่งตัวห้องเป็นสองชั้น
• Golden Suite – 51 ตร.ม.

ขนาดห้องพักของที่นี่จะเล็กกว่าโรงแรม 5 ดาวด้วยกันอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับโรงแรม 4 ดาวที่เรทต่อคืนสูสีกันแล้ว ห้องของที่นี่ถือว่าให้พื้นที่ใช้สอยมาใช้ได้ทีเดียวสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่านที่จะนอนพักข้ามคืนโดยไม่รู้สึกอึดอัดเท่าไรนัก

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ทุกห้องจะมีห้องน้ำที่สร้างด้วย Carrara marble หินอ่อนคุณภาพเยี่ยมของอิตาลี เตียงแบบ French Bed อย่างดี เครื่องทำกาแฟ Nespresso อุปกรณ์อาบน้ำ LCD TV และอื่นๆ อีกมากมายครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ห้องอาหาร บาร์ และ Lounge (ร้านอาหาร Il Palagio ได้ดาวมิชลิน 1 ดวง)
• บริการสปาแบบครบวงจร (ห้อง Golden Suite ใช้บริการฟรี)
• Business Services (ปริ้น/แฟ็กซ์)
• Concierge และบริการรับส่ง
• Valet Parking (45 ยูโรต่อคืนต่อคัน)

สรุป

12. Hotel Calimala

Hotel Calimala เป็นโรงแรมที่ขนานนามตนเองว่าเป็น Art Hotel เพราะฉะนั้นทางโรงแรมจึงให้ความสำคัญกับเรื่องดีไซน์เป็นพิเศษ โดยสไตล์ของที่นี่จะเป็นแบบ modern twist ที่ดูเผินๆ อาจจะขัดกับตัวเมืองเก่า แต่เพราะการดัดแปลงของสถาปนิก ทำให้ดีไซน์ของตัวห้องเข้ากันดีกับบรรยากาศโดยรอบได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ

ที่ตั้งของโรงแรมอยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่าฟลอเรนซ์ แต่ค่อนไปทางฝั่งแม่น้ำ Arno ทำให้คุณเข้าถึงมหาวิหารฟลอเรนซ์ สะพาน Ponte Vecchio หรือ Uffizi Gallery โดยไม่ต้องเดินไกลมากนัก ส่วนรอบๆ โรงแรมนั้นเป็นร้านขายเครื่องแต่งกายและร้านอาหารจำนวนมาก ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าถ้าพักที่นี่มีอะไรให้เดินดูแบบไม่จบง่ายๆ แน่นอนครับ

• ที่ตั้ง: Via dei Lamberti, 5, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ตัวโรงแรมนั้นจะแบ่งออกเป็นสองฝั่งระหว่าง The East กับ The West โดยทั้งสองฝั่งล้วนแต่ตั้งอยู่ในอาคารโบราณที่มีอายุหลายร้อยปี (แต่ The East จะเก่ากว่าประมาณ 300 ปี) แต่ทั้งสองฝั่งได้รับการ renovate และดีไซน์อย่างสวยงามมีคลาสด้วยแบบโมเดิร์นที่ทางโรงแรมเรียกว่า Innovative Deco Style (เหมือน Art Deco ที่ใช้สีเข้มๆ)

กล่าวคือคุณจะได้เห็นส่วนที่เป็นอาคารโบราณในห้องของคุณ แต่ส่วนนั้นจะถูกตัดทอนความเก่าคร่ำครึไปด้วยการออกแบบแนวโมเดิร์น ก่อให้เกิดความกลมกลืนที่ทำให้บรรยากาศในห้องทันสมัยและผ่อนคลายขึ้น โดยรวมแล้วผมมองว่าน่าสนใจดีครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Superior/Premium Balcony – 17 ตร.ม. ห้อง Premium Balcony จะมีระเบียงที่ปลูกดอกไม้สวยๆ เรียงรายกัน ช่วยให้ถ่ายรูปได้สวยงามมาก
• Deluxe – 19 ตร.ม.
• Twin Deluxe – 21 ตร.ม.
• Comfort – 23 ตร.ม.
• Prestige – 27 ตร.ม.
• Junior Suite – 35 ตร.ม.
• Executive Suite – 45 ตร.ม.

