11 โรงแรมและที่พักกินซ่า (Ginza) น่าจอง | พร้อมจุดเด่นจุดด้อย

กินซ่า (Ginza) เป็นย่านช้อปปิ้งและอาหารการกินอันดับหนึ่งของกรุงโตเกียว เรียกได้ว่าเป็นย่านหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงเมื่อเดินทางมาที่นี่ เพื่อความสะดวกสบายนั้น คุณอาจจะมองหาที่พักที่ย่านนี้ครับ

ในบทความนี้ผมจึงจะมาแนะนำโรงแรมและที่พักกินซ่าที่น่าจอง จะมีที่ไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้เลยครับ

ข้อควรทราบ

ที่พักกินซ่าน่าจอง

1. The Peninsula Tokyo

The Peninsula Tokyo เป็นตัวเลือกที่พักระดับ high-end อันหรูหรามีระดับที่สุดแห่งหนึ่งของกินซ่าและโตเกียว โรงแรมตั้งอยู่ในเขตยุระคุโจ (Yurakucho) ซึ่งเป็นย่าน business district ที่สำคัญที่สุดของเมือง ซึ่งเป็นสามเหลี่ยมที่เชื่อมระหว่างสวนฮิบิยะ พระราชวังอิมพีเรียล และย่านช้อปปิ้งกินซ่า (ประมาณ 700 เมตร) ทำให้เป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวครับ

ด้านการเดินทางนั้นก็สะดวกสบายมาก เพราะ Hibiya Station อยู่ห่างไปแค่ 100 เมตร นอกจากนี้คุณสามารถเดินไปขึ้นที่สถานีกินซ่าก็ได้เช่นกัน ส่วนถ้าจะใช้ Yamanote Line คุณก็เดินขึ้นได้ที่ Yurakucho Station ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมแค่ 300 เมตรครับ

รอบๆ โรงแรมมีร้านอาหารให้เลือกจำนวนมหาศาล ซึ่งบางร้านนั้นเป็นสุดยอดร้านอาหารแห่งกรุงโตเกียวเลยครับ และแน่นอนว่าร้านสะดวกซื้อก็มีจำนวนมากเช่นกัน

• ที่ตั้ง: 1 Chome-8-1 Yurakucho, Chiyoda City, Tokyo 100-0006, Japan
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของโรงแรมเป็นแบบร่วมสมัยที่ดูหรูหราสวยงาม ทุกสัดส่วนในห้องได้รับการตบแต่งอย่างประณีตวิจิตรด้วยสีเทาอ่อน และสีน้ำตาลแบบ earth tone ด้านการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์นั้นแฝงความเป็นญี่ปุ่นมาด้วยอย่างลงตัว ซึ่งจะช่วยให้ทุกค่ำคืนของคุณที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำไปตลอดกาลนานครับ

สำหรับรูปแบบห้องพักของที่นี่นั้นเป็นห้องระดับ deluxe ขึ้นไปทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าพื้นที่ใช้สอยและราคาต่อคืนจะเริ่มสูงกว่าตัวเลือกอื่นๆ อย่างชัดเจนครับ นอกจากนี้จุดแข็งของแต่ละห้องคือหน้าต่างบานใหญ่มาก ถ้าคุณเลือกห้องที่อยู่มุมตึกนั้น คุณจะชมวิวกรุงโตเกียวได้จากหลายมุม ซึ่งงดงามมากครับ

รูปแบบห้องที่มีให้เลือกประกอบด้วย

• Deluxe/Premier – 54 ตร.ม.
• Premier Corner/Grand Premier – 63-69 ตร.ม.
• Executive Suite – 81 ตร.ม.
• Marunouchi Suite – 109 ตร.ม.
• Grand Premier Suite/Deluxe Suite – 116 ตร.ม.
• Connecting Deluxe Suite – 179 ตร.ม.
• Hibiya Suite – 298 ตร.ม.
• Peninsula Suite – 348 ตร.ม.

