หน้าแรกญี่ปุ่นคิวชู5 ที่เที่ยวเกาะยาคุชิมะ (Yakushima) และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด

5 ที่เที่ยวเกาะยาคุชิมะ (Yakushima) และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

เกาะยาคุชิมะ (Yakushima) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางใต้ของชายฝั่งจังหวัดคาโกชิม่าบนเกาะคิวชูไปประมาณ 135 กิโลเมตรทางทะเล ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องป่าโบราณที่เก่าแก่ ไปจนถึงภูเขาจำนวนมากที่ตั้งเรียงรายกันทำให้ได้รับสมญาว่าเป็นเทือกเขาแอลป์แห่งมหาสมุทรครับ

โดยมากแล้วนักเดินทางมักจะไปที่นี่เพื่อล่องป่าชมไพร ไปจนถึงดำน้ำและทำกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ในบทความนี้จะนำคุณไปรู้จักกับเกาะยาคุชิมะโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักเกาะยาคุชิมะ (Yakushima)

เกาะยาคุชิมะตั้งอยู่ปลายสุดของคาบสมุทรโอซุมิ (Osumi Peninsula) ตัวเกาะนั้นมีภูเขาสูงเกินกว่า 1,000 เมตรอยู่มากมาย ซึ่งรวมไปถึงภูเขามิยะโนอุระดาเกะ (Miyanoura-dake) ที่สูงเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคคิวชูครับ อย่างไรก็ดีในปัจจุบันบนเกาะแห่งนี้นั้นไม่มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอีกแล้วครับ ทำให้สภาพทางธรณีวิทยาของที่นี่สงบนิ่ง

เกาะยาคุชิมะ (Yakushima)
by Norihisa Taguchi/ShutterStock

ในด้านประวัติศาสตร์นั้นเกาะยาคุชิมะมีมนุษย์อาศัยตั้งแต่สมัยโจมง หรือหลายพันปีก่อน แต่ปรากฏอยู่ในทั้งหลักฐานจีนและญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 7-8 ของเหล่านักเดินทางที่ค้าขายระหว่างราชวงศ์สุย-ถัง และญี่ปุ่น (ในญี่ปุ่นช่วงนั้นเป็นสมัยนาราครับ)

อย่างไรก็ดีตัวเกาะนั้นตั้งอยู่ห่างไกล ทำให้ไม่ได้ถูกแผ้วผานโดยการสู้รบภายในที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นแต่อย่างใด แต่ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมป่าไม้ขนาดใหญ่ โดยไม้สนซีดาร์จำนวนมากถูกตัดเพื่อไปทำเป็นหลังคาไม้ชั้นดีในช่วงสมัยเอโดะครับ ทว่าในปัจจุบัน พื้นที่บริเวณนี้ได้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติไปแล้ว รายได้จากการท่องเที่ยวจึงเข้ามาแทนที่ครับ

เกาะยาคุชิมะ
by zmkstudio/ShutterStock

สิ่งที่ทำให้ยาคุชิมะดึงดูดนักท่องเที่ยวนั้นคือผืนป่าอันบริสุทธิ์ แต่ไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น เพราะเกาะยาคุชิมะมีความโดดเด่นตรงที่มีความหลากหลายพฤกษศาสตร์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยในเกาะขนาดเล็กขนาดนี้ คุณมีโอกาสเห็นพืชเขตร้อนและเขตหนาวอยู่ใกล้กันตามธรรมชาติครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปเกาะยาคุชิมะทำอย่างไร

ในปัจจุบันมีคุณสามารถบินจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างโอซาก้า, ฟุกุโอกะ หรือว่าคาโกชิม่าไปยังเกาะยาคุชิมะได้โดยตรงครับ แต่ถ้าคุณอยู่ที่คาโกชิม่า คุณอาจจะเปลี่ยนเป็นนั่งเรือเฟอร์รี่ไปเกาะยาคุชิมะได้จาก Kagoshima South Wharf โดยเรือเร็วจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ส่วนเฟอร์รี่ทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครับ

ข้อมูลส่วนนี้อ้างอิงจาก Yakushima Tourism เว็บไซต์ทางการของการท่องเที่ยวเกาะยาคุชิมะ โปรดตรวจสอบที่ต้นทางก่อนออกเดินทาง เพราะข้อมูลอาจเปลี่ยนได้ครับ

การสัญจรบนเกาะยาคุชิมะทำอย่างไร

ในกรณีที่คุณไม่ได้เช่ารถขับ (ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสำรวจเกาะแห่งนี้) คุณจะต้องใช้บริการรถบัสเป็นหลัก ซึ่งมีสองผู้ให้บริการได้แก่ Matsubanda Kotsu Bus และ Tanegashima Yakushima Kotsu Bus ครับ แต่ถ้าคุณออกจากเส้นทางหลัก แน่นอนว่าจะต้องใช้บริการแท็กซี่ครับ

1. ชิราตานิ อุนซุยเคียว

ชิราตานิ อุนซุยเคียว (Shiratani Unsuikyo) เป็นสวนป่าที่ได้รับความนิยมที่สุดของเกาะยาคุชิมะ ด้านในจะมีผืนป่าโบราณที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นสนซีดาร์โบราณที่มีอายุหลายพันปี และต้นไม้อื่นๆ อีกนานาชนิด ตลอดจนหินที่ปกคลุมด้วยมอสสีเขียว (ที่นี่ฝนตกหนักมากทำให้ความชื้นล้นเหลือ) ทำให้ที่นี่เป็นแดนสวรรค์ของคนชอบเดินป่า และเป็นแรงบันดาลใจของ lead artist ของอนิเมะเรื่อง Princess Mononoke ครับ

