14 โรงแรมที่พักปาล์มจูไมราห์ (Palm Jumeirah) น่าจอง | ครบทุกสิ่งที่ควรทราบ

ปาล์มจูไมราห์ (Palm Jumeirah) หรือเกาะต้นปาล์มในมหานครดูไบ (Dubai) คือจุดหมายสุดหรูของเศรษฐีและ celebrity จากทั่วโลกที่เดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจ โรงแรมของที่นี่จึงล้วนแต่เป็นระดับสุดยอด ห้องพักจึงอัดแน่นไปด้วยความหรูหรา และการบริการที่ได้ระดับ ซึ่งถ้าคุณอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศดังกล่าวนี้ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือลองไปพักที่นี่สักครั้งดูครับ

บทความนี้จะแนะนำที่พักและโรงแรมที่น่าสนใจในปาล์มจูไมราห์ จะมีที่ไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติมได้จากด้านล่างเลยครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองโรงแรมในปาล์มจูไมราห์ผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

ข้อควรทราบ

ที่พักปาล์มจูไมราห์น่าจอง

1. Atlantis The Royal

Atlantis The Royal นั้นไม่ใช่เป็นแค่สุดยอดของโรงแรมของปาล์มจูไมราห์เท่านั้น แต่เป็นสุดยอดโรงแรมของโลกใบนี้ที่ครบเครื่องไปด้วยความหรูหราอลังการดาวล้านดวง อย่างที่ยากจะหาโรงแรมใดในโลกมาเปรียบเทียบได้

ตัวโรงแรมนั้นสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแนวร่วมสมัยที่ใส่ความ futuristic ลงใต้เกิดเป็นรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ (โดยส่วนตัว ผมมองว่าเหมือนยานอวกาศในหนัง sci-fi) และกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของมหานครดูไบไปแล้ว ทั้งนี้ตัวโรงแรมนั้นเปิดในช่วงต้นปี 2023 นี้เอง และได้มีกระแสจากการเชิญบียอนเซ่มาจัดคอนเสิร์ตแบบ private ด้วยค่าตัวถึง 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียวครับ

สำหรับที่ตั้งของโรงแรมนั้นจะอยู่ที่ Crescent Road หรือส่วนที่เป็นยอดพระจันทร์เสี้ยวของต้นปาล์ม เพราะฉะนั้นจะอยู่บริเวณนอกสุดฝั่งเหนือของปาล์มจูไมราห์ ทำให้เดินท้องทะเลสุดลูกหูลูกตา แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งก็จะเห็นตัวเกาะเป็นต้นปาล๋มอย่างสวยงามยิ่งครับ ไม่เพียงเท่านั้นใกล้กับโรงแรมคือ Aquaventure Waterpark (850 เมตร) สวนน้ำที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเมืองด้วยครับ

• ที่ตั้ง: Palm Jumeirah – Crescent Rd – The Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ตบแต่งในสไตล์ร่วมสมัยผสานกับความเรียบง่ายแบบ minimalistic โดยใช้สีเบจและน้ำตาลอ่อนเป็นแกนหลัก ซึ่งให้กลิ่นอายความเป็นตะวันออกกลางและอาหรับ

ส่วนเรื่องวิวนั้นจะมีสองแบบ แบบแรกคือทะเลอาหรับ (Arabian Sea) ส่วนแบบที่สองคือวิวเกาะปาล์มจูไมราห์และตัวเมืองดูไบ ซึ่งคุณสามารถชมได้จากหน้าต่างแบบ floor-to-ceiling และระเบียงชมวิวที่มีทุกห้องพักครับ

• Palmscape/Seascape Room – 55 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ระเบียงอีกประมาณ 9 ตร.ม.) ห้องทั้งสองแบบเหมือนกันทุกประการ ต่างกันแค่เรื่องวิวเท่านั้นครับ
• Junior Sky View Suite – 78 ตร.ม. (ไม่รวมระเบียงแบบ Terrace อีก 18 ตร.ม.) ห้องนี้มีวิวให้เลือกแบบเดียว นั่นคือวิวเกาะและตัวเมืองดูไบครับ
• Sky Terrace Suite – 109 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ระเบียงอีกประมาณ 16 ตร.ม.) เลือกวิวได้ระหว่างวิวทะเลหรือวิวเกาะ
• Sky Pool Villa – 118 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ระเบียง อีก 110-210 ตร.ม.) ในห้องมี infinity pool แบบส่วนตัว เช่นเดียวกับระเบียงขนาดใหญ่ที่มาพร้อมโซฟา เตียงนอนเล่น โต๊ะอาหาร ฯลฯ เลือกวิวได้ระหว่างวิวเกาะหรือวิวทะเลอาหรับ
• Palmscape Penthouse – 163 ตร.ม. (มีพื้นที่ระเบียง อีก 372 ตร.ม.) มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ครัวส่วนตัวแบบ outdoor ไปจนถึงห้องนั่งเล่น ทุกห้องเห็นวิวทะเลและเกาะ
• Seascape Penthouse – 196 ตร.ม. (มีพื้นที่ระเบียงอีก 318 ตร.ม.) สิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไปจะเหมือนกับห้อง Palmscape Penthouse แต่จะเพิ่มจากุชชี่ในห้อง แต่วิวจะเห็นแค่อย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างทะเลอาหรับหรือตัวเกาะ
• Horizon Penthouse – 261 ตร.ม. (มีพื้นที่ระเบียงอีก 207 ตร.ม.) ห้องนี้จะตบแต่งด้วยดีไซน์ที่มีกลิ่นอายของ Hollywood และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับนักเดินทางที่อยากปาร์ตี้ตลอดทั้งวัน ในห้องมีบาร์ส่วนตัวสไตล์ Art Deco เช่นเดียวกับสระว่ายน้ำแบบ infinity pool ครับ ส่วนเรื่องวิวนั้นจะเห็นทั้งสองฝั่ง (ทะเลและเกาะ) อันเนื่องมาจากความใหญ่ของห้องครับ
• Panoramic Penthouse – 520 ตร.ม. (มีพื้นที่ระเบียงอีก 209 ตร.ม.) เห็นวิวแบบพาโนรามาของปาล์มจูไมราห์ ไม่ว่าจะเป็นทะเล ตัวเมืองดูไบ และเกาะต้นปาล์ม ในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกสิ่งที่ Penthouse ห้องอื่นมีบวกด้วยโต๊ะอาหารขนาด 14 ที่นั่ง และห้องรับแขกขนาดใหญ่
• Royal Mansion – 1,128 ตร.ม. (มีพื้นที่ระเบียงอีก 476 ตร.ม.) สุดยอดห้องพักที่ไม่แพ้ที่ใดในโลก ในห้องมีลิฟต์ส่วนตัว ห้องนอน 4 ห้องในพื้นที่สองชั้น ห้องสมุด บาร์ส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ระดับราชาอย่างครบเครื่อง

สำหรับห้องสวีทขึ้นไปนั้น คุณจะได้รับอภิสิทธิ์พิเศษดังต่อไปนี้

• บริการรับส่งไปยังสนามบิน และ Marhaba Services (ดูแลตลอดทุกเวลาในสนามบิน)
• Butler Service ตลอด 24 ชั่วโมง
• Check-in แบบส่วนตัวในห้องพัก
• มินิบาร์และอาหารเช้าฟรี
• เข้า Nobu by the Beach (บีชคลับของโรงแรม) ฟรี
• Amenities ระดับพรีเมียมเช่น อุปกรณ์อาบน้ำจากแบรนด์ Hermès

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ในห้องพักทุกห้องนั้นถือว่าครบเครื่อง และมีทุกสิ่งที่โรงแรมชั้นนำควรจะมี ตั้งแต่ชุดอาบน้ำและรองเท้าแตะของแบรนด์ Frette อุปกรณ์อาบน้ำของแบรนด์ Graff อ่างอาบน้ำ Smart TV มินิบาร์ ฯลฯ เพราะฉะนั้นคุณจะได้รับความสะดวกสบายตลอดเวลาที่พักอยู่ในห้องครับ

