5 โรงแรมที่พักชินบาชิ (Shinbashi) น่าจอง | ครบทุกสิ่งที่ควรทราบ

ชินบาชิ/ชิมบาชิ (Shinbashi/Shimbashi) เป็นย่านธุรกิจในกรุงโตเกียวที่มีสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำของโลกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทญี่ปุ่น เช่น ANA, Softbank, Panasonic ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยนักธุรกิจจำนวนมากที่เดินทางมาติดต่อการค้าขายหรือกระชับความสัมพันธ์ ซึ่งถ้าคุณเดินทางไปโตเกียวเพื่อติดต่อธุรกิจแล้ว มีโอกาสสูงทีเดียวที่บริษัทคู่เจรจาของคุณจะมีออฟฟิศตั้งอยู่ที่นี่ครับ

ดังนั้นการเลือกพักที่ชินบาชิจึงน่าสนใจทีเดียวสำหรับนักเดินทางที่ไปติดต่อธุรกิจ บทความนี้จึงจะมาแนะนำที่พักที่น่าสนใจในย่านดังกล่าว จะมีที่ไหนบ้าง อ่านเพิ่มเติมด้านล่างได้เลยครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองโรงแรมในย่านชินบาชิผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

ข้อควรทราบ

ที่พักชินบาชิน่าจอง

1. Dai-ichi Hotel Tokyo

Dai-ichi Hotel Tokyo เป็นโรงแรมระดับ 4.5 ดาวของเครือ Hankyu ที่ให้บริการห้องคุณภาพดีเหนือกว่าโรงแรมธุรกิจทั่วไป ตัวโรงแรมห่างจากทางเข้าสถานีรถไฟ Shimbashi Station ไปแค่ 120 เมตร ขณะที่ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อก็แทบจะล้อมหน้าล้อมหลัง ทำให้ทั้งการเดินทางและหาอะไรรับประทานสะดวกอย่างที่สุดเลยครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-2-6 Shinbashi, Minato City, Tokyo 105-8621, Japan
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ห้องพักของโรงแรมตบแต่งในสไตล์โมเดิร์นแต่ก็มีเฟอร์นิเจอร์แนวคลาสสิคใส่เข้ามาพอสมควรเพื่อให้ได้ตามคอนเซปต์ “Elegance & Excellence”และเพิ่มบรรยากาศที่ดูหรูหรามีระดับครับ

สำหรับห้องพักของโรงแรมนั้นจะแบ่งเป็นสองส่วนได้แก่ Regular Floor หรือ Premier Floor โดยแบบหลังนั้นจะมีสิทธิ์ในการเข้า Executive Lounge ที่คุณสามารถเข้าไปนั่งเล่นตลอดจนดื่มกิน และทานของทานเล่นได้แทบทั้งวัน ส่วนอุปกรณ์อาบน้ำนั้นจะปรับให้แบบมีแบรนด์ โดยจะใช้เป็นแบรนด์ L’Occitane และได้มินิบาร์ฟรี และเครื่องทำกาแฟในห้องพักครับ

รูปแบบที่ให้จองมีดังต่อไปนี้

Regular Floor

• Moderate Double/Twin – 27/29 ตร.ม.
• Superior Double/Twin – 32 ตร.ม.
• Deluxe/Corner Twin – 36/42 ตร.ม.

Premier Floor

• Premier Double/Twin – 32 ตร.ม.
• Junior Suite – 62 ตร.ม.
• Palais Suite – 84 ตร.ม.
• Premier Suite – 189 ตร.ม.

สำหรับขนาดห้องนั้นต้องบอกเลยว่าใหญ่กว่าที่อื่นๆ แบบเทียบไม่ติด เพราะฉะนั้นนักเดินทางที่ในคณะมีเด็กหรือผู้สูงอายุ หรือว่ามีกระเป๋าจำนวนมากนั้นสบายใจได้เลยครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ทุกสิ่งมีครบ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อาบน้ำ รองเท้าแตะ ชุดชาและกาแฟ เตารีด เครื่องปรับความชื้น ฯลฯ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร บาร์ และ Lounge รวม 10 แห่ง
• Premier Lounge
• สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และซาวน่า (ใช้ฟรีสำหรับ Premier Floor แต่ถ้า Regular Floor ต้องเสีย 1,650 เยนต่อคนต่อวัน)
• บริการนวด
• ห้องประชุม สัมมนา และจัดเลี้ยง
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

2. The Blossom Hibiya

The Blossom Hibiya เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวในเครือ JR Hotels ที่ตั้งอยู่ในทำเลอันยอดเยี่ยม เพราะอยู่ห่างจากทางเข้าสถานีรถไฟ Shimbashi Station แค่ 270 เมตรเท่านั้น ส่วนรอบๆ โรงแรมนั้นอุดมไปด้วยร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารหลากหลาย (โดยเฉพาะอิซากายะ) ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของนักธุรกิจและบุคลากรชาวญี่ปุ่นครับ

