หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น6 ไฮไลท์หุบเขาคิโซะ (Kiso Valley) ที่ไม่ไปไม่ได้แล้ว

6 ไฮไลท์หุบเขาคิโซะ (Kiso Valley) ที่ไม่ไปไม่ได้แล้ว

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

หุบเขาคิโซะ (Kiso Valley, 木曽路) หรือคิโซะจิ เป็นหุบเขาอันสวยงามที่ตั้งอยู่ในย่านภูเขาสูงของจังหวัดนากาโน่ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงสำคัญอย่างนากาเซนโดะ (Nakasendo) ที่เชื่อมเมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโต และเมืองหลวงใหม่อย่างเอโดะครับ

ด้วยเหตุนี้หุบเขาคิโซะจึงหลงเหลือหมู่บ้านสวยๆ แบบสมัยเอโดะอยู่หลายแห่ง ซึ่งรอคุณได้เข้าไปสัมผัส เพราะฉะนั้นใครที่หลงรักวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งคุณไม่ควรพลาดเลยครับ

หุบเขาคิโซะและทางหลวงนากาเซนโดะ

ย้อนกลับไปในสมัยศตวรรษที่ 17 ตระกูลโตกุกาวะได้สถาปนารัฐบาลโชกุนขึ้นปกครองประเทศ และได้มีการย้ายศูนย์กลางการปกครองจากเกียวโตมายังเอโดะ

ภูมิประเทศตามทางหลวงนากาเซนโดะ
ภูมิประเทศตามทางหลวงนากาเซนโดะ by Urban Napflin/ShutterStock

ดังนั้นเพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านดำเนินไปอย่างราบรื่น รวมไปถึงเพื่อให้ได้ซึ่งประโยชน์ทางด้านการปกครองให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาลโชกุนจึงได้สร้างทางหลวงขนาดใหญ่ขึ้นมาห้าสายด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือทางหลวงนากาเซนโดะแห่งนี้นี่เองครับ

ทางหลวงนากาเซนโดะมีความยาวทั้งสิ้น 534 กิโลเมตร โดยตัดผ่านหุบเขาคิโซะของจังหวัดชินาโนะ (นากาโน่ในปัจจุบัน) ตลอดเส้นทางมีเมืองที่พักนักเดินทางถึง 69 แห่ง โดย 11 แห่งนี้อยู่ในบริเวณหุบเขาคิโซะครับ

วิวสวยๆ ตามทางหลวงนากาเซนโดะ
วิวสวยๆ ตามทางหลวงนากาเซนโดะ by flemingn/ShutterStock

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปเที่ยวหุบเขาคิโซะทำอย่างไร?

นักเดินทางส่วนมากจะเริ่มต้นทริปที่เมืองนาโกย่า และเดินทางต่อไปยังปากทางของหุบเขาคิโซะซึ่งมีสถานีรถไฟหลัก นั่นก็คือ Kiso Fukushima Station โดยใช้บริการ JR Shinano Limited Express ครับ ระยะเวลาที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 90 นาที

วิธีเดียวกันนี้สามารถใช้เดินทางมาจากเมืองที่รถไฟสายนี้ผ่านอย่างมัตสึโมโตะ หรือว่านากาโน่ (Nagano City) ได้เช่นกัน

หลังจากนั้นคุณสามารถใช้บริการของรถไฟท้องถิ่นอย่าง Chuo Main Line และรถบัสของ Ontake Kotsu ควบคู่กันเพื่อเดินทางไปอย่างจุดหมายอื่นๆ ในหุบเขาครับ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องตรงต่อเวลา เพราะว่าทั้งรถบัสและรถไฟมีให้บริการไม่มากนัก

อย่างไรก็ดีถ้าคุณต้องการเดินทางไปยังที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างมาโกเมะหรือสึมาโกะโดยตรง คุณจะต้องลงรถไฟที่สถานี Nakatsugawa Station หรือ Nagiso Station (ตามลำดับ) หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสของ Ontake Kotsu เข้าไปประมาณ 30 นาทีครับ