สำหรับห้องพักของที่นี่จะไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ยังคงใกล้เคียงกับมาตรฐานของโรงแรม 4 ดาวทั่วไป และทดแทนด้วยเพดานสูงในแต่ละห้อง ดังนั้นวางใจได้เลยว่าคุณยากที่จะรู้สึกอึดอัด ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมีครบ ตั้งแต่ Smart TV พร้อม Chromecast รองเท้าแตะ อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องเป่าผม นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำกาแฟ Nespresso มาทำกาแฟเข้มๆ ช่วงเช้าให้คุณจิบไปพร้อมๆ กับชมวิวสวยๆ ด้านนอกด้วยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและ rooftop bar
• ห้องฟิตเนส
• บริการทรีตเมนต์แบบครบวงจร

สรุป

13. Ponte Vecchio Suites & Spa

Ponte Vecchio Suites & Spa เป็นโรงแรมที่ทำเลที่ตั้งต่างจากที่พักส่วนใหญ่ที่ผมแนะนำไปในบทความนี้ เพราะว่าตั้งอยู่ฝั่งใต้ของแม่น้ำ Arno ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของฟลอเรนซ์ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารฟลอเรนซ์หรือว่าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ แต่ข้อดีของการพักฝั่งนี้แน่นอนว่าความพลุกพล่านย่อมจะไม่เท่าฝั่งเหนือที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวนั่นเองครับ

อย่างไรก็ดีเพียงแค่โรงแรมอยู่ติดกับ Ponte Vecchio เลย (130 ตร.ม.) ดังนั้นถ้าแค่คุณเดินข้ามสะพานดังกล่าว และเดินไปอีกไม่กี่นาที คุณก็จะเดินไปถึง Uffizi Gallery รวมไปถึงโบสถ์และมหาวิหารต่างๆ ที่มีชื่อเสียงแล้วครับ

สำหรับร้านอาหารและร้านค้านั้น บริเวณโรงแรมมีเพียบ รับรองว่ามีอะไรอร่อยๆ ให้รับประทานแน่นอนครับ

• ที่ตั้ง: Via Dè Belfredelli, 9, 50125 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่นั้นจะเป็นกึ่งอพาร์ตเมนต์ เพราะฉะนั้นบางห้อง (Studio) จะมีครัวขนาดเล็ก (kitchenette) พร้อมเครื่องครัวที่ให้คุณทำอาหารง่ายๆ ได้ในห้องพัก (ใกล้กับโรงแรมมีร้านขายของสด ช่วยให้หาวัตถุดิบไม่ยาก) ส่วนเรื่องดีไซน์นั้นจะเป็นแบบร่วมสมัยที่เราคุ้นเคย ซึ่งให้ความอบอุ่นราวกับว่าพักอยู่ในห้องของคุณเองครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Standard Studio/Superior – 30 ตร.ม. ห้อง Standard Studio จะมีครัวขนาดเล็กแต่ไม่มีวิวใดๆ เพราะอยู่ที่ชั้น G ส่วนห้อง Superior จะสลับกันนั่นคือมีวิวแต่ไม่มีครัวครับ
• Deluxe Studio – 35 ตร.ม.
• Superior Junior Suite – 40 ตร.ม.
• Executive Suite/Premium Suite with Jacuzzi Tub – 50 ตร.ม.

ห้องพักระดับเริ่มต้นของที่นี่นั้นใหญ่กว่าห้องแบบเดียวกันโรงแรม 4 ดาวทั่วไปในฟลอเรนซ์อย่างชัดเจน จริงๆ แล้วด้วยขนาด 30 ตร.ม.จัดว่าใหญ่มาก ชนิดที่ว่าเหนือกว่าโรงแรม 5 ดาวบางแห่งเสียอีก เพราะฉะนั้นที่นี่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่อยากได้ห้องใหญ่พอสมควร โดยที่ไม่ต้องจ่ายแพงเกินไปนักครับ นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกระหว่างเตียง King/Queen หรือ Twin ได้ด้วยครับ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ล้วนแต่มีพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำกาแฟ Nespresso, LCD TV พร้อมระบบดาวเทียม, อุปกรณ์อาบน้ำแบบสปาอย่างดีจากแบรนด์ Acqua di Parma ไปจนถึงโต๊ะทำงานและโซฟาที่พร้อมสำหรับการพักผ่อนหรือทำงานถ้ามีเรื่องเร่งด่วนเข้ามาครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้า
• ห้องฟิตเนส
• บริการสปาแบบครบวงจร (Turkish Bath, ซาวน่าและจากุชชี่, บริการนวด ฯลฯ)
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ

