เซล อัม ซี (Zell am See) เป็นเมืองขนาดเล็กในประเทศออสเตรีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ไปประมาณ 110 กิโลเมตร และอินส์บรุค (Innsbruck) 150 กิโลเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะตั้งอยู่ริมทะเลสาบเซล (Lake Zell) ที่ถูกโอบล้อมด้วยแนวภูเขา Kitzbühel Alps ที่งดงามตระการตา
ด้วยเหตุนี้ทัศนียภาพในบริเวณเมืองจึงเรียกได้ว่าสวยเป็นอันดับต้นๆ ของออสเตรียไม่แพ้โกเซา (Gosau), โอเบอร์ทราวน์ (Obertraun) หรือว่าซังค์โวล์ฟกัง (St.Wolfgang) เลยครับ
รู้จักเซล อัม ซี (Zell am See)
พื้นที่บริเวณเมืองเซล อัม ซีนั้นมีมนุษย์อาศัยอยู่ตั้งแต่สมัยโรมัน แต่ไม่ได้มั่งคั่งเป็นเมืองใหญ่หรือเมืองสำคัญอย่างมิลาน ราเวนนา หรืออาเรสโซ ตัวเมืองที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนั้นได้รับการก่อตั้งขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 8 โดยบาทหลวงในศาสนาคริสต์ และเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ในฐานะเป็นเมืองตลาด (Market Town) ของพื้นที่ในบริเวณโดยรอบ หรือพูดง่ายๆ คือเป็นศูนย์กลางทางการค้าครับ
ในช่วงศตวรรษที่ 16 ชาวนาเยอรมันได้ลุกฮือขึ้นต่อต้านชนชั้นสูงและเจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ ในเหตุการณ์ชื่อว่า Deutscher Bauernkrieg หรือว่า German Peasants’ War แม้ว่าชาวเมืองเซล อัม ซี จะไม่ได้เข้าร่วมการลุกฮือ แต่พื้นที่บริเวณเมืองก็เป็นสมรภูมิใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ทำให้น่าจะได้รับความเสียหายไปไม่น้อยครับ
ช่วงศตวรรษที่ 19 เซล อัม ซีได้ถูกส่งมอบให้อยู่ในการปกครองของจักรวรรดิออสเตรีย ซึ่งได้มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่นทางรถไฟ เพื่อให้เข้าถึงตัวเมืองได้สะดวกสบายมากขึ้น ผลที่ตามมาคือเซล อัม ซี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเหล่าชนชั้นสูงยุโรปที่มักจะเดินทางมาคลายร้อนครับ
หลังจากนั้นเซล อัม ซีก็มีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่องเที่ยว ซึ่งดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้เดินทางมาที่นี่ครับ
ข้อควรทราบ
การเดินทางไปเซล อัม ซี (Zell am See) ทำอย่างไร?
เซล อัม ซี สามารถเดินทางไปได้ไม่ยากจากเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น เวียนนา ซาลซ์บูร์ก หรืออินส์บรุค ด้วยการใช้รถไฟของการรถไฟออสเตรีย (OBB) เพื่อความสะดวกสบาย คุณสามารถใช้เว็บ Omio ในการจองตั๋วได้ด้วยครับ
อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจก็คือการเช่ารถแล้วขับไปเองจากซาลซ์บูร์กหรืออินส์บรุค ซึ่งจะให้ความสะดวกสบายและยืดหยุ่นมากกว่าการนั่งรถไฟครับ
ข้อมูลส่วนนี้ผมอ้างอิงจาก Zell am See Kaprun ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของหมู่บ้านแห่งนี้ครับ
ที่พักและ Zell am See Summer Card
สำหรับใครที่เลือกพักใน Zell am See ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงสิ้นสุดเดือนตุลาคม ที่พักส่วนใหญ่จะมอบ Zell am See Summer Card ให้ซึ่งจะมอบส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเขตเมืองครับ บางแห่งนั้นอาจจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยด้วยครับ
1. Lake Zell
ทะเลสาบเซล หรือ Lake Zell เป็นทะเลสาบสวยที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ในหมู่บ้านแห่งนี้ ตัวทะเลสาบนั้นถูกโอบล้อมด้วยแนวภูเขาหิมะที่จะสวยงดงามมาก ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวมากมายจึงนิยมมาล่องเรือชมวิวทิวทัศน์กันครับ
