โอสึ (Otsu) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดชิงะซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกียวโต ตัวเมืองตั้งอยู่ริมทะเลสาบบิวะ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นจึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนหย่อนใจไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นหรือต่างชาติครับ
โดยมากแล้วนักเดินทางมักจะพักที่นี่ 1-2 คืนเพื่อสัมผัสบรรยากาศ (รวมไปถึงชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในคันไซ) รวมไปถึงเก็บสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณตัวเมืองทั้งหมด หรือว่าถ้าคุณไปเที่ยวเกียวโตอยู่แล้ว คุณอาจจะเลือกมาพักสบายๆ ที่นี่สักคืน เพราะโดยเฉลี่ยแล้วห้องพักที่นี่จะใหญ่กว่าในโรงแรมในเมืองอยู่ไม่น้อยครับ
บทความนี้จึงจะมาแนะนำที่พักและโรงแรมที่น่าสนใจภายในบริเวณเมืองโอสึ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจของคุณครับ
Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองโรงแรมในโอสึผ่านทางลิงค์ในบทความครับ
ข้อควรทราบ
พักส่วนไหนของเมืองโอสึดี?
เนื่องด้วยศูนย์กลางของเมืองโอสึคือทะเลสาบบิวะ ทำให้โครงสร้างของเมืองนั้นก็เป็นทางยาวพาดผ่านแนวชายฝั่งของทะเลสาบ ที่พักในเมืองก็เช่นกัน โดยส่วนมากจะอยู่บริเวณริมทะเลสาบเพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ครับ
จุดที่ยอดนิยมที่น่าสนใจก็คือโอโกโตะออนเซ็น (Ogoto Onsen) ซึ่งอาจจากสถานีรถไฟหลักของโอสึไปประมาณ 10 กิโลเมตรครับ
ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ
นอกจากว่าคุณจะพักใกล้กับสถานีรถไฟโอสึแล้ว ใกล้กับโรงแรมของคุณอาจจะมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อไม่มากนัก เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากยุ่งยากในช่วงเช้า ผมแนะนำให้จอง package รวมอาหารเช้า (หรือเช้าเย็น) กับทางโรงแรมครับ
เกณฑ์การเลือกที่พักในบทความ
สำหรับที่พักแต่ละแห่งในบทความนี้ ผมจะระบุถึงจุดเด่นของแต่ละที่ด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งผมได้สรุปมาจากรีวิวของผู้เข้าพักจริงจากแพลตฟอร์มจองโรงแรมต่างๆ ผมเชื่อว่าข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกที่พักที่เหมาะสมได้มากขึ้นครับ
ที่พักน่าจองในโอสึ (Otsu)
1. Biwako Hanakaido
Biwako Hanakaido เป็นเรียวกังในโอโกโตะออนเซ็นที่มีปณิธานที่จะส่งมอบ “โอโมเตะนาชิ” หรือการบริการแบบญี่ปุ่นที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าพักทุกท่าน ทั้งนี้ตัวอาคารจะตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือทะเลสาบบิวะ ทำให้คุณจะได้วิวมุมสูงของตัวทะเลสาบแบบพาโนรามาซึ่งงดงามเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
ในการเดินทางนั้น เรียวกังจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Ogoto Onsen Station ประมาณ 1.5 กิโลเมตร แต่ไม่เป็นปัญหาใดๆ เพราะทางเรียวกังมีบริการรถรับส่งฟรีครับ เพียงแค่คุณเดินทางมาถึงสถานี คุณก็สามารถแจ้งให้ทางเรียวกังไปรับได้ในทันที
- ที่ตั้ง: 1 Chome-1-3 Ogoto, Otsu, Shiga 520-0101, Japan
- Check-in/out: 15.00/11.00
ห้องพัก
การตบแต่งของห้องพักในเรียวกังแห่งนี้จะเป็นแบบญี่ปุ่นในทุกห้อง แต่ว่าคุณสามารถเลือกรูปแบบของที่นอนได้ระหว่างแบบฟุตง แบบมีเตียง หรือว่าแบบผสมครับ ทั้งนี้ตัวเลือกที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้
- Standard Japanese Room – 36 ตร.ม.
- Twin – 36-41 ตร.ม.
