หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น9 ไฮไลท์ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) ที่คุณไม่ควรพลาด

9 ไฮไลท์ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) ที่คุณไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya, 洞爺湖) เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดในฮอกไกโดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่อาณาบริเวณนี้ไม่ได้มีดีเฉพาะทะเลสาบเท่านั้น ที่นี่มีทั้งภูเขา ออนเซ็น และกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่างมากครับ

ในบทความนี้ผมจึงจะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักกับทะเลสาบสวยแห่งนี้คร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)

ทะเลสาบโทยะหรือโทยะโกะเป็นทะเลสาบหลุมภูเขาไฟ (caldera lake) ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟครั้งใหญ่เมื่อประมาณ 110,000 ปีก่อนครับ ปัจจุบันตัวทะเลสาบเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya ครับ

ทะเลสาบโทยะ หนึ่งในสุถานที่ท่องเที่ยวระดับท็อปของฮอกไกโด
by Ong.thanaong/ShutterStock

จุดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้คือ น้ำที่นี่ใสสะอาดแทบจะไร้ที่ใดเปรียบ (ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 2 ในประเทศ) นักท่องเที่ยวมากมายทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นจึงหลั่งไหลมาชมทัศนียภาพที่นี่ครับ

ตัวทะเลสาบอยู่ตอนกลางของเกาะฮอกไกโด และอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในละแวกเดียวกันอย่างโนโบริเบทสึ นิเซโกะ และโอตารุ ทำให้คุณสามารถไปเที่ยวที่เหล่านี้ทริปเดียวได้ครับ

ทะเลสาบโทยะในช่วงฤดูหนาว
by pongwan sukpoka/ShutterStock

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปทะเลสาบโทยะทำอย่างไร?

นักเดินทางส่วนใหญ่มักจะไปทะเลสาบโทยะจากซัปโปโร หรือ New Chitose Airport (Shin-Chitose) ซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้ที่สุด วิธีการเดินทางจะแตกต่างกันไม่มากนักครับ

รถไฟ + รถบัส – ขั้นแรกคุณจะต้องขึ้นรถไฟ Limited Express ขบวน Hokuto (北斗) ของ JR Hokkaido ไปลงสถานี Toya Station (JR-Muroran) ซึ่งถ้าอยู่ที่ซัปโปโรก็ขึ้นที่ซัปโปโรได้เลย ส่วนถ้าอยู่ที่สนามบินก็ขึ้นที่สถานี Minami-Chitose Station ครับ สามารถตรวจสอบรอบรถได้ที่เว็บทางการของ JR Hokkaido ครับ

หลังจากที่ถึงสถานี JR Toya Station แล้ว คุณจะต้องต่อรถบัสของ Donan Bus ไปยัง Toya Onsen ครับ

รถบัส – วิธีนี้จะใช้ได้ในกรณีที่คุณอยู่ที่ซัปโปโรเท่านั้น กล่าวคือ Donan Bus มีบริการรถบัสจากซัปโปโรไปยังทะเลสาบโทยะ ดังนั้นคุณไม่ต้องเปลี่ยนพาหนะใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเทียบกับวิธีแรกแล้วจะถูกกว่ามากกว่าครึ่ง แต่ใช้เวลาพอๆ กัน (ถ้ารวมเวลารอรถ ฯลฯ)

เช่ารถขับ – คุณสามารถเช่าและรับรถที่ซัปโปโรหรือสนามบิน แล้วขับไปยังทะเลสาบโทยะได้ ระยะทางอยู่ที่ 100 กิโลเมตรโดยประมาณครับ วิธีนี้เหมาะที่สุดสำหรับนักเดินทางที่วางแผนจะไปเที่ยวที่อื่นด้วย เพราะช่วยให้เดินทางได้คล่องตัวที่สุดครับ

ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจากเว็บทางการของ Toyako Onsen Tourist Association ทั้งนี้ผมแนะนำให้ตรวจสอบที่ต้นทางอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ครับ (บางเคสเคยเปลี่ยนเส้นทางรถไฟทั้งหมดมาแล้ว)

ที่พัก

ในกรณีที่คุณอยากพักริมทะเลสาบโทยะ แต่ยังหาไม่ได้ ผมแนะนำให้อ่านบทความที่พักโทยาโกะออนเซ็นของผมครับ