เรื่องขนาดห้องนั้นไม่ต้องพูดถึง ห้องของที่นี่น่าจะใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของกรุงโตเกียวเลยครับ ส่วน room facilities นั้นก็อยู่ในระดับท็อปตั้งแต่อ่างอาบน้ำอันหรูหรา เครื่องทำกาแฟ ไปจนถึงอุปกรณ์อาบน้ำแบบ organic ดังนั้นไม่ว่าคุณจะนอนพัก นั่งชิว หรือทำงานอยู่ในห้อง คุณจะได้รับความสบายเป็นที่สุดเลยครับ นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ชั้นเลิศมากมายให้ได้รับประทานโดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีกด้วย

แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่เหนือกว่าที่อื่นอีกระดับหนึ่งคือเรื่องการบริการ โดยเฉพาะระบบ PenChat ที่คุณสามารถติดต่อพนักงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการจองร้านอาหาร (อย่างเช่น Sukiyabashi Jiro ที่จองยากมากๆ) ไปจนถึงสอบถามข้อมูลการเดินทางต่างๆ ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ รวม 5 แห่ง
• สระว่ายน้ำและฟิตเนสเซนเตอร์
• บริการสปาแบบครบวงจร
• บริการรับส่งไปยังร้านอาหารในช่วงเย็น (ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องอยู่ในระยะ 10 กิโลเมตรจากโรงแรม)
• บริการทัวร์และกิจกรรมอื่นๆ
• ห้องประชุมและจัดเลี้ยง
• ที่จอดรถของโรงแรม (ไม่ฟรี)

สรุป

2. Imperial Hotel Tokyo

Imperial Hotel Tokyo เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวซึ่งผมมองว่าตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของกินซ่า (หรือแม้กระทั่งโตเกียว) อย่างไม่ต้องสงสัย รอบๆ โรงแรมคือสวนฮิบิยะ พระราชวังอิมพีเรียล และย่านกินซ่าครับ ส่วนรถไฟใต้ดินนั้นมีทั้งสถานี Hibiya Station และ Ginza Station ขณะที่ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อก็มีให้เลือกใกล้ๆ พอสมควรเลยครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-1-1 Uchisaiwaicho, Chiyoda City, Tokyo 100-8558, Japan
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว โดยมีประวัติความเป็นมาย้อนไปได้ถึงยุคเมจิ และต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมานานร้อยกว่าปีครับ อย่างไรก็ดีตัวอาคารเดิมนั้นถูกรื้อถอนไปแล้วในปี ค.ศ.1967 อาคารของโรงแรมในปัจจุบันเป็นส่วนที่สร้างขึ้นมาในภายหลังครับ

ห้องพักในโรงแรมนั้นจะแบ่งเป็นสองโซนใหญ่ๆ โซนแรกคือ Regular Floors ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 7-12 ของอาคาร ดีไซน์ของแต่ละห้องจะเป็นแบบโมเดิร์นที่ดูเรียบหรูสวยงามและทันสมัย ห้องที่มีให้เลือกประกอบด้วย

• Superior – 32 ตร.ม.
• Deluxe – 42 ตร.ม.
• Junior Suite – 54-64 ตร.ม.
• Corner Suite – 115 ตร.ม. ห้องนี้จะเห็นวิวสวนฮิบิยะครับ
• Family – 143 ตร.ม.

โซนที่สองคือ Imperial Floors ที่จะอยู่ที่ชั้น 14-16 ของโรงแรม ดีไซน์ของแต่ละห้องใน 3 ชั้นนี้จะเป็นผลงานของ Julian Reed สถาปนิกชาวอังกฤษ เรื่องดีไซน์นั้นก็จะหรูหราและสวยงามกว่าส่วนของ Regular Floors ครับ แต่รูปแบบห้องพักนั้นจะเหมือนกันนั่นคือมี Superior, Deluxe, Junior Suite แต่เพิ่มเติมด้วย

• Deluxe Suite – 80 ตร.ม.
• Premier Suite – 100 ตร.ม.
• Premier Deluxe Suite – 150 ตร.ม.

สำหรับขนาดห้องพักนั้นใหญ่และกว้างขวางมากทุกระดับ สมกับเป็นโรงแรม 5 ดาว เพราะฉะนั้นเรื่องพื้นที่ใช้สอยไม่มีคำถามแน่นอนครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมีครบครันสมบูรณ์ อย่างเช่น

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 13 แห่ง บาร์และเลาจน์ 5 แห่ง และห้องชงชาแบบญี่ปุ่น
• ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ และซาวน่า
• ห้องประชุมและจัดเลี้ยง
• ห้องดนตรีสำหรับเล่นเครื่องดนตรี
• ร้านค้าของโรงแรม
• บริการรถลีมูซีน