- Superior Japanese Room – 41 ตร.ม.
- Japanese Western – 52-61 ตร.ม. ในห้องมีเตียงและพื้นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ ซึ่งสามารถปูฟุตงได้ บางห้องจะมีออนเซ็นแบบ open-air ให้แช่น้ำด้วยครับ
- Deluxe Japanese Western Suite – 96 ตร.ม.
จุดแข็งของที่นี่คือไม่ว่าคุณจะเลือกห้องพักห้องไหนก็ตาม ทุกห้องจะมีวิวสวยๆ ของทะเลสาบบิวะให้ชมผ่านหน้าต่างบานใหญ่แบบ floor-to-ceiling หรือว่าระเบียงส่วนตัว เพราะฉะนั้นคุณจะได้ยลเสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้ได้ในทุกช่วงเวลาเลยครับ
ในส่วนพื้นที่ใช้สอยนั้น แต่ละห้องพักถือว่ากว้างขวางมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องพักระดับไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลยว่าจะอึดอัดเพราะว่ามีกระเป๋าหลายใบครับ สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก ที่นี่จัดเต็มให้พร้อมทุกสิ่งตั้งแต่ชุดยูกาตะ อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องเป่าผม โต๊ะ โซฟา ฯลฯ ช่วยให้คุณพักผ่อนชมวิวได้อย่างเปี่ยมสุขครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- ร้านอาหารและคาเฟ่ (ร้านอาหารเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศปรุงจากเนื้อโอมิ และวัตถุดิบชั้นยอดจากทะเลสาบบิวะ)
- ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air
- บริการนวดและทรีตเมนต์แบบครบวงจร
- ร้านขายของที่ระลึก
- ห้องจัดเลี้ยง
- บริการรับส่งจากสถานีรถไฟ Ogoto Onsen Station
สรุป
จุดเด่น
Biwako Hanakaido
เรียวกังที่อาจจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ตั้งแต่วิวทิวทัศน์ บรรยากาศ ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก อาหารและการบริการ ทุกอย่างนั้นอยู่ในระดับดีเยี่ยม และช่วยให้คุณได้รับความสุขจากการบริการแบบญี่ปุ่นอย่างที่ทางโรงแรมตั้งปณิธานไว้ครับ
อย่างไรก็ดีที่นี่ก็มีจุดด้อยเล็กๆ อย่างเช่นผู้เข้าพักหลายคนมองว่าออนเซ็นในห้องพักนั้นเล็กเกินไป ทำให้การแช่น้ำในห้องนั้นไม่ได้ฟินอย่างที่ควรจะเป็น และการไปโรงแรมนั้นก็ยากพอสมควรถ้าไม่ได้เช่ารถขับครับ
2. Biwako Ryokusuitei
Biwako Ryokusuitei เป็นโรงแรมริมทะเลสาบบิวะ โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ของโอโกโตะออนเซ็น และมีภูเขาฮิเอะเป็นฉากหลัง บรรยากาศและทัศนียภาพบริเวณนี้จึงจัดว่าสวยงามตระการตา เหมาะต่อการพักผ่อนอย่างยิ่งครับ ใกล้กับโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารจำนวนหนึ่งที่คุณสามารถหาอะไรรับประทานได้ครับ
ในเรื่องของการเดินทางนั้น โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Ogoto Onsen ประมาณ 1.5 กิโลเมตร แต่ไม่ต้องกังวลเพราะทางโรงแรมมีบริการรับส่งฟรีให้บริการครับ (เมื่อไปถึงสถานีแล้ว โปรดโทรหาทางโรงแรม)
- ที่ตั้ง: 6 Chome-1-6 Ogoto, Otsu, Shiga 520-0101, Japan
- Check-in/out: 15.00/10.00
ห้องพัก
ห้องพักที่นี่มีให้เลือกสามแบบหลัก นั่นคือแบบห้องญี่ปุ่นแท้ (นอนฟุตง) แบบตะวันตก (นอนเตียง) และแบบผสม (ห้องตบแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแต่มีเตียง) เพราะฉะนั้นคุณสามารถเลือกห้องพักที่เหมาะสมได้อย่างอิสระครับ
รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้
- Standard Twin – 22 ตร.ม.
