โทวาดะ-ฮาจิมันไต (Towada-Hachimantai) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอาโอโมริและอาคิตะ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) ที่สวยงามและใสสะอาดเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น นอกจากนี้อุทยานแห่งนี้ยังมีจุดสวยอีกหลายแห่งให้คุณได้สำรวจและชื่นชมความงามของทัศนียภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลา 2-3 วันกับที่นี่ได้อย่างสบายๆ ครับ
บทความนี้จึงจะมาแนะนำที่พักและโรงแรมคุณภาพดีในพื้นที่อุทยาน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกที่พักที่เหมาะสมได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ
Affiliate Disclosure: เพื่อความโปร่งใส ผมขอแจ้งให้ทราบว่าในบทความมี Affiliate Links อยู่ นั่นแปลว่าผมอาจจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากผู้ให้บริการ ถ้าคุณจองโรงแรมในอุทยานโทวาดะ-ฮาจิมันไตผ่านทางลิงค์ในบทความครับ
ข้อควรทราบ
เกณฑ์การเลือกที่พักในบทความ
สำหรับที่พักแต่ละแห่งในบทความนี้ ผมจะระบุถึงจุดเด่นของแต่ละที่ด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งผมได้สรุปมาจากรีวิวของผู้เข้าพักจริงจากแพลตฟอร์มจองโรงแรมต่างๆ ผมเชื่อว่าข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกที่พักที่เหมาะสมได้มากขึ้นครับ
ที่ตั้งของโรงแรม
เนื่องด้วยที่ตั้งของที่พักในบทความนี้จะกระจัดกระจายไปตามพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮาจิมันไต ซึ่งใหญ่ประมาณ 40% ของเขาใหญ่ในประเทศไทย เพราะฉะนั้นแต่ละแห่งอาจจะอยู่ห่างไกลกันหลายสิบกิโลเมตร ยกตัวอย่างเช่นบางแห่งอาจจะอยู่ริมทะเลสาบโทวาดะ ส่วนบางแห่งอาจจะอยู่ที่เมืองออนเซ็น ส่วนบางแห่งอาจจะอยู่ลึกเข้าไปในกลางผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นโปรดศึกษาตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมด้วยตัวเองอีกครั้งก่อนจองครับ
นอกจากนี้การเข้าถึงโรงแรมบางแห่งนั้นอาจจะไม่ง่ายนัก หรือแม้กระทั่งเป็นไปไม่ได้เลยถ้าคุณไม่ได้เช่ารถขับ ผมจึงแนะนำอย่างมากให้เช่ารถถ้าคุณต้องการจะเที่ยวอย่างสะดวกสบายในพื้นที่อุทยานครับ อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ คือการตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้าในช่วงฤดูหนาว เพราะบางเส้นทางในอุทยานจะไม่เปิดให้ผ่านในช่วงเวลาดังกล่าวครับ
บริการรับส่ง
โรงแรมหลายแห่งในบทความนี้มีบริการรับส่งผู้เข้าพักจากท่ารถบัสหลายแห่งในพื้นที่อุทยาน ซึ่งการจะใช้บริการนั้น คุณจะต้องจองล่วงหน้า (บางแห่งให้จองมากกว่าสามวันขึ้นไป) ถ้าไม่จอง ทางโรงแรมอาจจะปฏิเสธการให้บริการได้ครับ
ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อ
ในพื้นที่อุทยานนั้นมีร้านอาหารน้อยมาก โรงแรมบางแห่งนั้นถึงกับไม่มีร้านใดๆ ตั้งอยู่เลย (ยกเว้นรอบๆ สถานีรถบัส Towadako Station) ส่วนร้านสะดวกซื้อไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่มีอยู่เลยครับ
