หน้าแรกสถานที่ท่องเที่ยวยุโรป8 ที่เที่ยวเซล อัม ซี (Zell am See) และกิจกรรมน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด

8 ที่เที่ยวเซล อัม ซี (Zell am See) และกิจกรรมน่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาด

-

เนื่องด้วย traffic จาก search engine ที่เข้ามาในเว็บไซต์น้อยลงมากในระยะหลัง ทำให้ความคุ้มค่าในการเขียนบทความต่างๆ แทบไม่มีอีกต่อไป ดังนั้นคอนเทนต์ใหม่ๆ ของผมจะไปอยู่ในช่อง Youtube แทนครับ ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ

เซล อัม ซี (Zell am See) เป็นเมืองขนาดเล็กในประเทศออสเตรีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ไปประมาณ 110 กิโลเมตร และอินส์บรุค (Innsbruck) 150 กิโลเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะตั้งอยู่ริมทะเลสาบเซล (Lake Zell) ที่ถูกโอบล้อมด้วยแนวภูเขา Kitzbühel Alps ที่งดงามตระการตา

ด้วยเหตุนี้ทัศนียภาพในบริเวณเมืองจึงเรียกได้ว่าสวยเป็นอันดับต้นๆ ของออสเตรียไม่แพ้โกเซา (Gosau), โอเบอร์ทราวน์ (Obertraun) หรือว่าซังค์โวล์ฟกัง (St.Wolfgang) เลยครับ

รู้จักเซล อัม ซี (Zell am See)

พื้นที่บริเวณเมืองเซล อัม ซีนั้นมีมนุษย์อาศัยอยู่ตั้งแต่สมัยโรมัน แต่ไม่ได้มั่งคั่งเป็นเมืองใหญ่หรือเมืองสำคัญอย่างมิลาน ราเวนนา หรืออาเรสโซ ตัวเมืองที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้นได้รับการก่อตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 8 โดยบาทหลวงในศาสนาคริสต์ และเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ในฐานะเป็นเมืองตลาด (Market Town) ของพื้นที่ในบริเวณโดยรอบ หรือพูดง่ายๆ คือเป็นศูนย์กลางทางการค้าครับ

เซล อัม ซี (Zell am See)
by mRGB/ShutterStock

ในช่วงศตวรรษที่ 16 ชาวนาเยอรมันได้ลุกฮือขึ้นต่อต้านชนชั้นสูงและเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ ในเหตุการณ์ชื่อว่า Deutscher Bauernkrieg หรือว่า German Peasants’ War แม้ว่าชาวเมืองเซล อัม ซี จะไม่ได้เข้าร่วมการลุกฮือ แต่พื้นที่บริเวณเมืองก็เป็นสมรภูมิใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ทำให้น่าจะได้รับความเสียหายไปไม่น้อยครับ

เซล อัม ซี (Zell am See)
by Tadeas Skuhra/ShutterStock

ช่วงศตวรรษที่ 19 เซล อัม ซีได้ถูกส่งมอบให้อยู่ในการปกครองของจักรวรรดิออสเตรีย ซึ่งได้มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่นทางรถไฟ เพื่อให้เข้าถึงตัวเมืองได้สะดวกสบายมากขึ้น ผลที่ตามมาคือเซล อัม ซี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่าชนชั้นสูงยุโรปที่มักจะเดินทางมาคลายร้อนครับ

หลังจากนั้นเซล อัม ซีก็มีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่องเที่ยว ซึ่งดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้เดินทางมาที่นี่ครับ

ข้อควรทราบ

การเดินทางไปเซล อัม ซี (Zell am See) ทำอย่างไร?

เซล อัม ซี สามารถเดินทางไปได้ไม่ยากจากเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น เวียนนา ซาลซ์บูร์ก หรืออินส์บรุค ด้วยการใช้รถไฟของการรถไฟออสเตรีย (OBB) เพื่อความสะดวกสบาย คุณสามารถใช้เว็บ Omio ในการจองตั๋วได้ด้วยครับ

อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจก็คือการเช่ารถแล้วขับไปเองจากซาลซ์บูร์กหรืออินส์บรุค ซึ่งจะให้ความสะดวกสบายและยืดหยุ่นมากกว่าการนั่งรถไฟครับ

ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Zell am See Kaprun ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของหมู่บ้านแห่งนี้ครับ

ที่พักและ Zell am See Summer Card

สำหรับใครที่เลือกพักใน Zell am See ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงสิ้นสุดเดือนตุลาคม ที่พักส่วนใหญ่จะมอบ Zell am See Summer Card ให้ซึ่งจะมอบส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเขตเมืองครับ บางแห่งนั้นอาจจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยด้วยครับ