สรุป

14. 25 Hours Hotel Piazza San Paolino

25 Hours Hotel Piazza San Paolino เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในย่าน Santa Maria Novella ที่อยู่ใกล้กับสถุานีรถไฟหลักของเมือง (650 เมตร) ทำให้ง่ายต่อการเดินทางเข้าออกเมืองด้วยรถไฟเป็นอย่างยิ่ง ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างมหาวิหารฟลอเรนซ์และ Ponte Vecchio นั้นห่างไปไม่เกิน 800 เมตร ทำให้โดยรวมแล้วถือว่าทำเลของที่นี่เหมาะกับนักท่องเที่ยวในระดับหนึ่งเลยครับ

ใกล้กับโรงแรมมีร้านอาหารและคาเฟ่อยู่สมควร แต่ถ้าคุณสามารถเดินเข้าไปใจกลางย่านเมืองเก่าเพื่อหาอะไรรับประทานที่หลากหลายเพิ่มขึ้นได้ครับ

• ที่ตั้ง: Piazza di S. Paolino, 1, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

คอนเซปต์ห้องพักของที่นี่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะถ้าคุณชอบผลงานของนักเขียนอย่าง Dante แบบผมครับ กล่าวคือห้องพักในโรงแรมนั้นจะตบแต่งด้วย theme ที่สถาปนิกได้แรงบันดาลใจจากงานเขียนประเภท Divine Comedy ของ Dante อย่าง Inferno (นรก) และ Paradiso (สวรรค์) ครับ

ห้อง Paradiso นั้นจะใช้สีขาวหรือน้ำเงินที่ดูเหมือนกับสรวงสวรรค์ที่ปรากฏในคำบรรยายของ Dante ในเรื่อง Paradiso ส่วน Inferno นั้นจะตรงกันข้ามนั่นคือจะใช้สีแดงสดตลอดทั้งห้องแบบที่ไม่ได้แทรกด้วยสีอื่นเลย ทำให้คุณได้กลิ่นอายของ “นรก” ของจริงโดยไม่ปานครับ อย่างไรก็ดีถ้าคุณกลัวสิ่งลี้ลับ ความมืด และอะไรน่ากลัวๆ ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงการจองห้อง Inferno ครับ

ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Medium – 21-24 ตร.ม.
• Large Inferno with Private Garden – 23-27 ตร.ม. ห้องที่ใหญ่ขึ้นมา และมีสวนส่วนตัว
• Extra Large – 30-35 ตร.ม.
• Gigantic – 45-54 ตร.ม.
• Casetta del Giardino – 200 ตร.ม. ห้องพิเศษที่ตั้งอยู่ด้านในสวนด้านในโรงแรม (ใหญ่ประมาณ 200 ตร.ม.ซึ่งยังไม่รวมในพื้นที่ห้อง) เช่นเดียวกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ครัวพร้อมเตาอบพิซซ่าและอุปกรณ์ทำ BBQ

สำหรับห้อง Medium และ Extra Large เลือกจองห้องที่มี theme การแต่งห้องระหว่าง Paradiso และ Inferno ได้ครับ ด้านพื้นที่ใช้สอยนั้น ห้องของที่นี่ถือว่าเหนือกว่าโรงแรม 4 ดาวทั่วไปอยู่พอสมควรทุกระดับเลยครับ โดยเฉพาะห้อง Casetta del Giardino ที่ใหญ่ระดับ pool villa เลยก็ว่าได้

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ที่นี่จัดเต็มเช่นกัน ตั้งแต่มินิบาร์ทานฟรี Smart TV พร้อม Bluetooth Speaker อุปกรณ์อาบน้ำ ฯลฯ ห้องระดับ Extra Large ขึ้นไปจะได้เครื่องทำกาแฟพร้อมด้วยชา samova อย่างดีด้วยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์
• ห้องฟิตเนสและ Finnish Sauna
• บริการเช่าจักรยาน

สรุป

15. Grand Hotel Minerva

Grand Hotel Minerva เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ฝั่งหนึ่งของ Piazza di Santa Maria Novella จัตุรัสที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของมหาวิหาร Basilica of Santa Maria Novella แลนด์มาร์กของเมือง และหนึ่งในมหาวิหารที่สวยที่สุดของฟลอเรนซ์ ซึ่งถ้าคุณพักที่นี่คุณจะได้ชมมหาวิหารแห่งนี้ได้แบบเต็มอิ่มเลยครับ