อีกตัวเลือกที่น่าสนใจคือการเช่ารถขับ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีจากนาโกย่าครับ วิธีนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะจะตัดปัญหาไม่มีรถ และคุณยังสามารถขับไปเที่ยวที่อื่นอย่างเช่น คามิโคจิ, ฮาคุบะ, โนริคุระ ฯลฯ ได้อีกด้วย

ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Kisoji.com (เว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวคิโซะ) โปรดตรวจสอบข้อมูลที่ต้นทางอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลเปลี่ยนแปลงได้ตลอดครับ

ไปเที่ยวหุบเขาคิโซะช่วงไหนดี?

หุบเขาคิโซะเที่ยวได้ทุกฤดู และมีความสวยที่แตกต่างกันออกไป กล่าวคือช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีซากุระให้ได้ชม ช่วงฤดูร้อนนั้นอากาศจะเย็นสบาย เหมาะกับการเดินเทรคตามทางหลวงนากาเซนโดะ รวมไปถึงชมเทศกาลต่างๆ

ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ทั่วทั้งหุบเขาจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้มสีแดงไปทั่วบริเวณ ดังนั้นจะสวยงามมากครับ ท้ายที่สุดช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่นักเดินทางมักจะมาเล่นสกี รวมไปถึงชมความงามของยอดเขาออนตาเกะ (Mt.Ontake) ครับ

1. มาโกเมะ-สึมาโกะ

มาโกเมะ (Magome) และสึมาโกะ (Tsumago) เป็นเมืองที่พักนักเดินทางที่จัดว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดในทางหลวงนากาเซนโดะ

มาโกเมะ (Magome)
มาโกเมะ by Sergei Didenko/ShutterStock

ภายในเมืองทั้งสองที่อยู่ใกล้กันนั้นยังมีบ้านเรือนแบบเอโดะให้ชมอย่างเต็มเปี่ยม ปัจจุบันตัวบ้านได้กลายเป็นร้านอาหาร ร้านน้ำชา ตลอดจนร้านขายสินค้าต่างๆ ที่ให้คุณได้สัมผัสกลิ่นอายแบบดั้งเดิมครับ

สึมาโกะ by daily travel photos/ShutterStock

ส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวมักจะเดินเทรคระหว่างสองเมืองนี้ ซึ่งทางหลวงส่วนนี้จะยาวประมาณ 8 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ ถ้ามีสัมภาระมากก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีบริการลูกหาบที่จะแบกสัมภาระของคุณไปส่งล่วงหน้าครับ

2. นาราอิ

นาราอิ (Narai) ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางของทางหลวงนากาเซนโดะทั้งสาย เพราะฉะนั้นนักเดินทางในอดีตจึงเลือกพักที่เมืองแห่งนี้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในหุบเขาคิโซะไปโดยปริยาย เคยมีคำกล่าวว่านาราอินั้นมีที่พักนับพันแห่งเลยทีเดียว

นาราอิ ไฮไลท์ของหมู่บ้านคิโซะ
by fogcatcher/ShutterStock

ปัจจุบันบ้านเก่าสถาปัตยกรรมเอโดะในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังได้รับการรักษาเป็นอย่างดี คุณสามารถเดินเข้าไปชมบ้านพักของชาวเมืองผู้มั่งคั่งหลายหลัง แต่จุดที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นสะพานนาราอิคิโซะ (Narai Kiso Bridge) หนึ่งในสะพานไม้ที่ยาวที่สุดของญี่ปุ่นครับ

สะพานนาราอิคิโซะ
สะพานนาราอิคิโซะ by photoNN/ShutterStock

3. ยอดเขาออนตาเกะ

ด้วยความสูงกว่า 3,067 เมตร ทำให้ยอดเขาออนตาเกะ (Mt.Ontake) เป็นภูเขาไฟที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ รวมไปถึงเป็นที่สักการะบูชาของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่โบราณกาลครับ ที่นี่ยังรองรับผู้แสวงบุญที่มีจิตศรัทธาตลอดทั้งปีครับ