1. Lake Zell

ทะเลสาบเซล หรือ Lake Zell เป็นทะเลสาบสวยที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ในหมู่บ้านแห่งนี้ ตัวทะเลสาบนั้นถูกโอบล้อมด้วยแนวภูเขาหิมะที่จะสวยงดงามมาก ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวมากมายจึงนิยมมาล่องเรือชมวิวทิวทัศน์กันครับ

by auerimages/ShutterStock

ทั้งนี้เรือที่คุณสามารถเลือกนั่งได้มี 4 ลำด้วยกัน ซึ่งมีตั้งแต่เรือใหญ่อย่าง MS Schmittenhöhe ที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 255 คนไปจนถึงเรือแบบพื้นเมืองอย่าง Libelle ครับ

การล่องเรือจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยคุณจะเห็นย่านเมืองเก่าของเซล อัม ซี เช่นเดียวกับหมู่บ้านใกล้ๆ รายรอบอีกหลายแห่ง เช่นเดียวกับพื้นที่บริเวณหุบเขาและเทือกเขาสูงรายรอบ ความสวยงามของที่นี่เป็นที่ประทับใจมาก

by Oleksandr Osipov/ShutterStock

ค่าบริการ: 19 EUR อ้างอิงจากเว็บผู้ให้บริการครับ

2. Town Center

Town Center หรือศูนย์กลางเมืองเซล อัม ซีนั้นมีอายุหลายร้อยปี และมีจุดที่น่าสนใจหลายแห่งอาทิเช่น

St.Hippolyte’s Church – โบสถ์เก่าแก่สไตล์ Romanesque ที่เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอายุมากที่สุดในเขตเมืองเซล อัม ซี และพื้นที่บริเวณโดยรอบ โดยมีอายุอย่างต่ำประมาณ 500 ปี ตัวโบสถ์มีจุดเด่นตรงที่หอคอยสูง 36 เมตรครับ ใกล้กับบริเวณโบสถ์มีอาคารเก่าแก่แบบดั้งเดิมเรียงรายกันไป ทำให้จุดนี้น่ามาเก็บภาพอย่างมากเลยครับ

St.Hippolyte's Church
by canadastock/ShutterStock

Grand Hotel Zell am See – โรงแรมหรูสไตล์ Wilhelminian ริมทะเลสาบเซลที่ดูภายนอกเหมือนกับพระราชวังที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1876 และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองไปแล้วครับ ในอดีตที่นี่เป็นสถานที่นัดพบของเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงยุโรป

by FooTToo/ShutterStock

3. Kitzsteinhorn

Kitzsteinhorn เป็นยอดเขาที่อยู่ใกล้กับเมืองเซล อัม ซี โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Central Eastern Alps ที่พาดผ่านประเทศออสเตรีย ปัจจุบันคุณสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ไม่ยาก เพราะมีกระเช้าให้บริการครับ

ด้านบนยอดเขามีจุดชมวิวอยู่หลายแห่งในส่วนที่เรียกว่า Gippelwelt 3000 ด้วยความที่จุดชมวิวอยู่สูงกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ดังนั้นถ้าคุณขึ้นไปที่นี่ คุณจะเห็นวิวโดยรอบได้แบบพาโนรามาที่สวยไม่รู้ลืมเลยครับ ตั้งแต่ทะเลสาบเซล ธารน้ำแข็ง Kitzsteinhorn Glacier ไปจนถึง Grossglockner ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในออสเตรีย

Kitzsteinhorn
by Todoran Andrei/ShutterStock

ค่าบริการจะอยู่ที่ 54.5 EUR สำหรับกระเช้าไปกลับ (อ้างอิงจากเว็บทางการของ Kitzsteinhorn)

นอกเหนือจากชมวิวแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ในเลือกทำด้วย อย่างเช่นชมภาพยนตร์สั้นที่โรงภาพยนตร์ Cinema 3000 หรือว่าเล่นกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ ที่ Ice Arena ครับ หรือว่าจะเลือกปีนเขาก็ได้เช่นกัน

สำหรับในช่วงฤดูหนาวนั้น Kitzsteinhorn จะเป็นสถานที่ยอดนิยมของการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด โดยเฉพาะนักสกีประสบการณ์สูงที่อยากจะมาทดลองความโหดและมันส์ที่ลาน Black Mamba ที่ชันสุดๆ หรือว่าอยากจะเข้าชม Ski Tour เพื่อชมธารน้ำแข็งก็ได้เช่นกันครับ

Kitzsteinhorn Ski
by nikolpetr/ShutterStock

4. Kaprun Castle

Kaprun Castle เป็นปราสาทที่ห่างออกจากเมืองเซล อัม ซีไปประมาณ 7 กิโลเมตร โดยตัวปราสาทนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 เพื่อป้องกันพื้นที่บริเวณนี้ เช่นเดียวกับเป็นสถานที่พำนักของชนชั้นสูงที่ปกครองเมืองครับ

Kaprun Castle
by Jan.Melichar/ShutterStock

หลังจากที่ได้รับการบูรณะ ที่นี่เป็นปราสาทที่ถูกโอบล้อมด้วยแนวภูเขาหิมะที่งดงามมาก แม้ว่าขนาดจะไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แต่ก็มีความโรแมนติก ทำให้ชาวออสเตรียนิยมมาจัดงานแต่งงานกันที่นี่ครับ