นอกจากนี้ทางโรงแรมยังให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วย โดยโรงแรมจะมีการติดตั้ง privacy glass เพื่อให้ห้องพักของคุณเงียบสนิทไม่ว่าจะในเวลาใดครับ

ด้านพื้นที่ใช้สอยนั้น แต่ละห้องพักนั้นใหญ่อลังการมาก โดยเฉพาะห้องระดับ Suite และ Penthouse เพราะฉะนั้นหมดกังวลเรื่องความรู้สึกอึดอัดไปได้เลยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 7 แห่ง (หนึ่งในนั้นเป็นร้านระดับ 1 Michelin Star)
• Beach Club & Bar รวม 3 แห่ง
• Lounge & Cafe 3 แห่ง
• ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ + สระว่ายน้ำยาว 25 เมตร + กิจกรรมอื่นๆ เช่นโยคะ
• ชายหาดส่วนตัวยาว 2 กิโลเมตร
• บริการนวดและทรีตเมนต์รวมแล้วหลายสิบแบบ
• Aeon Clinic สำหรับเสริมรูปลักษณ์
• Skyblaze Fountain พร้อมด้วยโชว์น้ำพุยามค่ำคืน
• ห้องจัดเลี้ยง สัมมนา และประชุม
• Store ต่างๆ ของแบรนด์ชั้นนำอย่างเช่น Louis Vuitton, Graff, Valentino, Avanti ฯลฯ
• บัตรฟรีเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ The Lost Chambers และสวนน้ำ Aquaventure Waterpark

สรุป

2. Atlantis The Palm

Atlantis The Palm เป็นโรงแรมในเครือเดียวกับ Atlantis The Royal แต่ว่าที่นี่จะสร้างก่อน ทำให้อยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดของปาล์มจูไมราห์ นั่นคือตรงกลางพระจันทร์เสี้ยวที่เป็นหัวของต้นปาล์มพอดิบพอดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิวจากโรงแรมแห่งนี้นั้นยากที่จะหาที่ใดเปรียบครับ

ตัวโรงแรมนั้นอยู่ใกล้กับ Aquaventure Waterpark (900 เมตร) ช่วยให้คุณและครอบครัวเข้าไปเล่นในสวนสนุก หรือว่าชมสัตว์น้ำในพิพิธภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องเดินทางไกล ส่วนสถานี monorail อย่าง Atlantis Aquaventure นั้นก็อยู่ด้านหน้าโรงแรม ช่วยให้คุณไปเที่ยวส่วนอื่นของปาล์มจูไมราห์ได้อย่างง่ายดายครับ

• ที่ตั้ง: Crescent Rd – The Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ตัวโรงแรมแห่งนี้นั้นถ้าดูจากภายนอกแล้วเหมือนกับวังในเทพนิยายอาหรับเลยครับ แต่ด้านในแต่ละห้องพักจะเป็นสไตล์ร่วมสมัยร่วมกับองค์ประกอบแบบอาหรับที่ดูสวยสง่า รวมไปถึงการตบแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเลครับ ก่อให้เกิดเป็นห้องพักที่ทรงเสน่ห์ไม่เหมือนที่ใดครับ

ห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Palm View Room – 45-47 ตร.ม. เลือกเตียงได้ระหว่าง 1 King หรือ 2 Queens ส่วนวิวนั้นจะเห็นตัวเกาะปาล์มจูไมราห์และตัวเมืองดูไบ
• Ocean View Room – 45-47 ตร.ม. เหมือนกับด้านบน แต่วิวได้ที่จะเป็นวิว Arabian Sea
• Terrace Suite – 94 ตร.ม. เลือกได้ระหว่างวิวทะเลหรือวิวเมือง มีระเบียงขนาดใหญ่แบบ Terrace ที่มีเตียงนอนอาบแดดและโต๊ะอาหาร
• Skyline Suite – 101 ตร.ม. เห็น Arabian Sea และสวนน้ำ
• Regal Suite – 164 ตร.ม. เห็นวิวแบบพาโนรามาทั้งทะเล ตัวเกาะ และตัวเมืองดูไบ
• Underwater Suite – 165 ตร.ม. ห้องสวีทสุดพิเศษใต้น้ำที่ยากจะหาที่พักที่ใดมาเปรียบได้ในดูไบ โดยห้องนอนและห้องน้ำจะมีกระจกบานใหญ่ที่ให้คุณชมสัตว์ทะเลในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ The Ambassador Lagoon แหวกว่ายไปมาแบบส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีลิฟต์และ Lounge ส่วนตัวด้วยครับ
• Presidential Suite – 220 ตร.ม. เห็นวิวปาล์มจูไมราห์และ Arabian Sea
• Grand Atlantis Suite – 429 ตร.ม. ห้องสวีทสุดหรูที่ตบแต่งใน theme สัตว์ทะเลผสานกับความคลาสสิคและร่วมสมัย ซึ่งเกิดเป็นห้องพักที่สวยแปลกตาไม่เหมือนที่ใด ด้านในมี lounge ส่วนตัวและระเบียงขนาดใหญ่ที่มีจากุชชี่

สำหรับห้อง Palm/Ocean View Room นั้นคุณสามารถเลือกห้องที่มี Imperial Club Benefits ได้ซึ่งประกอบด้วยสิทธิพิเศษอย่างเช่น

• เข้า Imperial Club Lounge ได้ฟรี (เสิร์ฟอาหารเช้า, Afternoon Tea และของว่างต่างๆ)
• เข้า Wavehouse และ Explorers’ Club ได้ฟรี (สำหรับเด็ก)

ส่วนห้องสวีทนั้นจะมี Imperial Club Benefits ดังกล่าวอยู่แล้ว บวกด้วยสิทธิเพิ่มเติมอย่างเช่น

• เช็คอินในห้องพักหรือ Imperial Club Lounge ได้
• Butler Service, Priority Reservations (เฉพาะ Underwater Suite ขึ้นไปเท่านั้น)

ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยนั้น ห้องพักของที่นี่ถือว่าใหญ่ตามมาตรฐานของโรงแรมระดับ 5 ดาวในดูไบ แม้ว่าจะสู้ Atlantis the Royal ไม่ได้ก็ตาม ส่วน room facilities นั้นครบเครื่อง ตั้งแต่เครื่องทำกาแฟ Nespresso โต๊ะทำงาน โซฟา เตารีด เครื่องเป่าผม อุปกรณ์อาบน้ำ ทีวี ฯลฯ เรียกได้ว่ามีพร้อมทุกสิ่งที่คุณจะนึกออกเลยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารของ Celebrity Chef (หนึ่งในนั้นคือ Gordon Ramsey) 4 แห่ง ยังไม่รวมร้านอาหารทั่วไปและบาร์อีก 6 แห่ง
• บริการสปาและ Wellness แบบครบวงจร
• Wavehouse/Explorers’ Club
• ห้องฟิตเนสและคอร์ดเทนนิส
• สระว่ายน้ำ หาดส่วนตัวและกิจกรรมทางน้ำ
• บัตรฟรีเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ The Lost Chambers และสวนน้ำ Aquaventure Waterpark
• บริการจัดประชุม สัมมนา อีเวนต์ (งานแต่งงาน)
• โซนร้านค้าของโรงแรม (มีร้านแบบ boutique, ร้านขายอัญมณี ฯลฯ)
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

3. Waldorf Astoria Dubai Palm Jumeirah

ถ้าคุณชอบชมวิวสวยๆ Waldorf Astoria Dubai Palm Jumeirah ในเครือฮิลตันคือโรงแรมที่ควรจะปรากฏในลิสต์ของคุณอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งนี้ตัวโรงแรมอยู่ที่จันทร์เสี้ยวฝั่งขวาของปาล์มจูไมราห์ เพราะฉะนั้นถ้าคุณพักห้อง Seaview ที่นี่ คุณจะมองเห็นตึก Burj Al Arab หนึ่งในสัญลักษณ์ของมหานครดูไบอยู่ไกลๆ เช่นเดียวกับท้องทะเลอันสวยงามครับ