สรุป

3. Hyatt Centric Ginza Tokyo

ถ้าจะเอ่ยถึงโรงแรมชั้นนำที่ตั้งอยู่ในทำเลทองของโลกอย่างกินซ่าแล้วนั้น การไม่กล่าวถึงโรงแรมของเครือ Hyatt นั้นเป็นไปไม่ได้เลยครับ Hyatt Centric Ginza Tokyo เป็นอีกหนึ่งที่พักชั้นเลิศที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของกินซ่า เพราะห่างจากศูนย์กลางของกินซ่าไปไม่ถึง 500 เมตร ขณะที่สถานีรถไฟ Ginza Station อยู่ใกล้แค่ 200 เมตร ทำให้ทั้งการไปช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในโตเกียวสะดวกสบายมากครับ

ไม่เพียงเท่านั้นละแวกโรงแรมนั้นมี shop ของร้านค้าระดับ Upscale จำนวนมากตั้งแต่ Gucci Versace ไปจนถึง Rolex แถมด้วยร้านอาหารระดับท็อปของเมืองอีกมากมายด้วยครับ

• ที่ตั้ง: 6 Chome-6-7 Ginza, Chuo City, Tokyo 104-0061, Japan
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ดีไซน์ห้องของที่นี่เป็นแบบร่วมสมัยที่มีไฮไลท์อยู่ที่การใช้สีฉูดฉาดในห้อง ผนังในห้องของคุณจะมีสีเหลือง สีแดง หรือสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งจะ contrast อย่างมากกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ เช่นเดียวกับหมอนและผ้าห่มสีเขียว บรรยากาศในห้องจะช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่า และสร้างความเบิกบานในวันใหม่ในช่วงเช้าให้กับคุณครับ

รูปแบบห้องพักของที่นี่ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยมี 4 แบบให้เลือกได้แก่

• Standard (Twin/King) – 35 ตร.ม.
• Deluxe – 47 ตร.ม.
• Suite – 77 ตร.ม.
• Namiki Suite – 127 ตร.ม.

เรื่องพื้นที่ใช้สอยนั้นเป็นจุดแข็งของที่นี่เลยครับ ห้องเล็กสุดของที่นี่เริ่มต้นที่ 35 ตร.ม.ซึ่งถือว่าใหญ่มากสำหรับห้องพักโรงแรม 4-5 ดาวในโตเกียว

นอกจากนี้แต่ละห้องนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ upscale แบบพร้อมสรรพ อย่างเช่นเครื่องทำกาแฟ Nespresso, LCD TV ขนาด 50 นิ้ว ไปจนถึงอุปกรณ์อาบน้ำจากแบรนดฺ์ Beekind, ชุดยูกาตะ ไปจนถึงรองเท้าแตะ ดังนั้นเรื่องความสบายในห้องนั้นไม่มีเครื่องหมายคำถามแน่นอนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ และเลาจน์
• ห้องฟิตเนสและโยคะ
• ที่จอดรถของโรงแรม (ไม่ฟรี คิดราคา 2,000 เยนต่อคืน)
• บริการรับส่งสนามบิน

สรุป

4. Muji Hotel Ginza

Muji Hotel Ginza เป็นโรงแรมของเครือของ Muji ครับ ซึ่งเป็นร้านขายของตกแต่งบ้านที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ตัวโรงแรมนั้นจะต่างกับที่อื่นอย่างหนึ่งคือตั้งอยู่ในใจกลางย่านกินซ่าเลย ทำให้มีร้านค้าและร้านอาหารจำนวนมหาศาล นอกจากนี้ Muji Flagship Store ก็ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรมอีกด้วยครับ

ส่วนเรื่องการเดินทางนั้นหายห่วงได้เลย เพราะทางเข้าสถานีรถไฟ Ginza Station ห่างไปไม่ถึง 100 เมตรครับ

• ที่ตั้ง: Japan, 〒104-0061 Tokyo, Chuo City, Ginza, 3 Chome−3−5 6F
• Check-in/out: 15.00/11.00

ห้องพัก

ดีไซน์ห้องนั้นจะเป็นแบบโมเดิร์นที่มีลายเซ็นของความเป็น Muji เข้ามาด้วยอย่างชัดเจน อย่างเช่นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งเป็นสีเดียวกับผนังห้อง และมีการจัดเรียงเฟอร์นิเจอร์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้เข้าพักไม่รู้สึกอึดอัดครับ