ดังนั้นเพื่อความสะดวกสบายในการหาอะไรรับประทาน ผมแนะนำให้จอง package แบบรวมอาหารเช้าเย็นกับทางโรงแรมไปเลยครับ อีกสาเหตุหนึ่งคือถนนบางเส้นนั้นปิดในช่วงกลางคืนด้วย มีผู้เข้าพักหลายคนที่เช่ารถมานั้นขับกลับไปทานที่เมืองอาโอโมริ แต่ดันขับกลับมาไม่ทัน ทำให้ผลสุดท้ายต้องนอนในรถครับ
ที่พักน่าจองในโทวาดะ-ฮาจิมันไต
1. Tsuta Onsen Ryokan
Tsuta Onsen Ryokan เป็นเรียวกังซึ่งเป็นที่พักแห่งเดียวในหมู่บ้านออนเซ็นที่มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปี โดยเรียวกังแห่งนี้เปิดกิจการมาตั้งแต่สมัยเฮอันที่มีเฮอันเคียว (หรือเกียวโตในปัจจุบัน) เป็นเมืองหลวงของประเทศ อย่างไรก็ดีอาคารอันสวยงามของเรียวกังแห่งนี้สร้างในปี ค.ศ.1918 ครับ
ทั้งนี้เรียวกังอยู่ใกล้กับพื้นที่ชุ่มน้ำสึตะนุมะ (Tsutanuma Marsh) ที่สวยงดงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ไปจนถึงทะเลสาบขนาดเล็กอีกหลายแห่ง อย่างเช่นสุกะนุมะ นากานุมะ และสึกินุมะครับ
สำหรับเรื่องการเดินทางนั้น วิธีการที่ง่ายที่สุดคือการขับรถเช่าไปจากฮิโรซากิ อาโอโมริ หรือว่าทะเลสาบโทวาดะ แต่ทางโรงแรมมีบริการรับส่งฟรีจากสถานีรถไฟ Shichinohe-Towada Station ครับ
- ที่ตั้ง: Tsutanoyu-1 Okuse, Towada, Aomori 034-0301, Japan
- Check-in/out: 15.00/10.00
ห้องพัก
ห้องพักของโรงแรมได้รับการตบแต่งอย่างสวยงามในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม แต่ก็ผสานกับสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโมเดิร์นแบบที่ญี่ปุ่นรับเข้ามาในสมัยเมจิ ซึ่งเป็นช่วงที่เรียวกังแห่งนี้ได้รับการสร้างใหม่ ทำให้มีกลิ่นอายแบบ retro ที่ราวกับว่าได้ย้อนยุคไปร่วมร้อยกว่าปีเลยครับ
รูปแบบห้องพักที่มีให้จองมีดังต่อไปนี้
- Japanese Style Modern Twin/Japanese Room – 16.5 ตร.ม. ห้องแบบแรกจะมีเตียง Twin ส่วนห้องญี่ปุ่นจะนอนแบบฟุตง ทั้งสองห้องจะไม่มีห้องอาบน้ำ คุณจะต้องไปใช้ห้องน้ำรวมครับ
- Special Room – 66 ตร.ม. ในห้องมีสระอาบน้ำแบบ open-air แต่น้ำจะไม่ใช่น้ำแร่แบบออนเซ็นครับ
- Executive Chalet – 78-99 ตร.ม. ที่พักแบบ Chalet สไตล์ญี่ปุ่นสุดหรู ในห้องมีสวนส่วนตัวที่ให้คุณชมบรรยากาศอันร่มรื่นครับ
สำหรับห้องระดับเริ่มต้นของที่นี่จะไม่ได้ใหญ่มากนัก โดยจะใกล้เคียงกับห้องในเรียวกังทั่วไป แต่ห้อง Special Room และ Executive Chalet นั้นถือว่าใหญ่ทีเดียว ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ทางโรงแรมจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อาบน้ำและสกินแคร์ ชุดยูกาตะ ทีวี เครื่องเป่าผม โต๊ะญี่ปุ่น โซฟา ฯลฯ ซึ่งจะให้ความสะดวกสบายอย่างที่สุดเลยครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- บริการอาหารพื้นเมืองของอาโอโมริ
- ออนเซ็นแบบในร่ม (บรรยากาศแบบย้อนยุค + เลือกจองแบบ private ได้)
- บริการรับส่งฟรีจากสถานีรถไฟ
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Tsuta Onsen Ryokan
