ถ้าจะกล่าวถึงเมืองปราสาทสวยในญี่ปุ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์นั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่กล่าวถึงเมืองอุเอดะ (Ueda) เมืองขนาดกลางในจังหวัดนากาโน่ (หรือนากาโนะ) โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าเมืองนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง unseen ของญี่ปุ่นที่ควรค่าต่อการเดินทางไปเยือนสักครั้งครับ
ในบทความนี้จะครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมที่น่าสนใจภายในเมืองนี้ แต่ก่อนอื่นเราไปดูความเป็นมาของเมืองกันก่อนครับ
ความเป็นมาของเมืองอุเอดะ (Ueda)
เมืองอุเอดะเคยเป็นเมืองใหญ่มาก่อนในช่วงยุคนาราของญี่ปุ่น โดยสถานะของเมืองนั้นเป็นเมืองหลวงของจังหวัดชินาโนะ (Shinano Province) ซึ่งเป็นจังหวัดโบราณของญี่ปุ่นครับ
อย่างไรก็ดีเมืองหลวงของจังหวัดได้ถูกย้ายไปที่เมืองมัตสึโมโตะในช่วงยุคเฮอัน แต่เมืองอุเอดะก็ยังคงมั่งคั่งต่อไป โดยอยู่ในการปกครองของตระกูลซานาดะที่ครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ของจังหวัดนากาโน่ในปัจจุบัน
ช่วงเซ็นโกกุเป็นช่วงที่เมืองและปราสาทอุเอดะมีบทบาทอย่างมากต่อประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สาเหตุก็คือตระกูลซานาดะได้สกัดกั้นกองทัพใหญ่ของตระกูลโตกุกาวะไว้ได้ที่ปราสาทแห่งนี้ (Siege of Ueda) จนทำให้กองทัพโตกุกาวะครึ่งหนึ่งไปช่วยมหายุทธการที่เซกิกะฮาระไม่ทัน และเกือบทำให้โตกุกาวะ อิเอยาสึแพ้ศึก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก เพราะอิเอยาสึเอาชัยเหนือศัตรูได้อยู่ดี
เมื่อร่วมสมัยเอโดะ เมืองอุเอดะได้กลับมาเป็นเมืองหลวงของพื้นที่อุเอดะ (Ueda Domain) ที่ตระกูลซาเนดะปกครองอยู่ แต่ตระกูลซาเนดะกลับถูกย้ายไปที่พื้นที่มัตสึชิโระ (เมืองนากาโน่ในปัจจุบัน) เมืองอุเอดะจึงถูกส่งต่อให้ตระกูลเซ็นโกคุ (Sengoku Clan) และตระกูลมัตสึไดระ (Matsudaira Clan) ตามลำดับ ซึ่งตระกูลหลังนี้ได้ปกครองเมืองจนถึงสมัยเมจิ ที่มีการยกเลิกระบอบไดเมียวแบบถาวรครับ
ตัวเมืองอุเอดะในปัจจุบันได้ถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ.1889 โดยเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดนากาโน่ที่ตั้งขึ้นใหม่ ในปัจจุบันอุเอดะเป็นเมืองที่เงียบสงบและมีประชากรประมาณ 155,000 คนครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเที่ยวเมืองอุเอดะทำอย่างไร?
คุณสามารถเดินทางไปยังเมืองอุเอดะได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายจากโตเกียว ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ครับ
- Hokuriku Shinkansen – วิธีนี้ถือว่าง่ายที่สุด เพราะรถไฟชินคันเซนจะนำคุณมาถึงที่นี่ภายในเวลา 90 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าคุณไปเที่ยวเมืองที่รถไฟเส้นนี้ผ่านเช่น (คานาซาว่า, คารุอิซาวะ หรือว่าโทยามะ) คุณสามารถนั่งมาถึงเมืองอุเอดะภายในเวลาไม่นานครับ
- เช่ารถขับ – อุเอดะห่างจากโตเกียวประมาณ 200 กิโลเมตร ดังนั้นถ้าคุณวางแผนขับรถเที่ยวในจังหวัดนากาโน่อยู่แล้ว คุณสามารถแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ก่อนที่จะเดินทางต่อไปได้ครับ
อ้างอิงจาก Ueda Kanko (เว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวอุเอดะ) ผมแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลส่วนนี้อาจเปลี่ยนได้ตลอดครับ
1. เยี่ยมชมปราสาทอุเอดะ
ปราสาทอุเอดะ (Ueda Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นโดยตระกูลซาเนดะ และมีบทบาทสำคัญในยุคเซ็นโกกุอย่างที่ผมได้เล่าไปแล้วด้านบน อย่างไรก็ดีหลังจากตระกูลโตกุกาวะได้รับชัยชนะแล้ว ตัวปราสาทได้ถูกรื้อถอนบางส่วน และก็ถูกรื้อซ้ำอีกครั้งในช่วงยุคเมจิ