• ที่ตั้ง: Crescent Rd – The Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ได้การดีไซน์ในแบบ Contemporary European Style ที่มีกลิ่นอายของความคลาสสิคและความทันสมัยอยู่ร่วมกัน โทนสีที่ใช้ก็จะเน้นไปที่สีงาช้าง สีเหลืองอ่อนของผืนทราย และสี turquoise อ่อนๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากน้ำทะเล ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและอบอุ่นในเวลาเดียวกันครับ

• King/Two Queen Deluxe Room – 58-61 ตร.ม. เห็นวิวทะเลแบบสวยงามโดยมีให้เลือกสองฝั่ง ระหว่างฝั่งตึก Burj Al Arab หรือฝั่งเกาะปาล์มจูไมราห์ สามารถเลือกอัพเกรดเป็นห้องที่มี Pearl Club Benefit ได้
• King Superior – 62 ตร.ม. เห็นวิวทะเลแบบ partial view (มีอาคารบัง)
• One Bedroom Suite – 113 ตร.ม. เห็นวิวทะเลฝั่ง Burj Al Arab
• Waldorf Astoria One Bedroom Suite – 160 ตร.ม. เลือกวิวทะเลได้ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
• Chairman Two Bedroom Suite – 386 ตร.ม. เห็นวิวทะเลฝั่งปาล์มจูไมราห์ได้อย่างสวยมาก ในห้องมีครัว ห้องอาหาร Lounge ไปจนถึงระเบียงขนาดใหญ่
• Royal Suite – 1500 ตร.ม. หนึ่งในห้องพักที่ใหญ่ที่สุดในดูไบ ตัวห้องเข้าถึงได้โดยลิฟต์ส่วนตัว มีระเบียงขนาดใหญ่ที่ให้คุณชมตะวันตกดินสู่ผืนน้ำทะเล เช่นเดียวกับตึก Burj Al Arab และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสุดหรูครบครัน

จุดเด่นอันดับ 1 ของที่นี่คือห้องพักที่นี่แทบทั้งหมดจะเห็นวิวทะเลอันสวยงาม (ยกเว้นห้อง King Superior) ซึ่งถ้าคุณจองฝั่งปาล์มจูไมราห์นั้น คุณจะเห็นตะวันตกดินได้อย่างสวยงามมาก ส่วนอีกฝั่งนั้นจะมีตัวตึกที่สุดจะ iconic อยู่แล้ว เหมาะกับการเก็บภาพความทรงจำไว้บน social network มากเลยครับ

ส่วนขนาดห้องพักนี่ใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นห้องระดับเริ่มต้นไปจนถึงห้อง Royal Suite ซึ่งห้องหลังนี่คือสุดยอดห้องพักอย่างแท้จริง ข้อมูลจากทางโรงแรมระบุว่านี่คือห้องพักที่ใหญ่ที่สุดในมหานครแห่งนี้เลยครับ

ด้าน facilities นั้นพร้อมแบบเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะทำงาน อุปกรณ์อาบน้ำอย่างดีอย่างแบรนด์ Aesop เครื่องทำกาแฟ ห้องน้ำหินอ่อน ทีวีแบบ HDTV และอื่นๆ ที่ให้คุณได้พักผ่อนอย่างสบายที่สุดครับ

ทั้งนี้ห้องสวีททุกห้องจะได้รับสิทธิ์ในการเข้า Pearl Club Lounge อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณพัก Deluxe Room แล้วอยากได้ benefit ดังกล่าวก็สามารถเลือกจองห้องที่มีสิทธิ์ดังกล่าวได้เช่นกันครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์รวม 6 แห่ง
• บริการสปาที่ครบทั้งนวด ทรีตเมนต์ ซาวน่า อบไอน้ำ ฯลฯ
• สระว่ายน้ำและหาดส่วนตัว (ไม่ฟรี มีค่าใช้จ่ายที่ 300 AED แต่ครึ่งหนึ่งสามารถใช้เป็นเครดิตอาหารและเครื่องดื่มได้)
• ฟิตเนสเซนเตอร์และคอร์ดเทนนิส
• ร้านขายสินค้าแบบ boutique และ salon
• บริการจัดประชุมและจัดเลี้ยง
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

4. The St. Regis Dubai, The Palm

The St. Regis Dubai, The Palm เป็นโรงแรมหรูจากเครือ St. Regis ในเครือ Marriott โดยตัวโรงแรมตั้งอยู่ใน The Palm Tower ตึกระฟ้าที่ตั้งอยู่ตรงกลางของปาล์มจูไมราห์ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเกาะต้นปาล์มกันที่นี่ครับ

นอกจากนี้เชื่อมกับตัวโรงแรมคือ Nakheel Mall ห้างสุดหรูที่มีแบรนด์ระดับ luxury มาเปิด store กันที่นี่ เพราะฉะนั้นคุณจะสามารถไปช้อปปิ้งหรือหาอะไรรับประทานได้แทบจะตลอดเวลาเลยครับ

• ที่ตั้ง: The Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของโรงแรมจะเป็นสไตล์โมเดิร์นทั้งหมด แต่แน่นอนว่าจะใส่ความเป็นอาหรับลงไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นสีของผืนทราย ไปจนถึงการใช้ศิลปกรรมพื้นเมืองมาตบแต่งส่วนต่างๆ ทำให้ในห้องหรูหรา น่าพักผ่อน และยังสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วย

• Deluxe – 43 ตร.ม. เลือกได้ระหว่าง King หรือ Twin
• Grand Deluxe – 43 ตร.ม. ห้อง King หรือ Twin
• Family Room – 86 ตร.ม.
• Metropolitan Suite/Grand Deluxe Suite – 90 ตร.ม.
• Astor Suite – 148 ตร.ม.
• Presidential Suite – 248 ตร.ม.

สำหรับห้องสวีททุกห้องนั้นจะได้วิวท้องทะเลที่สวยงามทั้งหมด ส่วนห้อง Deluxe นั้นจะแล้วแต่คุณเลือกระหว่างวิวเมืองและวิวทะเล (บางส่วน) ครับ ทั้งนี้คุณสามารถชมวิวได้จากหน้าต่างบานใหญ่แบบ floor-to-ceiling เพราะฉะนั้นความยิ่งใหญ่ของปาล์มจูไมราห์และท้องทะเลโดยรอบจะปรากฏให้คุณชมได้อย่างเต็มๆ ตา

เรื่องขนาดห้องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลเลย เพราะทุกห้องใหญ่สมกับเป็นโรงแรมสุดหรูของเครือ Marriott รับรองว่าไม่อึดอัดอย่างแน่นอน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมีครบทุกอย่างที่ควรมี อย่างเช่นเครื่องทำกาแฟ รองเท้าแตะ ห้องน้ำชั้นเลิศที่สร้างจากหินอ่อนที่สวยงามมาก ไปจนถึง Smart TV พร้อมระบบดาวเทียม เตารีด ฯลฯ

ทุกห้องพักนั้นจะมีบริการดีๆ อย่าง evening turndown service (จัดการห้องพักเพื่อให้มีบรรยากาศที่เหมาะต่อการนอนในช่วงเย็น) และ butler service ที่อำนวยความสะดวกและให้การดูแลตลอดเวลาที่คุณเข้าพักที่นี่ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์รวม 4 แห่ง (ที่บาร์มีดนตรีแจ๊สสดให้ฟัง)
• Beach Club (ฟรี แต่ต้องอายุ 21 ขึ้นไปเท่านั้น)
• ห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำแบบ outdoor
• บริการสปาแบบครบวงจร
• สถานที่จัดอีเวนต์และงานสำคัญ
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

5. Taj Exotica Resort & Spa, The Palm, Dubai

Taj Exotica Resort & Spa, The Palm, Dubai เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวของเครือ Taj เครือโรงแรมจากดินแดนภารตะที่ให้บริการผู้เข้าพักมานานกว่า 1 ศตวรรษแล้วครับ

สำหรับโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ปลายจันทร์เสี้ยวฝั่งตะวันออกของปาล์มจูไมราห์ เพราะฉะนั้นโรงแรมจะแวดล้อมด้วยทะเลทั้งสองด้าน โดยตัวต้นปาล์มของเกาะอยู่ฝั่งหนึ่ง ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ของเมืองดูไบครับ

อย่างไรก็ดีที่ตั้งของโรงแรมนั้นจะไกลจากเหล่าร้านอาหารและสถานที่ช้อปปิ้งมาก (อยู่ห่างจาก Nakheel Mall ประมาณ 9.5 กิโลเมตร และ 11 กิโลเมตรจาก The Pointe) ซึ่งคุณจะสามารถใช้บริการรับส่งฟรีของโรงแรมไปยัง Nakheel Mall ได้ หรือว่านั่งแท็กซี่หรือว่าขับรถที่เช่าไปครับ

• ที่ตั้ง: East Crescent Road, Palm Jumeirah, Dubai, United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

สไตล์การแต่งห้องของที่นี่จะเป็นแบบร่วมสมัย โดยได้แรงบันดาลใจจากท้องทะเล Arabian Gulf ทำให้ทางสถาปนิกเลือกใช้สีเขียวและน้ำเงินเข้ามาประกอบกับสีทอง ครีมและเบจ ทำให้ห้องพักมีกลิ่นอายของความเป็นรีสอร์ท และช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มอิ่มครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Luxury Room – 45 ตร.ม. เลือกได้ระหว่างวิวเมืองหรือวิวทะเล เช่นเดียวกับ King หรือ Twin
• Exotica Sea View Room – 45 ตร.ม. เหมือนกับ Luxury Room ทุกประการ แต่จะตั้งอยู่บนชั้นบนๆ ของโรงแรม ทำให้วิวดีกว่า และห้องนี้จะได้ Club Lounge Access (เข้า Lounge ได้ และได้สิทธิพิเศษอื่นๆ)
• Luxury Family Room – 60 ตร.ม. มีแค่ King เท่านั้น ส่วนวิวนั้นเลือกได้เหมือนห้อง Luxury ปกติ
• Luxury Suite – 90 ตร.ม. เลือกวิวได้ แต่เลือกเตียงไม่ได้ (มีเฉพาะ King)
• Grand Luxury Suite Sea View – 120-140 ตร.ม. มีให้เลือกระหว่าง 1 หรือ 2 ห้องนอน โดยห้อง 2 ห้องนอนจะใหญ่กว่า แต่ห้อง 1 ห้องนอนจะมีจากุชชี่ที่ระเบียงส่วนตัว
• Exotica Suite Sea View – 165 ตร.ม. มีจากุชชี่บนระเบียงแบบ Terrace
• Presidential Suite – 500 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน และตั้งอยู่ในจุดที่เห็นวิวทะเลแบบสวยงามที่สุด

ห้องพักแต่ละห้องนั้นใหญ่มากในทุกระดับสมกับเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว นอกจากนี้ยังมีระเบียงให้คุณออกไปชมวิวได้อีกด้วย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นครบเครื่อง ตั้งแต่โซฟา โต๊ะทำงาน ห้องน้ำหินอ่อน อุปกรณ์อาบน้ำของแบรนด์ Molten Brown (ถ้าเป็นห้องสวีทจะได้เป็นของ Hermes) Smart TV ขนาด 50 นิ้ว เตารีด Sofa Bed เครื่องทำกาแฟและอื่นๆ อีกมากมายเลยครับ

นอกจากนี้ทุกห้องพักจะได้ turndown service ที่พนักงานจะเนรมิตให้ห้องพักของคุณพร้อมสำหรับการนอนที่สุด นอกจากนี้พวกเขายังยินดีที่จะเตรียมห้องให้พิเศษเพื่อ surprise คู่รักของคุณด้วยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ และ Lounge รวม 7 แห่ง
• Taj Club Lounge ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน
• บริการสปาแบบครบวงจร ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากธาตุทั้ง 5 ของอินเดีย เช่นอัคนี (ไฟ) และวายุ (ลม) เป็นต้น
• ห้องฟิตเนส ซาวน่า อบไอน้ำ ห้องโยคะ
• สระว่ายน้ำกลางแจ้ง
• คอร์ดเทนนิส, Game Room, สนามกอล์ฟและกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ
• ห้องจัดประชุม สัมมนา และอีเวนต์
• ร้านขายสินค้าของโรงแรม
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

6. Rixos The Palm Hotel & Suites

Rixos The Palm Hotel & Suites เป็นโรงแรมของเครือ Accor (เพราะฉะนั้นสามารถใช้ point และรับคะแนนสะสมได้) ที่อยู่ปลายสุดของจันทร์เสี้ยวฝั่งตะวันออกของเกาะปาล์มจูไมราห์ โดยอยู่ย่านเดียวกับโรงแรมของเครือ Taj ที่ผมได้แนะนำไปแล้วด้านบน ซึ่งจะไกลจากย่านช้อปปิ้งร้านอาหารของเกาะพอสมควร

อย่างไรก็ดีบรรยากาศใกล้กับโรงแรมจะเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนมากกว่าครับ ส่วนการเดินทางนั้น ทางโรงแรมมีบริการรับส่งทางเรือไปยัง Dubai Marina และรถบัสไปยังห้างใหญ่อย่าง The Mall of the Emirates ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่นอกตัวเกาะครับ

จุดเด่นของที่นี่คือเป็นโรงแรมแบบ All-inclusive เพราะฉะนั้นทุกการจองจะรวมอาหาร 3 มื้อ ซึ่งเป็น package ที่โรงแรมน้อยแห่งในเกาะแห่งนี้ที่จะ offer ให้กับผู้เข้าพักครับ

• ที่ตั้ง: East Crescent 40 Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของโรงแรมจะเป็นสไตล์รีสอร์ทที่ใช้ดีไซน์แบบร่วมสมัย เพราะฉะนั้นจะมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายสบายๆ เอื้อต่อการพักผ่อน ทุกห้องจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่แบบ floor-to-ceiling ให้ชมวิวได้อย่างเต็มอิ่ม ทั้งนี้รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Deluxe – 52-55 ตร.ม. เลือกระหว่างวิวสวนและวิวทะเล
• Wellness Room with Pool Access – 55 ตร.ม. ตัวห้องไม่ต่างจาก Deluxe มากนัก แต่ห้องนี้จะอยู่ชั้นล่างติดกับสระว่ายน้ำ ทำให้เดินไปสระได้ง่ายดาย
• Premium – 65 ตร.ม. เหมือนกับ Deluxe แต่ห้องมีขนาดใหญ่ขึ้นพอสมควร
• Junior Suite – 70 ตร.ม. เห็นวิวทะเล
• Senior Suite – 90-150 ตร.ม. เห็นวิวทะเล ห้องใหญ่คือห้องแบบสองห้องนอนที่เห็นวิวแบบพาโนรามา
• King Suite – 380 ตร.ม. เห็นวิวแบบพาโนรามา
• Penthouse – 580 ตร.ม. เห็นวิวแบบพาโนรามา

พื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องนั้นจัดว่าใหญ่มาก โดยเฉพาะห้องระดับเริ่มต้นนั้นเรียกได้ว่าสูสีกับโรงแรม 6 ดาวอย่าง Atlantis The Royal เลยครับ ทว่าห้องแทบทุกห้องนั้นจะเป็นห้องเตียง King ทั้งสิ้น และไม่มีห้องเตียง Twin ให้เลือกเลยครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักถือว่าพร้อมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำกาแฟ, Soft Drink ฟรี, อุปกรณ์อาบน้ำ โต๊ะทำงาน รองเท้าแตะ ฯลฯ ช่วยให้คุณพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์รวมทั้งหมด 11 แห่ง
• ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง คอร์ดเทนนิส กิจกรรมทางน้ำ และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ
• สปา (มีทรีตเมนต์สไตล์ Turkish ที่มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยออตโตมัน) คลีนิกเสริมสวย และ beauty salon
• สวนน้ำและห้องกิจกรรมหลายห้องสำหรับเด็ก
• บริการจัดประชุม สัมมนา และอีเวนต์
• ที่จอดรถฟรี
• ถ้าพักเกิน 4 คืน เข้า Aquaventure Waterpark ฟรี