1. ชมทะเลสาบโทยะ

ไฮไลท์อันดับหนึ่งของที่นี่ย่อมแน่นอนว่าเป็นตัวทะเลสาบนั่นเองครับ ทัศนียภาพโดยรอบของทะเลสาบสวยงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำที่ใสสุดๆ อย่างยากที่จะหาที่ใดเปรียบ

วิธีการชมวิวที่นี่ที่ได้รับความนิยมคือการล่องเรือ ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 1,500 เยนกับการล่องเรือประมาณ 50 นาทีครับ แต่ถ้าล่องกลางคืน ราคาจะขึ้นไปอยู่ที่ 1,600 เยนครับ ผู้ให้บริการล่องเรือคือ Toyokokisen ครับ

ล่องเรือทะเลสาบโทยะ
by aiaikawa/Shutterstock

แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าการล่องเรือมันน่าเบื่อเหมือนผม คุณสามารถเปลี่ยนไปเป็นจองทัวร์เรือแคนู นั่งสปีตโบ้ท ขี่จักรยาน หรือแม้กระทั่งขี่ม้าเพื่อชมวิวสวยๆ ของทะเลสาบได้ด้วยครับ

ในช่วงฤดูหนาว ตัวทะเลสาบจะแข็งเป็นน้ำแข็ง ดังนั้นคุณสามารถเล่นแพหิมะหรือว่าสโนว์โมบิลได้ครับ ซึ่งการเล่นจะดูแลความปลอดภัยโดยไกด์และผู้เชี่ยวชาญ ทำให้คุณวางใจได้ว่าการเล่นจะไม่อันตรายครับ

ถ้าสังเกตดีๆ ริมทะเลสาบจะมีรูปปั้นเรียงรายกันไปจำนวน 58 แห่ง ตั้งแต่รูปปั้นสัตว์ไปจนถึงรูปปั้นหน้าคน ซึ่งเจตนารมณ์ของการสร้างคือ การแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของศิลปะและธรรมชาติครับ

รูปปั้นริมทะเลสาบโทยะ
by b-hide the scene/ShutterStock

2. เกาะนากาจิมะ

เกาะนากาจิมะ (Nakajima Island) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบโทยะ ตัวเกาะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาหลังจากที่ทะเลสาบโทยะถือกำเนิดขึ้นประมาณ 60,000 ปี

by DK-Tom/ShutterStock

กล่าวคือการระเบิดของภูเขาไฟได้ก่อให้เกิดลาวาโดมซึ่งโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ กลายเป็นเกาะกลางทะเลสาบสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้คุณสามารถจองทัวร์เรือเล็กพร้อมกับไกด์เพื่อเข้าไปสำรวจเกาะนากาจิมะได้อย่างใกล้ชิดครับ

3. ภูเขาไฟอุสุซัง

ภูเขาไฟอุสุซัง (Usuzan) เป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ และยังปะทุอยู่บ่อยๆ โดยครั้งที่ปะทุล่าสุดนั้นเกิดในปี ค.ศ.2000 ครับ แต่ก็ไม่ได้แรงถึงขนาดสร้างความเสียหายอะไรมากนัก

Usuzan Ropeway
by TharnKC/ShutterStock

คุณสามารถขึ้นไปชมภูเขาไฟลูกนี้ได้อย่างใกล้ชิด ด้วยการใช้กระเช้า Usuzan Ropeway ครับ จากด้านบนจะเห็นวิวสวยๆ ของทะเลสาบโทยะและแนวภูเขาไฟอันสวยงาม รวมไปถึงหลุมภูเขาไฟขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งมหาสมุทรแปซิฟิกอีกด้วยครับ

by Pixhound/ShutterStock

ค่าใช้จ่าย: 1800 เยน (ไปกลับ)

4. ภูเขาโชวะชินซัง

ภูเขาโชวะชินซัง (Showa Shinzan) จัดว่าเป็นภูเขาลูกใหม่ของญี่ปุ่น เพราะการระเบิดของภูเขาไฟและแผ่นดินไหวได้ทำให้พื้นราบที่เคยเป็นทุ่งข้าวสาลีนูนขึ้น จนกลายเป็นภูเขาที่สูง 290 เมตรครับ

