4 โรงแรมที่พักใกล้ Tokyo Skytree น่าจอง | ครบทุกสิ่งที่ควรทราบ

โตเกียวสกายทรี (Tokyo SkyTree) เป็นหอคอยส่งสัญญาณและจุดชมวิวมุมสูงของกรุงโตเกียว ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองไปแล้วอีกแห่งหนึ่งด้วย ในปัจจุบัน Tokyo Skytree เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงถึง 634 เมตรครับ

เนื่องด้วย Tokyo Skytree ตั้งอยู่ในเขตสุมิดะ (Sumida Ward) เพราะฉะนั้นจะตั้งอยู่ในส่วนที่ค่อนข้างใหม่ของกรุงโตเกียว ความพลุกพล่านและค่าครองชีพจึงไม่สูงเท่ากับย่านชั้นนำอย่างกินซ่า ชิบูย่า หรือชินจูกุ ซึ่งส่งผลให้ราคาต่อคืนของโรงแรมที่พักนั้นต่ำลงไปด้วย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปชื่นชอบครับ

Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองโรงแรมใกล้กับ Tokyo Skytree ผ่านทางลิงค์ในบทความครับ

ข้อควรทราบ

ที่พักใกล้ Tokyo Skytree น่าจอง

1. Richmond Hotel Premier Tokyo Schole

Richmond Hotel Premier Tokyo Schole เป็นโรงแรมธุรกิจที่อยู่ตรงข้ามกับ Oshiage Station ทำให้สะดวกต่อการเดินขึ้นไปชมวิวที่ Tokyo Skytree (550 เมตร) หรือว่าไปช้อปปิ้งและหาอะไรรับประทานใน Tokyo Solamachi Mall ส่วนการเดินทางไปส่วนอื่นๆของเมืองก็สบายอยู่แล้วผ่านสองสถานีรถไฟ (อีกแห่งหนึ่งคือ Tokyo Skytree Station ครับ)

• ที่ตั้ง: 1 Chome-10-3 Oshiage, Sumida City, Tokyo 131-0045, Japan
• Check-in/out: 14.00/12.00

ห้องพัก

ที่นี่เป็นโรงแรมที่ทางเครือ Richmond Hotel ให้ทดลองคอนเซปต์ใหม่ๆ ซึ่งก็คือทางโรงแรมคาดหวังว่าผู้เข้าพักจะได้ใช้เวลาว่างอย่างอิสระ เพราะฉะนั้นแต่ละห้องพักจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่เน้นการผ่อนคลายมากขึ้น รวมไปถึงการตบแต่งส่วนต่างๆ จะใช้สิ่งที่ดูสบายๆ เป็นหลักครับ

• Double – 18.9 ตร.ม. นอกจากห้องทั่วไปแล้วจะมีห้องแบบ Box Theater ที่มีจอ projector ขนาด 85 นิ้วให้คุณชมภาพยนตร์ได้อย่างจุใจ หรือ Sauna Room ที่มีซาวน่าสไตล์ Finnish แบบส่วนตัวครับ
• Moderate Double – 23.5 ตร.ม. นอกจากห้องทั่วไปแล้ว จะมีห้องแบบ Trial Gaming ให้เลือกจองด้วย โดยห้องนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเล่มเกมข้ามคืน เช่นจอแบบ ultrawide และเก้าอี้แบบ gaming chair ฯลฯ
• Spa Room – 36.2 ตร.ม. มีอ่างน้ำร้อนน้่ำเย็นให้แช่ พร้อมกับซาวน่าส่วนตัว
• Superior Twin – 38 ตร.ม. มีห้องพิเศษชื่อ Standard Book Room ที่มีชั้นวางหนังสือหลากหลาย แต่หนังสือส่วนใหญ่น่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่น ทำให้ไม่เหมาะกับคนไทยเท่าไรนัก
• Premier Twin – 49.6 ตร.ม. มีห้องพิเศษแบบ Standard Book Room แต่จะขนาดใหญ่กว่า
• Deluxe Twin – 54.4 ตร.ม. มีห้องแบบ Book Room เช่นกัน
• Spa Twin Bed Room – 69-72 ตร.ม. มีอ่างน้ำแบบญี่ปุ่นในห้องให้แช่พร้อมด้วยซาวน่า
• Modern Japanese Room – 72 ตร.ม. ห้องตบแต่งแบบ Japanese Modern ที่ดูสวยงามแบบญี่ปุ่นแต่ยังคงความทันสมัยเอาไว้ ลักษณะเตียงจะเป็นแบบ low bed ครับ