เนื่องด้วยโรงแรมตั้งอยู่บริเวณจัตุรัส ผู้เข้าพักจึงสามารถเข้าถึงร้านอาหารและคาเฟ่ ตลอดจนร้านค้ามากมายในอยู่ละแวกนี้ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั้นเดินไปได้ในระยะทางประมาณ 600-900 เมตร นอกจากนี้สถานีรถไฟฟลอเรนซ์ก็อยู่หลังโรงแรม โดยห่างไปแค่ 500 เมตรเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นการเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตลอดจนหาอะไรรับประทานจะสะดวกสบายและใช้เวลาไม่นานเลยครับ

• ที่ตั้ง: Piazza Santa Maria Novella 16 50123 Florence (Italy)
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ส่วนใหญ๋ตบแต่งด้วยสไตล์ร่วมสมัยอย่างวิจิตรที่ใส่ความเป็นอิตาเลียนลงไปอย่างลงตัว แต่ก็มีบางห้องเช่นกันที่ตบแต่งด้วยภาพเขียนสีเฟรสโก และแทนที่เฟอร์นิเจอร์แบบร่วมสมัยด้วยเฟอร์นิเจอร์ของเก่าที่มีกลิ่นอายของอดีตครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Premium – 18-30 ตร.ม. เลือกได้ระหว่างห้องมีวิวและไม่มี โดยห้องไม่มีวิวนั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าครับ
• Deluxe Double – 26 ตร.ม. เห็นวิวเมืองเก่าฟลอเรนซ์
• Deluxe Junior Suite – 30 ตร.ม.
• 402 The Romantic Room – 35 ตร.ม. เห็นวิวเมืองเก่าเช่นกัน
• Unique Room/Suite – 40-80 ตร.ม. ห้องระดับสวีทที่มีดีไซน์เฉพาะตัวในแต่ละห้อง บางห้องตบแต่งด้วยภาพเขียนสีเฟรสโก หรืออาจจะตบแต่งด้วยโทนสีแดงสดครับ

ด้านในห้องจะมีห้องน้ำที่ทำจากหินอ่อนชั้นเลิศอย่างดีของอิตาลี เช่นเดียวกับเตียงแบรนด์ Simmons ระดับพรีเมียม, Smart TV, อุปกรณ์อาบน้ำเกรด luxury และอื่นๆ อีกมากมายครับ ส่วนเรื่องวิวนั้นจะมีให้เลือกระหว่างวิวสวนด้านในโรงแรม และวิวเมืองฟลอเรนซ์ (เห็นมหาวิหารฟลอเรนซ์และย่านเมืองเก่า)

พื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องของที่นี่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก โดยอยู่ใกล้กับมาตรฐานของโรงแรม 4 ดาวตามเมืองใหญ่ของอิตาลี แต่แน่นอนว่ายังเพียงพอสำหรับผู้เข้าพัก 2 คนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์วิวสวย
• Rooftop pool ที่ชมวิวตัวเมืองได้แบบพาโนรามา
• ฟิตเนสเซนเตอร์และ Calidarium (คุณอาจจะเรียกว่าเป็นออนเซ็นแบบโรมันก็ได้ครับ)
• พิพิธภัณฑ์ศิลปะแนว modernist
• ห้องประชุมและจัดอีเวนต์

สรุป

16. Corte Calzaiuoli Elegant Suites

Corte Calzaiuoli Elegant Suites เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่มีห้องพักเพียง 11 ห้อง แต่ทำเลของโรงแรมตั้งอยู่นั้นคงไม่มีใครปฏิเสธได้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดของเมือง เพราะถนนคนเดินอย่าง Via dei Calzaiuoli และตรงข้ามย่านการค้าที่มีร้านรวงจำนวนมาก ส่วนแลนด์มาร์กของเมืองก็อยู่ทุกทิศของโรงแรมในจุดที่เดินไปถึงได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็น Piazza della Signoria, Uffizi Gallery หรือ Ponte Vecchio ครับ