รูปแบบห้องพักของที่นี่ประกอบด้วย

• Type A – 14-15 ตร.ม. ห้องเดี่ยวสำหรับ solo traveler แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องพื้นที่ใช้สอย สามารถนอน 2 คนได้เ่ช่นกัน
• Type B/C – 20-25 ตร.ม. ห้องสองแบบ (B และ C) เหมือนกันแทบทุกประการ นั่นคือเป็นห้อง Double โดยห้อง C จะใหญ่กว่าห้อง B เล็กน้อย
• Type D – 34-35 ตร.ม. ห้องเตียง Twin
• Type E – 36-37 ตร.ม. ห้อง Twin เช่นกัน แต่ต่างจากห้อง D ตรงที่เตียงเป็นแบบ low bed และวางบนพื้นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ
• Type F – 36 ตร.ม. เหมือนกับห้อง E ทุกประการ แต่เตียงในห้องเป็นแบบ Hollywood Twin (สองเตียงเดี่ยวชิดติดกัน)
• Type G – 20 ตร.ม. เตียงในห้องจะเป็นเตียงสองชั้น
• Type H – 27 ตร.ม. ห้องสำหรับผู้พิการ หรือผู้เข้าพักที่ต้องการการช่วยเหลือพิเศษ
• Type I – 52 ตร.ม. ห้อง Twin ที่มีห้องนั่งเล่นและห้องอ่านหนังสือในตัว

สำหรับเรื่องขนาดนั้นเท่ากับโรงแรมธุรกิจแบบ 4 ดาวในโตเกียวครับ เพราะฉะนั้นพื้นที่ใช้สอยพอตัว ซึ่งอาจจะรู้สึกอึดอัดได้ ถ้าคุณมีสัมภาระจำนวนมากครับ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นก็จะเป็น theme แบบ organic อย่างเช่นแปรงสีฟันและหวีที่ทำจากไม้ไผ่ ไปจนถึงอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ครับ นอกจากนี้คุณสามารถติดต่อล็อบบี้เพื่อขอยืมของใช้อย่างเช่นเตารีด หรือชุดนอนได้เช่นกันครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร ร้านขนม และบาร์
• ห้องสมุดและห้องนั่งเล่นรวม
• Muji Ginza Flagship Store
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

5. Hotel Grand Bach Tokyo Ginza

Hotel Grand Bach Tokyo Ginza เป็นโรงแรมที่ผมมองว่าสวรรค์ประทานมาให้กับสายช้อปปิ้งโดยแท้ เพราะห่างจากใจกลางกินซ่าไปแค่ประมาณ 300-400 เมตร และห้างหลักทั้งหมดอย่าง Matsuya และ Ginza Wako ก็ใช้เวลาเดินไปจากโรงแรมไม่เกิน 5 นาทีครับ

นอกจากนี้ถ้าเบื่อๆ คุณอาจจะไปดูการแสดงคาบูกิที่โรงละคร Kabukiza ได้อีกด้วย เพราะอยู่ใกล้กับโรงแรมแค่ 300 เมตรครับ

• ที่ตั้ง: 12号, 5 Chome-13-番 Ginza, Chuo City, Tokyo 104-0061, Japan
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

คอนเซปต์ของโรงแรมแห่งนี้คือศิลปะและดนตรี โดยที่นี่ตั้งเป้าว่าจะเป็นสถานที่ซึ่งผู้เข้าพักได้รับความสงบ ปลีกหนีจากความพลุกพล่าน และผ่อนคลายด้วยการรับฟังดนตรีอันไพเราะของบาค (Johann Sebastian Bach) ครับ ไม่เพียงเท่านั้นในส่วนต่างๆของโรงแรมจะตบแต่งด้วยภาพเขียนสีแบบคาโนฮะ ซึ่งสวยงามและแสดงความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยมครับ

ในส่วนของห้องพักนั้นเป็นสไตล์โมเดิร์นที่มีของตบแต่งเป็นสี earth tone ตัดกับความร้อนแรงของเฟอร์นิเจอร์และผ้าสีฉูดฉาด ที่ให้ทั้งความสบายตาสบายใจและความผ่อนคลายครับ

ห้องพักที่นี่มีรูปแบบให้เลือกดังต่อไปนี้

• Double – 23-28 ตร.ม. เลือกห้องที่มีอ่างอาบน้ำได้
• Twin – 27-30 ตร.ม.
• Superior Twin – 36 ตร.ม.
• Bach Corner Twin/King – 43 ตร.ม. ห้องมุมตึกทำให้ใหญ่กว่าปกติ และชมวิวได้ทั้งสองด้าน
• Deluxe Twin – 54 ตร.ม.
• Junior Suite – 53 ตร.ม.
• Suite – 83 ตร.ม.