- Japanese Style – 34 ตร.ม. มีห้องที่มีออนเซ็นส่วนตัวแบบ open-air ให้เลือกจอง
- Biwa no Kaze – 50 ตร.ม. ห้องแบบผสมที่ทุกห้องมีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่ที่ระเบียง
- Manyo – 94 ตร.ม. ห้องสวีทที่มีออนเซ็นส่วนตัว
แต่ละห้องพักนั้นถือว่ากว้างขวางมาก และส่วนใหญ่มาพร้อมกับออนเซ็นส่วนตัวแบบ open-air ที่ให้คุณชมวิวสวยๆ ของภายนอกไปพร้อมๆ กับการแช่น้ำแร่สุดฟินที่ระเบียง ซึ่งจะให้ประสบการณ์ที่คุณลืมไม่ลงอย่างแน่นอนครับ
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ทุกห้องมีพร้อมสรรพตั้งแต่อุปกรณ์อาบน้ำและเครื่องสำอาง รองเท้าแตะ ทีวีพร้อมระบบดาวเทียม รองเท้าแตะ และอื่นๆ อีกมากมายที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้เข้าพักอย่างสมบูรณ์ครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- บริการอาหารของโรงแรม (เสิร์ฟเมนูทำจากเนื้อโอมิในช่วงเย็น)
- ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air
- Lounge และห้องคาราโอเกะ
- บริการนวดและทรีตเมนต์
- ร้านขายของที่ระลึก
- บริการรับส่งฟรีจาก JR Ogoto Onsen Station
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Biwako Ryokusuitei
ที่พักบรรยากาศดีและแสนจะอบอุ่นริมทะเลสาบบิวะ ห้องพักของที่นี่คุณภาพเยี่ยมและมีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่ในห้องส่วนใหญ่ แถมยังมีออนเซ็นกลางให้เป็นตัวเลือกไปแช่อย่างจุใจ ส่วนอาหารก็รสชาติดีมาก เช่นเดียวกับการบริการ โดยรวมแล้วเป็นโรงแรมที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
จุดด้อยเล็กๆ ที่มีอยู่คือ ตัวโรงแรมนั้นค่อนข้างไกลจากใจกลางเมืองโอสึหรือแม้กระทั่งสถานีรถไฟของ Ogoto Onsen เองก็ตาม แต่ไม่เป็นปัญหา ถ้าคุณใช้บริการรถรับส่งฟรีของโรงแรมครับ
3. Yumotokan Ryokan
Yumotokan Ryokan เป็นที่พักสไตล์เรียวกังในโอโกโตะออนเซ็น โดยอยู่ตรงข้ามกับ Biwako Ryokusuitei ทำให้ทำเลโดยรอบนั้นเหมือนกัน นั่นคืออยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณกิโลเมตรเศษๆ และไม่ไกลมีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่ 2-3 แห่งครับ แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ เรียวกังจะไม่ได้อยู่ริมทะเลสาบบิวะครับ
เรื่องการเดินทางนั้นไม่เป็นปัญหาเลย เพราะโรงแรมมีบริการรับส่งฟรีจากสถานีรถไฟ JR Ogoto Station เช่นเดียวกับ Sakamoto Station และ Sakamoto-hieizanguchi Station ครับ ส่วนวิธีการก็คือ พอไปเดินทางถึงสถานีแล้วก็แจ้งทางโรงแรมเช่นเดิมครับ
- ที่ตั้ง: 2 Chome-30-7 Noka, Otsu, Shiga 520-0102, Japan
- Check-in/out: 15.00/10.00
ห้องพัก
สำหรับห้องพักของที่นี่นั้นจะมีห้องแบบ Japanese Western เป็นแกนหลัก กล่าวคือห้องจะตบแต่งตามสไตล์พื้นเมืองของญี่ปุ่น แต่จะมีเตียงตะวันตกด้วยในทุกห้องพัก เช่นเดียวกับพื้นที่ปูด้วยเสื่อทาทามิพร้อมโต๊ะญี่ปุ่น อย่างไรก็ดีห้องแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่นอนฟุตงก็มีเช่นเดียวกันครับ
รูปแบบห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วย
- Japanese Style – 16.5 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ห้องน้ำและห้องนั่งเล่น ถ้ารวมแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 30 ตร.ม.)