แต่ที่สำคัญที่สุดคือตัวโรงแรมนั้นตั้งอยู่ในมุมที่เห็นสวนฮิบิยะ (Hibiya Park) หรือแม้กระทั่งพระราชวังอิมพีเรียลได้ เพราะฉะนั้นจากห้องพักบางห้องนั้น คุณจะชมวิวสวยๆ ได้อย่างเต็มอิ่มเลยครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-1-13 Shinbashi, Minato City, Tokyo 105-0004, Japan
• Check-in/out: 15.00/11.00

ห้องพัก

คอนเซปต์ของโรงแรมคือ “Flower Blooming” หรือดอกไม้ที่เบ่งบานและนำพาความสุขมาให้กับผู้เข้าพักทุกคน ห้องพักทุกห้องจะเป็นสไตล์ร่วมสมัย แต่จะประดับประดาด้วยกระดาษวาชิและผืนพรมที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลา 4 ฤดูครับ

จุดเด่นที่หลายคนประทับใจในตัวห้องอีกอย่างหนึ่งคือหน้าต่างบานใหญ่แบบ floor-to-ceiling ที่ให้ความสว่าง ความปลอดโปร่งโล่งสบาย และชมวิวได้สวยมากเนื่องจากทุกห้องพักจะอยู่ที่ชั้น 19 ขึ้นไป ไม่เพียงเท่านั้นแต่ละห้องยังมีเพดานสูงอีกด้วยครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Superior Double/King/Twin – 22/25/26 ตร.ม. ห้อง Double นั้นจะเห็นวิวของสวนฮิบิยะ แต่ห้อง King และ Twin จะเห็นวิว Skyline ของย่านชินบาชิครับ
• Deluxe Corner King/Twin – 31 ตร.ม. ห้อง King จะอยู่ด้านชินบาชิ ส่วนห้อง Twin จะเห็นสวนฮิบิยะ
• Hibiya Suite King/Twin – 61 ตร.ม. ตั้งอยู่หัวมุม ทำให้ชมวิวสองด้านได้แบบพาโนรามา โดยห้อง King จะอยู่ฝั่งสวนฮิบิยะ ส่วนห้อง Twin จะเป็นฝั่งชินบาชิ

ขนาดห้องพักถือว่าใหญ่กว้างขวางเช่นเดียวกับโรงแรม 4 ดาวคุณภาพดีในโตเกียวอื่นๆ เพราะฉะนั้นเรื่องอึดอัดนั้นยากที่จะเป็นปัญหา ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องถือว่าทันสมัยเพราะมีทั้ง Smart TV (พร้อม Streaming) เครื่องฟอกอากาศและปรับความชื้น ผ้าม่านไฟฟ้า Converter/Adaptor แถมยังมี LAN port ให้อีกด้วย

ด้าน amenities พื้นฐานอื่นๆ ก็มีครบ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟและชา อุปกรณ์อาบน้ำ รองเท้าแตะ หรือแม้กระทั่ง cosmetic set สำหรับคุณผู้หญิงครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหาร 1 แห่ง
• Lounge ชั้น 19 สำหรับนั่งเล่น ทำงาน และชมวิว มีเครื่องทำกาแฟให้ใช้บริการ
• ฟิตเนสเซนเตอร์
• เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ
• ที่จอดรถของโรงแรม

สรุป

3. Daiwa Roynet Hotel Shimbashi

Daiwa Roynet Hotel Shimbashi เป็นโรงแรมจากเครือ Daiwa Roynet อันเป็นเครือโรงแรมธุรกิจที่มีชื่อเสียงและมีมาตรฐาน เป็นที่ประทับใจของนักเดินทางจำนวนมาก

สำหรับที่ตั้งของโรงแรมนั้นอยู่ห่างจากสถานีรถไฟไปแค่ 150 เมตรเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นคุณจะเข้าถึงร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อนับร้อยแห่งทั้งด้านในและนอกสถานีได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินเลยครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-17-2 Shinbashi, Minato City, Tokyo 105-0004, Japan
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่ตบแต่งในสไตล์โมเดิร์น โดยมีจุดเด่นคือเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและครบครัน ไม่ว่าจะเป็นจุดชาร์จแบบ USB ข้างเตียงนอน โต๊ะที่กว้างเป็นพิเศษสำหรับวางเอกสาร ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องชาร์จอุปกรณ์ไม่ทัน หรือว่าโต๊ะเล็กเกินสำหรับวาง laptop นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อาบน้ำและสกินแคร์ รองเท้าแตะ และชุดนอนด้วยครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Standard Double – 13 ตร.ม. มีห้อง Ladies’ Room ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคุณผู้หญิงเพิ่มเข้ามา
• Twin – 23 ตร.ม.
• Universal Twin – 24 ตร.ม.