ชิราตานิ อุนซุยเคียว
by Wirestock Creators/ShutterStock

ทั้งนี้เส้นทางเดินป่าในเขตสวนป่าแห่งนี้มีให้เลือกหลายเส้น โดยจะใช้เวลาตั้งแต่ 1-5 ชั่วโมง แต่เส้นที่ได้รับความนิยมคือ Shiratani Unsuikyo – Taiko-iwa Rock ความยาว 2.5 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทั้งสิ้น 5 ชั่วโมง การเดินเส้นนี้จะให้คุณได้ชมไฮไลท์ทุกสิ่งของสวนป่าแห่งนี้ครับ

อีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจคือ Tsuji Toge Pass ที่นำคุณเดินไปยัง Jomon Sugi ต้นสนซีดาร์ที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะ และเชื่อกันว่ามีอายุตั้งแต่ 2,000-7.000 ปีครับ อย่างไรก็ดีการเดินเท้าไปกลับอาจจะใช้เวลาถึง 8-10 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นอาจจะไม่เหมาะกับใครที่ไม่ชำนาญการเดินป่าครับ (ถ้าเดินไม่ไหวจริงๆ มีกระท่อมให้พักค้างคืนได้)

ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะยาคุชิมะ
by Nakasaku/ShutterStock

ในการเดินป่านั้น คุณมีโอกาสได้เห็นสัตว์หายากต่างๆ ที่พบเฉพาะบนเกาะแห่งนี้ด้วย เช่นกวางยาคุ (Yaku deer) และลิงยาคุ (Yaku Monkey) ครับ

2. Yakusugi Land

Yakusugi Land เป็นสวนป่าอีกแห่งหนึ่งบนเกาะยาคุชิมะ และเป็นจุดที่คุณสามารถชมต้นสนพันปี หรือยาคุสุกิ (Yakusugi) อันเลื่องชื่อของเกาะยาคุชิมะได้อย่างสะดวกสบายที่สุดครับ

ในสวนป่านั้นจะมีหลากหลายเส้นทางให้เลือก แต่ละเส้นทางจะได้รับการปูอย่างดี ทำให้เดินได้อย่างง่ายดาย (แต่ยังคงต้องระวังลื่น) ครับ โดยแต่ละเส้นทางนั้นจะใช้เวลาตั้งแต่ 30-150 นาทีครับ

3. ชมน้ำตกต่างๆ

เกาะยาคุชิมะนั้นมีน้ำตกที่สวยงามอยู่ถีงสามแห่งด้วยกัน แต่ละแห่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น

น้ำตกเซนปิโระโนตากิ (Senpiro-no-Taki) เป็นน้ำตกสูง 60 เมตรที่สายน้ำหลั่งไหลลงมาสู่โตรกเบื้องล่าง ฝั่งซ้ายของน้ำตกจะมีหินขนาดยักษ์ขนาดหนึ่งพันคนโอบตั้งอยู่ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตกแห่งนี้ครับ

by aido/ShutterStock

น้ำตกโอโคโนะตากิ (Oko-no-taki) – หนึ่งในสุดยอดน้ำตก 100 แห่งของญี่ปุ่น โดยมีความสูงกว่า 88 เมตร คุณสามารถเข้าไปชมใกล้ๆ และรับละอองน้ำอันใสสะอาดได้ครับ

น้ำตกโทโรกิ โนะ ตากิ (Toroki-no-taki) – น้ำตกที่มีลักษณะอันหาได้ยากในญี่ปุ่น เพราะเป็นน้ำตกไม่กี่แห่งที่สายน้ำนั้นไหลลงทะเลโดยตรง ส่งผลให้ความสูงของน้ำตกไม่คงที่ เพราะจะแปรไปตามน้ำขึ้นน้ำลงครับ

by CaptainX/ShutterStock

4. พิพิธภัณฑ์ยาคุสุกิ

พิพิธภัณฑ์ยาคุสุกิ (Yakusugi Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเหล่าต้นสนซีดาร์ที่มีอายุเกินกว่า 1 สหัสวรรษหรือยาคุสุกิ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างต้นไม้เหล่านี้และชาวบ้านที่อาศัยอยู่เคียงคู่กับต้นไม้เหล่านี้มาหลายสิบชั่วคน

นอกจากนี้คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมป่าไม้ที่นี่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีต้นกำเนิดจากเกาะแห่งนี้ด้วยครับ

5. แช่ออนเซ็น

บนเกาะยาคุชิมะนั้นมีโรงอาบน้ำหลายแห่งที่คุณสามารถแช่ออนเซ็นด้วย บางแห่งนั้นจะตั้งอยู่ริมทะเล ทำให้คุณสัมผัสกับสายลมอันสดชื่นไปพร้อมๆ กับแช่ตัวในน้ำอุ่นที่ช่วยให้คุณฟินสุดๆ ทั้งกายใจ และบรรเทาความเครียดไปได้อย่างมากเลยครับ

ค่าใช้บริการโรงอาบน้ำนั้นส่วนมากจะอยู่ที่ 100-300 เยน แต่แห่งที่ facilities ดีหน่อยอย่างเช่นในเรียวกังหรือโรงแรม ราคาอาจจะพุ่งสูงไปได้ถึง 1,500 เยนครับ

References

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

แนะนำสำหรับช่วงฤดูร้อน

โรงแรมน่าจองในโตเกียว

บทความล่าสุด

error: Content is protected !!