สรุป

7. Raffles The Palm

Raffles the Palm เป็นโรงแรมในเครือ Accor (ใช้คะแนนและ benefit ต่างๆได้) ที่ตั้งอยู่จันทร์เสี้ยวฝั่งตะวันตกของปาล์มจูไมราห์ ตัวอาคารของโรงแรมนั้นสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมอินเดียที่ดูเหมือนกับปราสาทของมหาราชาสักองค์หนึ่งในดินแดนภารตะเลยครับ ส่วนเรื่องวิวนั้น คุณสามารถเห็นได้ทั้งตัวมหานครดูไบ เกาะปาล์มจูไมราห์ รวมไปถึงทะเลอาราเบียนสีน้ำเงินครับ

ในส่วนของการเดินทางนั้น โรงแรมจะอยู่ห่างจาก Nakheel Mall ประมาณ 6.5 กิโลเมตร ทางเลือกที่ง่ายที่สุดคือการนั่งแท็กซี่ไปกลับครับ

• ที่ตั้ง: West Crescent Palm – Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่จะตบแต่งในสไตล์คลาสสิค โดยจะตบแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบตะวันตกแนว vintage สไตล์ handmade ของ Francesco Molon (อย่างเช่น chandelier) บรรยากาศในห้องจึงหรูหรา และสวยมีคลาสอย่างยิ่ง รูปแบบห้องที่มีให้จองประกอบด้วย

• Deluxe – 62 ตร.ม.
• Premier Ocean/Palm/Garden Walk – 61-68 ตร.ม. เลือกวิวได้ระหว่างทะเลหรือ Palm ส่วน Garden Walk นั้นตัวห้องจะอยู่ชั้นล่าง ทำให้คุณสามารถก้าวเท้าลงไปชมสวน เดินไปสระว่ายน้ำ หรือชายหาดได้อย่างง่ายดายจากระเบียงส่วนตัวของคุณครับ
• Raffles Club Palm/Ocean – 75-90 ตร.ม. ห้องนี้มาพร้อมสิทธิ์ในการเข้า Raffles Club Lounge ฟรี
• Duplex Suite – 100 ตร.ม. – ห้องพักแบบสองชั้น
• Signature Suite Palm/Ocean – 110 ตร.ม. เลือกได้ระหว่างวิวเกาะหรือวิวทะเล
• Family Room Ocean – 124 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้อง Premier สองห้องที่เชื่อมกันเป็น connecting room ห้องนี้จะมี butler service สำหรับดูแลเด็กโดยเฉพาะ
• Premier Suite One Bedroom Palm – 163 ตร.ม. มีระเบียงแบบวังพร้อมที่นอนและโต๊ะอาหาร
• Premier Club Terrace – 203 ตร.ม. ห้องพักขนาดใหญ่ที่มีระเบียงสุดกว้างที่ให้คุณชมทัศนียภาพอันงดงามของสวนสวย และท้องทะเลกครับ
• Premier Jacuzzi Suite One Bedroom Palm – 220 ตร.ม. โครงสร้างห้องเหมือนกับ Premier Suite แต่ใหญ่กว่าและมีจากุชชี่ส่วนตัว
• Raffles Presidential Suite – 330 ตร.ม. มีสองห้องนอน สองจากุชชี่ และระเบียงขนาดใหญ่ที่ให้คุณชมวิวแบบพาโนรามา
• Raffles Royal Suite – 930 ตร.ม. ห้องระดับสูงที่ให้เชื้อพระวงศ์พัก มีห้องอาหารส่วนตัว ระเบียงขนาดยักษ์ ครัวส่วนตัว ทุกส่วนตบแต่งด้วยภาพเขียนอันสวยงาม
• Raffles Royal Villa – 950 ตร.ม. โครงสร้างห้องคล้ายกับ Royal Suite แต่จะได้อาคารแบบวิลล่าแยกเป็นของตนเอง ด้านในมีสระว่ายน้ำ สวน และสปาส่วนตัว
• Raffles Imperial Villa – 1050 ตร.ม. วิลล่าสุดหรูที่ควรค่ากับระดับประมุขของประเทศ แขกผู้สูงศักดิ์ หรือเศรษฐีระดับ billionaire มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเครื่องทุกสิ่ง ราวกับว่าแยกเป็นโรงแรมส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร สปา สระว่ายน้ำ ฯลฯ

จุดแข็งของห้องพักที่นี่คือขนาดห้องพักที่ใหญ่มาก โดยห้องทุกระดับนั้นสูสีกับที่ Atlantis the Royal แบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว แถมห้องระดับเริ่มต้นอย่าง Deluxe นั้นยังใหญ่กว่าเสียอีก (ใหญ่กว่าทุกแห่งในปาล์มจูไมราห์) เพราะฉะนั้นถ้าคุณให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอย ที่นี่คือตัวเลือกระดับต้นๆ อย่างแน่นอนครับ

ทุกห้องพักจะมีระเบียง (หรือลานสำหรับห้องที่อยู่ชั้นล่าง) ทำให้คุณนั่งเล่นชมวิว หรือพักผ่อนหย่อนใจ เช่นเดียวกับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ luxury แต่ที่เยี่ยมยอดที่สุดคือ ทุกห้องจะมี butler ที่ดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง และให้ความช่วยเหลือคุณในทุกๆ สิ่ง ซึ่งบริการนี้เป็นสิ่งที่ทางโรงแรมภูมิใจอย่างยิ่งครับ

นอกจากนี้ทุกห้องสวีทและห้อง Club จะได้รับสิทธิ์ในการใช้บริการ Raffles Club Lounge สุดหรูได้ฟรี โดยด้านในจะเสิร์ฟอาหารเช้าและกลางวัน (Light Lunch) เช่นเดียวกับ Afternoon Tea (บ่าย) และ Aperitivo (เย็น) ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ Jazz Lounge และ Patisserie รวม 6 แห่ง
• สระว่ายน้ำในร่มที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ
• Cinq Mondes – สปาขนาดใหญ่ที่ชนะรางวัลมาแล้วมากมาย ด้านในมีห้องทรีตเมนต์ถึง 23 ห้อง ออนเซ็นแบบญี่ปุ่น Hammam (หรือ Turkish Bath) ฯลฯ
• หาดส่วนตัว
• Raffles Club Lounge
• บริการจัดเลี้ยงและอีเวนต์
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

8. Kempinski Hotel & Residences Palm Jumeirah

Kempinski Hotel & Residences Palm Jumeirah เป็นโรงแรมของเครือชั้นนำของโลกอย่าง Kempinski เพราะฉะนั้นเรื่องคุณภาพไม่น่าจะมีเครื่องหมายคำถามอยู่แล้ว ตัวโรงแรมนั้นตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของจันทร์เสี้ยว โดยอยู่ไม่ไกลจาก Raffles the Palm ที่ผมแนะนำไปด้านบนครับ

คอนเซปต์ของที่พักแห่งนี้คือ “Palatial Luxury” เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยที่อาคารของโรงแรมจะมีรูปลักษณ์คล้ายกับเป็นวังของเชื้อพระวงศ์อาหรับหรือตะวันออกกลางสักท่านหนึ่งครับ

• ที่ตั้ง: Crescent West, Palm – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

จุดเด่นของโรงแรมในเครือเคมปินสกี้นั้นคือเรื่องความหรูหรา ซึ่งที่นี่ก็จัดให้แบบไม่ขาดไม่เกินเลยครับ ทุกห้องในโรงแรมจะเป็นระดับสวีทที่ทั้งกว้างขวางและอลังการ เนื่องด้วยดีไซน์ห้องพักนั้นจะเป็นแบบ Classic European Style พร้อมประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นเลิศจากแบรนด์ Francesco Molon ครับ

ไม่เพียงเท่านั้นห้องพักทุกห้องยังมีห้องครัวพร้อมเครื่องครัวแบบครบสูตร (รวมไปถึงไมโครเวฟและเครื่องทำกาแฟด้วยเช่นกัน) ระเบียงขนาดใหญ่สำหรับชมวิว ห้องนั่งเล่นอันโอ่โถง และ Lounge Area ยิ่งถ้าเป็นห้องระดับสูงด้วยแล้วจะมีสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัวอีกด้วยครับ

รูปแบบห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Ocean/Palm Two-Bedroom Suite – 112 ตร.ม.
• Two-Bedroom Suite with Suite – 150 ตร.ม.
• Three-Bedroom Suite – 210 ตร.ม.
• Deluxe Three-Bedroom Suite – 246 ตร.ม.
• Superior Three/Four-Bedroom Penthouse – 340-440 ตร.ม.
• Royal Five-Bedroom Villa – 761 ตร.ม.