โดยมากแล้วเครือ Daiwa Roynet จะให้ห้องพักระดับเริ่มต้นที่ใหญ่กว่าที่อื่น แต่สำหรับที่นี่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ ห้อง Standard Double ของที่นี่ใกล้เคียงกับห้องในโรงแรมธุรกิจส่วนใหญ่เลย จะมีเพียงห้อง Twin เท่านั้นที่ให้พื้นที่ใช้สอยมากกว่ามาตรฐานทั่วไปพอสมควร ดังนั้นถ้าคุณมีสัมภาระมาก ผมแนะนำให้จองห้อง Twin ไปเลยดีกว่าครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ร้านอาหารอิตาเลียน (ใช้เป็นที่เสิร์ฟอาหารเช้า)
• เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ
• ที่จอดรถของโรงแรม (ไม่ฟรี 2,000 เยน)

สรุป

4. Hotel 1899 Tokyo

Hotel 1899 Tokyo (ホテル1899東京) เป็นโรงแรมขนาดเล็กในชินบาชิที่มีคอนเซปต์ “โรงน้ำชาในเมืองใหญ่” โดยทางโรงแรมหมายมั่นจะให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และใช้เวลาดีๆ กับการจิบชาไปพร้อมๆ กับทานขนมหวานแสนอร่อยครับ

ส่วนที่ตั้งของโรงแรมอยู่ห่างจากสถานีประมาณ 700 เมตร โดยจะอยู่โซนที่เป็นออฟฟิศเลยครับ ใกล้ๆ จะมีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่พอสมควร แต่ถ้าอยากได้ตัวเลือกมากหน่อย ผมแนะนำให้เดินไปแถวสถานีจะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมากเลยครับ

• ที่ตั้ง: 6 Chome-4 Shinbashi, Minato City, Tokyo 105-0004, Japan
• Check-in/out: 15.00/12.00

ห้องพัก

ตัวห้องจะตบแต่งในสไตล์ร่วมสมัย แต่จะแฝงคอนเซปต์โรงน้ำชาไว้ที่สีของผืนผ้า ผนัง และพรมสีเขียวอ่อนและเข้มที่เหมือนกับชาเขียวคุณภาพดีของประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกับโคมไฟชาเซ็นที่รูปร่างเหมือนกับแปรงไม้ไผ่ที่ใช้ในการชงมัจฉะ และให้แสงไฟอันอบอุ่นนุ่มละมุนในช่วงกลางคืนครับ

ห้องพักที่มีให้จองมีทั้งหมด 3 แบบหลักได้แก่ Standard Double (18 ตร.ม.) Superior Double (20 ตร.ม.) และ Corner Deluxe Twin (34 ตร.ม.) ถ้าพูดถึงเรื่องขนาดแล้ว ทั้งสามห้องถือว่าใหญ่ทีเดียวสำหรับโรงแรม 3 ดาวครับ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จัดว่าครบถ้วน ตั้งแต่อุปกรณ์อาบน้ำกลิ่นชาเขียวอย่างดีและสกินแคร์ ทีวีขนาด 40 นิ้ว เครื่องฟอกอากาศ bath salt ชุดนอน รองเท้าแตะ และแน่นอนว่าขาดไม่ได้ก็คือชุดชาคุณภาพดีครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• ห้องอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ และคาเฟ่มัจฉะ
• Tea Counter ให้จิบชาฟรีแทบจะตลอดวัน
• ที่จอดรถของโรงแรม (เล็กมาก)

สรุป

5. Candeo Hotels Tokyo Shimbashi

Candeo Hotels Tokyo Shimbashi เป็นโรงแรม 4 ดาวที่ตั้งอยู่ในย่านร้านอาหารของชินบาชิพอดิบพอดี เพราะฉะนั้นสะดวกต่อการอะไรรับประทานเป็นที่หนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิซากายะที่เรียงรายอยู่หน้าโรงแรมเป็นสิบร้านเลยครับ ส่วนสถานีรถไฟชินบาชิอยู่ห่างไปแค่ 350 เมตรเท่านั้นเองครับ

• ที่ตั้ง: 3 Chome-6-8 Shinbashi, Minato City, Tokyo 105-0004, Japan
• Check-in/out: 15.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักของที่นี่เป็นสไตล์ร่วมสมัยที่ให้ความรู้สึกสบายๆ ด้วยโทนสีเขียวอ่อนและเหลืองที่ดูราวกับว่าคุณได้พักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทุกห้องจะมีโซฟาตั้งอยู่ริมหน้าต่าง ช่วยให้คุณนั่งชมวิวกรุงโตเกียวได้อย่างอิสระครับ

รูปแบบห้องพักของที่นี่ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยมีแค่ 3 แบบหลักเท่านั้นได้แก่ Double (15-17 ตร.ม.) King (17 ตร.ม.) และ Twin (18 ตร.ม.) ส่วนห้องพิเศษอย่าง Corner Twin (20 ตร.ม.) นั้นจะอยู่มุมตึกครับ

ขนาดห้องที่นี่ถือว่าเล็กไปพอสมควรเลยสำหรับโรงแรม 4 ดาว แต่โดยรวมแล้วก็ยังให้พื้นที่ใช้สอยที่ใช้ได้สำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่านครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานจัดว่ามีพร้อมเช่นกัน

Facilities และบริการอื่นๆ

• ห้องอาหารเช้า
• Skyspa – ออนเซ็นและซาวน่า

สรุป