ภูเขาโชวะชินซัง
by M0M0TaR0/ShutterStock

เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิโชวะ ภูเขาลูกนี้จึงได้ชื่อตามรัชสมัยไปด้วยโดยปริยายครับ

5. ชมวิวที่ Silo Observatory

Silo Observatory เป็นหนึ่งในจุดชมวิวทะเลสาบโทยะที่ได้รับความนิยมสูงสุด สาเหตุก็เพราะคุณสามารถเห็นทุกแลนด์มาร์กได้จากที่นี่แบบพาโนรามา ไม่ว่าจะเป็นตัวทะเลสาบ เกาะนากาจิมะ ภูเขาไฟอุซึซัง และภูเขาโชวะชินซัง

วิวทะเลสาบโทยะจาก Silo Observatory
วิวทะเลสาบโทยะจาก Silo Observatory by kiiro/shutterstock

นอกจากนี้ยังมีสวนที่มีดอกไม้ให้ชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เช่นเดียวกับใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ แถมยังมีร้านอาหารที่ขายอาหารพื้นเมืองที่คุณจะได้กินของอร่อยๆไปพร้อมกับชมวิวครับ

6. ชมสวนหมี

ใกล้กับทะเลสาบโทยะมีสวนหมีอยู่แห่งหนึ่งชื่อ Showa Shinzan Bear Ranch ด้านในสวนมีหมีและลูกหมีให้ชมอยู่มากมาย ซึ่งคุณสามารถซื้ออาหารหมี (เช่นแอปเปิ้ล) เพื่อป้อนให้มันได้อีกด้วยครับ นอกจากนี้ยังมีกรงแบบพิเศษที่ให้คุณประจันหน้ากับหมีตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิดอีกด้วย

ค่าใช้จ่าย: 900 เยน

7. เก็บผลไม้ที่ Sobetsu Fruit Village

สำหรับใครที่มาเที่ยวทะเลสาบโทยะในช่วงฤดูร้อน หรือช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง คุณสามารถมาเก็บผลไม้กว่า 50 ชนิดอย่างเช่นแอปเปิ้ลและสตรอเบอรี่ พร้อมกับลิ้มลองรสชาติผลไม้สดๆ จากต้นได้ที่ Sobetsu Fruit Village ครับ

อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่าทุกช่วงจะมีผลไม้ทุกชนิดครับ เพราะผลไม้แต่ละชนิดจะพร้อมเก็บในช่วงเวลาที่ต่างกันออกไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ต้นทางครับ

8. แช่ออนเซ็น

ใกล้กับทะเลสาบโทยะมีเมืองออนเซ็นเล็กๆ ตั้งอยู่ชื่อเดียวกับทะเลสาบ นั่นคือเมืองโทยาโกะ (Toyako) หรือโทยาโกะออนเซ็น (Toyako Onsen)

ภายในเมืองแห่งนี้มีที่พัก โรงแรม เรียวกัง รวมไปถึงโรงอาบน้ำหลายแห่งที่มีบริการออนเซ็น บางแห่งมีออนเซ็นในร่มที่มีหน้าต่างบานใหญ่ที่คุณสามารถชมวิวสวยๆ ของทะเลสาบไปพร้อมๆกับแช่น้ำผ่อนคลาย ประสบการณ์สุดฟินนี้เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อมีเยื่อมเยือนที่นี่ครับ

9. ชมพลุในช่วงกลางคืน

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของทะเลสาบโทยะก็คือการจุดพลุในช่วงกลางคืน (Lake Toya Long Run Firework Display) อย่างต่อเนื่องในวันที่ 28 เมษายนไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีครับ การจุดจะมีทุกวันในเวลา ช่วง 20.45-21.05 (ทั้งหมด 20 นาที) แต่อาจจะยกเลิกได้ถ้าพายุเข้าครับ

by Jay Yuan/ShutterStock

พลุจะจุดเหนือทะเลสาบ ทำให้บรรยากาศสวยงามและโรแมนติก เหมาะอย่างยิ่งต่อคู่รักที่ไปฮันนีมูนกันครับ

by Kit Leong/ShutterStock

References

  • Toyako Onsen Tourist Association
  • Usuzan Railway Official Site
  • Sapporo Transportation
  • Toyokokisen
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!