อย่างไรก็ดีเมื่อกาลเวลาผ่านไป ยอดเขาออนตาเกะก็ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของหุบเขาคิโซะด้วย นักเดินทางจำนวนมากมายมาชมทัศนียภาพอันสวยงาม พร้อมๆ กับเล่นกิจกรรมฤดูหนาวอื่นๆ เรื่องความสวยนั้นอาจจะไม่ได้ด้อยกว่าสถานที่อย่างคามิโคจิเลยครับ

by veerachat/ShutterStock

สำหรับใครที่อยากจะชมวิวภูเขาไฟแห่งนี้ให้สวยที่สุด คุณสามารถขึ้นกระเช้า Ontake Ropeway ที่จะพาคุณขึ้นไปยังสถานีที่ 7 ซี่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,150 เมตรได้ จากจุดนี้คุณจะเห็นยอดเขาออนตาเกะได้อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงยอดอื่นๆ อย่างเช่น ยอดเขาโนริคุระด้วยครับ

ใกล้กับตัวภูเขาไฟมีหมู่บ้านขนาดเล็กชื่อหมู่บ้านโอตากิ (Otaki Village) ตั้งอยู่ ที่นี่เป็นที่พักของเหล่าผู้แสวงบุญในอดีตกาล ตัวหมู่บ้านมีทะเลสาบชิเซ็นโกะ (Lake Shizenko) ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปพายเรือกัน และศาลเจ้าตั้งอยู่หลายแห่งที่น่าเข้าไปเยี่ยมเยือนครับ

by lapho/ShutterStock

สำหรับใครที่เหลือเวลาและอยากได้ประสบการณ์แบบผู้แสวงบุญ คุณสามารถไปเข้าร่วมกิจกรรมทำสมาธิกับสายน้ำตก (Waterfall Meditation) ที่น้ำตกคิโยตากิ (Kiyotaki Waterfall) ครับ

โดยคุณจะได้ไปนั่งหรือยืนทำสมาธิ และให้สายน้ำตกที่เย็นสดชื่นไหลผ่านตัวคุณ ในอดีตผู้แสวงบุญจะทำพิธีนี้เพื่อชำระล้างร่างกาย ก่อนที่จะขึ้นไปยังยอดเขาออนตาเกะครับ

4. ชมโตรกอันสวยงาม

หุบเขาคิโซะนั้นมีโตรกอันสวยงามหลายแห่งที่มีลำธารใสสะอาดไหลผ่าน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น ต้นไม้ต่างๆจะเปลี่ยนสี ทำให้วิวทิวทัศน์ของโตรกเหล่านี้สวยงดงามอย่างมากเลยครับ

โตรกที่น่าสนใจได้แก่

หุบเขาอาเตระ (Atera Valley) – หุบเขาที่มีโตรกสวยที่มีจุดเด่นอยู่ที่พื้นหินขาวสะอาด ซึ่งทำให้สีของน้ำและธรรมชาติโดยรอบชัดเจนยิ่งไปอีก เหมาะที่สุดกับการถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีในวันฟ้าใสครับ

หุบเขาอาเตระ ไฮไลท์ของหุบเขาคิโซะ
หุบเชาอาเตระ by king of pop/ShutterStock

โตรกคาคิโซเระ (Kakizore Gorge) – โตรกสวยที่มีน้ำสีมรกตตัดผ่าน และมีจุดเด่นอยู่ที่มีน้ำตกอุชิกาตากิ (Ushigataki Falls) ไหลลงมาด้วย เกิดเป็นบรรยากาศที่สวยงามและผ่อนคลายครับ

by Wakya Kyamn/ShutterStock

โตรกเนซาเมะ โนะ โตโกะ (Nezame no Toko Gorge) – โตรกหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ถูกกัดเซาะโดยลำธาร จนเกิดเป็นทัศนียภาพอันแปลกตาครับ

