ซาโอะออนเซ็น (Zao Onsen) เป็นเมืองออนเซ็นชื่อดังของจังหวัดยามากาตะ แต่ที่พิเศษกว่าที่อื่นก็คือในช่วงฤดูหนาวที่นี่จะเปลี่ยนโฉมกลายเป็นสกีรีสอร์ทยอดนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศ ทำให้ซาโอะออนเซ็นรองรับนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่นตลอดทั้งปีเลยครับ
ในบทความนี้ผมจึงจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจของซาโอะออนเซ็น แต่ก่อนอื่น เราไปดูความเป็นมาของที่นี่กันก่อนครับ
ความเป็นมาของซาโอะออนเซ็น
ซาโอะออนเซ็นเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้กับแนวภูเขาไฟซาโอะ (Zao Mountains/Mount Zao) ซึ่งอยู่ที่พรมแดนระหว่างจังหวัดยามากาตะและมิยากิ ด้วยความที่เป็นเขตภูเขาสูง ซาโอะออนเซ็นจึงอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 880 เมตรครับ
สำหรับในหน้าประวัติศาสตร์นั้น ซาโอะออนเซ็นถือว่าเก่าแก่มาก เพราะมีความเป็นมาถึง 1900 ปีเลยทีเดียว หลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวถึงสถานที่แห่งนี้ครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ.110 โดยมีเรื่องเล่าว่านักรบชื่อ ยูกิ โยชิมิ ทากะเป็นผู้ค้นพบน้ำพุร้อนที่บริเวณนี้
โดยเรื่องมีอยู่ว่าเขาได้รับมอบหมายจากราชสำนักให้นำกองทัพไปปราบปรามดินแดนแถบนี้ แต่กลับได้รับบาดเจ็บเขาได้ใช้น้ำของออนเซ็นแห่งนี้ในการรักษาบาดแผล และปรากฏว่าบาดแผลหายเป็นปลิดทิ้งอย่างรวดเร็วครับ
ความเป็นรีสอร์ทของซาโอะออนเซ็นนั้นย้อนไปได้ถึงได้สมัยเอโดะ โดยที่นี่เริ่มเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาพักผ่อน ต่อมาในสมัยไทโช (ต้นศตวรรษที่ 20) ได้มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบสมัยใหม่อย่างเช่น ถนน ทางเดิน และเสาไฟต่างๆ ทำให้ตัวหมู่บ้านได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไปอีก
ช่วงฤดูหนาวนั้นแต่เดิมเป็น Low Season ของซาโอะออนเซ็น แต่ได้ยุคโชวะได้เปลี่ยนไปเพราะรัฐบาลได้เปิดสกีรีสอร์ท (Zao Ski Resort) ขึ้นที่นี่ และมีการสร้างลานสกีและกระเช้าแบบสมัยใหม่ขึ้นมาด้วย ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูหนาวอย่างล้นหลาม โรงแรมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดครับ
ในปัจจุบันซาโอะออนเซ็นจึงกลายเป็น mountain resort อันดับต้นๆ ของภูมิภาคโทโฮคุ แน่นอนว่าถ้ามาเยือนแถบนี้ คุณไม่ควรพลาดเลยครับ
ข้อควรทราบ
ที่พัก
สำหรับใครที่ยังหาที่พักในเมืองออนเซ็นไม่ได้ ผมแนะนำให้อ่านบทความนี้ของผมเพื่อที่จะเลือกที่พักที่เหมาะสมและคุ้มค่าครับ
การเดินทางไปยังซาโอะออนเซ็นทำอย่างไร
การเดินทางจากโตเกียวไปยังซาโอะออนเซ็นถือว่าง่ายดายและสะดวกสบาย โดยคุณมีตัวเลือกดังต่อไปนี้ครับ
- ชินคันเซน + รถบัส – วิธีนี้ง่ายดายและสะดวกสบายมาก ขั้นตอนแรกคือนั่งรถไฟชินคันเซนไปลงสถานียามากาตะก่อน ขั้นนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นก็ต่อรถบัสไปยังซาโอะออนเซ็น ซึ่งคุณจะถึงหมู่บ้านในเวลา 30-40 นาทีครับ รถมีออกทุกชั่วโมง ดังนั้นไม่ต้องรถนานเท่าไรนัก
อีกเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้เดินทางมายังซาโอะออนเซ็นคือเมืองเซนได (Sendai) ซึ่งคุณสามารถเดินทางได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- รถไฟ + รถบัส – เริ่มแรกคุณจะต้องนั่ง JR Senzan Line ไปลงยามากาตะ และต่อรถบัสอีก 40 นาทีเข้าซาโอะออนเซ็นครับ
ข้อมูลด้านบนผมอ้างอิงจากเว็บทางการของ Zao Onsen ทั้งนี้ข้อมูลตรงนี้จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด โปรดตรวจสอบกับเว็บไซต์ดังกล่าวก่อนที่จะออกเดินทางครับ (แนะนำอย่างยิ่ง เพราะในบางช่วงรถบัสอาจจะไม่มีครับ นั่นแปลว่าคุณจะต้องนั่งแท็กซี่ซึ่งราคาแพงมาก)
ดังนั้นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากคือการเช่ารถขับครับ คุณสามารถเช่ารถจากโตเกียวและขับไปได้ โดยระยะทางอยู่ที่ประมาณ 390 กิโลเมตร ซึ่งถ้าคุณขับมาเที่ยวโซนนี้อยู่แล้วก็สามารถแวะที่ซาโอะออนเซ็นได้อย่างสบายๆ ที่จอดรถในบริเวณออนเซ็นก็มีให้ใช้อย่างเพียงพอครับ
อีกทางเลือกหนึ่งคือบินมาลงสนามบินยามากาตะหรือเซนไดแล้วขับไปซาโอะออนเซ็นเอง ซึ่งทั้งสองเมืองนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 20 และ 50 กิโลเมตรตามลำดับ ดังนั้นถือว่าขับไม่นานครับ
ไปเที่ยวช่วงไหนดี?