สำหรับห้อง Double, Twin, Superior Twin นั้น ทางโรงแรมมีให้จองห้องบนชั้น Executive Floor ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 14-15 ของโรงแรม และมีวิวทิวทัศน์ที่ดีกว่าชั้นล่าง รวมไปถึงเข้าเลาจน์ที่มีของว่างและเครื่องดื่มบริการโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ไม่มีความแตกต่างใดๆ ในส่วนของขนาดห้องและ facilities ครับ

เทียบกับตัวเลือกอื่นๆ ในระดับใกล้กันแล้ว ห้อง Double ของที่นี่ถือว่าขนาดใหญ่ทีเดียว น่าเสียดายที่ห้องระดับสูงกว่านั้นกลับไม่ได้ให้พื้นที่ใช้สอยที่โดดเด่นกว่าที่อื่นเท่าไรนัก ทว่าอย่างห้อง Twin ก็เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว 2 ท่านที่มีกระเป๋าใบใหญ่ครับ

ด้าน room facilities นั้น ที่นี่จัดให้คุณแบบครบถ้วน ตั้งแต่ Smart TV พร้อม Chromecast, เตียงแบรนด์ Serta, เครื่องปรับความชื้น และอุปกรณ์อาบน้ำแบบครบ set ดังนั้นการพักผ่อนของคุณดำเนินไปอย่างอุปสรรคอย่างแน่นอนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ และเลาจน์
• บริการ Night Meal (ซุปและพาสต้า) ฟรีช่วงสามทุ่มครึ่งถึงห้าทุ่ม
• ห้องประชุม

สรุป

6. Hotel the Celestine Ginza

Hotel the Celestine Ginza เป็นโรงแรมเรือธงของเครือ Mitsui Fudosan Group เครืออสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ตัวโรงแรมติดสถานี Shimbashi Station ซึ่งเป็นสถานีของ JR Yamanote Line ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกสบายมาก ส่วนย่านช้อปปิ้งนั้นก็ไม่ได้ไกลอะไรเพราะห่างออกไปแค่ 750 เมตรเองครับ โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

• ที่ตั้ง: 8 Chome-4-22 Ginza, Chuo City, Tokyo 104-0061, Japan
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

คอนเซปต์ของที่นี่คือจะเป็นที่พักที่ให้คุณรู้สึกว่าได้เหมือนกลับบ้าน และให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นลำดับต้นๆ สำหรับเรื่องการดีไซน์นั้นจะเป็นแบบร่วมสมัย โดยใช้โทนสีน้ำตาลเทา ช่วยให้ห้องดูหรูหรามีระดับครับ

รูปแบบห้องที่มีให้เลือกมีแค่ 2 แบบหลักๆ เท่านั้น โดยประกอบด้วย

• Queen – 23.5 ตร.ม.
• Twin – 31-47.5 ตร.ม.

ขนาดห้องของที่นี่ถือว่าให้พื้นที่ใช้สอยอย่างล้นเหลือถ้าเทียบกับห้องทั่วไปในโรงแรม 4 ดาวที่อาจเล็กได้ถึง 18-18 ตร.ม. เพราะฉะนั้นผู้เข้าพัก 2 คนจะมีพื้นที่ใช้สอยอันเหมาะสมสำหรับการวางสัมภาระและเก็บของฝากที่ช้อปปิ้งมากลับบ้านอย่างแน่นอนครับ

อย่างไรก็ดีที่นี่จะไม่มีห้องระดับสวีทขึ้นไปให้จอง ดังนั้นถ้าคุณอยากได้ห้องพักที่ใหญ่กว่านี้ ตัวเลือกอื่นน่าจะตอบโจทย์มากกว่าครับ แต่เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่นั้นยอดเยี่ยม ในห้องจะมีอุปกรณ์อาบน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวอิมะบาริที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นมานานกว่าศตวรรษไปจนถึง สกินแคร์สำหรับคุณผู้หญิง เตารีด เครื่องทำกาแฟ Nespresso และ LCD TV ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์ 1 แห่ง

สรุป

7. The Gate Hotel Tokyo by Hulic

The Gate Hotel Tokyo เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ตั้งอยู่แถวยุระคุโจซึ่งมีร้านอาหารหลายสิบร้าน นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับห้าง Tokyu Plaza Ginza และห้างอื่นอีกหลายห้าง ทำให้เป็นตัวเลือกระดับ AAA สำหรับสายช้อปและสายกินดุ เพราะถ้าเดินหรือกินไม่ไหวแล้วก็สามารถมานอนพักเอาแรงที่โรงแรมได้อย่างสบายๆ ครับ

