หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น7 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa) ที่คุณไม่ควรพลาด

7 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa) ที่คุณไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

จังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa Prefecture) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในเขตชุบุบนเกาะฮอนชูของประเทศญี่ปุ่น โดยสภาพของภูมิศาสตร์ของจังหวัดนี้นั้นจะตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศติดกับทะเลญี่ปุ่นครับ

ตัวจังหวัดนี้มีความสวยงามทั้งทางด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม จังหวัดนี้จึงน่าค้นหาอย่างมากสำหรับใครที่รักในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นครับ

เราไปดูกันดีกว่าจังหวัดนี้มีสถานที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง

1. คานาซาว่า (Kanazawa)

คานาซาว่า (Kanazawa) เป็นเมืองหลวงของจังหวัด และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดด้วย ตัวเมืองมีจุดที่น่าสนใจหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden) ซึ่งได้รับการยกย่องว่างดงามที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ และย่านซามูไรและเกอิชาอันเก่าแก่ที่รอดพ้นจากความเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นครับ

คานาซาว่า ที่เที่ยวอันดับต้นๆ ของจังหวัดอิชิกาวะ
ย่านเกอิชาในคานาซาว่า by cowardlion/depositphotos

นอกจากนี้ที่นี่ปราสาทคานาซาว่า (Kanazawa) ที่สร้างขึ้นใหม่ตามแบบปราสาทเดิมของตระกูลมาเอดะที่ปกครองดินแดนแห่งนี้ในช่วงสมัยเอโดะ และพิพิธภัณฑ์จำนวนมากที่จัดแสดงโบราณวัตถุของเหล่าซามูไรและชาวเมืองในสมัยโบราณ เรียกได้ว่าใครที่ชอบวัฒนธรรมซามูไรที่นี่ไม่ควรพลาดครับ

2. นาข้าวชิโรโยเนะ เซ็นไมดะ

แปลงนาข้าวชิโรโยเนะ เซ็นไมดะ (Shiroyone Senmaida) เป็นแปลงนาขั้นบันไดริมทะเลที่ได้รับการจัดอันดับเป็นมรดกโลกทางด้านเกษตรกรรมขององค์การยูเนสโก (World Agriculture Heritage Site) จุดเด่นของที่นี่คือจะไม่มีการใช้เครื่องยนต์ใดๆ ในการปลูกข้าว แต่จะปลูกด้วยแรงคนทั้งหมดตั้งแต่การลงกล้าไปจนถึงการเก็บเกี่ยวครับ

Shiroyone Senmaida by sepavone/depositphotos

ในช่วงตอนเย็นและกลางคืนของกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนมีนาคมมนั้น แปลงนาแห่งนี้จะมีการเปิดไฟตามท้องนา ซึ่งจะให้ภาพที่สวยงามมาก โดยไฟที่ใช้จะเป็นไฟ LED ที่เปลี่ยนสีได้กว่า 25,000 ดวงด้วยกันครับ

ตัวแปลงนาอยู่ห่างจากเมืองวาจิมะ (Wajima) ประมาณ 11 กิโลเมตรครับ

3. วาจิมะ (Wajima)

วาจิมะ (Wajima) เป็นอีกหนึ่งเมืองสวยของจังหวัดอิชิกาวะ โดยมีด้านหนึ่งติดทะเล ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นแนวภูเขาที่สวยงาม แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของเมืองคือตลาดเช้า (Wajima Morning Market) ครับ

วาจิมะ (Wajima) เมืองสวยในจังหวัดอิชิกาวะ
by sepavone/depositphotos

ตลาดเช้าวาจิมะมีความพิเศษคือมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของญี่ปุ่น และยังมีประวัติความเป็นมากว่าหนึ่งพันปีด้วยกัน กล่าวคือชาวเมืองได้ค้าขายที่นี่มากว่าสหัสวรรษแล้วครับ

สิ่งที่คุณจะหาได้จากตลาดแห่งนี้คืออาหารทะเลสดๆ (ซาชิมิก็มีให้สั่งเช่นกัน) ของกินเล่นสไตล์ญี่ปุ่นอย่างเช่นขนมสอดไส้ถั่ว (egara manju) ไปจนถึงของที่ระลึก เครื่องแต่งกาย ฯลฯ

สำหรับใครที่ชอบแนวทางของนิกายเซน สามารถไปสัมผัสได้ที่อารามโซจิจิ โซอิน (Sojiji Soin Monastery) ซึ่งเป็นวัดพุทธนิกายเซนที่เปิดให้นอนค้างคืนได้ โดยผู้พักจะได้ลองนั่งสมาธิตามหลักปฏิบัติของเซน พร้อมกับลองลิ้มลองอาหารมังสวิรัติแท้ๆ ของญี่ปุ่นด้วยครับ

4. คากะออนเซ็น (Kaga Onsen)

คากะออนเซ็นเป็นเมืองออนเซ็นในจังหวัดอิชิกาวะที่ประกอบด้วยหมู่บ้านออนเซ็นขนาดเล็ก 4 แห่งด้วยกัน ความเป็นมาของออนเซ็นนี้ย้อนไปได้กว่า 1,300 ปี โดยตัวบ่อน้ำแร่นั้นถูกค้นพบโดยพระชาวญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 8 เลยครับ