- Room with Open-air Bath – 16.5 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ห้องน้ำและห้องนั่งเล่น) – ห้องนี้จะเป็นแบบ Japanese Western โดยมีจุดเด่นที่มีออนเซ็นให้แช่แบบส่วนตัว
- Japanese Modern – 31 ตร.ม.
- Gesshin Building Room – 40 ตร.ม. ห้องญี่ปุ่นแท้ที่มีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่ จุดเด่นคือห้องจะเห็นวิวสวยๆ ของทะเลสาบบิวะ
- Saraku – 44 ตร.ม. ห้องพิเศษที่เปิดไฟอ่อนๆ และจุดน้ำมันอโรมา ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย
- Family Room – 32 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ฯลฯ แต่ถ้ารวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 60 ตร.ม.) ห้องนี้เป็นห้องสวีทแบบสองห้องนอน
- Japanese Suite – 89 ตร.ม. ห้องสวีทที่มีระเบียงขนาดใหญ่ และออนเซ็นส่วนตัวแบบ open-air
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องนั้น ถือว่ากว้างขวางทีเดียว เพราะฉะนั้นมีพื้นที่ให้คุณยืดเส้นยืดสาย และผ่อนคลายอิริยาบถได้อย่างสบายใจ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวก ทางเรียวกังจัดให้ครบทุกสิ่งที่จำเป็นต่อการพักผ่อนให้ผ่อนคลายที่สุดครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- บริการอาหารชั้นเลิศ (เสิร์ฟเนื้อโอมิในช่วงเย็น) คาเฟ่ และร้านราเมง
- ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air (เลือกจองเป็นแบบ private ได้) + บางสระสามารถมองเห็นภูเขาฮิเอะได้
- บริการนวดและทรีตเมนต์
- Private Lounge สำหรับนั่งเล่นชมวิว
- ร้านขายสินค้า
- ห้องเกมและห้องจัดเลี้ยง
- บริการรับส่งไปยังสถานีรถไฟ
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Yumotokan Ryokan
เรียวกังแบบญี่ปุ่นที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบบิวะ ห้องพักของที่นี่เป็นแบบ Japanese Western ที่กว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ส่วนออนเซ็นก็วิวสวย และมีหลายรูปแบบให้ใช้บริการ ด้านอาหารนั้นก็รสชาติดี ขณะที่การบริการก็ได้มาตรฐานตามแบบเรียวกังชั้นดีครับ
ส่วนจุดด้อยของที่นี่ก็คือทำเลที่ตั้งที่ค่อนข้างไกลจากสถานีรถไฟหลัก รวมไปถึงห้องพักในห้องเริ่มเก่าไปแล้วครับ
4. Ogoto-Spa Dantoukan Kikunoya Ryokan
Ogoto-Spa Dantoukan Kikunoya Ryokan เป็นเรียวกังขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในโอโกโตะออนเซ็น และอยู่ริมทะเลสาบบิวะอีกด้วยครับ ใกล้กับโรงแรมมีร้านอาหารจำนวนหนึ่งและร้านสะดวกซื้ออย่าง Family Mart และ Lawson ดังนั้นการหาอะไรรับประทานแบบเร่งด่วนนั้นไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนครับ
ในส่วนของการเดินทางนั้น ทางโรงแรมจะมีบริการรับส่งฟรีจากสถานี JR Ogoto Onsen Station ตั้งแต่ช่วงสามโมงถึงสองทุ่มครึ่ง เมื่อไปถึงแล้วให้โทรแจ้งไป รถรับส่งจะไปรับในเวลาประมาณ 5 นาทีครับ
ที่นี่เป็นที่พักแบบ Pet-friendly ดังนั้นชาวญี่ปุ่นจะนำสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวมาพักผ่อนด้วย ทั้งนี้ทางเรียวกังได้แยกห้องพักที่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าพักได้เป็นกิจจะลักษณะแล้ว (ส่วนหนึ่งเพราะมีออนเซ็นสัตว์ให้บริการในห้อง) ทำให้โอกาสที่คุณจะข้องเกี่ยวกับสัตว์นั้นมีไม่มากนักครับ
แต่คุณแพ้ขนสัตว์ ผมแนะนำให้เอาชัวร์ดีกว่า ด้วยการพิจารณาที่อื่นแทนครับ