สำหรับเรื่องการเดินทางนั้น โรงแรมใกล้กับทั้ง Hibiya Station, Ginza Station และ Yurakucho Station ทำให้คุณไปเที่ยวได้ทุกแห่งในโตเกียวอย่างสะดวกโยธินครับ

• ที่ตั้ง: 2 Chome-2-3 Yurakucho, Chiyoda City, Tokyo 100-0006, Japan
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

ดีไซน์ห้องของที่นี่เป็นสไตล์ร่วมสมัยที่ให้ความสำคัญกับความทันสมัยเหมือนกับโรงแรมธุรกิจทั่วไป การตบแต่งใช้การผสมผสานระหว่างโทนสีอ่อนและสีฉูดฉาดอย่างลงตัว ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและกระชุ่มกระชวยครับ

รูปแบบห้องที่มีให้เลือกมีดังต่อไปนี้

• Modest – 20 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องเดี่ยวเหมาะกับผู้เข้าพักแบบ solo traveler ครับ
• Essential – 24-26 ตร.ม.
• Classy – 34-36 ตร.ม. ห้องนี้มีเตียงให้เลือกทุกรูปแบบ ตั้งแต่ Twin, King ไปจนถึง Triple
• Canopy – 44 ตร.ม. ห้องนี้จะมีเตียงสไตล์ canopy ซึ่งเหมาะกับคู่รัก
• Luxe – 42-52 ตร.ม.
• Suite – 73 ตร.ม.

ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยนั้นไม่ได้โดดเด่นมากนัก ยกเว้นแต่ห้องเดี่ยวที่กว้างทีเดียวถ้าเทียบที่พักระดับเดียวกันในโตเกียวครับ

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องนั้นถือว่าดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเตียงแบรนด์ Simmons อ่างอาบน้ำ เตารีดไอน้ำ เครื่องทำกาแฟ ไปจนถึงโต๊ะทำงานที่พร้อมไปด้วยคีย์บอร์ดและมอนิเตอร์ที่คุณสามารถเชื่อมต่อและทำงานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีชาดำและชาเขียวให้ชงดื่มได้ฟรีอีกด้วยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์
• Premium Lounge ที่ดีไซน์อย่างสวยงามด้วยคอนเซปต์ flower and style เข้าฟรีสำหรับผู้เข้าพักที่จองห้อง Canopy, Luxe และ Suite
• ห้องฟิตเนส

สรุป

8. Dormy Inn Premium Ginza Hot Springs

Dormy Inn Premium Ginza Hot Springs เป็นโรงแรมน้อยแห่งในกินซ่าที่มีออนเซ็นให้ใช้บริการ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ระหว่างสามสถานีรถไฟอย่าง Ginza Station, Higashi Ginza Station และ Shimbashi Station ช่วยให้นักเดินทางไปไหนมาไหนได้แบบง่ายมากๆ ครับ

ส่วนย่านช้อปปิ้งในกินซ่านั้นห่างออกไปแค่ 450 เมตรเท่านั้น แต่ใกล้ๆ โรงแรมก็มีร้านอาหารและร้านค้าจำนวนหนึ่งให้เดินแล้วครับ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าย่านแถวๆ โรงแรมนั้นไม่เหงาอย่างแน่นอน

• ที่ตั้ง: 6 Chome-16-8 Ginza, Chuo City, Tokyo 104-0061, Japan
• Check-in/out: 15.00/11.00

ห้องพัก

ต่างจากโรงแรมอื่นๆ ในเครือ Dormy Inn ห้องพักของที่นี่จะมีสองแบบ แบบแรกเป็นสไตล์ minimalistic แบบตะวันตกที่เน้นความเรียบง่ายเป็นที่สุด ส่วนแบบที่สองจะตบแต่งแบบญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม แต่ก็ไม่ใช่เป็นที่นอนแบบฟุตงครับ ยังคงมีเตียง Serta เช่นเดียวกับห้องตะวันตกครับ

รูปแบบห้องที่มีให้เลือกมีดังต่อไปนี้

• Single – 15.5-17 ตร.ม.
• Double – 16-19 ตร.ม.
• Twin – 19.3 ตร.ม.
• Japanese Standard – 26-27 ตร.ม.
• Japanese Triple – 33-36 ตร.ม.
• Japanese Deluxe – 38 ตร.ม.