5. Schmittenhöhe

Schmittenhöhe เป็นอีกหนึ่งยอดเขาใกล้เซล อัม ซี ที่คุณสามารถขึ้นไปชมวิวได้ แต่ยอดนี้จะไม่สูงเท่ากับ Kitzsteinhorn เพราะสูงแค่ 1,965 เมตรเท่านั้น อย่างไรก็ดีวิวด้านบนนั้นสวยไม่แพ้กัน และขึ้นไปไม่ยากเพราะมีกระเช้าพาขึ้นไป (36 EUR) ทำให้ได้รับความนิยมไม่แพ้กับ Kitzsteinhorn เลยครับ

Schmittenhöhe
by mRGB/ShutterStock

ในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะกลายเป็นสกีรีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม และลานสกีที่สุดแสนจะท้าทาย อย่างเช่น FunSlope XXL ที่เต็มไปด้วยทางโค้ง และอุโมงค์ให้ลอดมากมาย เมื่อเล่นจนเหนื่อยแล้ว คุณสามารถไปเติมพลังได้ที่ร้านอาหารวิวสุดเทพบนยอดเขาด้วยครับ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากคือ Paragliding ครับ สำหรับใครที่คิดว่าร่างกายและจิตใจพร้อมก็สามารถเล่นได้ครับ

6. Kaprun High Mountain Reservoirs

Kaprun High Mountain Reservoirs เป็นกลุ่มอ่างเก็บน้ำที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงกว่า 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งใช้ผลิตไฟฟ้าและส่งมอบน้ำจืดให้กับเขตเมืองและหมู่บ้านต่างๆ ในเซล อัม ซีครับ บริเวณอ่างเก็บน้ำจะมีทะเลสาบสีสวยที่งดงามในทุกฤดูครับ

Kaprun High Mountain Reservoirs
by Yuliya_P/ShutterStock

นักเดินทางนิยมมาชมวิวกันที่นี่ รวมไปถึงใช้เป็นสถานที่ตั้งต้นการเดินเทรค ซึ่งมีให้เลือกหลายเส้นทางด้วยกันครับ หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็ไปชมวิวพร้อมรับประทานอาหารที่ได้รัานอาหารได้เช่นกัน

สำหรับการเดินทางขึ้นไปนั้น คุณจะต้องใช้บริการรถบัส หรือ Lärchwand inclined lift ทั้งนี้คุณไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ครับ

7. Sigmund Thun Gorge

Sigmund Thun Gorge เป็นโตรกลึก 30 เมตรที่มีความยาวสลับซับซ้อนไปตามช่องเขากว่า 320 เมตร ซึ่งคุณจะได้ชมชั้นหินอันสวยงามที่มีสายน้ำสี turquoise ไหลเชี่ยวอยู่เบื้องล่างครับ ทั้งนี้น้ำจะมีมากที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะว่าหิมะจะละลายและไหลลงมาครับ

Sigmund Thun Gorge
by pyty/ShutterStock

ตัวโตรกนั้นมีทางเดินและสะพานไม้ที่ได้รับการสร้างอย่างดีมาก ทำให้คุณชมธรรมชาติได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายครับ แต่การเดินก็ยังระมัดระวังเช่นกัน

8. Grossglockner High Alpine Road

Grossglockner High Alpine Road เป็นถนนเลียบภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร และเป็นถนนที่สูงที่สุดในประเทศออสเตรียครับ โดยถนนเส้นนี้จะยาว 48 กิโลเมตร และตัดใจกลางของอุทยาน Hohe Tauren National Park ซึ่งเป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศครับ

Grossglockner High Alpine Road
by Pyty/ShutterStock

ตลอดเส้นทางนั้นจะมีจุดชมวิว หรือจุดแวะพักให้คุณได้พักรถ และสัมผัสกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่สองข้างทางได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดเขา Grossglockner ที่สูงเป็นอันดับ 1 ในออสเตรียครับ

อย่างไรก็ดีเส้นทางนี้จะเปิดเฉพาะต้นเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น ช่วงอื่นเปิดไม่ได้เพราะหิมะจำนวนมหาศาลปิดกั้นถนนครับ นอกจากนี้การสัญจรในเส้นทางนี้ก็ไม่ฟรี ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 40 ยูโรต่อวันครับ (อ้างอิงจากเว็บทางการ) แต่วิวที่สวยขั้นเทพขนาดนี้รับรองว่าคุ้มค่าครับ

References

  • Zell am See Kaprun
  • Kitzsteinhorn Official Site
  • Schmitten.at
  • Grossglockner.at
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwat
ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะถ้าทริปนั้นได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไป ทั้งนี้ผมรักที่จะค้นหาธรรมชาติ ศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสถานที่ที่เดินทางไปครับ

ติดตาม Tourist Sense

สถานที่ท่องเที่ยวน่าไป

โรงแรมน่าจอง

error: Content is protected !!