- ที่ตั้ง: 6 Chome-1-29 Ogoto, Otsu, Shiga 520-0101, Japan
- Check-in/out: 15.30/10.00
ห้องพัก
ห้องพักของที่นี่เป็นแบบญี่ปุ่นเป็นหลัก แต่ก็สอดแทรกความทันสมัยของสไตล์โมเดิร์นเข้ามาพอสมควร ทั้งนี้ห้องที่มีให้เลือกประกอบด้วยดังต่อไปนี้
- Japanese Modern – 38 ตร.ม. ในห้องพักไม่มีเตียง คุณจะต้องนอนบนฟูกฟุตงครับ สามารถเห็นทะเลสาบบิวะได้ แต่บางห้องจะไม่มีห้องอาบน้ำ
- Special Room – 68 ตร.ม. ในห้องมีเตียงคู่แบบตะวันตก และออนเซ็นแบบ semi open-air ที่สามารถชมวิวสวยๆ ของทะเลสาบบิวะ
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยนั้น ห้องญี่ปุ่นที่เริ่มต้นด้วย 38 ตร.ม.ถือว่าใหญ่มาก และเพียงพอสำหรับการพักผ่อนสบายๆ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบเครื่อง อาทิเช่นชุดยูกาตะและอุปกรณ์อาบน้ำ สกินแคร์ โต๊ะและเก้าอี้สำหรับชมวิวและรับประทานอาหาร ทุกอย่างมีพร้อมสำหรับการใช้งานครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- บริการอาหารของโรงแรม
- ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air (เช่าแบบ private ได้)
- Lounge สำหรับนั่งเล่น
- ร้านขายของที่ระลึก
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Ogoto-Spa Dantoukan Kikunoya Ryokan
เรียวกังอันแสนอบอุ่นที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบบิวะ วิวจากเรียวกังแห่งนี้สวยงามมาก ส่วนตัวห้องก็กว้างขวางสะดวกสบาย และมี room facilities ที่ไม่ได้บกพร่อง ด้านอาหารและการบริการนั้นยอดเยี่ยมตามแบบเรียวกังมีระดับครับ
ถึงกระนั้นผู้เข้าพักควรตระหนักว่าที่นี่เป็นที่พักแบบ Pet-friendly ดังนั้นคุณอาจจะเจอสัตว์เลี้ยงเดินไปมา รวมไปถึงได้ยินเสียงของสัตว์ได้ครับ ซึ่งถ้าคุณไม่โอเคกับตรงนี้ การเลือกที่อื่นน่าจะตอบโจทย์มากกว่าครับ
5. HOTEL KOO Otsu Hyakucyo
HOTEL KOO Otsu Hyakucyo คอนเซปต์ของโรงแรมนั้นถือว่าน่าสนใจมาก กล่าวคือตัวโรงแรมนั้นจะเป็นการเปลี่ยนอาคารเก่าของเมืองโอสึได้กลายเป็นสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวครับ เพราะฉะนั้นตัวอาคารของโรงแรมจะกระจัดกระจายอยู่ในเมืองโอสึ โดยบ้านสามหลังอย่าง Ohmiya, Chaya และ Kagiya จะอยู่ติดกัน โดย reception ของโรงแรมจะอยู่ที่บ้าน Ohmiya ครับ
ทั้งนี้ที่พักส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานีรถไฟ Otsu Station และทะเลสาบบิวะ (ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 700 เมตรถึง 1 กิโลเมตรเศษ) โดยทำให้ผู้เข้าพักสะดวกสบายในเรื่องการเดินทาง นอกจากนี้ใกล้กับโรงแรม (ฝั่งสถานีรถไฟ) ยังมีทั้งร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออีกด้วย เพราะล้วนแต่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าทั้งสิ้นครับ
- ที่ตั้ง: 1 Chome-2-6 Central, Otsu, Shiga 520-0043, Japan (Ohmiya)
- Check-in/out: 16.00/11.00
ห้องพัก
ตัวห้องพักนั้นได้รับการปรับปรุงอย่างสวยงามในสไตล์ญี่ปุ่นผสมความเป็นโมเดิร์นแบบนอร์ดิก โดยเป็นผลงานของสถาปนิกญี่ปุ่นนามว่าโยชิจิ ทาเคฮาระ โดยห้องพักแต่ละหลังนั้นจะอยู่ในบ้านแบบมาจิยะ (Machiya) บ้านแบบพื้นเมืองที่อยู่คู่กับเขตคันไซมานานหลายศตวรรษ แต่ละห้องได้รับการปูด้วยเสื่อทาทามิอย่างดี ทำให้ทุกย่างก้าวของคุณอบอุ่นครับ
ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้เลือกประกอบด้วยดังต่อไปนี้
- Chaya Superior Twin – 29-30 ตร.ม.