สำหรับพื้นที่ใช้สอยนั้นจะกินขาดโรงแรมอื่นๆ อยู่แล้ว เพราะที่นี่มีเฉพาะห้องระดับสวีทสองห้องนอนเท่านั้น แต่ถ้าเป็นห้องระดับ upmarket แล้ว ห้องของที่นี่จะไม่ได้ใหญ่เท่าที่ Atlantis the Royal หรือว่า Raffles the Palm ครับ ด้านเรื่องวิวนั้น ห้องส่วนใหญ่จะเป็น Lagoon View โดยจะเห็นทั้ง Arabian Sea และตัวเกาะปาล์มจูไมราห์ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์รวม 5 แห่ง
• Luxury Spa ที่บริหารจัดการโดย Cinq Mondes
• หาดส่วนตัวและสระว่ายน้ำกลางแจ้ง (ไม่ฟรี คิดเพิ่มในราคา 250 AED ต่อคนต่อวัน แต่มีเครดิตอาหารและเครื่องดื่มรวม 150 AED ที่คุณสามารถใช้กับบาร์และร้านอาหารได้ครับ)
• ฟิตเนสเซนเตอร์
• ห้องประชุม สัมมนา และจัดอีเวนต์
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

9. Hilton Dubai Palm Jumeirah

Hilton Dubai Palm Jumeirah เป็นโรงแรมของเครือฮิลตันที่ตั้งอยู่บริเวณ Palm West Beach หรือบริเวณลำต้นของปาล์มจูไมราห์ โดยจากบริเวณโรงแรมนั้นจะเห็นบริเวณท่าเรือดูไบ (Dubai Harbour) ได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับแสงสีของมหานครแห่งนี้ในยามค่ำคืนครับ

โรงแรมอยู่ห่างจาก Nakheel Mall ประมาณ 1.2 กิโลเมตร ซึ่งไม่ไกลเกินไปสำหรับการไปช้อปปิ้งหรือหาอะไรรับประทานครับ

• ที่ตั้ง: Palm West Beach – The Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของโรงแรมแห่งนี้เป็นสไตล์โมเดิร์นที่มีการตบแต่งที่เรียบง่าย แต่มีกลิ่นอายความเป็นอเมริกันอยู่เบาๆ ตัวห้องนั้นมีเพดานสูงช่วยให้คุณรู้สึกสบายและปลอดโปร่งยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับหน้าต่างชมวิวแบบ floor-to-ceiling ทั้งนี้ห้องที่มีให้เลือกมีดังต่อไปนี้

• Guest Room with Balcony – 40 ตร.ม. เลือกได้ระหว่าง King หรือ 2 Doubles
• Deluxe/Executive – 40 ตร.ม. รูปแบบเตียงเหมือนกับด้านบน แต่ว่าจะได้ Seaview แทนที่วิวเมือง ส่วนห้อง Executive นั้นจะได้สิทธิ์ในการเข้า Executive Lounge
• Corner Room – 56 ตร.ม. มีเฉพาะ King เท่านั้น ตั้งอยู่หัวมุมตึกทำให้เห็นวิวได้สองมุม สามารถเลือกอัพเกรดเป็น Executive Corner Room เพื่อเข้า lounge ฟรีได้
• Family Connecting Room with Balconies – 80 ตร.ม. เลือกได้ระหว่างห้องธรรมดาหรือ Deluxe
• One-Bedroom Suite – 86 ตร.ม.
• Executive Suite – 124 ตร.ม.
• Presidential Suite – 220 ตร.ม.
• Imperial Suite – 352 ตร.ม.
• Royal Suite – 390 ตร.ม.

ห้องสวีททุกห้องนั้นจะได้มีวิวทะเลที่สวยงาม เช่นเดียวกับสิทธิ์ในการเข้า Executive Lounge ที่เสิร์ฟอาหารเช้า ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่มตลอดวันโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ

ขนาดห้องที่นี่ถือว่าใหญ่ตามมาตรฐานของโรงแรม 5 ดาว แม้ว่าจะไม่สู้โรงแรมระดับยอดมงกุฎก็ตาม แต่ส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นถือว่าครบเครื่องทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำกาแฟของ Lavazza ที่ให้คุณจิบกาแฟอุ่นๆ ได้ในยามเช้า ระเบียงชมวิว ทีวีแบบ HDTV ขนาด 55 นิ้ว โซฟา แถมห้องสวีทระดับสูงจะมีครัวแบบ full kitchen ให้ทำอาหารได้ด้วยครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์รวม 9 แห่ง
• Executive Lounge
• ฟิตเนสเซนเตอร์และ Kids’ Club
• สระว่ายน้ำกลางแจ้งและหาดส่วนตัว
• บริการสปาแบบครบวงจร
• ห้องประชุม สัมมนา และจัดอีเวนต์
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

10. Five Palm Jumeirah Dubai

Five Palm Jumeirah Dubai เป็นโรงแรมที่เรียกตัวเองว่าเป็น Hottest Hotel in Dubai เพราะฉะนั้นเป็นที่ตั้งที่เหมาะสำหรับสายปาร์ตี้โดยเฉพาะ (มี nightclub ด้านในโรงแรม) ทำให้นักเดินทางที่เป็นวัยรุ่นหรือวัยกลางคนแต่หัวใจยังเยาว์วัยชื่นชอบเป็นพิเศษเลยครับ

ตัวโรงแรมตั้งอยู่ตอนต้นของ Palm West Beach ใกล้กับสะพานที่เชื่อมปาล์มจูไมราห์กับตัวแผ่นดินใหญ่ เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นแนวตึกระฟ้าของมหานครดูไบชัดเจนเป็นพิเศษครับ

• ที่ตั้ง: No. 1 Palm – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

จุดเด่นสำคัญของห้องพักที่นี่มีให้เลือกหลากหลายมาก โดยทุกห้องจะตบแต่งในสไตล์ร่วมสมัยที่มีกลิ่นอายของตะวันออกกลางอยู่เบาๆ โทนสีที่ใช้จะเป็นสีครีมและเบจที่ดูเป็นทางการและสบายตาครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

Rooms & Suites

• Superior/Luxe Sea View – 38 ตร.ม. ตัวห้อง Superior จะเลือกได้ว่าต้องการเตียง Twin หรือ Double Queen (แบบหลังเตียงจะใหญ่กว่าเล็กน้อย) รวมไปถึงวิวทะเลหรือว่าวิวเมืองครับ ส่วน Luxe Sea View นั้นจะคล้ายกัน แต่ว่าจะให้เลือกระหว่างเตียง King หรือ Double Queen และทุกห้องจะเห็นวิวทะเลครับ
• Junior Suite – 55 ตร.ม. เลือกได้ระหว่างวิวเมืองหรือทะเล
• Luxe One Bedroom Suite – 80 ตร.ม.
• Luxe Two Bedroom Suite – 125-175 ตร.ม. ห้องใหญ่นั้นจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว
• Four Bedroom Duplex Suite – 250 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำส่วนตัว จากุชชี่

ห้องสวีทระดับ Two Bedroom Suite ขึ้นไปจะมีครัวที่ให้คุณทำอาหารได้อย่างสบายๆครับ

Residences

• One/Two Bedroom Residence – 129-134 ตร.ม.
• Three Bedroom Residence – 270-452 ตร.ม. ห้องใหญ่ (452 ตร.ม.) จะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว
• Four Bedroom Residence with Private Pool – 545 ตร.ม.
• Four-bedroom Come Play Penthouse with Private Pool – 705 ตร.ม.

