หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น10 ที่เที่ยวฟุราโนะ (Furano) และกิจกรรมน่าสนใจที่ห้ามพลาด

10 ที่เที่ยวฟุราโนะ (Furano) และกิจกรรมน่าสนใจที่ห้ามพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

ฟุราโนะ (Furano, 富良野) คือเมืองขนาดเล็กที่อยู่ในตอนกลางของเกาะฮอกไกโด ตัวเมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงจากทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่จะบานสะพรั่งในช่วงเดือนกรกฏาคมของทุกปี และดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกเลยครับ

อย่างไรก็ดีฟุราโนะนั้นมีอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจ ซึ่งในบทความนี้ผมจะแนะนำให้คุณทราบอย่างละเอียดเพื่อที่จะได้ใช้วางแผนเที่ยวต่อไปครับ แต่ก่อนอื่นเราไปดูความเป็นมาของเมืองนี้กันก่อนครับ

ความเป็นมาของฟุราโนะ

ชื่อฟุราโนะนั้นมีที่มาจากภาษาไอนุ ภาษาของชนพื้นเมืองที่อาศัยที่เกาะฮอกไกโดก่อนที่ญี่ปุ่นจะเข้ามาผนวกดินแดนแห่งนี้ รากศัพท์ของฟุราโนะนั้นแปลว่า “สถานที่ที่มีกลิ่นเหม็น” ซึ่งไม่ได้มีความหมายในแง่บวกเท่าไรนัก

หลังจากที่รัฐบาลเมจิได้ผนวกฮอกไกโดเข้าเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นได้เริ่มตั้งรกรากลงที่นี่จนกลายเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ครับ ก่อนที่จะกลายเป็นเมืองขนาดเล็กอย่างช้าๆ

เมืองฟุราโนะ ประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน
by Sean Pavone/ShutterStock

แม้ว่าจะไม่ได้มีความสำคัญใดๆ มากนัก แต่ฟุราโนะก็ยังโดนทิ้งระเบิดในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สองอยู่ดี ทำให้ตัวเมืองได้รับความเสียหายไปบางส่วน แต่ก็ฟื้นคืนกลับมาหลังจากสงคราม

ในปัจจุบัน เศรษฐกิจของเมืองพึ่งพาการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ โดยเป็นสถานที่ผลิตนมสด ชีส รวมไปถึงผักและผลไม้ (โดยเฉพาะแครอท เมลอน และองุ่น) และระยะหลังก็มีการท่องเที่ยวเข้ามาเพราะผู้คนหลั่งไหลกันมาชมทุ่งลาเวนเดอร์ครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปฟุราโนะทำอย่างไร?

ฟุราโนะสามารถเดินทางไปไม่ยากจากซัปโปโร เมืองหลวงของฮอกไกโด โดยคุณจะมีทางเลือกต่อไปนี้ครับ

  • การเช่ารถเนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวในฟุราโนะและเมืองใกล้ๆ อย่างบิเอะอยู่ห่างจากกันมาก และมีขนส่งสาธารณะที่จำกัด ทำให้การเช่ารถจากซัปโปโรแล้วขับไปยังฟุราโนะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ถ้าคุณให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายเป็นอันดับหนึ่งครับ ระยะทางก็ไม่ไกลมากนัก (113 กิโลเมตร)
  • รถบัส – ผู้ให้บริการรถบัสอย่าง Hokkaido Chuo Bus ให้บริการรถบัสไปยังฟุราโนะ ในราคา 2,500 เยน ส่วนเวลาที่ใช้อยู่ที่ 3 ชั่วโมงครับ ข้อดีของวิธีนี้คือไม่แพง และไม่ต้องเปลี่ยนรถใดๆ เลย
  • Furano Lavender Express – สำหรับใครที่ชอบนั่งรถไฟ คุณสามารถใช้บริการ Furano Lavender Express ไปยังฟุราโนะได้โดยตรง เวลาที่ใช้อยู่ที่ 2 ชั่วโมง ส่วนราคาอยู่ที่ 5,000 เยนครับ แต่รถไฟนี้มีบริการในช่วงฤดูร้อน (มิถุนายนถึงสิงหาคม) เท่านั้น
  • รถไฟ – อีกหนึ่งทางเลือกที่ประหยัดกว่าการนั่งรถไฟพิเศษก็คือการใช้รถไฟธรรมดา กล่าวคือจากซัปโปโร คุณจะต้องนั่ง JR Hakodate Main Line ไปยัง Takikawa Station แล้วเปลี่ยนรถเป็น JR Nemuro Main Line เพื่อเข้าฟุราโนะครับ วิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลารอเปลี่ยนรถ) ส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 4,000 เยนครับ

ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของ Furano Tourism Association ซึ่งข้อมูลตรงนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางอีกครั้งก่อนออกเดินทางครับ