เรียวกังแบบดั้งเดิมที่ยังมีลมหายใจ ห้องพักของที่นี่สวยงามมีเสน่ห์เหมาะกับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ แบบญี่ปุ่น ส่วนออนเซ็น อาหาร และการบริการนั้นอยู่ในระดับยอดเยี่ยม บริการรับส่งก็มีให้บริการสำหรับใครที่ไม่อยากขับรถไปเอง โดยรวมแล้วถือว่าน่าสนใจมากเลยครับ
2. Hakkoda Hotel
Hakkoda Hotel เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้กับจิโกคุนุมะ หนึ่งในทะเลสาบอันเป็นจุดชมวิวชั้นนำของอุทยาน ทำเลที่ตั้งของโรงแรมนั้นเรียกได้ว่าถูกโอบล้อมโดยขุนเขาอันสวยงามยิ่งใหญ่ซึ่งสวยงามเป็นพิเศษ ส่วนตัวโรงแรมนั้นมีความอบอุ่นเพราะสร้างจากไม้ทั้งหลังที่นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จนดูเหมือนกระท่อมไม้ในป่าใหญ่ครับ
สำหรับบริการรับส่งฟรีนั้น คุณสามารถนั่งรถบัสไปลงที่สุคายุออนเซ็น (Sukayu Onsen) หลังจากนั้นก็เรียกให้ทางโรงแรมไปรับได้ แต่แน่นอนว่าจะไม่สะดวกเท่าการเช่ารถแล้วขับไปเองครับ
- ที่ตั้ง: Minamiarakawayama-1-1 Arakawa, Aomori, 030-0111, Japan
- Check-in/out: 12.00/11.00
ห้องพัก
สำหรับห้องพักของที่นี่จะตบแต่งในสไตล์โมเดิร์นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งดูเผินๆ แล้วคล้ายกับห้องพักตามอุทยานในสหรัฐอเมริกา แต่แน่นอนว่าบางห้องยังไม่ทิ้งความเป็นญี่ปุ่น เพราะได้ผสานการออกแบบพื้นเมืองลงไปอย่างลงตัวครับ
ตัวเลือกห้องที่มีให้จองประกอบด้วย
- Twin – 29.6-30.7 ตร.ม.
- Maisonette – 44 ตร.ม.
- Special Room – 55-61 ตร.ม. มีให้เลือกทั้งห้องแบบตะวันตกและญี่ปุ่น
จุดเด่นของที่นี่คือทุกห้องพักจะมีวิวสวยๆ ของแนวภูเขาฮักโกดะ และผืนป่าบีช (beech) ที่มีอายุหลายสหัสวรรษ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์รักษาอย่างดีโดยชาวญี่ปุ่นมาทุกยุคทุกสมัย อากาศบริเวณโดยรอบจึงบริสุทธิ์มาก เหมาะต่อการสูดให้เต็มปอดเพื่อบรรเทาพิษของฝุ่น pm 2.5 จากตัวเมืองต่างๆ ครับ ขณะที่ห้องพักแต่ละห้องก็กว้างขวางสะดวกสบายเกินพอสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่านครับ
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นมีครบถ้วน อาทิเช่นโต๊ะทำงาน โซฟา อุปกรณ์อาบน้ำ ฯลฯ ช่วยให้คุณได้รับความสุขในการพักผ่อนอย่างดีที่สุดครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- บริการอาหารของโรงแรม (มื้อเย็นเลือกได้ระหว่างอาหารญี่ปุ่นหรือฝรั่งเศส)
- ออนเซ็นแบบในร่มและ open-air
- ห้องประชุมและจัดเลี้ยง
- ร้านขายของฝาก
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Hakkoda Hotel
โรงแรมที่อยู่ในทำเลที่เปรียบว่าอยู่ในกระท่อมน้อยในป่าใหญ่ บรรยากาศและความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบนั้นครองใจของผู้เข้าพักจำนวนมาก ส่วนห้องพักแต่ละห้องก็ใหญ่และกว้างขวาง ส่วนอาหารเช้าเย็นนั้นรสชาติดีและมีให้เลือกทั้งแบบตะวันตกและญี่ปุ่น ขณะที่การบริการนั้นดูแลเอาใจใส่อย่างดีเยี่ยม ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งที่พักชั้นยอดในเขตอุทยานโทวาดะ-ฮาจิมันไตครับ
3. Towada Prince Hotel