• ที่ตั้ง: Via dei Calzaiuoli, 3, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 15.00/10.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่เป็นสไตล์ neoclassical ที่รวมจุดเด่นของการแต่งห้องแบบคลาสสิคเข้ากับความทันสมัย ทำให้ตัวห้องสวยงามมีเสน่ห์ โทนห้องจะใช้เป็นสีสุภาพอย่างสีเทา สีเบจ และสีครีมซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นทางการ แต่ยังไม่ทิ้งความผ่อนคลายสบายตาครับ

ทั้งนี้รูปแบบห้องที่มีให้จองมีเพียง 3 แบบเท่านั้นได้แก่ Superior (21 ตร.ม.), Deluxe (30 ตร.ม.) และ Junior Suite (40 ตร.ม.) พื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องจะใกล้เคียงกับโรงแรม 4 ดาวทั่วไป ยกเว้นห้อง Superior เท่านั้นที่จะใหญ่กว่าห้องระดับเริ่มต้นของที่อื่นพอสมควรครับ

สำหรับเรื่อง room facilities นั้นจัดว่าดีงามทีเดียว ในห้องมีเครื่องทำกาแฟของ Lavazza พร้อมด้วยชุดชาให้คุณได้จิบชาหรือกาแฟยามเช้า เตียงนอนสบายของ Simmons อุปกรณ์อาบน้ำอย่างดี (บางห้องมีอ่างอาบน้ำ) LCD TV ขนาด 43 นิ้ว โต๊ะและโซฟา ฯลฯ ดังนั้นไว้ใจได้เลยว่าคุณจะพักผ่อนได้อย่างสบายที่สุดครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์
• บริการนวดและทำผม (โดย Hair Stylist)
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

17. Hotel Davanzati

Hotel Davanzati เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านการค้าอันคับคั่งของฟลอเรนซ์ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านของแบรนด์ต่างๆ อยู่รายรอบ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ล้วนแต่เดินไปถึงได้ภายในเวลาไม่เกิน 5-10 นาที ไม่ว่าจะเป็นดูโอโม่ Ponte Vecchio หรือว่า Uffizi Gallery ครับ

• ที่ตั้ง: Via Porta Rossa, 5, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ตบแต่งในสไตล์ Classic ที่มีกลิ่นอายแบบ Florentine แม้ว่าในห้องจะไม่ได้ดูเหมือนห้องชนชั้นสูงเหมือนกับโรงแรมระดับ luxury แต่ก็ดูสวยงามและอบอุ่น ทั้งนี้ห้องที่มีให้เลือกจองมีดังต่อไปนี้

• Single – 13.3-15.4 ตร.ม.
• Double – 15-25 ตร.ม. ห้องใหญ่ขนาด 25 ตร.ม.จะมี sofa bed ที่พักได้เพิ่มอีก 2 คน
• Junior Suite/Suite – 28 ตร.ม. ห้องสวีทจะมีระเบียงชมวิวแบบ patio ครับ

ห้องของที่นี่จัดว่าเล็กมาก โดยเฉพาะห้องเดี่ยว ทว่าสำหรับโรงแรม 3 ดาวในย่านเมืองเก่าของฟลอเรนซ์ที่พื้นที่จำกัดมากแล้วนั้น ตัวห้องถือว่าใหญ่ใช้ได้เลยครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมีพร้อม ตั้งแต่ LCD TV อุปกรณ์อาบน้ำ Laptop 1 เครื่อง ไปจนถึงโต๊ะและตู้เก็บของ เพราะฉะนั้นคุณจะได้รับความสบายในระดับหนึ่งครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์
• บริการเครื่องดื่มฟรีในช่วงเย็น
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ

สรุป

18. Hotel della Signoria

Hotel della Signoria เป็นโรงแรม 3 ดาวที่ตั้งอยู่ในละแวกจัตุรัส Piazza Della Signoria จัตุรัสที่สำคัญที่สุดในเมืองและเป็นแลนด์มาร์กสำคัญด้วย จากบริเวณนี้คุณสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ช้อปปิ้งซื้อของฝาก หรือว่าดื่มด่ำบรรยากาศในคาเฟ่ชั้นยอดได้อย่างง่ายดายด้วยการเดินไปไม่กี่นาทีเท่านั้นครับ

• ที่ตั้ง: Via delle Terme, 1, 50123 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

การตบแต่งของห้องพักที่นี่เป็นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัยที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ละห้องจึงมีบรรยากาศสบายๆ ไม่ได้เป็นทางการหรือว่าหรูหรามากนัก เพราะฉะนั้นจะเหมาะกับการพักผ่อน บางห้องจะเห็นวิวสวยๆ ของจัตุรัสและ Ponte Vecchio ครับ