ไปเที่ยวฟุราโนะช่วงไหนดี?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าช่วงที่ดีที่สุดคือช่วงเดือนกรกฎาคม เพราะดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้ต่างๆ จะบานสะพรั่ง อากาศก็เย็นสบายช่วงนี้เป็นช่วงที่ยอดนิยมที่สุดอย่างแท้จริง นักเดินทางส่วนใหญ่จะมากันอย่างล้นหลามเลยครับ

อีกช่วงหนึ่งที่ได้รับความนิยมแต่รองลงมาก็คือช่วงฤดูหนาว เพราะฟุราโนะจะเปลี่ยนเป็นสกีรีสอร์ทที่คุณสามารถเล่นกิจกรรมฤดูหนาวได้แทบจะทุกรูปแบบเลยครับ แต่แน่นอนว่าอุณหภูมิจะหนาวเหน็บ (อาจจะ -10 องศาหรือต่ำกว่า)

ที่พัก

ถ้าคุณยังไม่ได้จองที่พักในเมือง ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักในเมืองฟุราโนะดีๆ ของผมเพิ่มเติมครับ

1. ฟาร์มโทมิตะและทุ่งลาเวนเดอร์อีส

ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) เป็นที่เที่ยวอันดับ 1 ของเมืองฟุราโนะอย่างไม่ต้องสงสัย ที่นี่เป็นฟาร์มขนาดยักษ์ที่มีสวนดอกไม้หลายแห่ง ซึ่งในช่วงฤดูร้อนจะบานพร้อมกัน แถมยังมีฉากหลังเป็นแนวภูเขาอีกด้วย เกิดเป็นทัศนียภาพที่งามสะพรั่ง ควรค่าต่อการมาชมอย่างยิ่งเลยครับ

ไฮไลท์ของสวนโทมิตะประกอบด้วย

ทุ่งอิโรโดริ (Irodori Field) – ทุ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในฟาร์มโทมิตะ ตัวทุ่งจะมีดอกไม้หลายชนิดปลูกเรียงเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นดอกลาเวนเดอร์สีม่วง ดอกป็อปปี้สีแดง ฯลฯ วิวของทุ่งนี้ถือว่าสุดยอดเลยครับ

Irodori Field แห่งฟาร์มโทมิตะ ที่เที่ยวฟุราโนะอันดับ 1
Irodori Field แห่งฟาร์มโทมิตะ by ajisai13/ShutterStock

Traditional Lavender Field – ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เก่าแก่ที่สุดในฟาร์ม และเป็นทุ่งดอกไม้ชนิดนี้แห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นด้วย วิวจากจุดนี้สวยมาก เพราะจะเห็นหุบเขาฟุราโนะไปพร้อมๆ กับดอกไม้เลยครับ

ทุ่งฮานาบิโตะ (Hanabito Field) – ทุ่งที่มีดอกไม้สีสันฉูดฉาดให้ชมตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงเลยทีเดียว

ทุ่งฮานาบิโตะ by NWStudio/ShutterStock

Greenhouse – ฟาร์มดอกลาเวนเดอร์ในเรือนกระจก จุดเด่นคือสามารถชมได้ตลอดปีครับ

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทุ่งที่คุณสามารถเดินชมได้ ถ้าคุณชอบดอกไม้แล้วละก็ ผมเชื่อว่าคุณอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันเลยครับ

ฟาร์มโทมิตะ สถานที่เที่ยวฟุราโนะ
by Saknarong Tayaset/ShutterStock

ภายในสวนยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ อย่างเช่นเดินชม farmhouse แต่ละแห่ง หรือว่าลิ้มรสไอศกรีมแบบ soft-serve รสลาเวนเดอร์และขนมหวานอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือครับ หรือว่าจะไปช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ชั้นดีอย่างเช่นน้ำหอมก็ได้เช่นกัน

ไอศกรีม Soft-serve รสลาเวนเดอร์ ของดีของฟาร์มโทมิตะ
ไอศกรีม Soft-serve รสลาเวนเดอร์ ของดีของฟาร์มโทมิตะ by Hsiun/ShutterStock

สำหรับใครที่ยังไม่อิ่มใจกับการชมลาเวนเดอร์ ใกล้กับฟาร์มโทมิตะ (ห่างไป 4 กม) มีอีกทุ่งหนึ่งชื่อ Lavender East ซึ่งเป็นหนึ่งในทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น วิวที่นี่สวยไม่เบาเพราะรายล้อมไปด้วยภูเขาอันยิ่งใหญ่ตระการตาของฟุราโนะนั่นเอง