Towada Prince Hotel เป็นโรงแรมระดับคุณภาพไม่กี่แห่งที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโทวาดะที่สวยสะพรึงทุกช่วงเวลา เพราะฉะนั้นคุณจะได้ชมทะเลสาบอย่างเต็มอิ่มแบบที่ไม่ต้องง้อจุดชมวิวใดๆ ส่วนการเดินทางนั้น ทางโรงแรมมีบริการรับส่งฟรีไปยังท่ารถ Yasumiya ใน Towadako เช่นเดียวกับ Hachinohe Station ในเมืองฮาจิโนเฮะครับ
- ที่ตั้ง: Nishikohan Towadako Kosaka-machi, Kazuno-gun Akita, 018-5511 Japan
- Check-in/out: 15.00/11.00
ห้องพัก
โรงแรมแห่งนี้เป็นสไตล์รีสอร์ท เพราะฉะนั้นห้องพักทุกห้องจะเป็นแบบ Twin แบบตะวันตกทุกห้อง โดยคุณจะเลือกได้แค่ห้องวิวทะเลสาบ (25 ตร.ม.) วิวภูเขา (21 ตร.ม.) หรือวิวทะเลสาบที่อยู่มุมตึก (29 ตร.ม.) สำหรับขนาดห้องนั้นถือว่าใหญ่ใช้ได้ แต่จะไม่ได้ใหญ่เกินพอเหมือนกับตัวเลือกระดับ luxury ทั้งสองแห่งที่ผมแนะนำไปด้านบนครับ
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ทุกห้องจะมีเครื่องบดกาแฟที่ให้คุณชงกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นได้ทุกเช้า เช่นเดียวกับชุดยูกาตะ อุปกรณ์อาบน้ำ รองเท้าแตะ ทีวีพร้อมระบบดาวเทียม ชุดชา เครื่องเป่าผม และอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้คุณพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม และให้ความสบายอย่างที่สุดระหว่างที่นอนชมวิวทะเลสาบครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- ร้านอาหารและ Lounge
- ออนเซ็นแบบ open-air
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Towada Prince Hotel
โรงแรมริมทะเลสาบที่เรียบง่ายแต่วิวสวย ห้องพักของโรงแรมเป็นสไตล์ตะวันตกที่เราคุ้นเคย ตัวห้องกว้างขวางใช้ได้ และมี facilities ที่ดีมาก ส่วนออนเซ็นก็คุณภาพดี เช่นเดียวกับการบริการโดยรวมของพนักงานครับ
จุดด้อยของที่นี่น่าจะมีแค่อย่างเดียวนั่นคืออาหารเย็นราคาสูง แถมผู้เข้าพักเองก็มีตัวเลือกไม่มากนักอีกด้วยครับ
4. Hoshino Resorts Oirase Keiryu Hotel
Hoshino Resorts Oirase Keiryu Hotel เป็นรีสอร์ทของเครือ Hoshino Resorts ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Oirase Gorge โตรกอันเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของอุทยานแห่งนี้ ซึ่งมีทัศนียภาพอันสวยงามในทุกฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ
สำหรับการเดินทางนั้น นอกจากขับรถไปเองแล้ว ทางโรงแรมมีบริการรับส่งจากสถานีรถไฟอาโอโมริ ฮาจิโนเฮะ หรือแม้กระทั่งชินอาโอโมริ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากชมทัศนียภาพแต่ไม่อยากขับรถเองครับ
- ที่ตั้ง: Tochikubo-231 Okuse, Towada, Aomori 034-0301, Japan
- Check-in/out: 15.00/12.00
ห้องพัก
ดีไซน์ห้องพักของที่นี่จะเป็นแบบโมเดิร์นหรือแบบญี่ปุ่น โดยทุกห้องจะใส่ความเป็นผืนป่าลงไปในแต่ละห้องอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทำให้บรรยากาศในห้องนั้นจัดว่าโดดเด่นทีเดียวครับ
ห้องที่มีให้เลือกประกอบด้วยดังต่อไปนี้
- Japanese-style Room with River View – 44 ตร.ม. ตบแต่งสไตล์ญี่ปุ่น มีเตียง Twin แบบ Low Bed (วางฟูกกับพื้นไม่มีขาเตียง)