ทั้งนี้ห้องที่มีให้จองประกอบด้วย

• Classic – 17 ตร.ม.
• Superior – 18-19 ตร.ม. มีห้องที่มีระเบียงแบบ Terrace
• Deluxe – 27 ตร.ม. เลือกเตียงได้ระหว่าง Double และ Twin

ด้วยขนาดเริ่มต้นที่ 17 ตร.ม.แล้วนั้น สำหรับโรงแรม 3 ดาวถือว่ากว้างขวางทีเดียวครับ เพราะฉะนั้นคุณสามารถวางกระเป๋าเดินทางได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานนั้นก็มีพร้อมทั้งหมด ช่วยให้คุณพักผ่อนนอนหลับได้อย่างราบรื่นครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้าแบบ a la carte
• บาร์ของโรงแรม
• บริการทัวร์และกิจกรรมต่างๆ

สรุป

19. Casa Thiele alla Signoria

Casa Thiele alla Signoria เป็นโรงแรม 3 ดาวที่ตั้งอยู่แค่บลอคเดียวจาก Piazza della Signoria จัตุรัสอันยิ่งใหญ่ของเมืองฟลอเรนซ์ ส่วนเรื่องที่ตั้งนั้น ทางโรงแรมให้นิยามไว้ว่าในระยะทาง 300 เมตรรายรอบโรงแรม คุณสามารถเดินไปเยี่ยมเยือนมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองได้แทบทุกแห่ง ซึ่งไม่ผิดจากความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อยครับ

สำหรับร้านอาหารและร้านค้าให้ช้อปปิ้งก็ล้วนแต่อยู่รายรอบโรงแรม เพราะที่ตั้งของโรงแรมอยู่บนถนน Via dei Calzaiuoli ถนนสายหลักที่มีร้านรวงเรียงรายกันเป็นแนวยาว ส่วนด้านหลังของโรงแรมก็เป็นย่านการค้าด้วยครับ

• ที่ตั้ง: Via dei Calzaiuoli, 2, 50122 Firenze FI, Italy
• Check-in/out: 14.00/10.00

ห้องพัก

โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Palazzo dei Buonaguisi อาคารสมัยศตวรรษที่ 14 เพราะฉะนั้นตัวโรงแรมจะไม่ได้ใหญ่อะไรนัก ห้องพักแต่ละห้องได้รับการดีไซน์ในแบบร่วมสมัย แต่เนื่องจากตั้งอยู่ในอาคารโบราณ คุณจะสามารถเห็นกำแพงเก่าและเพดานไม้ของเดิมได้ครับ ซึ่งจะให้กลิ่นอายที่ไม่เหมือนการพักที่ใด

นอกจากนี้แต่ละห้องพักจะมีเพดานสูง ช่วยให้คุณรู้สึกอึดอัดน้อยลง และหายใจหายคอได้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Double – 17 ตร.ม.
• Deluxe King – 19 ตร.ม.
• Superior Double – 20 ตร.ม.

ขนาดห้องพักที่เริ่มต้นที่ 17 ตร.ม. ซึ่งถือว่าใหญ่ในระดับหนึ่งสำหรับโรงแรมระดับ 3 ดาว แต่สิ่งอำนวยความสะดวกนั้นถือว่ายอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำกาแฟ Nespresso, ทีวีพร้อมระบบดาวเทียม อุปกรณ์อาบน้ำ มินิบาร์ ฯลฯ เพราะฉะนั้นคุณจะได้รับความสะดวกสบายตลอดเวลาที่อยู่ในห้องพักครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

20. ตัวเลือกที่พักราคาประหยัดในฟลอเรนซ์

• Toscanelli Residenza d’Epoca – ตั้งอยู่หน้า Palazzo Pitti และอยู่คนละฝั่งแม่น้ำกับย่านเมืองเก่า เพราะฉะนั้นจะพลุกพล่านน้อยกว่า ตัวห้องค่อนข้างเล็กแต่ราคาน่าคบหาครับ
• Bellevue House – ที่พักรีวิวเยี่ยมที่ห้องใหญ่ใช้ได้ ราคาต่อคืนถูกอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในฟลอเรนซ์ แต่อาจจะต้องเดินไปสถานที่ท่องเที่ยวไกลหน่อยครับ