ไฮไลท์อย่างหนึ่งของคากะออนเซ็นคือการแช่น้ำที่โรงอาบน้ำโคโซยุ (Old Public Bath) ที่หมู่บ้านยามาชิโระออนเซ็น (Yamashiro Onsen) โดยโรงอาบน้ำแห่งนี้จะใช้สถาปัตยกรรมต่างๆ แบบดั้งเดิมทั้งหมด และยังใช้วัฒนธรรมอาบน้ำแบบเดิมอีกด้วย ซึ่งจะให้ประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นที่ต่างไปจากที่อื่นครับ

โรงอาบน้ำโคโซยุ
by sepavone/depositphotos

สำหรับน้ำของออนเซ็นแห่งนี้นั้นชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่ามีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวและบรรเทาอาการปวดเมื่อย ดังนั้นใครที่ชอบแช่น้ำผ่อนคลาย ที่นี่ถือว่าห้ามพลาดครับ

นอกจากนี้ที่หมู่บ้านยามานากะออนเซ็น (Yamanaga Onsen) จะมีเส้นทางตามโตรกที่เรียกว่าโตรกคาคุเซ็นไค (Kakusenkei Gorge) ซึ่งมีความยาว 1.3 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางเดินนี้จะเลียบไปตามแม่น้ำ คุณจะเห็นโตรกผา น้ำตก และผืนป่าที่สวยงามของจังหวัดอิชิกาวะครับ

ท้ายที่สุดถ้าคุณชื่นชอบการเที่ยวชมวัด ผมแนะนำให้ไปที่วัดนาตะเดระ (Natadera Temple) วัดถ้ำที่ชาวญี่ปุ่นใช้สักการะเทพเจ้าที่สถิตอยู่ที่ภูเขาฮาคุซังมานานกว่า 1,300 ปี ตัววัดมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมแบบญี่ปุ่น (Kannon) ที่สวยงาม นอกจากนี้ทัศนียภาพรอบๆ วัดยังงดงามมากด้วยครับ

by jura tone/flickr/public domain

5. เกาะโนโตะจิมะ (Notojima Island)

เกาะโนโตะจิมะเป็นเกาะที่อยู่ห่างออกไปจากคาบสมุทรโนโตะ (Noto Peninsula) เล็กน้อย โดยมีสะพานเชื่อมถึงกัน ตัวเกาะได้ชื่อว่าเป็นสรวงสวรรค์แห่งชาวสโลว์ไลฟ์ของญี่ปุ่น โดยชาวเกาะจะทำมาหากินอย่างง่ายๆ และเงียบสงบพึ่งพิงกับธรรมชาติ

บรรยากาศที่นี่จึงเหมาะมากสำหรับใครที่อยากฟื้นฟูร่างกายจากการทำงาน หรือว่าอยากจะใช้ชีวิตให้ช้าลงครับ นักท่องเที่ยวจึงมักมาขี่จักรยานชมวิว หรือนั่งชิวตามจุดสวยแต่ละแห่งบนเกาะครับ

อย่างไรก็ดีตัวเกาะก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยเช่นกันอย่างเช่นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Notojima Aquarium) ที่มีสัตว์น้ำกว่า 40,000 ตัวด้วยกัน และ Notojima Glass Art Museum ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะปจากแก้วจากทั่วทุกมุมโลกครับ

6. คาบสมุทรโนโตะ (Noto Peninsula)

คาบสมุทรโนโตะเป็นบริเวณที่มีชายหาดที่สวยงามอยู่หลายแห่ง ชาวญี่ปุ่นมักจะเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจกันในยามว่าง โดยเฉพาะที่ Chirihama Nagisa Driveway ซึ่งมีหาดทรายความยาวกว่า 8 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวสามารถขับรถลงไปที่หาดทราย และจะแวะจอดชมวิวที่จุดไหนก็ได้ครับ

by sepavone/depositphotos

นอกจากนี้บริเวณคาบสมุทรยังมีเกาะขนาดเล็กอยู่หลายแห่งด้วย โดยแห่งที่น่าสนใจก็เช่นมิสึเกะจิมา (Mitsukejima) เกาะหินสูง 28 เมตรที่มีรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวเกาะตั้งกระหง่านอยู่เหนือท้องทะเลเบื้องล่าง ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยอดนิยมของคาบสมุทรครับ

7. Hakusan Shirakawa-go White Road

ถนนสายนี้มีความยาว 33 กิโลเมตรโดยเชื่อมเมืองฮาคุซัง (Hakusan) ในจังหวัดอิชิกาวะกับหมู่บ้านชิราคาวาโกะในจังหวัดกิฟุ โดยตลาดเส้นทางนี้จะสวยงามมาก เพราะจะลัดเลาะไปตามแนวเขา สองข้างทางมีวิวภูเขาหิมะ ผืนป่า และน้ำตก เรียกได้ว่าจะให้ประสบการณ์ที่ดีอย่างยิ่งในการชมวิวเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทั้งผืนป่าตามเขาจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้มสีแดงทั้งหมด

by structuresxx/depositphotos

การจะไปชมวิวตามถนนเส้นนี้ วิธีการที่ดีที่สุดคือการเช่ารถครับ เพราะจะได้หยุดพักชมวิวตามจุดชมวิวได้อย่างอิสระ

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!