ทุ่ง Lavender East
ทุ่ง Lavender East by IamDoctorEgg/ShutterStock

2. เล่นกิจกรรมฤดูหนาวที่ Furano Ski Resort

สำหรับใครที่มาเที่ยวฟุราโนะในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถมาเล่นสกีตลอดจนกิจกรรมฤดูหนาวอื่นๆ ได้ที่ Furano Ski Resort หนึ่งในสกีรีสอร์ทชั้นนำของฮอกไกโดและญี่ปุ่น ซึ่งไม่ได้ด้อยกว่านิเซโกะ หรือ ฮาคุบะเลยครับ

Furano Ski Resort
by Marinaskyf/ShutterStock

ค่าตั๋วคิดเป็นรายวัน โดยจะอยู่ที่ 6,500 เยนต่อคนครับ แต่เรทนี้จะไม่รวมกิจกรรมสนุกๆ อย่างอื่นที่มีให้ทำด้วยอย่างเช่นชมรูปปั้นหิมะ (Snow Night Fantasy) ครับ

นอกเหนือจากการเล่นกิจกรรมต่างๆ แล้ว ที่นี่ยังมีจัดเทศกาลหิมะ (Furano Snow Festival) ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีทั้งการแกะสลักหิมะ การจุดพลุและดอกไม้ไฟ รวมไปถึงการแสดงและการละเล่นต่างๆ ครับ

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง คุณสามารถใช้บริการของเคเบิลคาร์ (Furano Ropeway) เพื่อชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีและขุนเขาโดยรอบได้แบบพาโนรามาครับ

ใครที่สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดแผนที่สกีรีสอร์ทได้ที่ Prince Snow Resort (Furano) ครับ

3. เยี่ยมชมโรงงานชีส

อย่างที่ผมได้เกริ่นไปแล้วด้านบนว่า หนึ่งในผลผลิตทางการเกษตรขึ้นชื่อของฟุราโนะคือชีส ซึ่งที่ Furano Cheese Factory แห่งนี้ คุณจะได้ชมการผลิตชีสแบบ camembert ตั้งแต่ต้นจนจบ คุณจะได้เข้าใจว่าชีสแสนอร่อยของฮอกไกโดนั้นผลิตกันอย่างไรครับ

พิซซ่าที่ Furano Cheese Factory
พิซซ่าที่ Furano Cheese Factory by K_K VIP/ShutterStock

แต่ที่เด็ดกว่าคือ คุณสามารถลองผลิตชีสหรือทำอาหารจากชีสด้วยตัวคุณเองด้วยครับ (Workshop ไม่ฟรีนะครับ เริ่มต้นที่ 900 เยน)

ส่วนใครที่ชอบชิมของอร่อย ที่นี่ขายทั้งไอศกรีมและพิซซ่าซึ่งใช้ชีสที่โรงงานผลิตเองเป็นวัตถุดิบหลัก ดังนั้นไม่ควรพลาดชิมเลยครับ

4. ชมกระท่อมไม้สวยๆ ที่ Ningle Terrace

Ningle Terrace เป็นพื้นที่ในโรงแรม New Furano Prince Hotel ที่มีกระท่อมไม้อันสวยงามเรียงติดกัน ซึ่งในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟ light-up ทำให้บริเวณนี้โรแมนติกสุดๆ เพราะฉะนั้นซีรีส์หรือภาพยนตร์ญี่ปุ่นหลายเรื่องมักจะมาถ่ายทำกันที่นี่ครับ

Ningle Terrace เมืองฟุราโนะ
by Sean Pavone/Shutterstock

ในกระท่อมแต่ละแห่งนั้นเป็นร้านขายสินค้าพื้นเมืองที่คุณสามารถซื้อไปเป็นของที่ระลึก รวมไปถึงคาเฟ่ที่ขายอาหารและของว่างรสชาติดีครับ

กระท่อมไม้ที่ Ningle Terrace
by AnnAnGle/ShutterStock

5. เยี่ยมฟาร์มผลไม้

เมืองฟุราโนะมีฟาร์มผลไม้อยู่มากมาย ซึ่งบางแห่งเปิดให้คุณเข้าไปชมขั้นตอนต่างๆ รวมไปถึงเด็ดมาชิม หรือว่าซื้อกลับบ้านได้เช่นกัน ฟาร์มที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้

Tip

สำหรับการหาตำแหน่งของฟาร์มเหล่านี้จะยากพอสมควร เพราะชื่อจะไม่ปรากฏในแอพแผนที่ใดๆ ผมแนะนำให้เข้าเว็บนี้เพื่อให้ใช้แสดงตำแหน่งใน Google Map ครับ

by luissybuster/ShutterStock

6. ชมทุ่งลาเวนเดอร์อื่นๆ

นอกเหนือจากฟาร์มโทมิตะแล้ว เมืองฟุราโนะยังมีฟาร์มดอกลาเวนเดอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน อาทิเช่น