- Ohmiya – 32-42.5 ตร.ม. ห้องทุกห้องในบ้านจะเป็นแบบ Superior Twin โดยจะมีเตียงแบบตะวันตก
- Chaya Junior Suite – 46.7-51.2 ตร.ม. ห้องแบบญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่มีวิวสวนญี่ปุ่นอันงดงาม
- House – 75-100 ตร.ม. บ้านญี่ปุ่นทั้งหลังคือห้องพักของคุณ
ห้องพักและบ้านทุกห้องของที่นี่จะมีเตียงแบบตะวันตก แต่จะปูฟุตงเพื่อรับผู้เข้าพักเพิ่มก็ได้เช่นกัน อย่างห้องที่เป็นบ้านทั้งหลังอย่าง Maruya นั้นสามารถพักได้ถึง 5 คนครับ
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ทางโรงแรมจัดให้พร้อมอย่างครบถ้วน ตั้งแต่อุปกรณ์อาบน้ำและสกินแคร์ โต๊ะทำงาน ฯลฯ แต่ถ้าเป็นแบบบ้านทั้งหลังนั้นจะเพิ่มเครื่องทำกาแฟและเครื่องครัวเข้ามาด้วย เพราะในบ้านมีครัวที่คุณสามารถใช้ทำอาหารอร่อยๆ รับประทานได้ครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- บริการอาหารเช้า (ที่บ้าน Ohmiya)
- Lounge สำหรับเสิร์ฟของว่างและเครื่องดื่มฟรี (ที่บ้าน Ohmiya)
สรุป
จุดเด่น
HOTEL KOO Otsu Hyakucyo
โรงแรมที่พักที่ให้ประสบการณ์อันพิเศษที่ยากจะหาที่ใดมาเสมอเสมือน คุณจะได้พักในบ้านญี่ปุ่นของแท้อายุนับศตวรรษบริเวณถนนการค้าแห่งเก่าใกล้กับสถานีรถไฟที่ได้รับการ renovate อย่างสวยงามยิ่ง
แต่ละห้องกว้างขวาง มี facilities ที่พร้อมสรรพ เหมาะต่อการพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศได้อย่างเต็มอิ่ม ส่วนอาหารและการบริการของที่นี่ล้วนแต่ยอดเยี่ยม ราคาต่อคืนก็มิได้สูงเกินไปอีกด้วยครับ
อย่างไรก็ดีจุดด้อยของที่นี่คือไม่ได้อยู่ติดกับทะเลสาบบิวะ ดังนั้นคุณจะไม่ได้เห็นวิวสวยๆ ของทะเลสาบจากห้องพักครับ
6. Biwako Hotel
Biwako Hotel เป็นโรงแรมริมทะเลสาบบิวะที่อาจจะเรียกได้ว่าทำเลดีที่สุด เพราะตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางเมืองโอสึ โดยห่างจากสถานีรถไฟ JR Otsu Station ไปแค่ 850 เมตรเท่านั้น (โรงแรมมีรถรับส่งฟรีให้บริการ) ดังนั้นนอกจากวิวสวยแล้ว การเดินทางยังง่ายดายสะดวกสบาย ส่วนร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อใกล้โรงแรมก็มีพอสมควรด้วยครับ
- ที่ตั้ง: 2-40 Hamamachi, Otsu, Shiga 520-0041, Japan
- Check-in/out: 15.00/11.00
ห้องพัก
ห้องพักของที่นี่นั้นจะแตกต่างกับที่พักแห่งอื่นในบทความนี้ กล่าวคือจะเป็นห้องพักแบบร่วมสมัยทุกกระเบียดนิ้ว และไม่ได้แฝงความเป็นญี่ปุ่นเหมือนกับที่อื่นๆ แต่จะใส่ความเป็น island style ที่ดูสวยไปอีกแบบหนึ่งครับ
ทั้งนี้รูปแบบห้องที่มีให้จองประกอบด้วยดังต่อไปนี้
- Double – 30 ตร.ม.