ซาโอะออนเซ็นนั้นไปเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ละฤดูจะมีความสวยที่ต่างกันออกไป แต่ผมแนะนำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเป็นพิเศษครับ
สำหรับฤดูใบไม้ร่วงนั้น ใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยมากที่นี่ เพราะวิวบริเวณภูเขาซาโอะจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสีส้มอันละลานตาทั้งหมด แถมวิวจากออนเซ็นบางแห่งยังสวยมาก เรียกว่าแช่จนลืมเวลาเพราะบรรยากาศโดยรอบได้เลยทีเดียว
ส่วนฤดูหนาวก็ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว เพราะว่ามี Zao Snow Monster หรือสัตว์ประหลาดหิมะให้ได้ชมกัน แถมยังเป็นช่วงที่คุณสามารถเล่นกีฬาฤดูหนาวได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย
1. แช่ออนเซ็น
กิจกรรมที่คุณพลาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่นี่แล้วคือการแช่ออนเซ็นที่นี่นั่นเองครับ จุดเด่นของออนเซ็นแห่งนี้คือ น้ำของน้ำพุร้อนมีความเป็นกรดสูงมากกว่าที่อื่นๆ และถือว่ามีความเป็นกรดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ในน้ำยังมีปริมาณซัลเฟอร์สูง เรียกได้ว่าน้องๆ กรดกำมะถันเลยทีเดียวครับ
ข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของหมู่บ้านระบุไว้ว่า น้ำพุร้อนของที่นี่มีสรรพคุณทางการรักษาโรค ตั้งแต่รักษาบาดแผลต่างๆ ไปจนถึงโรคผิวหนังเรื้อรัง และช่วยให้ผิวหนังของคุณสุขภาพดีขึ้น ดูเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้น้ำพุร้อนของที่นี่ได้รับสมญาว่าเป็นน้ำพุร้อนแห่งความงาม (Spring of Beauty) ครับ
ไม่เพียงเท่านั้นการแช่ออนเซ็นที่นี่ยังช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความเหนื่อยล้า และอาการเจ็บข้อและกล้ามเนื้อครับ อย่างไรก็ดีคุณจะไม่สามารถลงแช่ได้ ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ เป็นโรคหัวใจหรือผิวหนังแห้งมากครับ
สำหรับผู้เข้าพักในเรียวกังต่างๆที่นี่นั้น คุณน่าจะมีสระในแช่ภายในโรงแรมอยู่แล้ว ดังนั้นแช่ในโรงแรมไปเลยน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณไม่ได้จองห้องพักที่ซาโอะออนเซ็น คุณสามารถไปแช่ในโรงอาบน้ำสาธารณะดังต่อไปนี้ครับ
- Kamiyu Public Bath
- Shimoyu Public Bath
- Kawaruyu Public Bath
สำหรับสามที่นี้นั้น ค่าแช่จะอยู่ที่ประมาณ 200 เยน ซึ่งถือว่าถูกมากเลยครับ แต่ถ้าคุณอยากได้ความเป็นส่วนตัวหรือบรรยากาศที่ดีมากขึ้น การไปที่นี่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
Zao Dai Rotenburo – ออนเซ็นแบบกลางแจ้งที่บรรยากาศดีสุดอะไรสุด โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่บอกเลยว่าสวยงามมาก บรรยากาศโดยรอบจะมีกลิ่นอายของยุคไทโช ซึ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นหลายคนรู้สึกเหมือนย้อนอดีตครับ หลายคนถึงกับยกย่องว่ายอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นทีเดียว
ค่าแช่อยู่ที่ 700 เยน แต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนจะปิดทำการครับ
Shinzaemon no Yu – ออนเซ็นอีกหนึ่งแห่งที่เป็นแบบกลางแจ้ง และมี facilities ต่างๆ แบบครบครัน ตั้งแต่ห้องนั่งพัก ห้องสปาเท้า ร้านอาหาร บริการนวด ฯลฯ ค่าแช่ที่นี่อยู่ที่ 1,000 เยนครับ
สำหรับใครที่อยากแช่ แต่ยังไม่อยากแช่ทั้งตัว คุณสามารถไปใช้บริการแช่เท้าได้ครับ ซึ่งส่วนมากจะเปิดให้แช่ฟรี อย่างเช่นที่ Shimoyu Footbath เป็นต้น
2. ชมปรากฏการณ์สัตว์ประหลาดหิมะที่ Mount Zao