- Twin Room with River View Indoor Bath – 44 ตร.ม. ตบแต่งแบบโมเดิร์น มีเตียงคู่ ในห้องมีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่
- Keikyu Room – 120 ตร.ม. ห้องสวีทขนาดใหญ่ ตบแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่ทำจากมอสของจริง มีออนเซ็นส่วนตัวให้แช่
ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยนั้นสบายใจได้เลย เพราะทุกห้องพักกว้างขวางอย่างมาก โดยห้องทุกระดับใหญ่กว่าโรงแรมส่วนใหญ่ในอุทยานโทวาดะ-ฮาจิมันไตครับ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นครบเครื่องมาก ตั้งแต่โซฟา สกินแคร์และอุปกรณ์อาบน้ำ รองเท้าแตะ ฯลฯ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทุกห้องพักนั้นจะเห็นวิวสวยๆ ของแม่น้ำโออิราเสะ (Oirase River) และทัศนียภาพโดยรอบ การนั่งดูสายน้ำไหลเอื่อยนั้นช่วยให้คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้นไม่มากก็น้อยครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- ร้านอาหาร 4 แห่ง
- ออนเซ็นแบบกลางแจ้ง
- บริการสปาแบบครบวงจร
- บริการเครื่องดื่มและของว่างฟรีที่ล็อบบี้
- ทัวร์และกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น Ice Fall Hotsprings
- ที่จอดรถฟรี
สรุป
จุดเด่น
Hoshino Resorts Oirase Keiryu Hotel
โรงแรมหรูที่เรียกได้ว่าเป็นที่พักชั้นนำของอุทยานโทวาดะ-ฮาจิมันไตอย่างปราศจากข้อสงสัย ห้องของที่นี่ใหญ่มาก และทุกห้องมีวิวแม่น้ำที่ช่วยให้คุณสดชื่นผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นชั้นยอด รวมไปถึงกิจกรรมหลากหลายที่ให้คุณได้รับความสนุกทุกฤดูกาล นอกจากนี้การบริการของพนักงานยังอบอุ่น และอาหารยังอยู่ในระดับดี ทำให้แทบทุกสิ่งของโรงแรมนั้นอยู่ในระดับสูงทั้งหมดเลยครับ
จุดด้อยของที่นี่มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือราคาต่อคืนที่สูงโดดกว่าที่อื่นครับ
5. Hotel Jogakura
Hotel Jogakura เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้กับสะพานโจกากุระ (ประมาณ 2 กิโลเมตร) จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งนี้ ส่วนตัวโรงแรมนั้นเป็นอาคารสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ถูกล้อมรอบด้วยผืนป่าบรรพกาลแห่งฮักโกดะ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้ที่นี่เป็นที่พักชั้นยอดสำหรับนักเดินทางที่อยากปลีกวิเวก รวมไปถึงชมธรรมชาติที่สวยงาม และท้องฟ้าที่พร่างพรายในเวลากลางคืนครับ
ในส่วนของการเดินทางนั้น ทางโรงแรมมีบริการรับส่งฟรีจาก JR Aomori Station ซึ่งช่วยให้ไปโรงแรมได้สะดวกขึ้นครับ
- ที่ตั้ง: Hakkoda-Yamanaka, Arakawa, Aomori-shi, Aomori 030-0111
- Check-in/out: 14.00/10.00
ห้องพัก
รูปแบบห้องพักส่วนมากจะเป็นสไตล์ mountain cottage ของยุโรปที่ใช้ไม้ในโครงสร้างและการตบแต่ง และให้กลิ่นอายแบบตะวันตก แต่แน่นอนว่าห้องแบบญี่ปุ่นก็มีเช่นกัน ซึ่งการออกแบบจะเป็นแบบเรียบง่ายสวยงามครับ
ทั้งนี้ตัวเลือกห้องพักที่มีให้จองประกอบด้วย
- Standard Twin – 21 ตร.ม.