ทั้งนี้เรือที่คุณสามารถเลือกนั่งได้มี 4 ลำด้วยกัน ซึ่งมีตั้งแต่เรือใหญ่อย่าง MS Schmittenhöhe ที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 255 คนไปจนถึงเรือแบบพื้นเมืองอย่าง Libelle ครับ
การล่องเรือจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยคุณจะเห็นย่านเมืองเก่าของเซล อัม ซี เช่นเดียวกับหมู่บ้านใกล้ๆ รายรอบอีกหลายแห่ง เช่นเดียวกับพื้นที่บริเวณหุบเขาและเทือกเขาสูงรายรอบ ความสวยงามของที่นี่เป็นที่ประทับใจมาก
ค่าบริการ: 19 EUR อ้างอิงจากเว็บผู้ให้บริการครับ
2. Town Center
Town Center หรือศูนย์กลางเมืองเซล อัม ซีนั้นมีอายุหลายร้อยปี และมีจุดที่น่าสนใจหลายแห่งอาทิเช่น
St.Hippolyte’s Church – โบสถ์เก่าแก่สไตล์ Romanesque ที่เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอายุมากที่สุดในเขตเมืองเซล อัม ซี และพื้นที่บริเวณโดยรอบ โดยมีอายุอย่างต่ำประมาณ 500 ปี ตัวโบสถ์มีจุดเด่นตรงที่หอคอยสูง 36 เมตรครับ ใกล้กับบริเวณโบสถ์มีอาคารเก่าแก่แบบดั้งเดิมเรียงรายกันไป ทำให้จุดนี้น่ามาเก็บภาพอย่างมากเลยครับ
Grand Hotel Zell am See – โรงแรมหรูสไตล์ Wilhelminian ริมทะเลสาบเซลที่ดูภายนอกเหมือนกับพระราชวังที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1876 และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองไปแล้วครับ ในอดีตที่นี่เป็นสถานที่นัดพบของเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงยุโรป
3. Kitzsteinhorn
Kitzsteinhorn เป็นยอดเขาที่อยู่ใกล้กับเมืองเซล อัม ซี โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Central Eastern Alps ที่พาดผ่านประเทศออสเตรีย ปัจจุบันคุณสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ไม่ยาก เพราะมีกระเช้าให้บริการครับ
ด้านบนยอดเขามีจุดชมวิวอยู่หลายแห่งในส่วนที่เรียกว่า Gippelwelt 3000 ด้วยความที่จุดชมวิวอยู่สูงกว่า 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ดังนั้นถ้าคุณขึ้นไปที่นี่ คุณจะเห็นวิวโดยรอบได้แบบพาโนรามาที่สวยไม่รู้ลืมเลยครับ ตั้งแต่ทะเลสาบเซล ธารน้ำแข็ง Kitzsteinhorn Glacier ไปจนถึง Grossglockner ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในออสเตรีย
ค่าบริการจะอยู่ที่ 54.5 EUR สำหรับกระเช้าไปกลับ (อ้างอิงจากเว็บทางการของ Kitzsteinhorn)
นอกเหนือจากชมวิวแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ในเลือกทำด้วย อย่างเช่นชมภาพยนตร์สั้นที่โรงภาพยนตร์ Cinema 3000 หรือว่าเล่นกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ ที่ Ice Arena ครับ หรือว่าจะเลือกปีนเขาก็ได้เช่นกัน
สำหรับในช่วงฤดูหนาวนั้น Kitzsteinhorn จะเป็นสถานที่ยอดนิยมของการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด โดยเฉพาะนักสกีประสบการณ์สูงที่อยากจะมาทดลองความโหดและมันส์ที่ลาน Black Mamba ที่ชันสุดๆ หรือว่าอยากจะเข้าชม Ski Tour เพื่อชมธารน้ำแข็งก็ได้เช่นกันครับ
4. Kaprun Castle
Kaprun Castle เป็นปราสาทที่ห่างออกจากเมืองเซล อัม ซีไปประมาณ 7 กิโลเมตร โดยตัวปราสาทนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 12 เพื่อป้องกันพื้นที่บริเวณนี้ เช่นเดียวกับเป็นสถานที่พำนักของชนชั้นสูงที่ปกครองเมืองครับ