ห้องเดี่ยวของที่นี่ให้พื้นที่ใช้สอยที่ใช้ได้ทีเดียว เรียกได้ว่าเหลือเฟือสำหรับ solo traveler ทั่วไปแน่นอนครับ ส่วนห้องอื่นๆ นั้น แต่ถ้าเปรียบกับโรงแรม 4 ดาวด้วยกันอาจจะดูเล็กไปเสียน้อย (ทว่าแลกกับราคาที่ถูกกว่า 30-40% ผมมองว่าคุ้มครับ)

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นถือว่ามีทุกอย่างที่จำเป็น อย่างเช่นอุปกรณ์อาบน้ำ ชุดนอน กาแฟ ไปจนถึงโซฟาสำหรับนั่งเล่นผ่อนคลายอิริยาบถ ผมเชื่อว่าคุณจะพักผ่อนได้อย่างสบายใจในห้องพักครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารของโรงแรม
• ออนเซ็นในร่มและซาวน่า
• บริการไอศกรีมและเครื่องดื่มฟรี
• บริการโยนากิโซบะช่วงสามทุ่มครึ่ง (ของเครือนี้ต้องบอกเลยว่าอร่อยมากครับ)

สรุป

9. Hotel Musse Ginza Meitetsu

Hotel Musse Ginza Meitetsu เป็นโรงแรมระดับ 3.5 ดาวที่ผมมองว่าเป็นที่พักราคาย่อมเยาที่คุ้มค่าที่สุดแห่งหนึ่งในย่านกินซ่า ตัวโรงแรมอยู่ตรงกลางระหว่างสถานี Shimbashi Station, Ginza Station และ Higashi Ginza Station ซึ่งเดินไปได้ทั้งสามสถานี ช่วงให้การเดินทางไปย่านอื่นๆ อย่างเช่นอุเอโนะหรืออาซากุสะง่ายดายและสะดวกสบายครับ

ส่วนตัวย่านกินซ่านั้นก็ไม่ได้ไกลจากตัวโรงแรมเลย เพราะห่างไปแค่ 600 เมตรครับ ใกล้กับโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อจำนวนมาก แต่ร้านอาหารดีๆ นั้นจะต้องเดินไปที่ย่านกินซ่า คุณจะได้มีตัวเลือกมากขึ้นครับ

• ที่ตั้ง: Ginza 7-12-9, Chuo-ku, Tokyo, 104-0061
• Check-in/out: 15.00/10.00

ห้องพัก

ตัวโรงแรมเป็น Business Hotel ที่เน้นความเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ในห้องจะใช้ไม้เป็นหลัก ส่วนในห้องจะใช้สีสบายตาอย่างเทาและน้ำตาล ซึ่งจะยกระดับบรรยากาศให้ดูผ่อนคลาย และตัดความหวือหวาที่อาจทำให้คุณนอนไม่หลับครับ

รูปแบบห้องพักของที่นี่มีดังต่อไปนี้

• Moderate Small Double – 14 ตร.ม. ชื่อของห้องนี้อาจจะงงๆ นิดหน่อย แต่จริงๆ แล้วคือห้องเดี่ยวครับ
• Moderate Double/Twin – 17 ตร.ม.
• Musse Double/Twin – 23-24 ตร.ม. สามารถเลือกห้องที่มีระเบียงชมวิวได้

ห้องพักของที่นี่แน่นอนว่าค่อนข้างเล็ก เช่นเดียวกับโรงแรม 3-3.5 ดาวทั้งหมดในโตเกียว แต่พื้นที่ใช้สอยในแต่ละห้องถือว่าโอเคทีเดียว อย่างห้องเดี่ยวนั้นก็ไม่ได้เล็กเกินไป (ถ้าเล็กจริงๆ ต้องประมาณ 12 ตร.ม.หรือต่ำกว่าครับ)

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานก็มีพร้อมตั้งแต่โต๊ะทำงาน กาต้มน้ำ เครื่องปรับความชื้นและฟอกอากาศไปจนถึงอุปกรณ์อาบน้ำ (ต้องไปหยิบเองที่ล็อบบี้) ครับ ดังนั้นวางใจได้เลยว่าคุณจะพักผ่อนในห้องได้สบายในระดับหนึ่ง

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารของโรงแรม
• ที่จอดรถ (ไม่ฟรี)