สำหรับห้องแบบ Residence ทุกระดับนั้นจะมาพร้อมกับครัวแบบ full kitchen ที่มีเครื่องครัวพร้อมสำหรับการทำอาหารทุกสัญชาติ ส่วนวิวนั้นจะสุดยอดอยู่แล้ว เพราะว่าเห็น Dubai Marina ไปจนถึงท้องทะเลโดยรอบครับ

Villas

• Two Bedroom Penthouse with a Pool – 297 ตร.ม.
• Three Bedroom Beach Villa with Private Pool – 574 ตร.ม.
• Four Bedroom Beach Villa with Private Pool – 1142 ตร.ม.
• Five Bedroom Presidential Villa with Private Pool – 1142 ตร.ม.
• Four Bedroom Penthouse with Private Pool – 1200 ตร.ม. ตั้งอยู่ชั้น 16 เพราะฉะนั้นเห็นวิวสวยๆ ได้แบบพาโนรามาเลยครับ

สำหรับห้องพักแบบวิลล่าของโรงแรมนั้นจะหรูหราอลังการที่สุด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกอันครบถ้วนที่สุด ทุกห้องจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวเช่นเดียวกับครัวครับ

ด้วยจำนวนห้องพักที่มีให้เลือกหลากหลาย ห้องของที่นี่มีตั้งแต่ห้องขนาดทั่วไปไปจนถึง Penthouse ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของปาล์มจูไมราห์และเมืองดูไบเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคุณจะมีตัวเลือกที่เหมาะสมกับคณะของคุณอย่างแน่นอนครับ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานมีตั้งแต่มินิบาร์ ชาและกาแฟฟรี Smart TV ขนาด 55 นิ้ว อุปกรณ์อาบน้ำอย่างดี อ่างอาบน้ำ ระเบียงชมวิว พร้อมด้วย turndown service ที่ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างง่ายดายและสบายใจที่สุดครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารและบาร์ 9 แห่ง (มีตัวเลือกแบบ All-inclusive ให้เลือกจอง)
• Bohemia – Beach Party ชั้นนำของมหานครดูไบ
• ผับ บาร์ และ Lounge
• ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง หาดส่วนตัวและกิจกรรมทางน้ำ
• บริการสปาแบบครบวงจรและ Nail Salon
• ห้องประชุมและจัดอีเวนต์
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

11. One&Only The Palm Dubai

One&Only The Palm Dubai เป็นโรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่สุดฝั่ง West Crescent หรือจันทร์เสี้ยวฝั่งตะวันตก เพราะฉะนั้นโรงแรมนั้นแทบจะหันหน้าเข้าหา Dubai Marina เลยครับ เพราะฉะนั้นวิวเมืองในช่วงตอนกลางคืนจะอลังการมากเลยทีเดียว ทว่าตำแหน่งที่อยู่สุดมุมขนาดนี้ ทำให้การเดินทางไปแหล่งช้อปปิ้งอย่าง Nakheel Mall จะต้องใช้เวลาพอสมควรเลยครับ (ประมาณ 9 กิโลเมตร)

• ที่ตั้ง: West Crescent, Palm – Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ตัวโรงแรมได้รับการสร้างในสถาปัตยกรรม Andalusian/Moorish (ตอนกลางและใต้ของสเปนที่เคยอยู่ในการปกครองของชาวมุสลิม) อย่างสวยงามอลังการ ทุกก้าวในโรงแรมนั้นคุณจะรู้สึกว่ากำลังอยู่ที่เมือง Cordoba เลยก็ว่าได้ครับ ส่วนตัวห้องนั้นจะเป็นสไตล์ร่วมสมัยแต่ยังคงสอดแทรกความเป็น Andalusian เข้ามาไม่น้อยเลยครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Palm Beach/Manor Premiere Room – 65 ตร.ม. ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่าง เพราะฉะนั้นจะเห็นเฉพาะวิวสวนเท่านั้น เลือกได้ระหว่าง King หรือ Twin
• Junior Suite – 100 ตร.ม. ตั้งอยู่ที่ beachfront เห็นวิวชายหาดที่สวยงามและเข้าถึงชายหาดได้อย่างง่ายดาย มีห้องที่มีชายหาดส่วนตัวให้เลือกจองอีกด้วย
• Executive Suite – 100-130 ตร.ม. เหมือนกับ Junior Suite แต่ว่าบางห้องจะใหญ่กว่าพอสมควรครับ
• Manor Grand Palm Suite – 250 ตร.ม. ห้องริมสระว่ายน้ำ มีครัวและโต๊ะอาหารฃ
• Two Bedroom Beachfront Villa – 325 ตร.ม. วิว beachfront ในห้องมีครัว บาร์ และสระว่ายน้ำส่วนตัว
• Three Bedroom Beachfront Villa – 425 ตร.ม. สิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนวิลล่าสองห้องนอน แต่ห้องและสระว่ายน้ำจะใหญ่กว่า และมีห้องนอนเพิ่มครับ

สิ่งที่ทำให้ที่นี่ต่างจากที่อื่นอย่างชัดเจนคือ ห้องพักเกินครึ่งจะตั้งอยู่ที่ริมหาด (beachfront) เพราะฉะนั้นผู้เข้าพักจะเข้าถึงชายหาดและท้องทะเลได้โดยไม่มีอะไรขวางกั้น ซึ่งจะต่างจากบางโรงแรมค่อนข้างหวง และคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเมื่อจะเข้าใช้หาดด้วยซ้ำไปครับ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ นั้นมีครบครัน ตั้งแต่ชุดชากาแฟ เครื่องทำกาแฟ อ่างอาบน้ำหินอ่อน โซฟา อุปกรณ์อาบน้ำอย่างดี ฯลฯ ช่วยให้คุณพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม ด้านห้องสวีทนั้นจะได้มินิบาร์และเครื่องดื่มในห้องฟรีทั้งหมดครับ

ส่วนตัวห้องนั้นก็กว้างขวาง โดยเฉพาะห้องระดับเริ่มต้นที่ใหญ่กว่าโรงแรมส่วนใหญ่ในปาล์มจูไมราห์เลยครับ (แต่แน่นอนว่าห้องระดับ ultra luxury นั้นจะใหญ่สู้ Raffles the Palm หรือ Atlantis the Royal ไม่ได้ครับ)

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ และเลาจน์ (เสิร์ฟอาหารเช้าแบบ a la carte)
• ห้องฟิตเนส สนามบาสเกตบอล คอร์ดเทนนิส
• สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และหาดส่วนตัว
• บริการสปาแบบครบวงจร
• ห้องประชุมและจัดอีเวนต์
• บริการรับส่งไปยังสวนน้ำ Aquaventure Waterpark
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

12. Jumeirah Zabeel Saray

Jumeirah Zabeel Saray เป็นที่พักในปาล์มจูไมราห์ที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากจักรวรรดิออตโตมัน เพราะฉะนั้นอาคารของโรงแรมจึงดูคล้ายกับวังของสุลต่านออตโตมันผู้เรืองอำนาจในอดีตกาล แต่ก็ใส่องค์ประกอบแบบร่วมสมัยลงไปพอสมควร ทำให้บรรยากาศด้านในมีทั้งความอลังการและผ่อนคลายครับ

ที่ตั้งของโรงแรมตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของจันทร์เสี้ยว โดยอยู่เกือบมุมปลายจันทร์ (แต่ไม่เท่า One&Only ด้านบน) ทำให้ใช้เวลาเดินทางไปไหนมาไหนไกลพอสมควร แต่เรื่องวิวนั้นสวยมากทีเดียว เพราะด้านหนึ่งเป็น Arabian Sea ส่วนด้านตรงข้ามเป็น Dubai Marina ครับ ส่วนด้านหลังของโรงแรมก็เป็นเกาะปาล์มจูไมราห์ครับ