5. ที่ราบสูงไคดะ

ที่ราบสูงไคดะ (Kaida Plateau) เป็นที่ราบที่มียอดเขาออนตาเกะเป็นฉากหลัง ทำให้วิวบริเวณนี้สวยสุดๆ ในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะกลายเป็นสกีรีสอร์ทขนาดย่อม ซึ่งคุณสามารถเล่นกิจกรรมฤดูหนาวอย่างเช่น สกี สโนว์โมบิล รวมไปถึงขี่ม้าชมวิวได้อย่างอิสระ

วิวยอดเขาออนตาเกะจากที่ราบสูงไคดะ by KPG-Payless2/ShutterStock

ม้าของที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะเป็นม้าพันธุ์คิโซะที่เคยเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่รัฐบาลและชาวบ้านได้อนุรักษ์อย่างดี จนทำให้เพิ่มจำนวนขึ้นตามลำดับครับ

by KPG-Payless2/ShutterStock

ใกล้กับบริเวณที่ราบสูงแห่งนี้มีจุดชมปรากฏการณ์ที่เรียกว่าเสาน้ำแข็งชิราคาว่า (Shirakawa Ice Pillars) กล่าวคือน้ำที่ไหลมาตามหน้าผาจะแข็งเป็นน้ำแข็ง จนกลายเป็นดูเหมือนเสาที่สูงถึง 50 เมตรทีเดียวครับ

6. เมืองที่พักนักเดินทางอื่นๆ

นอกจากเมืองที่ผมแนะนำไปแล้ว 3 เมือง ในหุบเขาคิโซะยังมีเมืองที่พักนักเดินทางอีก 8 แห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • นิเอะกาวะ (Niekawa)
  • ยาบุฮาระ (Yabuhara)
  • มิยาโนะโคชิ (Miyanokoshi) – เมืองเก่าของตระกูลคิโซะ ซึ่งมีวัดประจำตระกูลตั้งอยู่
  • คิโซะฟุกุชิมะ (Kiso-Fukushima) – อดีตเมืองที่เป็น checkpoint ที่คอยตรวจสอบเฝ้าระวังการเดินทางต่างๆ ของนักเดินทาง
  • อาเกะมัตสึ (Agematsu) – เมืองอันเป็นที่ตั้งของสะพานคิโซะที่มีชื่อเสียงเลื่องลือว่าเป็นจุดที่อันตรายที่สุดตลอดทางหลวงนากาเซนโดะ
  • สึฮาระ (Suhara) – เมืองที่พักที่เก่าที่สุดในหุบเขาคิโซะ มีจุดเด่นที่ถนนจะกว้างกว่าที่อื่น
  • โนจิริ (Nojiri)
  • มิโดโนะ (Midono) – มีสะพานแขวนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

แจกตัวอย่างทริปคิโซะ

ผมได้จัดทริปคิโซะคร่าวๆ ไว้แล้ว ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการเดินทางของคุณได้ครับ และปรับเปลี่ยนได้ตามที่ต้องการ แต่โปรดทราบว่าหุบเขาคิโซะนั้นถือว่าเป็นส่วนที่จัดว่าเป็นชนบทของญี่ปุ่น ดังนั้นที่พักในบางคืนจะไม่ได้ดีไปกว่าเกสต์เฮ้าส์ นอกจากนี้ยังใช้พละกำลังในการเดินมากกว่าทริปทั่วไป (โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการเดินตามทางหลวงนากาเซนโดะ) ครับ

infographic ทริปคามิโคจิ - คิโซะ

นอกจากนี้โปรดตรวจสอบวิธีการเดินทางอีกรอบหนึ่งด้วย เพราะผู้ให้บริการมีโอกาสเปลี่ยนได้ทุกเวลาครับ

References

  • Kisoji
  • Kiso Ontake Tourism Office
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!