สรุป

10. Millennium Mitsui Garden Hotel Tokyo / Ginza

Millennium Mitsui Garden Hotel Tokyo / Ginza เป็นอีกหนึ่งโรงแรมทำเลเทพของย่านกินซ่า เพราะตัวโรงแรมอยู่หน้าสถานีรถไฟ Higashi Ginza Station เลยครับ เพราะฉะนั้นใจกลางย่านกินซ่าห่างไปแค่ 200-300 เมตรเท่านั้นเอง ทำให้เดินไปช้อปปิ้งหรือหาอะไรกินได้สบายมาก ไม่ต้องเดินไกลเกิน 5 นาทีครับ

• ที่ตั้ง: 5 Chome-11-1 Ginza, Chuo City, Tokyo 104-0061, Japan
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องของที่นี่เป็นสไตล์โมเดิร์นแบบตะวันตก แต่การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งนั้นแสดงให้ถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่น อย่างในบางห้องจะมีปอกหมอนที่มีลายใบไม้ทองคำอันเลื่องลือของคานาซาว่าเป็นต้นครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วย

• Queen – 20-21.5 ตร.ม.
• Twin – 26 ตร.ม.
• Corner Twin – 31 ตร.ม.
• Corner Triple/Deluxe Corner – 38 ตร.ม.

ที่นี่เป็นโรงแรมธุรกิจที่มีห้องพักที่กว้างขวางใช้ได้ และเพียงพอสำหรับการเปิดกระเป๋าสัมภาระในการเก็บของ (สำหรับนักเดินทางทั่วไป แต่ถ้ากระเป๋าคุณเยอะจริงๆ ยังไงก็ไม่พอครับ) ด้าน room facilities นั้นก็ดีงาม เพราะมีทั้งกาแฟให้ดื่ม ชุดนอนให้ใส่ข้ามคืน และอื่นๆ อีกมากมายครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารของโรงแรม
• บริการนวดและทรีตเมนต์

สรุป

11. The Royal Park Canvas – Ginza 8

The Royal Park Canvas – Ginza 8 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พักกินซ่าที่น่าสนใจ ตัวโรงแรมตั้งอยู่ฝั่งสถานี Shimbashi Station แต่ก็อยู่ในระยะเดินถึงของสถานี Ginza Station และ Higashi Ginza Station เพราะฉะนั้นเรื่องการเดินทางไปไหนมาไหนนั้นหายห่วงได้เลยครับ

ในส่วนของย่านช้อปปิ้งนั้น จริงๆ ใกล้กับโรงแรมก็เป็นย่านช้อปปิ้งและของกินแล้วครับ ห้างอย่าง Ginza 6 ก็อยู่ไม่ไกล ส่วนศูนย์กลางของกินซ่านั้นอยู่ห่างไปประมาณ 500 เมตรเท่านั้นครับ

• ที่ตั้ง: 8-9-4 Ginza, Chuo-ku,, Ginza, Tokyo, Japan, 104-0061
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ที่นี่เป็นโรงแรมแบบธุรกิจที่เพิ่งเปิดทำการได้ไม่กี่ปี เรื่องสไตล์การออกแบบจึงให้ความสำคัญกับทันสมัย และบรรยากาศที่ผ่อนคลายจากแสงอ่อนๆ ภายในห้องพักครับ ซึ่งทางโรงแรมให้ข้อมูลว่าได้แรงบันดาลใจมาจากแสงในธรรมชาติครับ

รูปแบบห้องที่มีให้เลือกประกอบด้วย

• Standard Double/Twin – 17-20 ตร.ม. ห้อง Twin จะใหญ่กว่า Double เล็กน้อย
• Superior – 23-25 ตร.ม.
• Deluxe – 30 ตร.ม.

แม้ว่าจะเป็นโรงแรม 3 ดาว แต่ว่าห้องของที่นี่นั้นจัดว่าให้พื้นที่ใช้สอยที่ไม่น้อยเลย อย่าง 17 ตร.ม.ถือว่ากว้างในระดับหนึ่งสำหรับห้อง Double ครับ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ที่นี่จัดให้แบบครบๆ ตั้งแต่เตียงแบรนด์ Simmons ไปจนถึงชุดนอนและอุปกรณ์อาบน้ำ เพราะฉะนั้นถ้าคุณเที่ยวมาเหนื่อยๆ คุณสามารถอาบน้ำและนอนได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดกระเป๋าเดินทางเลยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและคาเฟ่
• ห้องฟิตเนส
• เลาจน์และครัวรวม
• ห้องสมุดดนตรี

สรุป

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองที่พักในกินซ่าผ่านทางลิงค์ในบทความครับ