- Twin – 33-45 ตร.ม.
- Junior Suite – 66 ตร.ม.
- Royal Suite – 100 ตร.ม.
สำหรับห้อง Twin และ Double นั้น คุณสามารถเลือกโซนได้ ซึ่งโรงแรมนี้จะมีชั้นพิเศษที่ในห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่าทั่วไป เช่นเดียวกับดีไซน์ที่สวยงามประณีตมากขึ้น อย่างโซน Aqua (ชั้น 11-12) ที่จะใช้ theme เป็นสายน้ำ และมอบสิทธิ์ในการเข้า Club Lounge ของโรงแรมได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ ส่วนห้องสวีทนั้นจะอยู่ที่โซน Aqua และได้ benefit ดังกล่าวอยู่แล้วครับ
พื้นที่ใช้สอยแต่ละห้องนั้นจัดว่าใหญ่มาก เรียกได้ว่าคุณลืมห้องพักเล็กๆ ในโตเกียวหรือโอซาก้าไปได้เลยครับ ส่วน amenities นั้นที่นี่จะใช้เป็นของที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมด อย่างเช่นสบู่และแชมพูแบรนด์ Nemohamo เป็นต้นครับ ส่วนโต๊ะทำงาน ทีวี และโซฟานั้นมีอย่างครบครัน
อย่างไรก็ดีที่นี่จะไม่มีแปรงสีฟันและยาสีฟันให้ในห้องพัก รวมไปถึงหวีและที่โกนหนวดด้วย และไม่มีให้หยิบที่ amenity bar เหมือนกับโรงแรมทั่วไปในญี่ปุ่นด้วยครับ ทางโรงแรมระบุไว้ใช้ได้ว่าผู้เข้าพักจะต้องเตรียมมาเอง หรือไม่ก็ต้องจ่ายเงินซื้อกับทางโรงแรมซึ่งเป็นของที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- ร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่รวม 6 แห่ง
- Rooftop Terrace
- ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air (มีวิวสวยๆ ของทะเลสาบบิวะ)
- สระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และเปิดในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น)
- Club Lounge วิวสวยที่ให้บริการของว่างและเครื่องดื่ม
- ร้านขายสินค้าของโรงแรม
- บริการรถรับส่งฟรีไปยัง JR Otsu Station
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Biwako Hotel
รีสอร์ทแบบโมเดิร์นที่เป็นตัวเลือกราคาย่อมเยา ห้องพักของโรงแรมสวยงามในธีมทะเล และมีจุดเด่นที่ความกว้างขวางที่ให้คุณพักผ่อนได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังมีหน้าต่างบานใหญ่ให้ชมวิวสวยๆ นอกจากนี้ออนเซ็น อาหาร และการบริการยังอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมด้วยครับ
อย่างไรก็ดีด้วยความที่โรงแรมมีนโยบายสุดโต่งด้าน eco-friendly แปรงสีฟันและของใช้บางอย่างจะไม่มีให้ผู้เข้าพัก ส่วนห้องพักบางห้องก็เริ่มให้ความรู้สึกเก่า และต้องการ renovation ครับ
7. ที่พักราคาประหยัดในโอสึ
ในกรณีที่คุณไม่ซีเรียสกับเรื่องทำเลและขนาดห้องมากนัก ที่พักด้านล่างจัดว่าน่าสนใจไม่น้อยครับ
- Hotel Boston Plaza Kusatsu Biwako – โรงแรมที่อยู่ในเขตคุซัทสึ การตบแต่งโรงแรมนั้นดูเหมือนว่าเป็นโรงแรมในบอสตันมากกว่าจะอยู่ในญี่ปุ่นครับ