สำหรับห้อง Premier Twin และ Deluxe Twin นั้นจะอยู่มุมตึก ซึ่งจะเหมาะกับการชมวิวเป็นพิเศษ ในวันฟ้าใส คุณจะเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วยครับ ด้านพื้นที่ใช้สอยถือว่ากว้างขวางดีสมกับเป็นที่พักระดับ 4 ดาวในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นครับ

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานนั้นไม่ต้องกังวลเลย เพราะว่ามีครบแน่นอน ตั้งแต่ LCD TV พร้อมบริการสตรีมมิ่ง อุปกรณ์อาบน้ำและสกินแคร์ เครื่องฟอกอากาศและปรับความชื้น เตารีด โต๊ะทำงาน ชุดนอน ชุดชากาแฟ ฯลฯ รับรองได้ว่าคุณจะพักผ่อนในห้องได้อย่างสบายๆ แน่นอนครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้า
• Cafe Lounge สำหรับนั่งเล่นทำงาน
• บริการขนม ของทานเล่น เครื่องดื่ม และไอศกรีมฟรี
• เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ
• ที่จอดรถของโรงแรม (1,500 เยนต่อคืน)

สรุป

2. Keisei Richmond Hotel Tokyo Oshiage

Keisei Richmond Hotel Tokyo Oshiage เป็นอีกหนึ่งโรงแรมของเครือ Richmond ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Tokyo Skytree โดยจะห่างไปประมาณ 650 เมตร ทำให้คุณเห็นตัวหอคอยจากโรงแรมได้สวยงามในระดับหนึ่ง ส่วนร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ใกล้กับโรงแรมมีหลากหลายมาก เนื่องจากโรงแรมอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้า Tokyo Solamachi Mall ครับ

สำหรับการเดินทางนั้นไม่ได้ยากอะไรเลย เพราะมีสถานีรถไฟสองแห่งอยู่ใกล้ๆ อย่าง Oshiage Station (20 เมตร) และ Tokyo Skytree Station (550 เมตร) ให้คุณท่องไปได้ทั่วกรุงโตเกียวครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-8-23 Oshiage, Sumida City, Tokyo 131-0045, Japan
• Check-in/out: 14.00/11.00

ห้องพัก

ห้องของที่นี่เป็นสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่ายตามแบบโรงแรมธุรกิจ โดยจะใช้เฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลแดงที่สอดแทรกความเป็นธรรมชาติเข้ามาให้บรรยากาศในห้องผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งนี้ห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้ครับ

• Standard – 17 ตร.ม.
• Precious – 18 ตร.ม.
• Double/Comfort Twin – 21 ตร.ม.
• Junior Delux – 25 ตร.ม.
• Delux Twin – 30 ตร.ม.

ในส่วนของเรื่องวิวนั้น ห้องส่วนใหญ่ของที่นี่จะไม่เห็น Tokyo Skytree ยกเว้นแค่ห้อง Junior Delux และ Delux Twin เท่านั้นที่คุณสามารถชม Tokyo Skytree ได้จากห้องพักครับ

ด้านพื้นที่ใช้สอยนั้นจัดว่าใหญ่ใช้ได้ทีเดียว ซึ่งก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นของเครือ Richmond อยู่แล้วที่ห้องจะใหญ่กว่าโรงแรมธุรกิจทั่วไป ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่างมีครบเครื่องตั้งแต่เตียงแบบ duvet style อุปกรณ์อาบน้ำจากแบรนด์ Mikimoto ไปจนถึงชุดชากาแฟและโต๊ะทำงาน ทว่าหวีและแปรงสีฟันนั้นจะต้องไปหยิบที่ amenity bar ที่ front desk นะครับ ในห้องจะไม่มีให้ (ตามนโยบายลดพลาสติกของญี่ปุ่น)

Facilities และบริการอื่นๆ

• บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ (ห้องอาหารมีวิว Tokyo Skytree)
• เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ

สรุป

3. ONE@Tokyo

ONE@Tokyo เป็นโรงแรม 3 ดาวที่สร้างขึ้นโดย design concept ที่น่าสนใจ โดยเป็นการนำวัสดุที่ใช้อุตสาหกรรมมาผสานกับไม้ชั้นดี ทำให้บรรยากาศในที่พักนั้นสวยงามแปลกตา ไอเดียเหล่านี้ได้เรียงร้อยโดย Kengo Kuma สถาปนิกญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงดังระดับโลกครับ

ในส่วนของทำเลนั้น คุณจะต้องเดินไปไกลหน่อยเพื่อไปยัง Tokyo Skytree และ Solamachi Mall (850 เมตร) ส่วนสถานีรถไฟ Oshiage Station อยู่ห่างไป 250 เมตรซึ่งใกล้ทีเดียว ส่วนร้านอาหารนั้น ใกล้กับโรงแรมมีให้เลือกอยู่ไม่น้อย เช่นเดียวกับคาเฟ่ครับ

• ที่ตั้ง: 1 Chome-19-3 Oshiage, Sumida City, Tokyo 131-0045, Japan
• Check-in/out: 15.00/11.00

ห้องพัก

ห้องพักแต่ละห้องเป็นแบบร่วมสมัยที่มีไฮไลท์อยู่ที่ความ minimalistic ที่ดีไซเนอร์ได้บรรจงใส่มาในดีไซน์ห้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าห้องของที่นี่จะจืดชืดไร้รสชาติ เพราะแต่ละห้องนั้นตบแต่งด้วยแผ่นไม้ธรรมชาติอย่างวิจิตร ซึ่งให้ความผ่อนคลาย และความอบอุ่นกับห้องพักที่ใช้โทนสีขาวเทาครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่ห้องของที่นี่โดดเด่นคือหน้าต่างบานใหญ่ที่ให้คุณชมวิวสวยๆ ของกรุงโตเกียว พร้อมกับรับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าที่ทำให้คุณเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใสครับ

รูปแบบห้องที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้

• Semi Double – 14 ตร.ม.
• Deluxe King/Twin – 28 ตร.ม.
• Library Suite – 56 ตร.ม. ห้องสวีทที่มีตู้ไม้ติดผนังและจัดวางหนังสืออย่างสวยงาม
• Atelier Suite – 56 ตร.ม. ห้องสวีทที่ตบแต่งให้ดูเหมือนกับสตูดิโอของศิลปิน

พื้นที่ใช้สอยของห้องมาตรฐาน (Deluxe) และห้องสวีทถือว่าใหญ่กว่าในโรงแรม 3 ดาวทั่วไป แต่ห้อง Semi-Double นั้นถือว่าสูสีกับโรงแรมธุรกิจ 3 ดาวครับ เพราะฉะนั้นถ้าพัก 2 คน คุณอาจจะรู้สึกอึดอัดได้ครับ

ถึงกระนั้นที่นี่ยังคงให้สิ่งอำนวยความครบครัน อาทิเช่นทีวีแบบ flat-screen อุปกรณ์อาบน้ำ รองเท้าแตะ ชุดชาญี่ปุ่น จุดชาร์จไฟแบบ USB ฯลฯ เพราะฉะนั้นคุณจะได้รับความสะดวกทุกสิ่งทัดเทียมกับการพักในโรงแรม 3 ดาวชั้นดีครับ ส่วนเรื่องวิวนั้น ห้อง Deluxe จะดีที่สุดเนื่องจากเห็นวิว Tokyo Skytree ครับ

Facilities และบริการอื่นๆ

• Lobby Cafe สำหรับให้บริการอาหารเช้า
• Rooftop ให้ผู้เข้าพักนั่งชมวิวมุมสูงของกรุงโตเกียว

สรุป

4. ตัวเลือกอื่นๆ

• SOLA Hotel – ที่พักแบบ apartment hotel ที่มี Rooftop สำหรับชมหอคอย Tokyo Skytree ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ห้องค่อนข้างเล็กถ้าเทียบกับราคาที่สูงมากครับ
• The Gate Hotel Ryogoku by HULIC – โรงแรมที่ไม่ได้อยู่ใกล้กับ Tokyo Skytree (ห่างไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร) แต่วิวหอคอยจากตัวโรงแรมสวยทีเดียวครับ
• Smi:re Stay Oshiage – ที่พักแนวคอนโดมิเนียมที่ให้บริการห้องพักอันกว้างขวางที่มีครัว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตัวโรงแรมอยู่ห่างจาก Tokyo Skytree 700 เมตร เช่นเดียวกับสถานีรถไฟต่างๆ เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้ห้องพักขนาดใหญ่ขึ้นมา แต่ไม่อยากจ่ายแพงนัก ที่นี่ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