ในปัจจุบันปราสาทอุเอดะจึงเหลือเพียงหอคอยที่ทำจากหินไม่กี่หลังเท่านั้นที่เป็นของเดิม อย่างไรก็ดีในช่วงหลังได้มีการสร้างอาคารเพิ่มเติมหลายแห่ง อาทิเช่นศาลเจ้าสองแห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ซานาดะ-จินจา (Sanada-jinja) ที่อุทิศให้กับตระกูลซานาดะ ผู้สร้างปราสาทครับ
ภายในสวนของปราสาทมีการปลูกต้นซากุระอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่เป็นจุดชมซากุระชั้นเยี่ยม ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็อย่าได้พลาดมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ครับ
2. สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ถนนยานากินาจิ
ถนนยานากิมาจิ (Yanagimachi Street) เป็นถนนที่มีอาคารไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นตลอดสองข้างทาง ในอดีตถนนแห่งนี้คือย่านการค้าที่สำคัญ และเป็นจุดนัดพบของเหล่าพ่อค้าที่นำสินค้าไปขายตามภูมิภาคต่างๆ ของญี่ปุ่นครับ
ปัจจุบันร้านค้าดั้งเดิมอายุกว่า 100 ปียังคงเปิดให้บริการอยู่ คุณสามารถเดินชิมโซบะ ยากิโทริ ขนมหวานแบบดั้งเดิม และอื่นๆ ได้อีกมากมายเลยครับ
Tips
เมืองอุเอดะนั้นมีชื่อเสียงเรื่องผ้าไหมมาก โดยเฉพาะผ้าไหมแบบสึมุกิ (Tsumugi) ในปัจจุบันนั้นวิธีการทอผ้าไหมแบบดั้งเดิมยังถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี และได้ถูกทอมาเป็นชุดกิโมโนชั้นยอด ดังนั้นถ้าคุณมาเที่ยวถนนแห่งนี้ คุณน่าจะลองเช่ากิโมโนและสวมใส่เดินเล่นที่ถนนยานากิมาจิแห่งนี้ครับ
3. ชมวัดและอารามอันเก่าแก่
เมืองอุเอดะมีวัดและอารามในศาสนาพุทธซึ่งเก่าแก่อยู่หลายแห่ง แถมบางแห่งยังมีสถาปัตยกรรมที่หาชมได้อยากอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็น
- ชินาโนะโกคุบุนจิ (Shinano Kokubunji) – วัดในนิกายเท็นไดที่มีไฮไลท์อยู่ที่เจดีย์สามชั้นที่มีประวัติความเป็นมาย้อนไปถึงช่วงปี ค.ศ.741 กล่าวคือเป็นเจดีย์ที่จักรพรรดิโชมุให้สร้างขึ้นเพื่อเผยแผ่ศาสนาพุทธในญี่ปุ่น (โกคุบุนจิ) แม้ว่าตัวเจดีย์และอารามต่างๆ ล้วนแต่เป็นของสร้างใหม่ แต่ก็มีความสวยงามซึ่งแสดงถึงศิลปกรรมแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดีครับ
- วัดโชโคกุจิ (Chokokuji Temple) – วัดประจำตระกูลซานาดะ และเป็นสถานที่ฝังร่างของอดีตไดเมียวบางคนของตระกูลแห่งนี้ครับ
4. หมู่บ้านออนเซ็น
ใกล้กับเมืองอุเอดะมีหมู่บ้านออนเซ็นที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น
- Bessho Onsen – หนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดนากาโน่ และมีชื่อเสียงโด่งดังเพราะมีวัดที่เก่าแก่และสวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะวัดอันระกุจิ (Anrakuji Temple) ที่มีเจดีย์ที่สร้างขึ้นสถาปัตยกรรมราชวงศ์ซ่ง ซึ่งหาชมได้ยากมากแม้กระทั่งในประเทศจีนเองก็ตามครับ
- Maruko Onsen – หมู่บ้านออนเซ็นที่มีชื่อเสียงเรื่องการรักษาโรคภัยไข้เจ็บและบาดแผลต่างๆ ครับ
5. ชมธรรมชาติ ณ ที่สูงซุกะไดระ
ที่สูงซุกะไดระ (Sugadaira Highlands) เป็นสถานที่ชมธรรมชาติอันดับต้นๆ ของเมืองอุเอดะ โดยที่ราบสูงแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันสวยงามอย่างภูเขาเนโกะ (Mt.Neko) และภูเขาอาซุมายะ (Mt.Azumaya)
ในช่วงฤดูหนาวนั้นที่นี่กลายเป็นสกีรีสอร์ทชั้นเยี่ยมที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเล่นสกีและกิจกรรมฤดูหนาว ส่วนในช่วงฤดูอื่นๆ ก็เป็นจุดชมดอกไม้ (อย่างเช่น azalea) รวมไปถึงเดินเทรคตลอดจนกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ครับ
References
- Ueda Kanko