  • Highland Furano
  • Flowerland Kamifurano – ฟาร์มดอกไม้ที่ปลูกผักและผลไม้ด้วย ทำให้คุณสามารถซื้อมาลองลิ้มลองรสชาติได้ด้วย
  • Choei Lavender Farm – สวนดอกไม้ที่มีจุดชมวิวแจ่มๆ ที่ผู้มาเยือนสามารถชมวิวตัวฟาร์มได้แบบพาโนรามา
  • Hinode Park
  • Kanno Farm
Flowerland Kamifurano by anahtiris/ShutterStock

7. สวนอาซาฮีกาโอกะ

สวนอาซาฮีกาโอกะ (Asahigaoka Park) เป็นจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดของเมืองฟุราโนะ โดยที่นี่จะมีต้นซากุระมากกว่า 3,000 ต้น ซึ่งจะบานให้ชมในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปีครับ

แต่ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถเห็นวิวภูเขาโทกาจิดาเกะกับตัวเมืองฟุราโนะจากสวนแห่งนี้ด้วย เพราะฉะนั้นทัศนียภาพจึงสวยไม่เบาเลยครับ

8. แช่ออนเซ็น

Fukiage Onsen
by retirementbonus/ShutterStock

ใกล้กับเมืองฟุราโนะนั้นมีออนเซ็นคุณภาพเยี่ยมอยู่ 2 แห่งด้วยกัน ซึ่งคุณสามารถลงแช่น้ำเพื่อผ่อนคลายได้ได้แก่

  • ฮากุกินโซะออนเซ็น (Hakuginso Onsen) – โรงอาบน้ำของที่นี่มีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งแบบหลังนั้นจะมีแบบแช่รวมไม่แยกหญิงชายด้วย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะสามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้ครับ (ต่างจากบางแห่งที่นิวโตะออนเซ็นที่ไม่ให้ใส่)
  • ฟุกิอาเกะออนเซ็น (Fukiage Onsen) – น้ำพุร้อนที่อาบได้แบบกลางแจ้ง ไม่แยกชายหญิง แต่สามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้ครับ

9. ชมความสวยของ Blue Pond

Blue Pond หรืออาโออิอิเกะ (Aoi Ike) เป็นบึงสีน้ำเงินสวยตั้งอยู่ใกล้กับเมืองบิเอะ (Biei) ซึ่งห่างจากฟุราโนะไปไม่ไกลนักครับ

สีน้ำเงินเข้มของน้ำในบึงมาจากแร่ธาตุต่างๆ ที่อยู่ในน้ำครับ ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะมาเก็บภาพสวยๆ ครับ

Blue Pond
by Terence Toh Chin Eng/ShutterStock

10. ขับรถ/ขี่จักรยานชมธรรมชาติที่บิเอะ

บิเอะ (Biei) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเนินเขามากมาย ซึ่งชาวเมืองได้เปลี่ยนเนินเขาเหล่านี้เป็นพื้นที่เพาะปลูกดอกไม้ตลอดจนพืชผลต่างๆ ครับ

นักท่องเที่ยวมักจะมาขี่จักรยานหรือว่าขับรถชมทุ่งเหล่านี้ ทั้งนี้บริเวณที่สวยนั้นมีอยู่สองจุดด้วยกัน จุดแรกคือ Patchwork Road ที่มีทุ่งบนเนินเขาอันกว้างใหญ่ที่มีจุดชมวิวสวยๆ อย่าง Hokusei Hill Observatory ครับ

Patchwork Road เมืองบิเอะ
by IamDoctorEgg/ShutterStock

อีกจุดหนึ่งคือ Panorama Road ซึ่งบริเวณนี้จะมีทุ่งดอกลาเวนเดอร์และดอกไม้อื่นๆ ให้ชมด้วยครับ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่บริเวณที่เรียกว่า Shikisai Hill

Shikisai Hill เมืองบิเอะ
Shikisai Hill by Tanya Jones/ShutterStock

ดังนั้นถ้าคุณเหลือเวลาในฟุราโนะ (และเช่ารถมา) การขับมาชมวิวสวยๆ ที่บิเอะก็น่าพิจารณาไม่น้อยเลยครับ

ตัวอย่างแพลนทริปฟุราโนะ

สำหรับ infographic ด้านล่างจะเป็นแพลนทริปที่ผมได้จัดทำไว้แล้วอย่างคร่าวๆ ซึ่งมีฟุราโนะเป็นองค์ประกอบหลัก ทั้งนี้คุณสามารถนำไปใช้จัดทริปต่อไปของคุณได้เลยครับ โดยทั้งสองทริปจะเป็นทริปฤดูร้อน หรือฤดูหนาวที่จะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป แต่เนื่องด้วยการเดินทางในฟุราโนะด้วยรถสาธารณะไม่สะดวก เพราะฉะนั้นทริปที่ผมแพลนไว้จะใช้การเช่ารถครับ


References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!