จุดเด่นของที่นี่ (และจังหวัดยามากาตะ) คือหิมะจะตกหนักมากในช่วงฤดูหนาว ทำให้บริเวณนี้ขาวโพลนไปหมด เพราะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Zao Snow Monster หรือ Zao Juhyo ที่ต้นไม้ถูกปกคลุมด้วยหิมะอย่างสมบูรณ์ทุกต้น จนกลายเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดครับ
ปรากฏการณ์นี้เป็นผลงานของธรรมชาติโดยสมบูรณ์ เพราะเกิดจากลมหนาวจากไซบีเรียที่ผ่านมารวมกับหิมะที่ตกหนักครับ
การชมปรากฏการณ์นี้ที่ดีที่สุดคือไปชมที่ภูเขาซาโอะ (Mount Zao) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสกีรีสอร์ต โดยคุณจะต้องนั่งกระเช้า (Zao Ropeway Sanroku/Sancho Line) ขึ้นไปยังสถานีจิโซซานโช (Jizo Sancho Station) ซึ่งมีรูปปั้นพระโพธิสัตว์ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์อย่างโดดเด่น ช่วงที่ดีที่สุดในการไปชมคือประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ครับ
นอกจากนี้ในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟสีต่างๆ ให้กับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ด้วย ซึ่งคุณสามารถชมความสวยงามที่งดงามแปลกตาได้ หรือถ้าจะเอาให้สุดจริงๆ ก็ต้องนั่งรถกวาดหิมะเข้าไปชมแบบใกล้ๆเลยครับ
ค่ากระเช้าไปกลับอยู่ที่ 3,500 เยนครับ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Zao Ropeway
สำหรับใครที่มาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะไม่มีปรากฏการณ์นี้ให้ชม แต่จุดนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันดับต้นๆ ที่คุณสามารถนั่งกระเช้าขึ้นมาชมได้ และในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะมีกิจกรรมชื่อว่า Summer Night Cruising ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมาชมดวงดาวและท้องฟ้าในยามค่ำคืนครับ
3. เล่นสกีและกิจกรรมฤดูหนาว
อย่างที่ผมได้แนะนำไปแล้วด้านบน นั่นคือซาโอะออนเซ็นนั้นได้กลายเป็นสกีรีสอร์ทชั้นยอดในยุคโชวะ และในปัจจุบันที่นี่ก็ยังคงความสุดยอดในฐานะสกีรีสอร์ทยอดเยี่ยมระดับประเทศของญี่ปุ่นอยู่ครับ
Slope ของที่นี่มีทั้งแบบง่ายมากไปจนถึงยาก ดังนั้นจะตอบโจทย์นักสกีทุกระดับ นอกจากนี้ถ้าคุณไม่เคยเล่นมาก่อนเลยแล้วอยากเล่น ที่นี่ก็มีโรงเรียนสกีและสโนว์บอร์ดอยู่หลายแห่งที่เปิดสอนครับ
สำหรับใครที่สนใจกิจกรรมฤดูหนาว สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Zao Chuo Ropeway ครับ
4. รับประทานของกินแสนอร่อย + ช้อปปิ้ง
ซาโอะออนเซ็นมีร้านอาหารหลายแห่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านเนื้อเจงกิสข่าน (เตาคล้ายกับหมูกระทะของไทย) และขนมพื้นเมืองครับ
ส่วนในหมู่บ้านก็มีร้านขายของน่ารักๆ และร้านขายสินค้าให้เดินเล่นและเลือกซื้อของฝากได้บ้าง สำหรับใครที่เริ่มเบื่อการชมวิวครับ
เมืองและหมู่บ้านออนเซ็นอื่นๆ
- กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen) – ออนเซ็นสวยระดับเทพของญี่ปุ่น โดยอยู่ในเมืองโอบานาซาวะ ซึ่งอยู่ในจังหวัดยามากาตะเช่นเดียวกัน กินซังออนเซ็นอยู่ห่างจากซาโอะออนเซ็นแค่ 65 กิโลเมตรเท่านั้น ดังนั้นถ้าคุณเช่ารถขับ คุณสามารถเดินทางไปได้อย่างสบายๆ ครับ
- คามิโนะยามะออนเซ็น (Kanimoyama Onsen)
ตัวอย่างทริปซาโอะ
สำหรับใครกำลังแพลนทริป และอยากได้ไอเดียการไปเที่ยวซาโอะออนเซ็นอย่างไรดี ผมได้ออกแบบทริปไว้แล้วสองทริปสองฤดู ทั้งนี้คุณสามารถนำไปใช้ได้เลยครับ อย่างไรก็ดีทริปทั้งสองจะเป็นทริปสำหรับการเช่ารถขับ เพราะว่าจะได้ความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้นครับ