- Japanese Style Room – 30 ตร.ม.
- Maisonette Twin – 41 ตร.ม. ห้องแบบเตียงคู่ที่มีเพดานสูง
- Comfort Twin – 42 ตร.ม. ในห้องมีออนเซ็นส่วนตัวอย่างดีที่ทำจากไม้พื้นเมืองของอาโอโมริ
- Junior Suite – 44 ตร.ม. ในห้องมีห้องครัวและเตาผิง เช่นเดียวกับออนเซ็นแบบเดียวกับห้อง Comfort Twin
- Royal Suite – 98 ตร.ม. ห้องสุดหรูที่มีทั้งห้องครัว เตาผิง และออนเซ็นส่วนตัวแบบจากุชชี่ โครงสร้างของห้องจะมีสองชั้น ตัวห้องจึงมีเพดานสูง ช่วยให้คุณรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบายครับ
ทั้งนี้เตียงในห้อง Comfort Twin ขึ้นไปจะใช้เป็นของแบรนด์ Simmons แต่ห้องระดับล่างลงมาจะใช้เป็นของแบรนด์ Nihon Bed ครับ
สำหรับพื้นที่ใช้สอยในแต่ละห้องนั้นถือว่าใหญ่ทีเดียว อาจจะมีห้อง Standard Twin ที่ดูเล็กไปบ้าง แต่แน่นอนว่าผู้เข้าพัก 2 ท่านสามารถนอนได้อย่างสบาย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นครบครัน อย่างเช่นเครื่องทำกาแฟ เครื่องฟอกอากาศและปรับความชื้น อุปกรณ์อาบน้ำ โซฟา ฯลฯ ช่วยให้คุณพักผ่อนข้ามคืนได้อย่างราบรื่นครับ
Facilities และบริการอื่นๆ
- ร้านอาหารและคาเฟ่
- ออนเซ็นแบบ open-air พร้อมวิว + ซาวน่าและจากุชชี่
- บริการเช่าอุปกรณ์สกี
- ทัวร์และกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น Trekking หรือดูดาว
- ห้องจัดเลี้ยง
- เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ (Self-service)
สรุป
จุดเด่น
Hotel Jogakura
โรงแรมสไตล์สแกนดิเนเวียนอันอบอุ่น ซึ่งอยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมสำหรับการชมธรรมชาติ ตัวห้องนั้นใหญ่พอสมควร และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีมาก เช่นเดียวกับออนเซ็นที่ผู้เข้าพักจำนวนมากให้คำชมเป็นการตอบแทน ส่วนอาหารและการบริการก็อยู่ในระดับดีครับ
จุดด้อยที่หลายคนติคือในโรงแรมไม่มีลิฟต์ เพราะฉะนั้นถ้าคุณจองห้องพักชั้นสอง คุณจะต้องขึ้นบันไดไปพร้อมกับสัมภาระ ซึ่งพนักงานอาจจะช่วยเหลือ แต่ก็เพิ่มความยุ่งยากขึ้นมาไม่น้อยครับ