หลังจากที่ได้รับการบูรณะ ที่นี่เป็นปราสาทที่ถูกโอบล้อมด้วยแนวภูเขาหิมะที่งดงามมาก แม้ว่าขนาดจะไม่ได้ใหญ่อะไรมาก แต่ก็มีความโรแมนติก ทำให้ชาวออสเตรียนิยมมาจัดงานแต่งงานกันที่นี่ครับ
5. Schmittenhöhe
Schmittenhöhe เป็นอีกหนึ่งยอดเขาใกล้เซล อัม ซี ที่คุณสามารถขึ้นไปชมวิวได้ แต่ยอดนี้จะไม่สูงเท่ากับ Kitzsteinhorn เพราะสูงแค่ 1,965 เมตรเท่านั้น อย่างไรก็ดีวิวด้านบนนั้นสวยไม่แพ้กัน และขึ้นไปไม่ยากเพราะมีกระเช้าพาขึ้นไป (36 EUR) ทำให้ได้รับความนิยมไม่แพ้กับ Kitzsteinhorn เลยครับ
ในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะกลายเป็นสกีรีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม และลานสกีที่สุดแสนจะท้าทาย อย่างเช่น FunSlope XXL ที่เต็มไปด้วยทางโค้ง และอุโมงค์ให้ลอดมากมาย เมื่อเล่นจนเหนื่อยแล้ว คุณสามารถไปเติมพลังได้ที่ร้านอาหารวิวสุดเทพบนยอดเขาด้วยครับ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากคือ Paragliding ครับ สำหรับใครที่คิดว่าร่างกายและจิตใจพร้อมก็สามารถเล่นได้ครับ
6. Kaprun High Mountain Reservoirs
Kaprun High Mountain Reservoirs เป็นกลุ่มอ่างเก็บน้ำที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงกว่า 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งใช้ผลิตไฟฟ้าและส่งมอบน้ำจืดให้กับเขตเมืองและหมู่บ้านต่างๆ ในเซล อัม ซีครับ บริเวณอ่างเก็บน้ำจะมีทะเลสาบสีสวยที่งดงามในทุกฤดูครับ
นักเดินทางนิยมมาชมวิวกันที่นี่ รวมไปถึงใช้เป็นสถานที่ตั้งต้นการเดินเทรค ซึ่งมีให้เลือกหลายเส้นทางด้วยกันครับ หรือถ้าใครไม่อยากเดินก็ไปชมวิวพร้อมรับประทานอาหารที่ได้รัานอาหารได้เช่นกัน
สำหรับการเดินทางขึ้นไปนั้น คุณจะต้องใช้บริการรถบัส หรือ Lärchwand inclined lift ทั้งนี้คุณไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ครับ
7. Sigmund Thun Gorge
Sigmund Thun Gorge เป็นโตรกลึก 30 เมตรที่มีความยาวสลับซับซ้อนไปตามช่องเขากว่า 320 เมตร ซึ่งคุณจะได้ชมชั้นหินอันสวยงามที่มีสายน้ำสี turquoise ไหลเชี่ยวอยู่เบื้องล่างครับ ทั้งนี้น้ำจะมีมากที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะว่าหิมะจะละลายและไหลลงมาครับ
ตัวโตรกนั้นมีทางเดินและสะพานไม้ที่ได้รับการสร้างอย่างดีมาก ทำให้คุณชมธรรมชาติได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายครับ แต่การเดินก็ยังระมัดระวังเช่นกัน
8. Grossglockner High Alpine Road
Grossglockner High Alpine Road เป็นถนนเลียบภูเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร และเป็นถนนที่สูงที่สุดในประเทศออสเตรียครับ โดยถนนเส้นนี้จะยาว 48 กิโลเมตร และตัดใจกลางของอุทยาน Hohe Tauren National Park ซึ่งเป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศครับ
ตลอดเส้นทางนั้นจะมีจุดชมวิว หรือจุดแวะพักให้คุณได้พักรถ และสัมผัสกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่สองข้างทางได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดเขา Grossglockner ที่สูงเป็นอันดับ 1 ในออสเตรียครับ
อย่างไรก็ดีเส้นทางนี้จะเปิดเฉพาะต้นเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น ช่วงอื่นเปิดไม่ได้เพราะหิมะจำนวนมหาศาลปิดกั้นถนนครับ นอกจากนี้การสัญจรในเส้นทางนี้ก็ไม่ฟรี ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 40 ยูโรต่อวันครับ (อ้างอิงจากเว็บทางการ) แต่วิวที่สวยขั้นเทพขนาดนี้รับรองว่าคุ้มค่าครับ
References
- Zell am See Kaprun
- Kitzsteinhorn Official Site
- Schmitten.at
- Grossglockner.at