• ที่ตั้ง: Crescent Rd – The Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักทุกห้องนั้นตบแต่งใน theme ออตโตมันในสไตล์ร่วมสมัย เพราะฉะนั้นคุณจะได้ยลเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแบบเติร์กที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในโลกมุสลิมมาแล้วนักต่อนัก หลายส่วนของห้องนั้นจะใช้เป็นสีทองอันเปล่งปลั่งที่ยกระดับความหรูหราและโอ่โถงให้ขึ้นไปอีกระดับหนึ่งครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• King Room – 46 ตร.ม.
• Family Room – 56 ตร.ม.
• Deluxe King/Family Room – 46-56 ตร.ม. ห้องนี้ต่างจากห้อง King/Family ทั่วไปตรงที่จะเห็นวิวสวยๆ ของ Arabian Sea ครับ
• Grand Deluxe Two Bedroom – 65-80 ตร.ม.
• Junior Suite – 66 ตร.ม. เห็นวิวปาล์มจูไมราห์หรือ Dubai Marina
• Imperial One Bedroom Suite – 94 ตร.ม.
• Ottoman Two Bedroom Family Room – 102 ตร.ม.
• Imperial Two Bedroom Suite – 142 ตร.ม. เห็นวิว Arabian Sea
• Grand Imperial Suite – 310 ตร.ม. เห็นวิวเกาะและตัวรีสอร์ททั้งหมดแบบพาโนรามา
• Four Bedroom Lagoon Royal Villa – 461 ตร.ม.
• Five Bedroom Royal Villa with Private Pool – 530 ตร.ม. มีสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว

ทั้งนี้ห้องสวีทจะเข้าถึง butler service และผู้เข้าพักจะสามารถเข้า Club Lounge ที่เสิร์ฟอาหารเช้า ของว่าง และเครื่องดื่มได้ฟรี ส่วนผู้เข้าพักห้อง King/Family นั้นจะเข้าได้ก็ต่อเมื่อจองห้องที่มี Club Access (ขึ้นต้นว่า Club เวลาจอง) เท่านั้นครับ

ตัวห้องถือว่าใหญ่เท่ากับมาตรฐานทั่วไปของโรงแรมในปาล์มจูไมราห์ เพราะฉะนั้นคุณจะพักได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกลัวอึดอัดแน่นอน ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ถือว่าครบทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอ่างอาบน้ำแบบเตอร์กิชที่ทำจากหินอ่อนอย่างดี, LCD TV คุณภาพเยี่ยม อุปกรณ์อาบน้ำเกรด luxury โซฟา และอื่นๆ อีกมากมายครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ และ Lounge รวม 9 แห่ง
• ห้องฟิตเนส คอร์ดเทนนิส และกีฬาทางน้ำต่างๆ
• สระว่ายน้ำและหาดส่วนตัว
• บริการสปาแบบครบวงจร (สไตล์ออตโตมัน)
• โรงภาพยนตร์
• ห้องประชุมและอีเวนต์
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

13. Marriott Resort Palm Jumeirah Dubai

Marriott Resort Palm Jumeirah Dubai เป็นโรงแรมระดับเรือธงของเครือ Marriott ในปาล์มจูไมราห์ โดยตั้งอยู่บริเวณลำต้นปาล์มของเกาะ เพราะฉะนั้นจะสะดวกง่ายดายกับการเดินทางไปห้างอย่าง Nakheel Mall (1.3 กิโลเมตร) เช่นเดียวกับเห็นวิว Dubai Marina ได้อย่างสวยงามยิ่งครับ

• ที่ตั้ง: Palm West Beach Palm – Jumeirah Road – The Palm Jumeirah – Dubai – United Arab Emirates
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ตัวโรงแรมเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีห้องพักมากกว่า 600 ห้อง แต่ละห้องตบแต่งในสไตล์ร่วมสมัยที่ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ในห้องยังมีหน้าต่างแบบ floor-to-ceiling หลายบานที่ช่วยให้ตัวห้องรับแสงแดดอบอุ่นในยามเช้า และระเบียงส่วนตัวที่ให้คุณได้ชมวิวสวยๆ แบบเต็มอิ่มเลยครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Palm Deluxe/Grand Deluxe/M Club Room – 41 ตร.ม. เลือกได้ระหว่าง King หรือ 2 Double ทุกห้องเห็นวิวตัวเมืองดูไบหรือวิวทะเล สำหรับห้อง M Club Room นั้นจะมีสิทธิ์ในการเข้า M Club Lounge มาด้วยครับ
• Family Room – 82 ตร.ม. เห็นวิวทะเล
• Palm Suite – 83 ตร.ม.
• Palm Family Suite – 124 ตร.ม.
• Executive Suite – 127 ตร.ม.
• Palm Penthouse – 250 ตร.ม.
• Presidential Suite/Royal Penthouse – 400 ตร.ม.

ห้องสวีททุกห้องจะมาพร้อมกับวิวทะเลอันสวยงาม เช่นเดียวกับสิทธิ์ในการเข้า M Club Lounge ที่เสิร์ฟอาหารเช้า ของว่าง เมนูทานเล่น และเครื่องดื่มตลอดวัน ส่วนห้องระดับ Penthouse นั้นจะมีระเบียงแบบ Terrace ที่ใหญ่กว่าระเบียงทั่วไป ซึ่งคุณออกไปนอนเล่นชมวิวด้านนอกได้ เช่นเดียวกับครัวครับ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไปนั้นมีพร้อมแทบทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องทำกาแฟ หมอนหลากหลายแบบให้เลือกสรรตามใจชอบ ระบบไฟและระบบโทรทัศน์แบบทันสมัย อ่างอาบน้ำ ฯลฯ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 10 แห่งและ Coffee House
• M Club Lounge
• ฟิตเนสเซนเตอร์และสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้ง
• หาดส่วนตัวและกีฬาทางน้ำต่างๆ
• บริการสปาแบบครบวงจร
• ห้องจัดอีเวนต์ ประชุม และสัมมนา
• ที่จอดรถฟรี

สรุป

14. ตัวเลือกระดับทั่วไปในปาล์มจูไมราห์

ปาล์มจูไมราห์นั้นเป็นสถานที่รวมโรงแรมและรีสอร์ทสุดหรูระดับ 5-6 ดาว แต่ถ้าคุณสนใจตัวเลือกคุณภาพที่ย่อมเยาลงมาอย่างเช่น Lifestyle Hotel หรืออพาร์ตเมนต์ ที่พักด้านล่างเหล่านี้ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ แต่แน่นอนว่าเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นจะเทียบไม่ได้กับโรงแรมด้านบนที่ผมแนะนำไปครับ

• voco Dubai The Palm, an IHG Hotel – ที่พักแบบ Lifestyle Hotel ระดับ 4 ดาว ราคาต่อคืนไม่สูงมากนัก ห้องขนาดใหญ่ใช้ได้ สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานมีครบ ส่วนวิวนั้นเห็นท้องทะเลและตัวเมืองอย่างสุดอลังไม่แพ้โรงแรม 5 ดาวเลยครับ
• Andaz Dubai The Palm – อีกหนึ่งที่พักแบบ lifestyle hotel สุดคุ้มของปาล์มจูไมราห์ ราคาต่อคืนไม่สูง แต่ห้องเริ่มต้นใหญ่ทีเดียว (37 ตร.ม.) และตบแต่งในสไตล์สุดชิค เหมาะกับวัยรุ่น ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานมีครบครัน นอกจากนี้สิ่งที่ดีงามที่สุดคือใกล้กับ Nakheel Mall ขนาดที่เดินข้ามถนนเข้าห้างได้เลยครับ
• Cheval Maison – The Palm Dubai – ที่พักแบบอพาร์ตเมนต์ที่มีทั้งร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนสเซนเตอร์ให้บริการ ราคาต่อคืนไม่สูงมากนัก แต่ได้ห้องใหญ่ระดับสวีทที่มีครัวในห้องด้วยครับ นอกจากนี้ยังใกล้กับ Nakheel Mall อีกด้วย